ได้ฤกษ์เปิดตัวกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับระบบปฎิบัติการ iOS8 ที่หลายคนตั้งตารอ โดย iOS8 นั้นได้ถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกภายในงาน WWDC 2014 ที่ Apple ได้จัดขึ้นที่ Moscone Center ซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา ในวันที่ 2 มิ.ย. ที่ผ่านมา มาดูกันเลยดีกว่าว่าระบบปฎิบัติการ iOS8 ที่เพิ่งเปิดตัวกันไปนั้นจะมีอะไรที่น่าสนใจกันบ้าง
iOS8 นั้นมาพร้อมกับการพัฒนาประสิทธิภาพในการใช้งานบนอุปกรณ์ iOS ต่างๆ ให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม ซึ่ง Apple ได้นำเสนอว่าจะทำให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ใหม่ในการใช้งานนวัตกรรมระบบปฎิบัติการเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดนี้ โดย Apple ได้มีการปรับและเพิ่มฟีเจอร์การใช้งานในส่วนต่างๆเข้ามาบน iOS8 เริ่มจากส่วนแรกนั่นก็คือส่วนของ Photo
Photo บน iOS 8 นี้จะมาพร้อมกับ iCloud Photo Library ซึ่งจะทำการเก็บภาพถ่ายและคลิปวีดีโอขึ้นบน iCloud ได้อย่างเต็มรูปแบบรวมถึงการเก็บไฟล์ต้นฉบับขนาดใหญ่หรือ RAW File ก็สามารถทำได้และยังสามารถดาวน์โหลดรูปภาพเหล่านั้นได้ทั้งจาก iPhone , iPad , iPod touch หรือหน้าเว็บไซต์ได้อีกด้วย โดย Apple จะให้พื้นที่บน iCloud ได้ใช้งานได้ฟรีทั้งหมด 5GB และสามารถซื้อพื้นที่เพิ่มโดยเริ่มตั้งแต่แพ็กเกจราคา 0.99$ หรือประมาณ 30 บาทต่อเดือนอีกด้วย
มีการพัฒนาระบบการค้นหารูปภาพให้สามารถค้นหาได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
ความสามารถตกแต่งภาพไม่ว่าจะเป็นการปรับตำแหน่ง ปรับแสงหรือการใช้ฟิลเตอร์ในการแต่ง ซึ่งเป็นฟิลเตอร์ใหม่ๆที่น่าสนใจเพิ่มเข้ามาจากเดิม
เพิ่มลูกเล่นด้วยการถ่ายภาพในโหม Time Lapse ที่เป็นเทคนิคการนำภาพถ่ายมาเรียงร้อยต่อกันเป็นคลิปวีดีโอแบบต่อเนื่อง ซึ่งเหมาะสำหรับการตั้งกล้องถ่ายธรรมชาติ เช่นพระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตก เป็นต้น
เรื่องของการใช้งาน Message บน iOS 8 นั้นก็ได้มีการเพิ่มฟังก์ชันในการใช้งานต่างๆเข้าไป ไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการส่งคลิปเสียงแนบไปกับข้อความได้ , การส่งคลิปวีดีโอที่สามารถกดถ่ายคลิปได้อย่างรวดเร็ว , การส่งข้อความแบบกลุ่มหรือ Group Message , การแชร์สถานที่ และการส่งภาพหรือคลิปวีดีโอพร้อมกันหลายๆไฟล์ได้
การใช้งาน Notification ที่สามารถตอบสนองต่อการแจ้งเตือนได้ในทันที โดยที่ไม่จำเป็นต้องกดเข้าไปเพื่อเปิดใช้งานแอพพลิเคชั่นที่แจ้งเตือนขึ้นมา แต่จะสามารถพิมพ์หรือโต้ตอบได้จากหน้าจอที่กำลังใช้งานอยู่ได้ในทันที
เพิ่ม shortcut เป็นไอคอนของบุคคลสำคัญที่ต้องการติดต่อ โดยจะสามารถโทร ส่งข้อความหรือ Facetime ได้ในทันที เพียงแค่กดปุ่ม Home 2 ครั้งเพื่อเข้าสู่หน้าจอ Multitasking ก็จะปรากฎไอคอนที่ว่านี้ขึ้นมาที่ด้านบน
ส่วนของการใช้งาน Mail ได้เพิ่มความสะดวกและรวดเร็วในการใช้งานมากยิ่งขึ้น โดยจะสามารถสลับไปมาระหว่างจดหมายที่กำลังเขียนอยู่ กับจดหมายที่ส่งมาใน Inbox ได้สะดวกและรวดเร็วขึ้น รวมไปถึงยังสามารถนำข้อมูลจาก email ไปบันทึกไว้ที่ Calendar หรือ Contacts ได้อีกด้วย และยังสามารถเลื่อนเพื่อจัดกลุ่มสถานะจดหมายใน Inbox ด้วยการ swipe
Safari บน iPad สำหรับ iOS 8 นั้นได้มีการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้งานให้ดียิ่งขึ้น โดยจะสามารถมองเห็นหน้าเว็บไซต์ที่เปิดไว้ทั้งหมดได้ในหน้าจอเดียว และยังสามารถเลื่อน Sidebar ขึ้นมาเพื่อดูส่วนของ Bookmarks ที่เคยบันทึกไว้ หรือแชร์ Link ที่กำลังดูอยู่ได้
เรื่องของการใช้งานแป้นพิมพ์หรือคีย์บอร์ดบน iOS 8 ก็ได้มีการปรับปรุงเพิ่มเติมฟีเจอร์ในการใช้งานด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น Quicktype ระบบช่วยเดาคำที่กำลังจะพิมพ์ ทำให้ช่วยประหยัดเวลาในการพิมพ์ได้มาก ซึ่งระบบเดาคำหรือ Predictive Text นี้ สามารถรองรับภาษาในการใช้งานถึง 14 ประเทศ และหนึ่งในนั้นมีประเทศไทยของเรารวมอยู่ด้วยนั่นเอง รวมถึงยังรองรับคีย์บอร์ดแบบ Swipe ซึ่งเป็นคีย์บอร์ดที่เปิดโอกาสให้นักพัฒนาได้ร่วมพัฒนาคีย์บอร์ดในรูปแบบนี้อีกด้วย
Family Sharing สามารถแชร์คอนเทนต์ต่างๆให้กับคนภายในครอบครัวได้สูงสุด 6 คนไม่ว่าจะเป็น แอพพลิเคชั่น เพลง ภาพยนตร์ หนังสือ ebook ที่เคยดาวน์โหลดมาสามารถแชร์ให้สมาชิกในครอครัวสามารถดาวน์โหลดได้ รวมถึงยังสามารถสร้างอัลบั้มภาพถ่ายในครอบครัว , สามารถจัดการบันทึกนัดหมายของคนในครอบครัวผ่านทาง Calendar , ค้นหาพิกัดสถานที่ของคนในครอบครัวหรือค้นหาดีไวซ์ของคนในครอบครัวก็สามารถทำได้ และยังมีฟีเจอร์ที่เด็กๆในครอบครัวจะสามารถขออนุญาติดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นที่ต้องการผ่านการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตของผู้ปกครอง โดยจะมีข้อความไปขึ้นแจ้งที่ผู้ปกครองก่อนจะมีการดาวน์โหลดดังกล่าวอีกด้วย
iCloud Drive ที่จะสามารถเก็บไฟล์ต่างๆที่ต้องการและสามารถเข้าบริหารจัดการหรือใช้งานแก้ไขไฟล์เหล่านั้นได้ทั้งจาก iPhone, iPad, iPod touch, Mac หรือ PC
Health แอพพลิเคชั่นทางด้านสุขภาพที่จะมาช่วยบันทึกและวิเคราะห์ข้อมูลทางด้านสุขภาพต่างๆ ยกตัวอย่างเช่น อัตราการเต้นของหัวใจ การบันทึกการนอนหลับ เป็นต้น
ความสามารถในการเชื่อมต่อระหว่าง iPhone , iPad และเครื่องคอมพิวเตอร์ Mac จะสามารถเชื่อมต่อและเข้าถึงการใช้งานกันได้อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ยกตัวอย่างเช่น ความสามารถในการรับสายโทรศัพท์ที่โทรเข้ามาด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ Mac หรือความสามารถในการส่งข้อความ SMS ออกจากอุปกรณ์ใดๆก็ได้ไม่ว่าจะเป็น iPad หรือ Mac ก็ตาม
Spotlight หรือระบบการค้นหาที่จะเพิ่มความสามารถในการค้นหาที่ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม โดยจะมีการค้นหาและแสดงผลที่ใช้งานได้ง่ายขึ้น โดยจะค้นหาข้อมูลจาก Wikipedia, แหล่งข่าวต่างๆ, สถานที่ใกล้เคียง, เพลงใน iTunes , แอพพลิเคชั่นใน App Store, หนังสือ ebook, รอบหนัง และการค้นหาเว็บไซต์อื่นๆ
ทั้งนี้ในเบื้องต้น iOS8 ที่ปล่อยให้ดาวน์โหลดในขณะนี้ยังคงเป็นเวอร์ชั่น Beta สำหรับนักพัฒนา ส่วนเวอร์ชั่นตัวเต็มนั้นมีกำหนดการปล่อยให้ดาวน์โหลดในราวช่วงเดือนกันยายนนี้
ที่มา – Apple