เจมาร์ท พร้อมลุยตลาด 3 จี หลัง 3 โอเปอร์เรเตอร์เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ ชูจุดเด่นกลยุทธ์การทำตลาด การให้บริการ และการจำหน่ายโทรศัพท์มือถือสนองความต้องการผู้บริโภค ตั้งเป้ากวาดรายได้ปีนี้โต 40% พร้อมชี้ภาพรวมธุรกิจมือถือปีนี้คึกคักหลายแบรนด์งัดกลยุทธ์แข่งขันดุเดือด
[adsense]
นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) ตัวแทนจำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่และอุปกรณ์เสริมชั้นนำของเมืองไทย เปิดเผยว่า ในช่วงเดือนพ.ค.นี้ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้ง 3 ราย เอไอเอส ดีแทค และทรูมูฟเอช จะเปิดให้บริการ 3 จี บนคลื่นความถี่ย่าน 2.1 กิกะเฮิร์ตอย่างเป็นทางการ ซึ่ง เจมาร์ท ในฐานะตัวแทนจำหน่ายโทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ตชั้นนำ ได้เตรียมความพร้อมในการให้บริการ 3 จีภายในเจมาร์ท ช็อป ทั้ง 240 สาขาอย่างครบวงจร ดังนี้ 1.การวางจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ โดยเฉพาะสมาร์ทโฟน ที่รองรับ 3 จีกว่า 30 รุ่นจากทุกแบรนด์ พร้อมแพคเกจโปรโมชั่นจากทุกค่ายผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ 2.การให้บริการย้ายระบบจากที่ใช้ 2 จี เปลี่ยนเป็น 3 จี (Migration) ลูกค้าสามารถแจ้งย้ายระบบภายในช็อปได้เลย 3.พนักงานมีความรู้ทางด้านเทคโนโลยี 3 จี ให้บริการข้อมูล แนะนำการใช้งาน และสร้างประสบการณ์ใหม่เกี่ยวกับ 3 จีให้กับลูกค้า เพื่อการใช้งานอย่าง มีประสิทธิภาพ
“จากอานิสงส์การเปิดให้บริการ 3 จีอย่างเป็นทางการ จะทำให้เกิดความต้องการใช้งานโทรศัพท์มือถือที่รองรับระบบ 3 จี เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเจมาร์ทเล็งเห็นถึงจุดนี้ได้สต๊อกโทรศัพท์มือถือ 3 จีไว้ประมาณ 1.2 แสนเครื่องต่อเดือน แบ่งเป็น อินเตอร์แบรนด์ 1 แสนเครื่อง และเจโฟน อีก 2 หมื่นเครื่อง นอกจากนี้ช่วงครึ่งปีหลังจะเปิดช็อปใหม่เพิ่มอีก 40 สาขา รวมเป็น 280 สาขาภายในสิ้นปีนี้ จากปัจจุบันที่มีอยู่ 240 สาขา รวมถึงการจัดงาน “โมบายโชว์” ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เพื่อขยายตลาดและสร้างการรับรู้เทคโนโลยี 3 จีให้ครอบคลุม โดยปีนี้คาดว่ารายได้และกำไรของเจมาร์ทจะเติบโตเพิ่มขึ้น 40%”
นายอดิศักดิ์ กล่าวต่อว่า สำหรับแนวโน้มภาพรวมตลาดโทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ต ปีนี้คาดว่าจะมียอดขายรวมประมาณ 20 ล้านเครื่อง และในแง่ของมูลค่าจะเติบโต 30% โดยสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตจะเป็นตัวขับเคลื่อนหลักในตลาดมือถือจนถึงสิ้นปี ส่งผลให้มีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 12 ล้านเครื่อง ดังนั้นตั้งแต่ช่วงเดือนพ.ค.นี้เป็นต้นไปจะเห็นสัญญาณ การแข่งขันของอุตสาหกรรมโทรคมนาคมรุนแรงมากขึ้น ตั้งแต่ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ผู้ผลิตโทรศัพท์หลากหลายแบรนด์ในตลาด รวมถึงดิสทริบิวเตอร์ ที่จะมุ่งเน้นในเรื่องการเร่งขยายเครือข่าย 3 จีให้ครอบคลุมผู้บริโภคมากที่สุด การเปิดตัวสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตรุ่นใหม่ๆ การทำแพคเกจโปรโมชั่นต่างๆ กระตุ้นการใช้งาน 3 จี การขยายช่องทางการจำหน่าย หรือสาขาต่างๆ เพื่อรองรับการเติบโตของตลาด การให้บริการและสร้างประสบการณ์การใช้งาน 3 จีกับผู้บริโภค
ขณะที่แนวโน้มราคาสมาร์ทโฟนที่รองรับเทคโนโลยี 3 จีนั้นคาดว่าจะมีระดับราคาเริ่มต้น ที่ 3,900 บาทขึ้นไป และจะค่อยๆปรับตัวลดลงตามความต้องการของตลาดที่เพิ่มมากขึ้น จนถึงปลายปีราคาจะลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 2,000 บาท ซึ่งราคาโทรศัพท์มือถือที่วางจำหน่ายภายในร้านเจมาร์ทถือว่ามีราคาที่ครอบคลุมผู้บริโภคได้ในทุกระดับ
Follow @flashfly
[adsense2]