เปิดตัวกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับสมาร์ทโฟนรุ่นท๊อปรุ่นใหม่จาก Samsung ที่หลายคนรอคอย นั่นก็คือ Samsung Galaxy S4 ซึ่งได้ทำการเปิดตัวภายในาน Unpacked Event 2013 เมื่อเช้าวันนี้ ที่นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา และดูเหมือว่าจะเป็นเหมือนอย่างทีคาดการณ์ไว้กับการเปิดตัว Galaxy S4 ภายในงาน ซึ่งมีข้อมูลสเป็คและรูปลักษณ์ของตัวเครื่องคล้ายคลึงกับข่าวลือในหลากหลายกระแสที่มีออกมาให้เห็นกันก่อนหน้านี้ เราลองมาดูกันว่าข้อมูลเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ Galaxy S4 นั้นจะมีอะไรที่น่าสนใจกันบ้าง
Galaxy S4 มาพร้อมกับสโลว์แกนใหม่ “Life companion” และเปลี่ยนจากตัวเลขที่เป็นแบบโรมัน มาเป็นตัวเลขอารบิกแทนแล้ว อาจเพราะต้องการให้จำง่ายกว่าเดิม เพราะถ้าเป็นรุ่นหลังชื่อจะยิ่งยาวขึ้น และมาพร้อมคุณสมบัติใหม่เอาใจกลุ่มผู้ใช้งานได้อย่างดีเยี่ยมอย่างเช่น Smart Scroll เลื่อนหน้าจอด้วยสายตา,Smart Pause หยุดเล่นวิดีโอเมื่อละสายตาจากหน้าจอ,S Translator แปลภาษาทั้งจากเสียงมาเป็นข้อความ และ S Health สำหรับผู้ที่รักสุขภาพเป็นต้น
Galaxy S4 มาพร้อมหน้าจอขนาดใหญ่ 5 นิ้วความละเอียด 1920 x 1080 px คมชัดด้วยหน้าจอ Full HD Super AMOLED (441 ppi) ใช้จอกระจก Gorilla Glass 3 รองรับการสัมผัสด้วยถุงมืออีกด้วย ระบบปฏิบัติการ Android 4.2.2 มีความบาง 7.9 มม. หนัก 130 กรัม ตัวเครื่องรองรับ 4G ที่แตกต่างกัน (รองรับทั้ง TDD และ FDD ) สำหรับ CPU จะใช้ Exynos 5410 Octa-core processor 1.6GHz หรือ Qualcomm’s 1.9GHz quad-core processor แตกต่างกันตามประเทศที่จำหน่าย ,แรม 2 GB หน่วยความจำภายใน แบ่งความจุเป็น 3 รุ่น 16GB,32GB และ 64GB เพิ่มได้ด้วย Micro SD สูงสุด 64GB
สำหรับตัวกล้องนั้นกล้องด้านหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล แบบ Auto focus และ LED flash กล้องด้านหน้าความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รองรับการถ่าย VDO ที่ความละเอียด Full HD ทั้ง 2 กล้อง และยังสามารถถ่ายภาพพร้อมกันทั้ง 2 กล้องอีกด้วย ส่วนความอึดของแบตเตอร์รี่นั้น Galaxy S4 มาพร้อมความจุ 2600 mAh มากว่ารุ่นก่อนประมาณ 20% Galaxy S4 มีให้เลือก 2 สีกับสีธรรมชาติอย่างสีดำ Black Mist และ สีขาว White Frost
อย่างไรก็ตาม Samsung ได้มีแผนที่จะเตรียมวางจำหน่าย Samsung Galaxy S4 ในช่วงปลายเดือนเมษายนที่จะถึงนี้กับ 327 เครือข่าย ใน 155 ประเทศ ส่วนสนนราคาของเครื่องเปล่าแบบไม่ติดสัญญานั้นจะเป็นเท่าไหร่นั้นคงต้องติดตามกันต่อไป
สำหรับสเป็คเต็มๆมีดังนี้
ที่มา – Samsung Tomorrow
http://www.flashfly.net/wp/?p=48413