ซัมซุงขยายฐานธุรกิจบีทูบีส่ง “ซัมซุง สมาร์ท สคูล” โซลูชันล้ำสมัยสร้างบรรทัดฐานใหม่ของการศึกษาแบบอินเตอร์แอคทีฟในยุคดิจิตอล ล่าสุดจับมือโรงเรียนอัสสัมชัญหลักสูตรภาษาอังกฤษ เปิดตัวห้องเรียนอัจฉริยะ “ซัมซุง สมาร์ท สคูล” ร่วมกันยกระดับการเรียนการสอนพื้นฐานสู่ความเป็นเลิศของการศึกษาไทย พร้อมรุกหนักทุกกลุ่มตลาด ชูนวัตกรรม สุดล้ำผสานโซลูชันที่ดีเยี่ยม ย้ำจุดยืนตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับทุกกลุ่มองค์กร
นายบุญเลิศ วิบูลย์เกียรติ ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจลูกค้าองค์กร บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด เปิดเผยว่า “ในปีนี้ซัมซุงวางกลยุทธ์หลักรุกตลาดธุรกิจลูกค้าองค์กร (B2B – Business to Business) โดยมุ่งพัฒนานวัตกรรมและโซลูชันเพื่อตอบโจทย์และเข้าถึงทุกกลุ่มธุรกิจ เพราะพฤติกรรมของลูกค้าในปัจจุบันให้ความสำคัญกับโซลูชันที่ปรับเปลี่ยนได้ควบคู่กับผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพสูง คุ้มค่าแก่การลงทุน ซึ่งซัมซุงมีความได้เปรียบในเรื่องของความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัย ครอบคลุมรอบด้าน เติมเต็มทุกความต้องการของลูกค้า โดยในปีที่ผ่านมาธุรกิจลูกค้าองค์กรของซัมซุงมีการเติบโตสูงมาก และได้รับ การตอบรับที่ดีเยี่ยมจากทุกกลุ่มลูกค้าซึ่งเป็นผลมาจากการที่ซัมซุงศึกษาเพื่อให้เกิดความเข้าใจในความต้องการของแต่ละกลุ่มธุรกิจ รวมถึงการมอบโซลูชันที่สมบูรณ์แบบ เพื่อตอบสนองทุกความท้าทายใหม่ๆ ผนวกกับการบริการหลังการขายที่ได้มาตรฐานทำให้ผลตอบรับจากกลุ่มลูกค้าองค์กรเกินคาด”
ล่าสุดซัมซุงได้นำเสนอโซลูชันเพื่อธุรกิจการศึกษาในยุคดิจิตอล ภายใต้ชื่อ “ซัมซุง สมาร์ท สคูล (Samsung Smart School)” ซึ่งถือได้ว่าเป็นต้นแบบของห้องเรียนอัจฉริยะที่เป็นส่วนหนึ่งของการช่วยพัฒนาการศึกษา ของประเทศไทยให้มีคุณภาพที่ดียิ่งขึ้น เพื่อให้เด็กไทยสามารถแข่งขันกับนานาประเทศได้ โดยมีจุดเด่นอยู่ที่การเรียนรู้แบบใหม่ที่ให้นักเรียนเป็นศูนย์กลาง อีกทั้งยังเป็นการเรียนการสอนแบบอินเตอร์แอคทีฟ (Interactive) ผ่านผลิตภัณฑ์ซัมซุง อาทิ ซัมซุง กาแล็คซี่ โน้ต 10.1 และ ซัมซุงอีบอร์ด (Samsung E-board) ผนวกกับโซลูชันเฉพาะที่ออกแบบมาให้อาจารย์และนักเรียนสามารถโต้ตอบ และเรียนรู้บทเรียนไปพร้อมๆ กัน อาทิ นักเรียนสามารถแสดงผลงานและความคิดเห็นต่างๆ จากซัมซุง กาแล็คซี่ โน้ต 10.1ไปยังหน้าจอ E-board หน้าห้องเรียน อาจารย์สามารถตรวจสอบ
การเรียนของนักเรียน ในระหว่างเรียนเพื่อแน่ใจว่านักเรียนเข้าใจในบทเรียน รวมถึงเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการควบคุมความสนใจของนักเรียนในชั่วโมงเรียนได้เป็นอย่างดี โดยได้จับมือกับโรงเรียนอัสสัมชัญหลักสูตรภาษาอังกฤษซึ่งถือเป็นโรงเรียนที่ทันสมัย มีการเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษ และเน้นการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อใช้ในการเรียนรู้ของนักเรียนในการพัฒนาตนเองให้ก้าวทันโลกอยู่เสมอ การติดตั้ง ซัมซุง สมาร์ท สคูล จะช่วยส่งเสริมและพัฒนาการเรียนการสอนยุคดิจิตอล เสริมความแข็งแกร่งให้แก่ครู อาจารย์และนักเรียนด้วย
ภราดา ดร.พิสูตร วาปีโส ผู้อำนวยการโรงเรียนอัสสัมชัญหลักสูตรภาษาอังกฤษ กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า “ปัจจุบันเทคโนโลยีนับว่าเป็นปัจจัยที่เข้ามาเสริมการเรียนการสอนได้เป็นอย่างดี ซึ่งซัมซุง มีจุดเด่นในเรื่องความก้าวล้ำและความน่าเชื่อถือในด้านของเทคโนโลยี การจัดตั้ง ซัมซุง สมาร์ท สคูล ในครั้งนี้ถือได้ว่าป็นการยกระดับการศึกษาไทยให้ก้าวล้ำไปอีกขั้น ทางโรงเรียนอัสสัมชัญหลักสูตรภาษาอังกฤษ ได้วางแผนนำร่องให้นักเรียนในทุกระดับชั้นเข้าเรียนบูรณาการในทุกรายวิชาที่ซัมซุง สมาร์ท สคูลโดยจะครอบคลุมนักเรียนทั้งสิ้นกว่า 250 คน ซึ่งนักเรียนสามารถทำงานที่ได้รับมอบหมายต่างๆ ผ่านซัมซุง กาแล็คซี่ โน้ต 10.1 สามารถโต้ตอบกับอาจารย์ผ่านการเรียนการสอนแบบอินเตอร์แอคทีฟ ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะกระตุ้นบรรยากาศภายในห้องเรียนให้สนุกสนาน ทันสมัย เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ทำให้เด็กๆ สนใจบทเรียน และมีส่วนร่วมในห้องเรียนมากยิ่งขึ้น เรียกได้ว่าเป็นการเรียนที่เปลี่ยนทัศนคติเดิมๆ จากการท่องจำไปสู่องค์ความรู้รูปแบบใหม่ที่สำคัญผ่านเทคโนโลยีอันทันสมัย อีกทั้งยังเป็นการลดข้อจำกัดของการสื่อสารภายในห้องเรียนจากที่อาจารย์เป็นผู้สื่อสารออกไปฝ่ายเดียวก็จะเปลี่ยนเป็นการสื่อสารสองทางแบบอินเตอร์แอคทีฟทางผ่านซัมซุง สมาร์ท สคูล โดยมั่นใจว่าห้องเรียนอัจฉริยะนี้จะเป็นสัญญาณที่ดีต่อการปูพื้นฐานการเรียนรู้รูปแบบใหม่ให้แก่เด็กๆ เพื่อพัฒนาตนเองให้ทันโลกและเทคโนโลยีต่อไป” ภราดา ดร.พิสูตรกล่าว
“นอกจากความร่วมมือกับโรงเรียนอัสสัมชัญหลักสูตรภาษาอังกฤษแล้ว ซัมซุงยังวางแผนที่จะขยายโซลูชัน ซัมซุง สมาร์ท สคูล สู่กลุ่มโรงเรียนชั้นนำเพื่อสนับสนุนการเรียนการสอนและพัฒนาการศึกษาไทยให้ก้าวไกลต่อไป อีกด้วย” นายบุญเลิศกล่าวทิ้งท้าย