Apple Watch Series 9 และ Apple Watch Ultra 2 ที่วางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกา ตั้งแค่เดือนมกราคมที่ผ่านมา ไม่มีฟีเจอร์วัดออกซิเจนในเลือด เนื่องจาก Apple ถูกตัดสินว่าได้ละเมิดสิทธิบัตรของ Masimo
คำสั่งห้ามดังกล่าว มาจากการตัดสินใจของ ITC (คณะกรรมาธิการการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา) เมื่อปลายเดือนตุลาคม 2023 หลังจากบริษัทเทคโนโลยีทางการแพทย์ Masimo ได้ยื่นฟ้อง Apple ตั้งแต่ปี 2020 โดยกล่าวหาว่า Apple Watch ละเมิดสิทธิบัตรของ Masimo กว่า 10 ฉบับ และขอให้ศาลมีคำสั่งระงับการจำหน่าย Apple Watch ในสหรัฐอเมริกา
เพื่อปฏิบัติตามคำสั่งศาลฯ Apple ได้ปิดการใช้งาน Pulse Oximetry หรือฟีเจอร์วัดออกซิเจนใน Apple Watch Series 9 และ Apple Watch Ultra 2 ที่วางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาด้วยวิธี Hard coding ซึ่ง Apple ต้องให้รหัสปิดการใช้งานฟีเจอร์และทดสอบอุปกรณ์แก่ Masimo ด้วย และพบว่า iPhone ที่ถูกเจลเบรค สามารถเปิดใช้งาน Pulse Oximetry ใน Apple Watch ได้
Masimo ออกมาโต้แย้งว่าการเปิดใช้งาน Pulse Oximetry ใน Apple Watch ผ่าน iPhone ที่ถูกเจลเบรค หมายความว่า Apple ไม่ได้ลบฟีเจอร์วัดออกซิเจนในเลือดออกไป จึงไม่ควรอนุญาตให้ Apple Watch เข้ามาวางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกา แต่ข้อโต้แย้งของ Masimo ไม่ประสบผลสำเร็จ
การปิดฟีเจอร์วัดออกซิเจนใน Apple Watch ด้วยวิธี Hard coding ของ Apple หมายความว่า Apple Watch ยังสามารถกลับมาใช้งานฟีเจอร์วัดออกซิเจนในเลือดได้ง่ายๆ จากการอัปเดตซอฟต์แวร์ในอนาคต แต่จะทำแบบนั้นได้ จะต้องทำให้ข้อพิพาทกับทาง Masimo สิ้นสุดลงก่อน
รายงานล่าสุดระบุว่า สิทธิบัตรของ Masimo ที่ถูกละเมิดโดย Apple จะหมดอายุในเดือนสิงหาคม 2028 หมายความว่า Apple Watch ในสหรัฐอเมริกา จะสามารถเปิดใช้งานฟีเจอร์วัดออกซิเจนในเลือดได้อีกครั้ง ในอีก 4 ปีข้างหน้า แต่อาจจะไวกว่านั้น ถ้าหากการอุทธรณ์ของ Apple ประสบผลสำเร็จ
Apple ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อคณะกรรมาธิการการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา เพื่อพยายามล้มล้างคำตัดสินก่อนหน้านี้ และถ้าหากการอุทธรณ์สำเร็จ Apple อาจสามารถเปิดใช้งาน Pulse Oximetry ใน Apple Watch ได้เร็วขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีอีกวิธีในการเปิดใช้งาน Pulse Oximetry ใน Apple Watch ได้เร็วกว่ารอให้สิทธิบัตรของ Masimo หมดอายุในปี 2028 ก็คือ การทำข้อตกลงด้านลิขสิทธิ์กับ Masimo แต่ดูเหมือนว่าจะไม่เกิดขึ้น
ที่มา – MacRumors