สิ้นสุดการรอคอยในที่สุด vivo ก็ได้เปิดตัวสุดยอดสมาร์ตโฟนเรือธง vivo X100 Series 5G โดยมีให้เลือก 2 รุ่น ได้แก่ vivo X100 5G และ vivo X100 Pro 5G ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการแล้ว แน่นอนว่าในครั้งนี้ได้ยกระดับด้านการถ่ายภาพระดับโปรขึ้นไปเหนือคู่แข่งอีกขั้นโดยยังคงพัฒนาร่วมกับ ZEISS ซึ่งทั้งคู่ได้รับการออกแบบมาอย่างพรีเมียมมีความเอกลักษณ์ ชูจุดเด่นด้านการถ่ายภาพ ถึงขนาดซูมถ่ายดวงอาทิตย์ตอนตกดินได้อย่างสวยงามอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในกล้องสมาร์ตโฟน ใช้ชิปเซ็ตแฟลกชิปอย่าง Dimensity 9300 ชิปประมวลผลกล้อง V3 รุ่นใหม่ล่าสุดและรองรับชาร์จเร็ว 120W FlashCharge แถมที่ชาร์จในกล่องพร้อมใช้งาน
สเปก vivo X100 5G
- จอแสดงผล AMOLED, FHD+ ขนาด 6.78 นิ้ว อัตรารีเฟรชสูงสุด 120Hz
- กล้องหลัก 50MP OIS (Sony IMX920) + 50MP Ultra Wide + 64MP Telephoto
- กล้องหน้า 32MP Selfie Camera
- ชิปประมวลผลกล้อง V2
- ชิปประมวลผล MediaTek Dimensity 9300
- ความจำ RAM 12GB (LPDDR5X) + ROM 256GB (UFS 4.0)
- ขยายความจำ RAM ได้สูงสุด 12GB ผ่านฟีเจอร์ Extended RAM
- การเชื่อมต่อ 5G, Wi-Fi 7, Bluetooth 5.4, NFC, USB Type-C (USB 2.0)
- ระบุตำแหน่ง GPS, BeiDou, GLONASS, Galileo, QZSS, NavIC, A-GPS
- สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ (In-Display Fingerprint Sensor)
- เซ็นเซอร์ Accelerometer, Proximity, Ambient Light Sensor, E-compass, Gyroscope, Infrared Blaster, Laser Focus, Color Temperature
- ระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 14 บนพื้นฐาน Android 14
- มาตรฐานป้องกันฝุ่นและน้ำ IP68
- แบตเตอรี่ 5000mAh
- รองรับชาร์จเร็ว 120W FlashCharge
- ขนาดตัวเครื่อง 164.05 x 75.19 x 8.49 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 206 กรัม
- มี 2 สี ให้เลือก ได้แก่ Startrail Blue และ Asteroid Black
สเปก vivo X100 Pro 5G
- จอแสดงผล AMOLED, FHD+ ขนาด 6.78 นิ้ว อัตรารีเฟรชสูงสุด 120Hz
- กล้องหลัก 50MP OIS (Sony IMX989) + 50MP Ultra Wide + 50MP OIS Telephoto
- กล้องหน้า 32MP Selfie Camera
- ชิปประมวลผลกล้อง V3
- ชิปประมวลผล MediaTek Dimensity 9300
- ความจำ RAM 16GB (LPDDR5X) + ROM 512GB (UFS 4.0)
- ขยายความจำ RAM ได้สูงสุด 16GB ผ่านฟีเจอร์ Extended RAM
- การเชื่อมต่อ 5G, Wi-Fi 7, Bluetooth 5.4, NFC, USB Type-C
- ระบุตำแหน่ง GPS, BeiDou, GLONASS, Galileo, QZSS, NavIC, A-GPS
- สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ (In-Display Fingerprint Sensor)
- เซ็นเซอร์ Accelerometer, Proximity, Ambient Light Sensor, E-compass, Gyroscope, Infrared Blaster, Laser Focus, Color Temperature
- ระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 14 บนพื้นฐาน Android 14
- มาตรฐานป้องกันฝุ่นและน้ำ IP68
- แบตเตอรี่ 5400mAh
- รองรับชาร์จเร็ว 100W FlashCharge และชาร์จเร็วแบบไร้สาย 50W Wireless FlashCharge
- ขนาดตัวเครื่อง 164.05 x 75.28 x 8.91 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 225 กรัม
- มีให้เลือกเฉพาะสี Asteroid Black
แกะกล่อง vivo X100 Series 5G
vivo X100 5G และ vivo X100 Pro 5G ถูกจัดส่งมาในกล่องสีดำสไตล์เดียวกัน แต่ก็สามารถแยกแยะความแตกต่างได้อย่างชัดเจนจากชื่อรุ่นขนาดใหญ่ที่ระบุบนฝากล่อง พร้อมข้อความที่บ่งบอกว่ามีการทำงานด้านวิศวกรรมร่วมกันกับ ZEISS และที่ขอบด้านข้างกล่อง มีการติดสติกเกอร์เพื่อบอกว่า vivo เป็นผู้สนับสนุนการแข่งขันฟุตบอล EURO 2024
เมื่อยกฝากล่องขึ้นมา จะพบกับสมาร์ตโฟน vivo X100 Series 5G ถูกเก็บไว้ในซอง ที่มีลิ้นช่วยดึงตัวเครื่องออกจากถาดรอง หลังจากแกะซองที่พันรอบสมาร์ตโฟนออกไป จะเห็นว่ามีการติดฟิล์มกันรอยหน้าจอมาให้แล้ว
ใต้ถาดรองสมาร์ตโฟนจะพบกับกล่องแบนๆ สีดำ แยกไว้เป็นสัดส่วน ซึ่งรวมถึงกล่องสำหรับจัดเก็บเอกสารที่แนบเข็มช่วยถอดถาดใส่ซิมการ์ด ภายในแถมเคสมาให้ 1 อัน รวมอยู่กับคู่มือ Quick Start Guide ข้อมูลสำคัญและบัตรรับประกัน
สำหรับสายชาร์จ และหัวชาร์จ (Power Adapter) ถูกแยกเก็บไว้อีกกล่อง โดยทาง vivo ให้สายชาร์จแบบ USB-C to USB-C ขณะที่หัวชาร์จ รองรับชาร์จเร็ว 120W FlashCharge อย่างไรก็ตาม vivo X100 Pro 5G รองรับชาร์จเร็ว 100W ขณะที่ vivo X100 5G รองรับชาร์จเร็ว 120W
ดีไซน์สุดพรีเมียม
ดีไซน์ภายนอกของ vivo X100 Series 5G ทั้ง 2 รุ่น มีความคล้ายคลึงกันอย่างมาก เรียกได้ว่าใช้ภาษาการออกแบบเดียวกัน โดย vivo X100 5G มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีฟ้า Startrail Blue และ สีดำ Asteroid Black แต่ vivo X100 Pro 5G มีให้เลือกเฉพาะสีดำ Asteroid Black
vivo X100 Series 5G ทั้ง 2 สี ล้วนได้รับแรงบันดาลใจมาจากปรากฏการณ์ธรรมชาติบนท้องฟ้า สะท้อนออกมาเป็นดีไซน์วงแหวนขนาดใหญ่ของกรอบกล้องหลัง ซึ่งผู้ออกแบบได้รับอิทธิพลมาจากปรากฏการณ์พระจันทร์ทรงกลด (Moon Halo) ในรุ่น vivo X100 5G และพระอาทิตย์ทรงกลด (Sun Halo) ในรุ่น vivo X100 Pro 5G
จึงเลือกใช้วัสดุสแตนเลสเกรดอุตสาหกรรมอวกาศมาใช้เป็นกรอบวงแหวน ซึ่งให้ความแข็งแรงและต้านทานการขีดข่วนได้เป็นอย่างดี และเพิ่มความสวยงามของกรอบวงแหวนด้วยพื้นผิวแบบ Sunburst Texture คล้ายกับขอบนาฬิกาสุดหรู อีกทั้งกล้องทุกตัวที่วางอยู่ภายในกรอบวงแหวน ยังได้รับการเคลือบ AR Coating โดยที่ vivo X100 Pro 5G จะใช้กระบวนการเคลือบแบบแข็งพิเศษ แต่ vivo X100 5G ใช้กระบวนการเคลือบแบบมาตรฐาน
vivo X100 5G ที่ทีมงาน @Flashfly ได้รับมารีวิว เป็นตัวเครื่องสีฟ้า Startrail Blue ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากความสวยงามของแสงและเงาเมื่อเกิดสุริยุปราคาและจันทรุปราคา จนเกิดเป็นลวดลายบนพื้นผิวฝาหลัง ขณะที่ vivo X100 Pro 5G สีดำ Asteroid Black ได้รับแรงบันดาลใจมาจากท้องฟ้ายามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยดวงดาว ให้ความสุขุม และรู้สึกน่าค้นหา
มุมมองด้านหน้าของทั้งคู่ดูเหมือนกันมาก เนื่องจากใช้จอแสดงผลขอบโค้งเหมือนกัน ขนาดเท่ากัน 6.78 นิ้ว ติดตั้งกล้องหน้าความละเอียดเท่ากัน 32 ล้านพิกเซล และทั้ง 2 รุ่น ยังได้รับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอเหมือนกันด้วย
ด้านข้างจะเห็นส่วนขอบมุมของหน้าจอกับฝาหลังที่โค้งมน คั่นกลางด้วยกรอบโลหะ โดยมีความบาง 8.49 มิลลิเมตร สำหรับ vivo X100 5G และบาง 8.91 มิลลิเมตร สำหรับ vivo X100 Pro 5G
อีกข้างมีขาวมุมที่โค้งมนเช่นกัน พร้อมติดตั้งปุ่มปรับระดับเสียงไว้เหนือปุ่มเพาเวอร์
ด้านบนมีเซ็นเซอร์ Infrared Blaster, ไมโครโฟนตัวที่ 2 และข้อความ Professional Photography เพื่อบ่งบอกถึงความสามารถในการถ่ายภาพระดับมืออาชีพ
ด้านล่างมีถาดใส่ซิมการ์ด ใกล้กันเป็นรูไมโครโฟน ถัดมาเป็นพอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C (USB 3.2 Gen1) และ ลำโพง
โดยทั้ง 2 รุ่นได้รับการออกแบบมาให้ป้องกันน้ำและฝุ่นในระดับ IP68 สามารถแช่อยู่ในน้ำลึกได้ถึง 1.5 เมตร ด้วยอุณหภูมิและความดันปกติเป็นเวลาครึ่งชั่วโมง
จอแสดงผล LTPO Eye Protection
vivo X100 Pro 5G และ vivo X100 5G มาพร้อมจอแสดงผล AMOLED ขอบโค้ง ใช้วัสดุ LTPO (Low-Temperature Polycrystalline Oxide) ช่วยให้รองรับอัตรารีเฟรชแบบไดนามิก 1 – 120Hz และยังประหยัดพลังงานมากขึ้น ทำให้รองรับการแสดงผลในโหมด Always On Display ซึ่งให้พื้นที่การแสดงผล Always-on Display ที่ใหญ่ขึ้น
จอแสดงผลของ vivo X100 Series 5G ทั้ง 2 รุ่น มีความละเอียด 2800 x 1260 พิกเซล ขนาด 6.78 นิ้ว ความหนาแน่นของพิกเซล 452 PPI (พิกเซลต่อนิ้ว) ความลึกสี 10-bit ให้สีสัน 1.07 พันล้านสี รองรับขอบเขตสี DCI-P3 100% ความอิ่มตัวของสี NTSC 105% ให้ความสว่างสูงสุด 3,000 นิต มีอัตราส่วนคอนทราสต์ 8,000,000:1 มั่นใจได้ในเรื่องของความคมชัด และสีสันที่สมจริง อีกทั้งยังช่วยปกป้องด้วยตาด้วยเทคโนโลยีปรับลดแสง PWM (Pulse Width Modulation) ที่ความถี่สูงสุด 2160Hz
กล้องระดับโปร พร้อมชิปประมวลผลกล้องใหม่ล่าสุด
vivo X100 Series 5G ทั้ง 2 รุ่น ได้รับกล้องหลัง 3 ตัว ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานการเคลือบเลนส์ของ ZEISS T* (T Star) ซึ่งให้ค่าสีที่แม่นยำ เพิ่มสีสันให้สดใส ลดแสงสะท้อนของเลนส์กล้องในเวลากลางคืน และช่วยยกระดับการภาพถ่ายในที่แสงน้อย อีกทั้งยังติดตั้งเซ็นเซอร์ Laser Focus มาให้ด้วย ช่วยในการจับโฟกัสมีความแม่นยำและรวดเร็ว
vivo X100 Pro ยังได้รับชิปประมวลผลกล้อง V3 รุ่นใหม่ล่าสุดของ vivo ซึ่งเป็นชิประดับ 6 นาโนเมตร โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรม ISP แบบ Multi-Concurrent AI Cognitive พร้อมระบบ FIT (Frame Info Tunneling) รุ่นที่ 2 ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบันทึกและประมวลผลถ่ายภาพยนตร์ระดับ 4K ได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยเฉพาะโหมด Cinematic Portrait นอกจากนี้ ชิป V3 ยังมีประสิทธิภาพการใช้พลังงานเพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบกับชิปรุ่นก่อน
สำหรับ vivo X100 5G มาพร้อมชิป V2 ใช้สถาปัตยกรรมการประมวลผลภาพที่มีความหน่วงต่ำ AI ISP ซึ่งได้รับการปรับปรุงอัลกอริทึมลดจุดรบกวน AI Noise Reduction ทำให้การถ่ายภาพในที่แสงน้อยมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยเพิ่มช่วงไดนามิกและรายละเอียดที่ดีกว่าเดิม
กล้องหลังของ vivo X100 Pro 5G
- กล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล (ZEISS Main Camera) ขนาดเซ็นเซอร์ 1” ทางยาวโฟกัส 23 มม. รูรับแสง f/1.75
- กล้อง Telephoto 50 ล้านพิกเซล (ZEISS APO Floating) ทางยาวโฟกัส 100 มม. รูรับแสง f/2.5
- กล้อง Ultra Wide 50 ล้านพิกเซล ทางยาวโฟกัส 15 มม. รูรับแสง f/2.0
กล้องหลักของ vivo X100 Pro 5G ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX989 ขนาด 1 นิ้ว มีระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS ขณะที่กล้อง Telephoto รองรับออปติคัลซูม 4.3 เท่า ดิจิทัลซูมสูงสุด 100เท่า มีระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS มาพร้อมมาตรฐานใหม่ Vario-Apo-Sonnar จาก ZEISS ช่วยถ่ายภาพจากระยะใกล้ไปจนถึงระยะไกลได้อย่างง่ายดาย และให้ผลลัพธ์ที่น่าประทับใจ สำหรับกล้อง Ultra Wide มีขนาดเซ็นเซอร์ 1/2.76 นิ้ว
กล้องหลังของ vivo X100 5G
- กล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล (VCS True Color Main Camera) ทางยาวโฟกัส 23 มม. รูรับแสง f/1.75
- กล้อง Telephoto 64 ล้านพิกเซล (ZEISS Telephoto Camera) ทางยาวโฟกัส 70 มม. รูรับแสง f/2.57
- กล้อง Ultra Wide 50 ล้านพิกเซล ทางยาวโฟกัส 15 มม. รูรับแสง f/2.0
กล้องหลังของ vivo X100 5G ประกอบด้วย กล้องหลัก VCS Bionic ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX920 ขนาด 1/1.49 นิ้ว มีระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS, กล้อง Telephoto ขนาดเซ็นเซอร์ 1/2 นิ้ว รองรับออปติคัลซูม 3 เท่า ดิจิทัลซูมสูงสุด 100 เท่า มีระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS และ ได้รับกล้อง Ultra Wide ตัวเดียวกับ vivo X100 Pro 5G
ถึงแม้ vivo X100 Pro 5G กับ vivo X100 5G จะมีกล้องหลัก และกล้อง Telephoto แตกต่างกัน แต่ทั้งคู่ก็ให้ประสบการณ์การถ่ายภาพแบบเดียวกัน เนื่องจากใช้ซอฟต์แวร์รุ่นเดียวกันนั่นเอง โดยรองรับโหมดถ่ายภาพ Snapshot, Night, Portrait, Photo, Video, Cinematic Portrait, High Resolution, Pano, Ultra HD Document, Slo-mo, Time-Lapse, Long Exposure, Supermoon, Astro, Landscape & Architecture, Pro, Food และ Live Photo
โหมด Photo รองรับการซูมตั้งแต่ 0.6x ซึ่งเป็นการเปิดใช้งานกล้อง Ultra Wide และขยายหรือซูมได้สูงสุด 100x แต่มีความแตกต่างเล็กน้อยที่ระยะการซูม vivo X100 5G สามารถซูมออปติคัลที่ระยะ 3x เทียบเท่าทางยาวโฟกัส 70 มม. ขณะที่ vivo X100 Pro 5G สามารถซูมออปติคัลที่ระยะ 4.3x เทียบเท่าทางยาวโฟกัส 100 มม. สามารถซูมในระยะ 10x และ 20x ได้อย่างคมชัด ส่วนระยะไกลๆอย่าง 60x ถึง 100x ก็ถ่ายมาได้ชัดเจนโดยเฉพาะตัวหนังสือ
ตัวอย่างภาพถ่ายการซูม
ตัวอย่างภาพถ่ายการซูม
โหมด Photo ยังมีฟิลเตอร์ ZEISS Natural Color สามารถเปิดใช้งานได้จากแถบเครื่องมือด้านบน ช่วยทำให้ภาพถ่ายมีสีสันที่เป็นธรรมชาติแบบฉบับเลนส์ ZEISS และสามารถถ่ายภาพใกล้วัตถุด้วย Super Macro (อยู่ถัดจาก ZEISS Natural Color) ที่สามารถซูมได้ แถมเบลอฉากหลังสวยงาม
ไฮท์ไลท์ของรุ่นนี้คือซูมถ่ายดวงอาทิตย์ตอนตกดิน ครั้งแรกในวงการกล้องสมาร์ตโฟน สามารถซูมถ่ายในระยะ 10 เท่าหรือมากกว่า 20 เท่าขึ้นไปก็จะได้ภาพดวงอาทิตย์กลมโตสีส้มสวยงามมาก โดยเราไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้องแต่อย่างใด หรือตอนกลางก็สามารถซูมถ่ายดวงจันทร์ได้ถึงระยะ 100 เท่าเลยทีเดียว
โหมด Portrait ของ vivo X100 Pro 5G มีการเปลี่ยนช่วงของการซูมเป็นระยะเลนส์หรือทางยาวโฟกัสครบทุกระยะตั้งแต่ 24mm ,35mm ,50mm ,80mm และ 100mm ในการถ่ายโคลสอัพ เพื่อให้เหมาะสำหรับการถ่ายภาพบุคคล ซึ่งให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดเมื่อตัวแบบอยู่ห่างจากกล้องหลัง 0.5 – 2.5 เมตร
มาพร้อมโบเก้สวยๆที่เป็นเอกลักษณ์ของ ZEISS ที่แฟน vivo คุ้นเคยกันดีอยู่แล้วอาทิ Biotar ,Sonnar ,Planar,Distagon และยังมีโบเก้ใหม่อย่าง B-speed เพิ่มเข้ามาในรุ่นนี้ ทำให้การถ่ายภาพบุคคลระดับมืออาชีพเป็นเรื่องง่าย รวมถึงฟีเจอร์ปรับความงามบนใบหน้า และปรับค่า F เพื่อละลายฉากหลังตั้งแต่ f0.95 – f16
โหมด Video รองรับการซูมในช่วง 0.6x – 10x (ขึ้นอยู่กับความละเอียดวิดีโอ) สามารถถ่ายวิดีโอในความละเอียดสูงสุด 8K ด้วยอัตรา 30 เฟรมต่อวินาที หรือ 4K ที่อัตรา 60 เฟรมต่อวินาที โดยสามารถเปิดระบบป้องกันภาพสั่นไหวได้จากแถบเครื่องมือด้านบน และยังมีฟีเจอร์ Beauty ให้ใช้งานด้วย สามารถปรับความงามบนใบหน้าได้อย่างละเอียด
โหมด Cinematic Portrait เป็นฟีเจอร์ใหม่ที่เพิ่มเข้ามาใน vivo X100 Series 5G ได้รับการพัฒนาขึ้นมาเพื่อช่วยในการถ่ายวิดีโอในแบบพอร์ตเทรต ที่ความละเอียดสูงสุด 4K อัตรา 30 เฟรมต่อวินาที โดยมีฟีเจอร์ Style ให้เลือกใช้หลายแบบ มีฟีเจอร์ Beauty สำหรับปรับความงามบนใบหน้า อีกทั้งยังสามารถปรับค่า F เพื่อละลายฉากหลังได้
โหมด Night สามารถซูมได้ตั้งแต่ระยะ 0.6x จนสูงสุด 100x โดยมี Style หรือ Filter ให้เลือกใช้หลายแบบ แต่ละแบบช่วยปรับโทนสีภาพให้เหมาะสำหรับการถ่ายภาพยามค่ำคืนในฉากหรือสถานการณ์ที่หลากหลาย แถบด้านบนจะพบฟีเจอร์ Panorama Night สำหรับการถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ยามค่ำคืนที่ต้องการเก็บภาพในมุมมองกว้างพิเศษ ตามด้วยฟีเจอร์ Long Exposure ช่วยเปิดรับแสงให้ยาวนานขึ้น ถัดมาเป็นฟีเจอร์สำหรับเปิดโหมด Supermoon สำหรับถ่ายภาพดวงจันทร์ให้ออกมาสวยงามได้ราวกับกล้องมืออาชีพ และมีฟีเจอร์ Astro ช่วยถ่ายภาพท้องฟ้าในเวลากลางคืนให้ออกมาสวยงามเหมือนภาพถ่ายทางดาราศาสตร์
กล้องหน้า 32MP Selfie Camera
ไม่ว่าจะเลือก vivo X100 5G หรือ vivo X100 Pro 5G ทั้งคู่ต่างก็มีสเปกกล้องหน้าแบบเดียวกัน โดยมีความละเอียด 32 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 ติดตั้งไว้ในหลุมบนหน้าจอ รองรับโหมด Photo ที่มี Filter มากมาย สำหรับเปลี่ยนโทนสีหรืออารมณ์ของภาพถ่ายเซลฟี่ พร้อมด้วยโหมด Night, Portrait, Video และ Cinematic Portrait สามารถถ่ายภาพเซลฟี่ได้ 2 ระยะใกล้กับไกล
โหมด Portrait ของกล้องหน้า มาพร้อม Style ที่ทำงานคล้าย Filter แต่ออกแบบมาสำหรับใบหน้าที่หลากหลาย อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ Beauty สามารถปรับความงามบนใบหน้าได้อย่างละเอียด อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ Makeup และ Posture ช่วยแต่งหน้า และแนะนำการโพสท่า นอกจากนี้ ยัง Style หรือ Filter มากมายจาก ZEISS และสามารถปรับค่า F เพื่อละลายฉากหลังด้วยเอฟเฟกต์โบเก้ได้แบบเดียวกับกล้องหลัง
โหมด Video ของกล้องหน้า สามารถถ่ายวิดีโอในความละเอียดสูงสุด Full HD 1080p ด้วยอัตรา 60 เฟรมต่อวินาที และมีฟีเจอร์ Beauty สำหรับปรับความงามบนใบหน้าได้อย่างละเอียด เช่น ความกระจ่างใส, ความเรียบเนียน, โทนสีผิว เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีโหมด Cinematic Portrait แบบเดียวกับกล้องหลัง แต่รองรับความละเอียดสูงสุด Full HD 1080p ที่อัตรา 30 เฟรมต่อวินาที
ตัวอย่างภาพถ่าย
Dimensity 9300 ชิปรุ่นใหม่จาก MediaTek ขนาด 4 นาโนเมตร
vivo X100 Series 5G ให้ประสิทธิภาพในระดับเดียวกัน เนื่องจากใช้ชิปประมวลผล MediaTek Dimensity 9300 เหมือนกัน ซึ่งถูกสร้างขึ้นบนกระบวนการผลิตระดับ 4 นาโนเมตร รุ่นที่ 3 ของ TSMC ประกอบด้วย CPU แบบ 64-bit Octa Core ที่มี Arm Cortex-X4 (Quad Core) ความเร็วในการทำงานสูงถึง 3.25GHz และ Arm Cortex-A720 (Quad Core) ความเร็วในการทำงานสูงสุด 2.0GHz
MediaTek Dimensity 9300 ยังมาพร้อม Immortalis-G720 ซึ่งเป็น GPU แบบ 12-core รุ่นล่าสุดของ Arm ให้ประสิทธิภาพของ GPU สูงขึ้นเกือบ 46% แต่ใช้พลังงาน GPU ลดลง 40% จากการทดสอบประสิทธิภาพด้วยแอปพลิเคชัน AnTuTu พบว่า vivo X100 5G และ vivo X100 Pro 5G สามารถได้มากกว่า 2 ล้านคะแนน ซึ่งเป็นผลลัพธ์ที่สูงในระดับเดียวกับเรือธงหลายรุ่นในตลาด
ด้านความจำ vivo X100 Pro 5G ได้รับ RAM แบบ LPDDR5X ขนาด 16GB จับคู่กับ ROM แบบ UFS 4.0 ขนาด 512GB พร้อมรองรับ Extended RAM สามารถยืมพื้นที่ ROM มาใช้เป็น RAM ชั่วคราวได้สูงสุด 16GB จึงเปรียบเสมือนมีความจำ RAM สูงสุด 32GB สำหรับ vivo X100 5G ได้รับ RAM แบบ LPDDR5X ขนาด 12GB จับคู่กับ ROM แบบ UFS 4.0 ขนาด 256GB และรองรับ Extended RAM สามารถขยายความจำ RAM ชั่วคราวได้สูงสุด 12GB จึงเปรียบเสมือนมีความจำ RAM สูงสุด 24GB
แบตใหญ่ ชาร์จไวสุด 120W FlashCharge
vivo X100 Pro 5G มีความจุแบตเตอรี่ 5400mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 100W และสนับสนุนการชาร์จเร็วแบบไร้สาย 50W ขณะที่ vivo X100 5G มีความจุ 5000mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 120W โดยทั้ง 2 รุ่น ได้รับหัวชาร์จ 120W เป็นของแถมเหมือนกัน ไม่ต้องซื้อแยกต่างหาก
ทั้งนี้ แบตเตอรี่ของสมาร์ตโฟน vivo X100 Series 5G ทั้ง 2 รุ่น เป็นแบบ Dual Cell หรือใช้แบตเตอรี่ 2 ก้อนวางคู่กัน ซึ่งช่วยให้สามารถชาร์จเร็วได้อย่างปลอดภัย อีกทั้ง vivo ยังประสบความสําเร็จในการสร้างสมดุลของแบตเตอรี่ความจุขนาดใหญ่ ด้วยการชาร์จที่รวดเร็วผ่านความก้าวหน้าทางอุตสาหกรรมที่สําคัญ 3 ประการ ได้แก่ เทคโนโลยีการสร้างกราไฟท์อิเล็กโทรดเชิงลบ, เทคนิคการกดเย็นของอิเล็กโทรด และ กระบวนการแกะสลักอาร์เรย์เลเซอร์ไมโครมิเตอร์ โดยมีความหนาแน่นของพลังงานโดยรวมเพิ่มขึ้น 8.3% เมื่อเทียบกับ vivo X90 Series
Funtouch OS 14
vivo X100 Series 5G ทำงานบนพื้นฐานของระบบปฏิบัติการ Android 14 ครอบทับด้วย Funtouch OS 14 ซึ่งได้รับการพัฒนาให้ทำงานได้อย่างรวดเร็วและราบรื่นมากขึ้น ด้วยวิธีลดกระบวนการที่อยู่ภายในระบบโดยอัตโนมัติผ่าน RAM Saver พร้อมเพิ่มพื้นที่ RAM ที่มีอยู่ รวมทั้งฟีเจอร์ App Retainer ใหม่ ช่วยให้มั่นใจได้ว่าแอปที่ใช้งานจะถูกเปิดกลับมาหน้าล่าสุดเสมอ
Funtouch OS 14 ยังทำให้ vivo X100 Series 5G รองรับ Motion Blur ช่วยเพิ่มความนุ่มนวลของจอแสดงผลด้วยอัตราการรีเฟรช 60Hz ที่น่าประทับใจถึง 18.7% และยังปรับปรุงการใช้งานในรูปแบบ Multitasking ด้วย Mini Window สำหรับการใช้งาน 2 แอปพร้อมกัน สามารถสลับระหว่างโหมดหน้าต่างเล็กๆ ได้อย่างง่ายดายด้วยการแตะเพียงครั้งเดียว
vivo X100 Series 5G มีฟีเจอร์ AOD Styles ที่หลากหลาย รองรับการปรับแต่งรูปแบบนาฬิกาบนหน้าจอล็อก และสามารถปรับระดับเสียงในแต่ละแอป ทําให้ผู้ใช้งานปรับแต่งและควบคุมอุปกรณ์ได้อย่างยืดหยุ่น
Funtouch OS 14 ยังปรับปรุงประสบการณ์ค้นหาและการดูอัลบั้ม และช่วยให้ผู้ใช้งาน vivo X100 Series 5G สามารถส่งออกวิดีโอในคุณภาพต้นฉบับได้ พร้อมเพิ่ม Filter ใหม่ 25 แบบ ช่วยให้ตัดต่อวิดีโอได้ง่ายดายขึ้น
ด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว vivo X100 Series 5G รองรับ Voice Isolation ช่วยเพิ่มความชัดเจนในระหว่างการดูวิดีโอ การประชุม และการโทร โดยการกรองเสียงรบกวนรอบข้าง และฟีเจอร์ Smart Mirroring ทำให้ผู้ใช้งานสามารถแชร์หน้าจอได้อย่างราบรื่นโดยไม่ต้องกังวลว่าแถบการแจ้งเตือนจะปรากฏขึ้น หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวโดยไม่ตั้งใจ
สรุปราคาและการจำหน่าย
vivo X100 Series 5G เป็นสมาร์ตโฟนระดับเรือธงที่ถูกสร้างมาตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่เน้นการถ่ายภาพเป็นพิเศษ ด้วยกล้องหลัง 3 ตัว ที่พัฒนาร่วมกับ ZEISS ให้ภาพถ่ายมีคุณภาพสูงทั้งกล้องตัวหลัก กล้อง Ultra Wide และที่โดดเด่นที่สุดก็คือกล้อง Telephoto โดยเฉพาะ vivo X100 Pro 5G ที่ได้รับกล้อง ZEISS APO Floating Telephoto ซึ่งมาพร้อมมาตรฐานใหม่ของ Vario-Apo-Sonnar จาก ZEISS สามารถถ่ายภาพระยะใกล้ไปจนถึงระยะไกลได้อย่างน่าทึ่ง
นอกเหนือจากเรื่องกล้อง vivo X100 5G และ vivo X100 Pro 5G ได้รับการออกแบบมาอย่างพรีเมียมในสไตล์เดียวกัน และมีประสิทธิภาพไม่ต่างกันมากนัก เนื่องจากใช้ชิปประมวลผล รุ่นเดียวกัน ส่งผลให้ vivo X100 5G มีความสามารถที่ใกล้เคียงกับ vivo X100 Pro 5G อย่างไรก็ตาม vivo X100 Pro 5G ยังถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ด้วยขนาดความจำที่มากกว่า รองรับการชาร์จไร้สาย และยังมีชิปประมวลผลกล้องรุ่นใหม่กว่า
โดย vivo ประเทศไทยประกาศราคาทางการของ vivo X100 Series 5G ออกมาดังต่อไปนี้
- vivo X100 5G 12GB + 256GB ราคา 26,999 บาท
- vivo X100 Pro 5G 16GB + 512GB ราคา 37,999 บาท
- vivo TWS 3e ราคา 1,799 บาท
สำหรับราคาเริ่มต้นเมื่อซื้อพร้อมแพคเกจจากผู้ให้บริการทางเครือข่าย
- vivo X100 5G 12GB + 256GB ราคา 19,599 บาท
- vivo X100 Pro 5G 16GB + 512GB ราคา 29,599 บาท
สิทธิ์พิเศษสำหรับ X100 Series 5G จะได้รับ Bluetooth Speaker มูลค่า 2,599 บาท และ EVIP Card มูลค่า 8,999 บาท รวมประกันตัวเครื่องเพิ่มเป็น 2 ปี ประกันจอแตก 1 ครั้ง ภายใน 2 ปีแรก และส่วนลดพิเศษ หรือรับเงินคืนสูงสุด 1,000 Coins มูลค่ารวม: 10,798 บาท (สงวนสิทธิ์เฉพาะลูกค้าที่สั่งซื้อในระยะเวลาที่กำหนด ตั้งแต่ 31 ม.ค. -29 ก.พ. 67) ผ่านช่องทางการจำหน่าย ดังนี้ vivo Brandshop | vivo official website รวมไปถึงช่องทางออนไลน์ผ่าน Shopee, Lazada, TikTok และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ