เข้าสู่ปีใหม่ 2556 กันเป็นที่เรียบร้อย หลายท่านอาจเพิ่งกลับมาจากการเดินทางไปเฉลิมฉลองตามที่ต่างๆในเมืองหลวง หรือจะไปสุดอากาศต่างจังหวัด บางคนอาจไปไกลถึงต่างประเทศ และสิ่งหนึ่งที่จะขาดไม่ได้เลยกับเทศกาลแห่งความสุขเช่นนี้ นั่นก็คือกล้องถ่ายรูปที่จะบันทึกทุกความทรงจำทุกความสุขที่ประทับใจเอาไว้เป็นที่ระลึก หลายคนอาจใช้กล้องจากมือถือสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆที่มีความคมชัดใกล้เคียงหรือเทียบเท่ากับกล้องถ่ายรูปแบบคอมแพ็คตามท้องตลาดแล้ว แต่ยังมีความจำกัดในด้านต่างๆอยู่บ้างทั้งเรื่องการถ่ายภาพกลางคืน ภาพที่ต้องการซูมระยะใกล้มากๆ หลายคนก็หันไปใช้กล้องโปรแทนเพราะได้ภาพที่ละเอียดและเก็บสีสันได้ดีกว่า แต่ต้องแลกมากับกระเป๋าอีก 1 ใบที่ต้องแบกที่ทุกที่ไหนจะต้องมีเลนส์ที่เปลี่ยนถ่ายตามสภาวะต่างๆอีกด้วย ก็สร้างความลำบากอยู่ไม่น้อย
วันนี้ทีมงาน @flashfly มีรีวิวแรกของปีด้วยกล้องถ่ายรูปอัจฉริยะที่จะมาช่วยทำให้เวลาไปเที่ยวหรือพักผ่อนเป็นเรื่องง่ายกว่านั้น ทั้งการเก็บภาพที่คมชัด ความละเอียดเทียบเท่ากล้องโปร มีเลนส์ที่ซูมได้ถึง 21 เท่ามีโหมดต่างๆให้เลือกใช้มากมาย ที่จะทำให้จากคนถ่ายรูปธรรมดาๆ กลายเป็นมือถืออาชีพได้ง่ายๆเลยทีเดียว
เท่านั้นยังไม่พอนอกจากจะได้ภาพสวยงามแล้ว ยังสามารถแชร์ไปให้เพื่อนชมได้ทันทีผ่านทาง Social Media ต่างๆไม่ว่าจะเป็น Facebook ,Twitter ,LINE ,ChatOn หรือ Instagram ได้ทันทีอีกด้วยโดยไม่ต้องผ่านคอมพิวเตอร์หรือเสียเวลาส่งไฟล์ไปยังมือถือเครื่องอื่นแต่อย่างใด และที่กำลังพูดถึงนี่คือกล้องถ่ายรูปสายพันธุ์ใหม่ที่มาพร้อมระบบปฎิบัติการ Android จาก Samsung นั่นคือ Samsung Galaxy Camera (ซัมซุง กาแล็คซี่ คาเมร่า) นั่นเอง
ย้อนกลับไปเมื่อเดือนกันยายน ในงาน IFA 2012 ที่ผ่านมา Samsung ได้ทำการเซอร์ไพรส์ วงการกล้องดิจิตอลด้วยการเปิดตัวกล้องถ่ายรูปอัจฉริยะที่มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 4.1 (Jelly Bean) สามารถติดตั้งแอพ Android ได้กว่า 600,000 แอพทั้งจาก Google Play และ Samsung Apps เหมือนเช่นสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต Android ทั่วไป และยังรองรับการใช้งานทั้ง 3G และ 4G LTE รวมถึงสามารถเชื่อมต่อ WiFi เพื่อการเข้าอินเตอร์เน็ตได้ด้ทุกที่ทุกเวลาอีกด้วย ตรงกับที่ Samsung บอกว่า “โหลดแอพมากมาย แชร์ได้ทันที”
Galaxy Camera ใช้จอแสดงภาพระบบสัมผัสแบบ HD Super Clear Touch Display ขนาด 4.77 นิ้ว (308 ppi) ทำให้สามารถถ่ายและแต่งภาพได้อย่างสบายตา พร้อมหน่วยประมวลผลความเร็วสูง CPU 1.4GHz Quad core ตัวกล้องมีความละเอียด 16.3 effective megapixel เซนเซอร์แบบ BSI CMOS เลนส์ซูมออพติคอลที่มากถึง 21 เท่าซึ่งถือได้ว่ามีพลังซูมมากที่สุดในตลาดกล้องคอมแพคขณะนี้ ตัวเครื่องมีหน่วยความจำ 8GB เพิ่มได้ด้วย MicroSD ถ่าย VDO ได้ที่ความละเอียด Full HD 1080P ที่ 30 fps สามารถถ่าย Slow motion Movie ได้ที่ความละเอียด HD 720p ความละเอียด 120fps มีช่องต่อ HDMI เพื่อแสดงภาพถ่ายไปยัง LCD TV แบตเตอร์รี่ความจุ 1,650 mAh และหนัก 305 กรัม
มาดูที่ตัวเครื่องกันบ้างแรกสัมผัส Galaxy Camera นั้นบอกได้ว่าเลยออกแบบมาได้สวยงามมากด้านบนจะมีปุ่มชัตเตอร์ และปุ่มซูมเข้าออก ถัดมาตรงกลางจะเป็นปุ่ม Power และแฟลชที่ปุ่มเปิดใช้งานทางด้านขวาของตัวเครื่อง
ทางด้านซ้ายมีการออกแบบที่เรียกว่า Minimal Organic Design จับกระชับพอดีกับฝ่ามือมีช่องเสียบหูฟัง ช่อง Micro USB และล่างสุดเป็นที่ใส่สายคล้องมือ
ด้านหน้าจะเห็นโลโก้ Samsung ที่ตรงกลาง คำว่า Galaxy ทางด้านซ้ายล่าง ส่วนเลนส์นั่นจะใช้ Samsung Zoom Lens (4.1-86mm 1:2.8-5.9 23mm.)
ด้านล่างจะที่สำต่อขาตั้งกล้องตรงกลาง และที่ใส่แบตเตอร์รี่ ,Sim Card แบบ Micro SIM ,Micro SD และช่อง Micro HDMI
ด้านหลังของตัวกล้องก็จะเป็นจอขนาดใหญ่ 4.77 นิ้ว HD Super Clear Touch Display (16:9 1280×720 px) เมื่อเปิดเครื่องและใช้งานในโหมด Android ดูแล้วแทบไม่แตกต่างจาก Galaxy S III เลยทีเดียว สามารถใช้งานได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอนอีกด้วย ทดสอบนำมาท่องเว็บ เช็คอีเมล ติดตั้งแอพยอดนิยมทั้ง Facebook,Twitter ,LINE และ Instagram รวมถึงเกมต่างๆใช้งานได้ลื่นไหลดีมาก แทบลืมไปเลยว่านี่คือกล้องถ่ายรูป ใช้ชม Youtube หรือดูหนังเพลินมากๆเพราะหน้าจอที่คมชัดตรงนี้ประจำมากทีเดียว แต่ดูนานไม่สะดวกเพราะตัวเครื่องหนักกว่าสมาร์ทโฟนทั่วไปพอควร
ทดสอบนำ Galaxy Camera มาถ่ายรูปโดยไอคอนที่หน้าจอทางด้านซ้ายบนจะเป็นเมนุ Home ถัดมาที่เห็นเป็นลูกศรเมื่อคลิกออกมาจะเห็น ปุ่มการตั้งค่าต่างๆของกล้องถ่ายรูป ,สั่งงานด้วยเสียง,ตั้งเวลาถ่ายรูป,เลือกรูปแบบการถ่าย VDO และการแชร์
ด้านล่างซ้ายจะเป็นภาพถ่ายล่าสุด หากต้องชมภาพให้กดเข้าไปเพื่อชมภาพถ่ายทั้งหมด ทางด้านขวาบนจะบอกว่าเราใช้โหมดอะไรถ่ายภาพอยู่ และขวาคือแถบพลังแบตเตอร์รี่ ถัดลงมาด้านล่างก็จะเป็นปุ่มถ่ายภาพโดยสามารถกดที่หน้าจอได้ด้วยเลย หากไม่ต้องการกดปุ่มชัตเตอร์
ถัดลงมาคือปุ่ม Mode มีให้เลือกแบบ Auto,Smart และ Expert ล่างสุดคือปุ่มถ่าย VDO โดยขณะที่ถ่าย VDO สามารถกดถ่ายภาพนิ่งไปพร้อมๆกันได้อีกด้วย
ปุ่มลูกศรที่อยู่ตรงกลางด้านล่างของจอเมื่อกดขึ้นมาแล้วก็จะมี Filter กว่า 14 แบบให้เลือกใช้ทั้ง Sepia,Black&White,Vintage หรือ Retro
เริ่มด้วยการถ่ายแบบ Auto ให้ภาพถ่ายได้สวยงาม และที่ทึ่งมากๆคือการซูมสูงสุด 21 เท่าแถมยัง Auto Focus ภาพให้อีกด้วย แต่ต้องมือนิ่งหน่อย หรือตั้งบนขาตั้ง ทำให้ได้ภาพถ่ายที่ราวกับว่าเราไปถ่ายตรงหน้าอย่างไงอย่างงั้น ภาพที่ได้มีความคมชัดมากอีกด้วย และสำหรับการถ่ายในที่แสงน้อยที่เป็นปัญหามากสำหรับกล้องคอมแพ็คทั่วไป ก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับ Galaxy Camera เพราะแทบไม่มี Noise ให้เห็นเลย ทำให้การถ่ายภาพเป็นเรื่องสนุกมากและคุณสมบัติที่น่าสนใจมากมายที่ Samsung เตรียมให้นั้นมีมากมายดังนี้
สมาร์ท โปร (Smart Pro) สามารถตั้งค่าการถ่ายภาพระดับมืออาชีพได้อย่างง่ายดายมีให้เลือก 10 โหมดด้วยกัน (Macro, Rich Tone, Action Freeze, Waterfall Trace, Light Trace, Beautiful Sunset, Blue Sky, Natural Green, Silhouette, Vivid Fireworks)
ระบบสั่งงานด้วยเสียง (Voice Control) ที่ใช้แทนการกดชัตเตอร์ ช่วยให้ใช้งานได้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
• สมาร์ท คอนเทนท์ เมเนเจอร์ (Smart Content Manager) จัดการรูปภาพอย่างชาญฉลาด
• โฟโต้ วิซาร์ด(Photo Wizard) คุณสมบัติแต่งภาพพิเศษมากถึง 35 รูปแบบ ให้เก็บภาพความประทับใจพร้อมส่งต่อทันที
• เบสท์ เฟซ (Best Face) ที่สามารถเลือกใบหน้าที่ชื่นชอบมากที่สุดของแต่ละคนในภาพหมู่เพื่อให้มั่นใจว่าทุกคนในภาพจะดูดีที่สุด
• แบ่งปันภาพถ่ายและไฟล์วิดีโอผ่านฟังก์ชัน แชร์ ช็อต (Share Shot) ไปยังสมาร์ทโฟน
• แบ็คอัพไฟล์เก็บไว้บนคลาวด์ (Cloud) สำรองภาพถ่ายไว้ใน cloud โดยอัตโนมัติผ่านฟีเจอร์ ออโต้ อัพโหลด (Auto Upload) ด้วยพื้นที่มากถึง 50GB
โดยฟังก์ชันการใช้งาน Best Face น่าจะเป็นที่ถูกใจผู้ใช้งานอีกหนึ่งฟังก์ชันเพราะ เพราะจะช่วยให้การถ่ายภาพหมู่กับเพื่อนหรือจะถ่ายภาพส่วนตัว แล้วพบปัญหาเรื่องใบหน้าที่ไม่ถูกใจต้องมาถ่ายใหม่ในภายหลัง ตัวกล้อง Galaxy Cemera จะช่วยให้ปัญหาเหล่านี้หมดไป
ด้วยความสามารถของ Best Face ที่จะเป็นการถ่ายครั้งละ 5 ภาพติดกันแล้วจะทำการเลือกใบหน้าในแต่ละภาพที่ดีทีสุดของแต่ละคน เพื่อรวมกันเป็นภาพหมู่ที่ดูดีที่สุด ถ้าใบหน้าที่ถูกเลือกมาไม่ถูกใจเรา ก็สามารถกลับไปเลือกได้เองอีกด้วย
หรือถ้าใครไม่ชอบใช้งานฟั่งชั่น Smart Pro เรายังสามารถใช้โหมด Expert ที่มีให้ปรับค่าดังเช่นกล้องโปรอีกด้วยไม่ว่าจะเป็นโหมด M,P,A และ S ถ้าใครไม่สันทัดก็ข้ามไปได้เลย
ตัวอย่างภาพถ่ายจาก Samsung Galaxy Camera ไม่มีการปรับแต่ง
ตัวอย่างภาพถ่ายจากการซูม 21 เท่าด้วย Galaxy Camera ไม่มีการปรับแต่ง
ดาวน์โหลดไฟล์รูปต้นฉบับทั้งหมดได้ที่นี่
จะเห็นได้ว่า Galaxy Camera นั้นมีความอัจฉริยะสมที่ Samsung คุยไว้จริงจากการใช้งานมาในระยะเวลานึ่งทีมงาน @flashfly ประทับใจมากกับภาพและความสามารถของ Galaxy Camera อย่างมาก ทั้งออกแบบสวยงามพกพาง่าย เมื่อได้ภาพถ่ายสวยๆแล้ว หน้าจอที่มีความคมชัดมาก สามารถแชร์ไปยัง Social ได้สะดวกมากๆเพราะตัวเครื่องรองรับทั้ง 3G และ Wifi โดยถ้าเราอยู่นอกบ้านก็แชร์ด้วย 3G ถ้าอยู่บ้านก็ใช้งานแทนสมาร์ทโฟนได้เลยด้วย Wifi สามารถอัพโหลดรุูปทั้งหมดขึ้น Facebook ได้อย่างสบายๆ ไม่ต้องต่อคอมพิวเตอร์อีกด้วย ต่อ TV OUT ได้ง่ายๆด้วย Micro HDMI และแน่นอนใครเปิดเล่น 3G บ่อยๆแบตจะหมดเร็วตามมาแนะนำให้พกที่ชาร์จหรือซื้อแบตสำรองไว้จะได้ไม่เสียอารมณ์เวลาแบตหมดอดอัพโหลดภาพสวยๆอวดเพื่อน
สำหรับใครที่สนใจสามารถไปสอบถามได้ที่ Samsung Shop ได้แล้ววันนี้ มีให้เลือกทั้งสีขาวและสีน้ำเงินในราคา 16,900 บาทหรือสอบถามตามร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วทั้ง AIS,dtac และ Truemove H
แถมท้ายด้วยตารางการเปรียบ Galaxy Camera กับ Nikon COOLPIX S800c ที่ใช้ระบบ Android อีกรุ่น
บทความโดย www.flashfly.net
Follow @flashfly
[adsense2]