Double Tap ฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดของ Apple Watch พร้อมให้ใช้งานแล้ววันนี้ ซึ่งเป็นวิธีใหม่ในการควบคุม Apple Watch ด้วยคำสั่งนิ้ว “แตะสองครั้ง” ส่วนจะมีวิธีการใช้งานอย่างไร ควบคุมอะไรได้บ้าง และ รองรับ Apple Watch รุ่นอะไรบ้าง เราได้รวบรวมทุกอย่างเอาไว้ที่นี่แล้ว
วิธีการใช้งาน Double Tap
การใช้งาน Double Tap หรือ คำสั่งนิ้ว “แตะสองครั้ง” ทำได้ด้วยมือข้างที่สวม Apple Watch เพียงแตะนิ้วชี้กับนิ้วโป้งสองครั้งติดต่อกัน ก็จะเป็นการโต้ตอบหรือควบคุมการทำงานบางอย่างของ Apple Watch ซึ่งมีประโยชน์อย่างมากในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะสถานการณ์ที่มือว่างเพียงข้างเดียว เช่น กำลังจูงสุนัข ถือแก้วกาแฟ หรือ ทำอาหาร
ตัวอย่างการใช้งาน Double Tap
- การเปิด Smart Stack จากหน้าปัดนาฬิกาใดก็ได้และเลื่อนดูวิดเจ็ตต่างๆ ในสแต็ค
- การรับและวางสายโทรศัพท์
- การดูข้อความจากการแจ้งเตือน, การเลื่อนดูการแจ้งเตือนยาวๆ ด้วยการแตะสองครั้งอีกครั้ง, การตอบกลับด้วยการป้อนตามคำบอก และการส่งข้อความ
- การหยุดนาฬิกานับถอยหลังชั่วคราว นับต่อ และสิ้นสุด
- การหยุดนาฬิกาจับเวลา และจับเวลาต่อ
- การเลื่อนเวลาปลุก
- การเล่นและหยุดเล่นเพลง พ็อดคาสท์ และหนังสือเสียง
- การเปลี่ยนเป็นมุมมองระดับความสูงใหม่ในแอปเข็มทิศ
- การถ่ายภาพบน iPhone ด้วยรีโมทกล้องในแอปกล้อง
- การเริ่มหรือหยุดการเตือนให้ออกกำลังกายอัตโนมัติ
- การทำสิ่งที่เป็นการทำงานหลักจากในการแจ้งเตือนได้ทันที อย่างการตอบข้อความที่ได้รับจากแอปรับส่งข้อความ และการเลื่อนเวลาเตือนความจำ ซึ่งรวมถึงในแอปของบริษัทอื่นด้วย
การตั้งค่า Double Tap
ผู้ใช้ Apple Watch สามารถเข้าไปตั้งค่าฟีเจอร์ Double Tap ได้จากแอปพลิเคชัน Apple Watch บน iPhone ที่จับคู่กัน โดยเข้าไปที่ส่วนของ Gestures > Double Tap
Double Tap หรือ คำสั่งนิ้ว “แตะสองครั้ง” ได้รับการออกแบบมาให้เลือกการทำงานหลักสำหรับแอปและการแจ้งเตือนส่วนใหญ่โดยอัตโนมัติ แต่มีสองกรณีที่ผู้ใช้สามารถเลือกฟังก์ชั่นอื่นได้ กรณีแรกคือการเลื่อนดูวิดเจ็ตใน Smart Stack หรือการเลือกวิดเจ็ตแรกที่พร้อมใช้งาน ส่วนกรณีที่สองคือการเล่นหรือหยุดเล่นสื่อในระหว่างเซสชั่น หรือการข้ามไปยังแทร็คถัดไป
Double Tap ใช้ได้กับ Apple Watch รุ่นใดบ้าง?
ปัจจุบันฟีเจอร์ Double Tap รองรับการใช้งานเฉพาะ Apple Watch Ultra 2 และ Apple Watch Series 9 เท่านั้น เนื่องจากทั้งคู่มาพร้อมชิป SiP รุ่น S9 ซึ่งประหยัดพลังงานมากกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 25% และ Neural Engine แบบ 4-core ใหม่ ที่สามารถทำงานด้านการเรียนรู้ของระบบได้เร็วขึ้น 2 เท่า
Neural Engine มีส่วนสำคัญอย่างมาก ช่วยประมวลผลข้อมูลจากอุปกรณ์ตรวจจับการเคลื่อนไหว ไจโรสโคป และเซ็นเซอร์วัดหัวใจแบบออปติคัล โดยใช้อัลกอริทึมใหม่ด้านการเรียนรู้ของระบบ ซึ่งจะตรวจจับการเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยของข้อมือ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของการไหลเวียนโลหิตเมื่อนิ้วชี้มาแตะกับนิ้วโป้งสองครั้ง
เพื่อให้ Apple Watch Ultra 2 และ Apple Watch Series 9 รองรับฟีเจอร์ Double Tap ผู้ใช้งานจะต้องอัปเดตซอฟต์แวร์เป็นเวอร์ชัน watchOS 10.1 ผ่าน iPhone ที่จับคู่กัน โดยต้องเป็น iPhone ที่ใช้ iOS 17 (iPhone XS หรือรุ่นใหม่กว่า)
ข้อจำกัดของฟีเจอร์ Double Tap
ฟีเจอร์ Double Tap หรือ คำสั่งนิ้ว “แตะสองครั้ง” พร้อมใช้งานอยู่ตลอดเวลาที่จอภาพติดอยู่ โดยเปิดการทำงานเป็นค่าเริ่มต้นบน Apple Watch Series 9 และ Apple Watch Ultra 2 ที่ใช้ watchOS 10.1 โดยไม่ต้องตั้งค่าใดๆ เพิ่มเติม และสามารถปิดได้ในการตั้งค่า
อย่างไรก็ตาม คำสั่งนิ้ว “แตะสองครั้ง” ไม่สามารถใช้งานได้ในแอปและประสบการณ์การใช้งานต่อไปนี้ ได้แก่ ECG, อัตราการเต้นของหัวใจ, ออกซิเจนในเลือด, โหมดโฟกัสในเวลานอนหลับ, วอล์คกี้ทอล์คกี้, แผนที่ (ขณะนำทาง), ทำสมาธิ (ในระหว่างเซสชั่น), คุณสมบัติ SOS ต่างๆ (SOS ฉุกเฉิน, การตรวจจับการล้ม, การตรวจจับการชนกัน) และการออกกำลังกาย (ในระหว่างเซสชั่น)
ที่มา – MacRumors