หลังจากทำตลาด Galaxy S23 Series ไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา Samsung ก็เขย่าตลาดไตรมาสสุดท้ายของปีด้วย Galaxy S23 FE (Fan Edition) สมาร์ทโฟนเรือธงที่มีดีไซน์และสเปกระดับแฟลกชิปตามมาตรฐาน S Series เด่นที่กล้องหลัง 3 ตัวความละเอียดสูงสุด 50MP ซูม 3x คมชัด และซูมไกลสูงสุด 30x กันน้ำกันฝุ่น รองรับชาร์จไร้สาย และมาในราคาที่เป็นมิตรกับกระเป๋าสตางค์ ถูกใจแฟนๆอย่างแน่นอน
สเปก Samsung Galaxy S23 FE
- จอแสดงผล Dynamic AMOLED 2X อัตราการรีเฟรช 120Hz
- กล้องหลัง 50MP Triple Camera
- กล้องหน้า 10MP Selfie Camera
- ชิปประมวลผล Exynos 2200
- ความจำ RAM 8GB + ROM 128GB / 256GB
- มาตรฐานป้องกันน้ำและฝุ่น IP68
- ระบบปฏิบัติการ One UI 5.1 บนพื้นฐาน Android 13
- ระบบรักษาความปลอดภัย Samsung Knox, Samsung Knox Vault
- แบตเตอรี่ 4,500mAh
- รองรับชาร์จเร็ว 25W
- รองรับการชาร์จไร้สาย Fast Wireless Charging 2.0
ดีไซน์แฟลกชิป
Samsung Galaxy S23 FE ให้ประสบการณ์แบบเดียวกับเรือธง Galaxy S23 Series ด้วยดีไซน์สไตล์เดียวกับ Galaxy S23 และ Galaxy S23+ ให้ภาพลักษณ์พรีเมียม มาพร้อมจอแสดงผลแบบ Infinity-O Display ขนาด 6.4 นิ้ว (Galaxy S23 มีขนาด 6.1 นิ้ว ขณะที่ Galaxy S23+ มีขนาด 6.6 นิ้ว)
ด้านหลังแบบกระจกให้พื้นผิวมันเงา เรียนแบน ติดตั้งกล้องหลัง 3 ตัวในแนวนอน พร้อมแฟลช LED ที่ดูเหมือนจะอยู่ต่ำลงมาเล็กน้อย เมื่อเทียบกับตำแหน่งแฟลชของ Galaxy S23 และ Galaxy S23+ โดย Galaxy S23 FE มีให้เลือก 4 สีสันได้แก่ Mint, Graphite, Cream และ Purple นอกจากจะมีอีก 2 สีพิเศษที่เฉพาะสั่งซื้อออนไลน์คือสี Indigo และสี Tangerine จำหน่ายที่ Samsung.com และ Samsung Experience Store
ปุ่มปรับระดับเสียง อยู่เหนือปุ่มเพาเวอร์
ด้านบนมีถาดใส่ซิมการ์ด และรูไมโครโฟรตัวที่ 2 ช่วยลดเสียงรบกวนรอบข้างระหว่างการโทรหรือบันทึกเสียง
ด้านล่างมีลำโพง ไมโครโฟน และ พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C
ภายใต้ดีไซน์ที่สวยงามพรีเมียม Galaxy S23 FE ยังได้รับการออกแบบมาให้ทนทานต่อน้ำและฝุ่นในระดับ IP68 มาตรฐานเดียวกับ Galaxy S23 Series สามารถกันน้ำได้ที่ความลึกไม่เกิน 1.5 เมตร นานสูงสุด 30 นาที ในน้ำจืด รวมถึงป้องกันฝุ่น สิ่งสกปรก และทราย จึงสามารถทำความสะอาดได้อย่างสบายใจเมื่อตัวเครื่องเปรอะเปื้อน แต่ไม่แนะนำให้พกพาลงไปใช้งานใต้น้ำ
จอแสดงผล Dynamic AMOLED 2X
Samsung Galaxy S23 FE ได้รับจอแสดงผล Dynamic AMOLED 2X Display แบบเดียวกับ Galaxy S23 Series มั่นใจได้ในเรื่องของการแสดงสีสันและความคมชัด โดยมีความละเอียด 2340 x 1080 พิกเซล ขนาด 6.4 นิ้ว และให้อัตราการรีเฟรชแบบปรับได้ 60Hz ถึง 120Hz ช่วยให้การแสดงกราฟิกลื่นไหล
จอแสดงผลของ Galaxy S23 FE ใช้ดีไซน์ Infinity-O Display ซึ่งหมายถึงมีการเจาะหลุมตรงกึ่งกลางหน้าจอเพื่อซ่อนกล้องหน้า อีกทั้งยังมีการติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ใต้หน้าจอ สำหรับยืนยันตัวตนหรือปลดล็อคสมาร์ทโฟน
กล้องหลัง 50MP Triple Camera
ไฮไลท์ของ Samsung Galaxy S23 FE อยู่ที่ระบบกล้องหลัง 3 ตัว ที่มีประสิทธิภาพระดับเดียวกับ Galaxy S23 โดยเฉพาะกล้อง Wide ความละเอียดสูง ถ่ายภาพได้ดีไม่ว่าจะเป็นสภาพแสงตอนกลางวันหรือในเวลากลางคืน กล้อง Ultra-Wide รองรับการถ่ายภาพมุมกว้างพิเศษ ขณะที่กล้อง Telephoto สามารถซูมได้ไกลและให้รายละเอียดภาพที่คมชัด
- กล้อง Wide ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง F1.8
- กล้อง Ultra-Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง F2.2
- กล้อง Telephoto ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง F2.4
แอปกล้องของ Galaxy S23 FE รองรับโหมดถ่ายภาพ Portrait, Photo, Video, Pro, Pro Video, Night, Food, Panorama, Super Slow Motion, Slow Motion, Hyperlapse, Portrait Video, Director’s View และ Single Take กล้องหลักของ Galaxy S23 FE สามารถถ่ายภาพยามค่ำคืนได้น่าประทับใจ ด้วยขนาดรูรับแสง F1.8 พร้อมเทคโนโลยี Adaptive Pixel รวม 4 พิกเซลเล็ก เป็น 1 พิกเซลใหญ่ เพื่อให้พิกเซลมีขนาดใหญ่ขึ้น ส่งผลให้มีพื้นที่รับแสงมากขึ้น และยังมีอัลกอริทึม ISP (Image Signal Processing) ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ช่วยปรับปรุงรายละเอียดของวัตถุ และโทนสี รวมถึงลด Noise ที่มักทำลายภาพในสภาสะแสงน้อย
นอกจากกล้องหลักที่สามารถถ่ายภาพได้อย่างสวยงามในทุกสภาวะแสง ความพี๊คของ Galaxy S23 FE ยังอยู่ที่กล้อง Telephoto ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานถ่ายภาพระยะไกลได้อย่างมืออาชีพ โดยรองรับการซูมออปติคอล 3 เท่า และซูมดิจิตอล 30 เท่า
ด้วยความสามารถในการซูมสูงสุด 30 เท่า ทำให้กล้องหลังของ Galaxy S23 FE รองรับการถ่ายภาพระยะไกลได้อย่างยอดเยี่ยม ให้รายละเอียดที่ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นภาพถ่ายงานคอนเสิร์ตหรือการแสดงต่างๆ ที่บ่อยครั้งไม่สามารถเข้าไปอยู่แถวหน้าติดเวทีได้ หรือ ใช้ถ่ายภาพวัตถุที่อยู่ไกล ไม่ว่าจะเป็นป้ายบิลบอร์ด นกสวยงามบนต้นไป และในทางกลับกัน กรณีที่ผู้ใช้งานอยู่บนตึกสูง ก็สามารถถ่ายภาพลงมาเบื้องล่างได้อย่างคมชัด
โหมด Portrait สำหรับถ่ายภาพบุคคลแบบหน้าชัดหลังละลาย รองรับการซูม 3 ระยะ 1x / 2x / 3x โดยแนะนำให้ตัวแบบอยู่ห่างจากกล้องประมาณ 1 – 1.5 เมตร
โหมด Video เป็นอีกจุดเด่นของ Galaxy S23 FE เพราะสามารถถ่ายวิดีโอในความละเอียดสูงถึง 8K ด้วยอัตรา 24 เฟรมต่อวินาที หรือ 4K ที่อัตรา 60 เฟรมต่อวินาที และยังถ่ายวิดีโอในเวลากลางคืนให้ออกมาสว่างคมชัด และยังสามารถซูมได้ตั้งแต่ระยะ 0.6x ถึง 12x
กล้องหน้า 10MP Selfie Camera
กล้องหน้าของ Galaxy S23 FE มีความละเอียด 10 ล้านพิกเซล รูรับแสง F2.4 รองรับการถ่ายภาพเซลฟี่ด้วยโหมด Photo และ Portrait ที่สามารถซูมได้ 2 ระยะ ไม่ว่าจะถ่ายเซลฟี่คนเดียวหรือเซลฟี่เป็นกลุ่มก็เก็บภาพมุมกว้างได้ครบทุกใบหน้า
อีกทั้งยังสามารถถ่ายวิดีโอได้สูงสุด 4K ที่อัตรา 60 เฟรมต่อวินาที ถือว่ามีความละเอียดสูงทีเดียวสำหรับกล้องหน้า
ตัวอย่างภาพถ่าย
ชิป Exynos 2200
ขณะที่ Galaxy S23 Series ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ ใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 8 Gen 2 for Galaxy แต่สำหรับ Galaxy S23 FE เลือกใช้ชิป Exynos 2200 ซึ่งเป็นชิประดับเรือธงของ Samsung ที่ออกแบบมาตอบโจทย์เกมเมอร์โดยเฉพาะ ชิป Exynos 2200 ถูกสร้างขึ้นบนกระบวนการผลิตระดับ 4 นาโนเมตร มาพร้อม CPU แบบ Octa Core บนสถาปัตยกรรมแบบ 3 คลัสเตอร์ ประกอบด้วย Arm Cortex-X2 (1 คอร์), Cortex-A710 (3 คอร์) และ Cortex-A510 (4 คอร์)
ด้านกราฟิกใช้ GPU ใหม่ Xclipse 920 ที่สร้างขึ้นตามสถาปัตยกรรม AMD RDNA 2 รองรับ Ray Tracing ทำให้กราฟิกในเกมมีความสมจริงมากขึ้น และสนับสนุนเทคโนโลยี Variable Rate Shading (VRS) ช่วยปรับการทำงานของ GPU ให้เหมาะสม โดยใช้อัตราการแรเงาที่ต่ำลงในพื้นที่ที่ไม่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพของภาพ จึงให้อัตราเฟรมที่เสถียร นอกจากนี้ตัวเครื่องยังมี Vapor chamber ที่ใหญ่กว่า S23+ ถึง 1.5 เท่า ทำให้ไม่ต้องห่วงเรื่องความร้อน เนื่องจากมีแผ่นระบายความร้อนขนาดใหญ่ขึ้น และถูกดีไซน์มาเพื่อรองรับการใช้งานได้เป็นอย่างดี
จากการทดสอบประสิทธิภาพบนแอปพลิเคชัน AnTuTu พบว่า Galaxy S23 FE ทำได้ 1,036,534 คะแนน ขณะที่แอปพลิเคชัน Geekbench 6 ทำได้ 1,601 คะแนน สำหรับ Single-Core และ 3,931 คะแนน สำหรับ Multi-Core
ด้านความจำของ Galaxy S23 FE มี 2 ตัวเลือก ได้แก่ ROM 128GB และ ROM 256GB ทั้ง 2 ตัวเลือก ได้รับ RAM 8GB เท่ากัน และมีฟีเจอร์ RAM Plus สามารถขยายความจำได้อีก 2GB / 4GB / 6GB / 8GB จึงเปรียบเสมือนมีความจำ RAM สูงสุด 16GB
แบตเตอรี่ 4,500mAh ชาร์จเร็ว 25W
Galaxy S23 FE ให้อายุการใช้งานยาวนานเพียงพอตลอดทั้งวัน ด้วยความจุแบตเตอรี่ 4,500mAh (Galaxy S23 มีความจุ 3,900mAh ขณะที่ Galaxy S23+ มีขนาด 4,700mAh) รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 25W ชาร์จถึงระดับ 50% ภายในเวลา 30 นาที ผ่านพอร์ต USB-C โดยใช้ 25W Power Adapter
นอกจากนี้ ยังรองรับการชาร์จเร็วแบบไร้สาย Fast Wireless Charging 2.0 เพิ่มความสะดวกสบายในการชาร์จแบตเตอรี่ แต่อุปกรณ์ชาร์จไร้สายวางจำหน่ายแยกต่างหาก
สรุปราคาและการจำหน่าย
Galaxy S23 FE ถูกสร้างมาตอบโจทย์สาวกสมาร์ทโฟนเรือธงของ Samsung ด้วยดีไซน์แบบเดียวกับ Galaxy S23 แต่มีสเปกแตกต่างกันเล็กน้อย ซึ่งบางฟีเจอร์ Galaxy S23 FE ให้มาเหนือกว่า ทั้งขนาดหน้าจอ ขนาดแบตเตอรี่ กล้องหลัก กล้อง Ultra-Wide ให้คุณภาพเดียวกัน กล้อง Telephoto สามารถซูมออปติคอล 3 เท่า และซูมดิจิตอล 30 เท่า นอกจากนี้ ยังให้ประสิทธิภาพในการทำงานและเล่นเกมได้อย่างลื่นไหลตามแบบฉบับเรือธง เรียกได้ว่า Galaxy S23 FE เป็นเรือธงที่เข้าถึงได้ง่าย เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการอัปเกรดจากสมาร์ทโฟนระดับกลาง เปิดราคามาเพียง 22,900 บาทในรุ่นความจุ 128GB และ 25,900 บาทในรุ่นความจุ 256GB
เตรียมพบ Galaxy S23 FE สมาชิกใหม่ของ Galaxy S23 Series ที่จะมาอย่างพี๊คคค เพิ่มความจุเป็น 2 เท่า จาก 128GB เป็น 256GB มูลค่า 3,000 บาทรีบลงทะเบียนก่อนใคร ฟรี! ที่ http://smsng.store/RegisterS23FE เพื่อรับเพิ่ม Samsung Care+ ประกันจอแตก และ อุบัติเหตุ 1 ปี มูลค่า 4,590 บาทจากโปรเปิดตัว จำกัด 4,000 สิทธิ์เท่านั้น! อย่าพลาด ตั้งแต่วันที่ 5 ต.ค. 66 – 19 ต.ค. 66
รายละเอียดสินค้า
https://smsng.store/galaxy-s23-fe
#Samsung #GalaxyS23FE