Apple ออกซอฟต์แวร์ iOS 17.1 เวอร์ชัน Beta ให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์ได้อัปเดตเป็นครั้งแรก หลังจากปล่อย iOS 17 เวอร์ชันเต็มได้เพียง 1 สัปดาห์ ซึ่งมีฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่ไม่ได้รวมไว้ในเวอร์ชันเต็ม แต่ถูกพบในเวอร์ชัน Beta ส่วนจะมีฟีเจอร์อะไรบ้าง? เราได้รวบรวมมาให้แล้ว
ฟีเจอร์ใหม่ใน iOS 17.1 Beta 1
เพลงโปรดใน Apple Music
แอป Music ใน iOS 17.1 นำระบบเพลงโปรด หรือ Favorite มาแทนที่ Love โดยใช้ไอคอนรูปดาว เพื่อบ่งบอกว่าเป็นเพลงโปรด ซึ่งจะถูกเพิ่มลงใน Library รวมถึงสร้างเป็นเพลย์ลิสต์เพลงโปรดในอนาคต
เสียงริงโทนใหม่
Apple เพิ่มเสียงริงโทนทั้งสายเรียกเข้าและเสียงข้อความใน iOS 17 มากกว่า 20 แบบ แต่หายไปใน iOS 17.1 Beta 1 อย่างไรก็ตาม มั่นใจได้ว่าริงโทนใหม่ๆ จะกลับมาอีกครั้งในอนาคต
สนับสนุนธนาคารในสหราชอาณาจักร
ผู้ใช้ iPhone ในสหราชอาณาจักร สามารถเชื่อมโยงบัญชีธนาคารกับแอป Wallet เพื่อทำธุรกรรมออนไลน์ได้ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบยอดคงเหลือในบัญชี การชำระเงิน การซื้อ และ ฝากเงิน
NameDrop
iOS 17.1 และ watchOS 10.1 สนับสนุนฟีเจอร์ใหม่ NameDrop ช่วยให้ผู้ใช้ Apple Watch และ iPhone สามารถแชร์ Contact หรือข้อมูลติดต่อได้อย่างสะดวก เพียงนำ Apple Watch ไปไว้ใกล้ๆ กับ Apple Watch หรือ iPhone อีกเครื่อง
Apple Books
แอป Books มีการเปลี่ยนชื่อหมวดหมู่ Reading Now เป็น Read Now
ไอคอนไฟฉายใน Dynamic Island
ไอคอนไฟฉายจะปรากฏใน Dynamic Island เมื่อเปิดใช้งานไฟฉายบน iPhone 14 Pro, iPhone 14 Pro Max, iPhone 15 และ iPhone 15 Plus ซึ่งก่อนหน้านี้ จำกัดเฉพาะ iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max
คอนโทรลเลอร์
iOS 17.1 เพิ่มการสนับสนุนคอนโทรลเลอร์ Nintendo N64 ของ Nintendo Switch
ขยายวอลเปเปอร์ให้เต็มจอ
Apple เพิ่มตัวเลือก Apple เมื่อผู้ใช้งานตั้งค่าวอลเปเปอร์ใหม่ เพื่อช่วยปรับอัตราส่วนภาพให้พอดีกับจอแสดงผล
AirDrop
การถ่ายโอนข้อมูลผ่าน AirDrop ไม่จำเป็นต้องให้อุปกรณ์อยู่ใกล้กันอีกต่อไป เพราะถูกปรับปรับให้สนับสนุนการถ่ายโอนผ่าน Cellular หรือ เครือข่ายมือถือ นอกเหนือจาก Wi-Fi โดยผู้ใช้งานสามารถจำกัดการถ่ายโอนข้อมูลผ่าน Cellular ได้
ทั้งนี้ iOS 17.1 เวอร์ชัน Beta ถูกปล่อยออกมาสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ที่เข้าร่วมโปรแกรมทดสอบของ Apple เท่านั้น โดยสามารถรับการอัปเดตซอฟต์แวร์เวอร์ชัน Beta ได้ที่แอป Settings > General > Software Update > Beta Updates และเลือก iOS 17 Developer Beta (iPhone ต้องลงชื่อเข้าสู่ระบบด้วย Apple ID บัญชีเดียวกับที่ลงทะเบียนในโปรแกรมทดสอบของ Apple)
ที่มา – MacRumors