realme เปิดตัวสมาร์ตโฟน Number Series รุ่นใหม่ในไทยพร้อมกัน 2 รุ่น realme 11 5G และ realme 11x 5G ในช่วงโอกาสพิเศษครบรอบ 5 ปีของ realme นั่นทำให้ทั้งคู่ถูกสร้างมาภายใต้สโลแกน “Double Star Double Leap” ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงดีไซน์ที่โดดเด่น กล้าที่จะอัปเกรดสเปกให้ดีขึ้น 2 เท่า เมื่อเทียบกับมาตรฐานทั่วไป และตอนนี้ทั้ง 2 รุ่น ก็ได้มาอยู่ในมือของทีมงาน @Flashfly เรียบร้อยแล้ว
แกะกล่อง
realme 11 5G และ realme 11x 5G จัดส่งมาในกล่องแบบเดียวกัน เป็นกล่องสีเหลืองที่มีขอบสีดำด้านล่าง หน้ากล่องระบุเลขรุ่น 11 และ 11x ขนาดใหญ่ไว้อย่างชัดเจน พร้อมโลโก้ realme ที่มุมล่างซ้าย และโลโก้ 5G ที่มุมบนขวามือ
พลิกไปดูที่ใต้กล่องจะพบกับจุดเด่นของทั้ง 2 รุ่น realme 11 5G มาพร้อมกล้อง 108MP ProLight, จอแสดงผล Dynamic Ultra Smooth, ชาร์จเร็ว 67W แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000mAh และ ใช้ชิปประมวลผล Dimensity 6100+ 5G ใต้กล่อง realme 11x 5G มีจุดเด่นที่ชิปประมวลผล 5G ระดับ 6 นาโนเมตร, แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000mAh ชาร์จเร็ว 33W, กล้อง 64MP AI และ จอแสดงผล Dynamic Ultra Smooth
เมื่อยกฝากล่องขึ้นมา จะพบกับกล่องเอกสารเป็นอย่างแรก ภายในแถมเคสมาให้ทั้ง 2 รุ่น รวมอยู่กับคู่มือ และ แนบเข็มจิ้มช่องใส่ซิมการ์ดมากับแผ่นกระดาษ ถัดลงมาเป็นชั้นวางสมาร์ตโฟน นอนอยู่ในซอง เพื่อป้องกันริ้วรอยระหว่างจัดส่ง
ชั้นล่างสุดของกล่องเป็นช่องเก็บสายชาร์จ และ หัวชาร์จแบตเตอรี่ โดยมีความแตกต่างที่ในกล่องของ realme 11x 5G จะได้รับหัวชาร์จ 33W SUPERVOOC ขณะที่ realme 11 5G แถมหัวชาร์จ 80W SUPERVOOC (แต่สมาร์ตโฟนรองรับชาร์จเร็วสูงสุด 67W)
ดีไซน์ระดับพรีเมียม
realme 11 5G และ realme 11x 5G ได้รับการออกแบบมาอย่างหรูหราพรีเมียม ไม่ว่าจะเลือกรุ่นไหน ก็จะได้สมาร์ตโฟนที่มีความสวยงามโดดเด่นไม่ต่างกัน โดยเฉพาะพื้นผิวด้านหลังที่มีดีไซน์ไล่ระดับโทนสี S-curve ไม่เหมือนใคร ทำให้เกิดเอฟเฟกต์แสงที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับสภาพแสงรอบข้าง
ดีไซน์กล้องหลังช่วยเสริมภาพลักษณ์ให้พรีเมียมยิ่งขึ้นไปอีก ด้วยกรอบวงกลมที่ตกแต่งด้วยขอบรัศมีแบบร่องล้อมรอบวงแหวนกล้องอย่างแน่นหนา ทำให้มองดูคล้ายขอบหน้าปัดนาฬิกาหรู ภายในเป็นที่อยู่ของกล้องหลังแบบคู่ ที่มีความละเอียดของกล้องหลักแตกต่างกัน พร้อมแฟลช LED
นอกจากดีไซน์ที่สวยงามพรีเมียม realme ยังให้ความสำคัญกับประสบการณ์การใช้งาน ด้วยรูปแบบที่สมมาตรกันอย่างลงตัวถึง 538 รูปแบบ และควบคุมน้ำหนักตัวเครื่องให้เบาเพียง 190 กรัม ส่วนขอบ PVD ขัดเงาให้ความแวววาว และบางเป็นพิเศษ ให้สัมผัสสบายมือเมื่อถือใช้งาน
ในส่วนของสีสัน realme 11 5G มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีทอง Glary Gold และ สีดำ Glary Black ขณะที่ realme 11x 5G มีเฉดสีต่างออกไป มาในสีม่วง Purple Dawn และ สีดำ Midnight Black โดยทีมงาน @Flashfly ได้รับ realme 11 5G สีทอง Glary Gold และ realme 11x 5G สีม่วง Purple Dawn มารีวิว จะเห็นว่าด้านหลังของ realme 11 5G สี Glary Gold และ realme 11x 5G สี Purple Dawn มีเอฟเฟกต์แสงเป็นรูปตัว S เหมือนกัน ส่วนพื้นผิวก็ใช้เทคนิคพิเศษทำให้ฝาหลังเปล่งประกายระยิบระยับเมื่อมีแสงตกมากระทบ
มุมมองด้านหน้าของทั้ง 2 รุ่น มองหาความแตกต่างได้ยาก ด้วยขนาดหน้าจอ 6.72 นิ้ว เท่ากัน และเจาะหลุมไว้ตรงกึ่งกลางสำหรับติดตั้งกล้องหน้าเหมือนกัน ขอบด้านข้าง realme 11 5G มีพื้นผิวเงางามกว่า ด้วยขอบ PVD ขัดเงาให้ความแวววาว ขณะที่ realme 11x 5G ใช้กระบวนการ Glitter Sand จึงมีพื้นผิวแบบด้าน แต่ความบางของทั้งคู่นั้นเท่ากันที่ 7.89 มิลลิเมตร
ปุ่มด้านข้างวางปุ่มปรับระดับเสียง กับปุ่มเพาเวอร์ไว้ข้างเดียวกัน พร้อมฝังเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้กับปุ่มเพาเวอร์
อีกข้างมีถาดใส่ซิมการ์ด พร้อมช่องใส่การ์ด microSD รองรับขนาดสูงสุด 2TB
ด้านบนมีไมโครโฟนตัวที่ 2 ช่วยลดเสียงรบกวนรอบข้าง
ด้านล่างมีช่องเสียงหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร, ไมโครโฟนตัวหลัก, พอร์ตเชื่อมต่อ USB-C และ ลำโพง
realme 11 5G
มาเริ่มกันที่ realme 11 5G ชูจุดเด่นที่ดีไซน์ Glory Halo เน้นความหรูหราโดยเฉพาะสีทอง Glary Gold ที่ทีมงาน @Flashfly นำเสนอการออกแบบไปแล้วข้างต้น นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกล้อง 108MP ซูม 3 เท่า จอแสดงผล Dynamic Ultra Smooth ให้อัตราการรีเฟรชสูงสุด 120Hz และรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 67W SUPERVOOC
จอแสดงผล 120Hz Dynamic Ultra Smooth Display
realme 11 5G มาพร้อมจอแสดงผล Dynamic Ultra Smooth ที่มีอัตราการรีเฟรชแบบไดนามิกสูงสุด 120Hz ซึ่งสามารถปรับอัตราการรีเฟรชโดยอัตโนมัติอย่างชาญฉลาด ในช่วง 120Hz / 90Hz / 60Hz / 50Hz / 48Hz / 45Hz ขึ้นอยู่กับคอนเท้นต์ที่กำลังรับชม ทำให้ประหยัดพลังงานของแบตเตอรี่ไปด้วย และให้อัตราการตอบสนองต่อการสัมผัส หรือ Touch Sampling Rate ที่ 240Hz
จอแสดงผลของ realme 11 5G มีขนาดใหญ่ 6.72 นิ้ว ความละเอียด 2400 x 1080 พิกเซล ไม่ว่าจะดูหนังหรือเล่นเกมก็คมชัดเต็มตา โดยให้ความสว่างสูงสุด 680 นิต สำหรับโหมด HBM (High Brightness Mode) เมื่อใช้งานกลางแจ้ง ส่วนความสว่างทั่วไปสูงสุด 550 นิต และมีอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง 91.4% แสดงถึงขอบหน้าจอที่บางเป็นพิเศษ ให้ประสบการณ์การรับชมที่สบายตา
สแกนลายนิ้วมือด้านข้าง
realme 11 5G ติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือรวมไว้กับปุ่มเพาเวอร์ที่ขอบด้านข้าง (Side-mounted Fingerprint Sensor) ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ช่วยให้วางปลายนิ้วได้อย่างสะดวก เมื่อเทียบกับการติดเซ็นเซอร์แยกไว้ที่ฝาหลัง และยังสามารถปลดล็อคได้อย่างสะดวกรวดเร็ว แต่ถ้าต้องการความสะดวกมากไปกว่านั้น realme 11 5G ก็ยังรองรับฟีเจอร์สแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อค (Face Unlock) โดยใช้ประโยชน์จากกล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล ที่ซ่อนอยู่ในหลุมบนหน้าจอ
กล้องหลัง 108MP ProLight Camera
กล้องหลังถือเป็นไอไลท์ของ realme 11 5G ด้วยการดับเบิลความละเอียดให้มากกว่าคู่แข่งจากปกติที่มีความละเอียด 50 ล้านพิกเซล กล้องหลักของ realme 11 5G ให้ความละเอียดสูงถึง 108 ล้านพิกเซล เพื่อให้ได้ภาพถ่ายที่คมชัดกว่า
- กล้องหลัก 108 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.75 ชุดเลนส์ 6P ทางยาวโฟกัส 23.6 มม
- กล้อง Portrait 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 ทางยาวโฟกัส 21.6 มม
กล้องหลักของ realme 11 5G ใช้เซ็นเซอร์คุณภาพสูง Samsung ISOCELL HM6 มาพร้อมเทคโนโลยีการซูม 3x In-sensor Zoom ช่วยให้ซูมได้อย่างคมชัดถึง 3 เท่า โดยให้รายละเอียดคมชัดกว่าการซูมแบบดิจิตอลทั่วไป เนื่องจากใช้เทคนิคการซูมตั้งแต่เซ็นเซอร์ จึงไม่ทำลายรายละเอียดบนภาพถ่ายที่ถูกซูม
realme 11 5G สามารถถ่ายภาพให้ออกมาคมชัดได้อย่างง่ายดาย ด้วยระบบโฟกัสอัตโนมัติ PDAF ทำให้จับโฟกัสได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ให้การโฟกัสสูงกว่าการใช้เซ็นเซอร์ HM2 ถึง 9 เท่า ส่งผลให้การถ่าภาพชัดเจนและง่ายขึ้น
เซ็นเซอร์รับภาพ Samsung ISOCELL HM6 ยังมีเทคโนโลยี 9-in-1 binning รวม 9 พิกเซลเป็น 1 ซูเปอร์พิกเซลขนาดใหญ่ ทำให้กล้องหลักของ realme 11 5G สามารถถ่ายภาพในที่แสงน้อยหรือในเวลากลางคืนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และด้วยอัลกอริทึม ISO อัจฉริยะ ทำให้ความสว่างสูงสุดของเซ็นเซอร์ ISOCELL HM6 ได้รับการปรับปรุงขึ้น 160% ในสภาพแวดล้อมที่มืด
เปิดเข้ามาในแอปกล้อง จะพบกับโหมดถ่ายภาพ Night, Street, Video, Photo, Portrait, 108MP, Pro, Panorama, Movie, Slow-Motion, Time-Lapse, Dual-View Video, Text scanner และ Tilt-Shift โหมด Photo รองรับการซูมในช่วง 1x – 20x พร้อมด้วยฟีเจอร์ Retouch ช่วยปรับความงามบนใบหน้า และ Filters สำหรับย้อมสีเปลี่ยนอารมณ์ของภาพถ่าย แถบเครื่องมือด้านบนมีฟีเจอร์ AI Scene Enhancement ช่วยปรับปรุงสีสันของภาพให้อัตโนมัติ ตามฉากหรือวัตถุที่ AI ระบุได้
โหมด Portrait มีฟีเจอร์ Retouch เช่นกัน แต่ Filters จะต่างไปจากโหมด Photo โดยถูกสร้างมาเพื่อเพิ่มความโดดเด่นให้กับการถ่ายภาพบุคคลโดยเฉพาะ เช่น Bokeh Flare Portrait สามารถละลายฉากหลังด้วยเอฟเฟกต์ดวงไฟโบเก้ เหมือนถ่ายภาพด้วยกล้องมืออาชีพ
โหมด Street เป็นอีกจุดเด่นของ realme ซึ่งได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถถ่ายภาพแนวสตรีทอย่างมืออาชีพได้อย่างง่ายดาย ด้วยฟีเจอร์ Auto Zoom ที่อยู่ในแถบเครื่องมือด้านบน สำหรับการซูมในโหมด Street จะเปลี่ยนเป็นระยะเลนส์หรือทางยาวโฟกัส 24mm – 120mm นอกจากนี้ ยังได้รับ Filters ใหม่อีก 3 แบบ ได้แก่ Crisp, Cinematic และ Tranquil ส่วน Filters จากรุ่นก่อนๆ ก็ยังมีให้เลือกเหมือนเดิม ไม่ว่าจะเป็น 90’s Pop, Street, B&W Plus, Dramatic, Deep Sea, Green Field และยังมี Filters ให้เลือกอีกเพียบ
- Crisp: สร้างบรรยากาศที่สะอาดตาโดยการเพิ่มโทนสีน้ำเงินโทนเย็นในบริเวณไฮไลท์ของภาพ
- Cinematic: เน้นบุคลิกภาพผ่านคอนทราสต์ และคอนทราสต์ที่ชัดเจนระหว่างแสงและความมืด
- Tranquil: ฟิลเตอร์ขาวดำ ให้ส่วนที่มืดของภาพก็มีรายละเอียดที่สมบูรณ์และคอนทราสต์เพียงพอ
โหมด Video รองรับการซูมในช่วง 1x – 10x รองรับความละเอียด Full HD 1080p และ HD 720p มีฟีเจอร์ Retouch ช่วยปรับความงามบนใบหน้าระหว่างบันทึกวิดีโอ สามารถเพิ่ม Filters คล้ายโหมด Photo และยังรองรับโหมด Dual-View Video สามารถถ่ายวิดีโอจากกล้องหลังและกล้องหน้าในเวลาเดียวกัน อยู่ร่วมเฟรมเดียวกัน ถูกใจสาย Vlog
โหมด Night รองรับการซูมในช่วง 1x – 10x พร้อมด้วย Filters อย่าง Modern gold, Cyberpunk, Flamingo, Astral, Dazzle ทำให้ภาพถ่ายยามค่ำคืนมีสีสันที่สดใส แปลกตา ดูน่าสนใจยิ่งขึ้น
กล้องหน้า 16MP Selfie Camera
realme 11 5G ซ่อนกล้องหน้าไว้ในหลุมบนหน้าจอ โดยมีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รองรับการถ่ายภาพเซลฟี่ด้วยโหมด Photo ซึ่งมีฟีเจอร์ Retouch ช่วยปรับความงามบนใบหน้าได้ละเอียดกว่ากล้องหลัง สามารถปรับแต่งความงามบนใบหน้าได้เกือบทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็นรายละเอียดผิว, แก้มหรือโครงหน้า, ขนาดดวงตา หรือ ขนาดจมูก พร้อมด้วย Filters สำหรับเปลี่ยนโทนสีของภาพถ่าย
โหมด Portrait สามารถใช้งานบนกล้องหน้าได้เช่นกัน โดยมีฟีเจอร์ช่วยละลายฉากหลัง พร้อมฟีเจอร์ Retouch และ Filters เหมือนโหมด Photo โหมด Night ของกล้องหน้า ไม่มี Filters แบบกล้องหลัง แต่มีฟีเจอร์ Retouch สามารถปรับแต่งความงามบนใบหน้าได้ละเอียดเหมือนโหมด Photo เพียงพอสำหรับการเซลฟี่ในที่แสงน้อย
โหมด Video ของกล้องหน้า รองรับความละเอียด Full HD 1080p และ HD 720p มีฟีเจอร์ Retouch และ Filters เช่นกัน แต่สามารถปรับแต่งความงามด้วยการเลือกระดับได้เท่านั้น ไม่สามารถเลือกปรับได้หลายส่วนแบบโหมด Photo
ตัวอย่างภาพถ่าย
Dimensity 6100+ ชิป 5G ระดับ 6nm
realme 11 5G ใช้ชิปประมวลผล MediaTek Dimensity 6100+ ถูกสร้างขึ้นบนเทคโนโลยีการผลิต 6 นาโนเมตร ของ TSMC และได้รับการพัฒนาขึ้นมาสำหรับสมาร์ตโฟน 5G โดยเฉพาะ ด้วยการปรับปรุงและรองรับมาตรฐาน 3GPP Release 16 พร้อมด้วยการรวมย่านความถี่ Carrier Aggregation 5G 2CC สูงสุด 140MHz และมีเทคโนโลยี MediaTek UltraSave 3.0+ ช่วยลดการใช้พลังงาน 5G ลง 20% เมื่อเทียบกับโซลูชันของคู่แข่ง
ชิป Dimensity 6100+ 5G มี CPU แบบ 64-bit Octa Core ประกอบด้วย คอร์ขนาดใหญ่ Arm Cortex-A76 สองคอร์ ความเร็วสูงสุด 2.2GHz + คอร์ประสิทธิภาพ Arm Cortex-A55 หกคอร์ ความเร็วสูงสุด 2.0GHz ตอบสนองกราฟิกด้วย GPU ของ Arm Mali-G57 MC2
ด้านความจำ realme 11 5G ได้รับ RAM 8GB และขยายได้สูงสุด 8GB ผ่านฟีเจอร์ Dynamic RAM จึงเปรียบเสมือนมีความจำ RAM สูงสุด 16GB จึงรองรับการเปิดแอปพลิเคชันไว้ในพื้นหลังได้หลายแอปพร้อมกัน โดยที่ยังสลับใช้งานแต่ละแอปได้อย่างราบรื่น อีกทั้งยังให้พื้นที่เก็บข้อมูลในตัวสูงถึง 256GB และสนับสนุนการ์ด microSD สูงสุด 2TB มีพื้นที่เก็บข้อมูลได้จุใจอย่างแน่นอน
แบตใหญ่ 5000mAh ชาร์จไว 67W SUPERVOOC
สมาร์ตโฟนส่วนใหญ่ในตลาดที่อยู่ในเซกเมนต์เดียวกัน ยังคงรองรับการชาร์จเร็ว 33W แต่สำหรับ realme 11 5G ให้มาตรฐานที่สูงขึ้น 2 เท่า ตามสโลแกน “Double Star Double Leap” ด้วยเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 67W SUPERVOOC พร้อมเทคโนโลยีปั๊มชาร์จแบบคู่ ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ 2:1 ให้ประสิทธิภาพการแปลงระหว่างปั๊มชาร์จทั้งคู่สูงถึง 98% สามารถชาร์จแบตเตอรี่จากระดับ 1 – 50% ภายในเวลา 17 นาที หรือ ชาร์จจากระดับ 1 – 100% ภายในเวลาเพียง 47 นาที
นอกจากชาร์จเร็ว realme 11 5G ยังมีอัลกอริทึม VCVT สามารถปรับแรงดันและกระแสได้อย่างชาญฉลาดและแม่นยำถึง 500mA รับประกันประสิทธิภาพการชาร์จและลดการสูญเสีย และยังได้รับการป้องกัน 38 ระดับ เพิ่มมาตรการความปลอดภัยในการชาร์จพลังงานสูง ตั้งแต่ที่ชาร์จ สายชาร์จ อินเทอร์เฟซการชาร์จโทรศัพท์ วงจรการชาร์จ ไปจนถึงแบตเตอรี่
ถึงแม้จะชาร์จไว แต่แบตเตอรี่ไม่หมดไวอย่างแน่นอน เพราะมีความจุขนาดใหญ่ 5000mAh สามารถให้พลังงานยาวนานตลอดทั้งวัน สแตนด์บายนานสูงสุด 590.3 ชั่วโมง หรือ มากกว่า 24 วัน / ฟังเพลงนานต่อเนื่อง 44.6 ชั่วโมง / โทรคุยได้นาน 39.4 ชั่วโมง / ดูวิดีโอออนไลน์บน YouTube นาน 18.7 ชั่วโมง / ใช้ระบบนำทาง 20.9 ชั่วโมง / เล่นเกม Mobile Legends: Bang Bang นานสูงสุด 9.9 ชั่วโมง หรือ เกม Free Fire นานสูงสุด 8.7 ชั่วโมง
realme 11x 5G
มาต่อกันที่ realme 11x 5G ที่มีดีไซน์สวยงามไม่แพ้กัน โดยเฉพาะเอฟเฟกต์แสงรูปตัว S บนฝาหลัง ได้รับกล้องหลัก 64MP AI รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 33W SUPERVOOC และตอบสนองการทำงานได้อย่างราบรื่นด้วยชิปประมวลผล 5G ระดับ 6 นาโนเมตร
จอแสดงผล Dynamic Ultra Smooth Display
realme 11x 5G มาพร้อมจอแสดงผล Dynamic Ultra Smooth ความละเอียด 2400 x 1080 พิกเซล ขนาดใหญ่ 6.72 นิ้ว ให้สีสัน 16.7 ล้านสี อัตราการรีเฟรชแบบไดนามิกสูงสุด 120Hz ความสว่างสูงสุด 680 นิต สำหรับโหมด HBM (High Brightness Mode) และมีอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง 91.4%
กล้องหลัง 64MP AI Camera
realme 11x 5G ได้รับกล้องหลัก 64MP AI Camera ดีที่สุดในบรรดาสมาร์ตโฟน 5G ในช่วงราคาเดียวกัน โดยมีจุดเด่นที่เทคโนโลยีการซูม 2x In-sensor Zoom ช่วยให้ซูมแบบไม่สูญเสียคุณภาพ และรายละเอียดความคมชัดถึง 2 เท่า
- กล้องหลัก 64 ล้านพิกเซล ขนาดเซ็นเซอร์ 1/2 นิ้ว รูรับแสง f/1.79
- กล้อง B&W Portrait 2 ล้านพิกเซล
แอปกล้องของ realme 11x 5G มาพร้อมโหมดถ่ายภาพ Night, Street, Video, Photo, Portrait, 64MP, Pro, Panorama, Movie, Slow-Motion, Time-Lapse, Dual-View Video, Text scanner และ Tilt-Shift โหมด Photo รองรับการซูมในช่วง 1x – 20x พร้อมด้วยฟีเจอร์ Retouch สำหรับปรับความงามบนใบหน้า และ Filters เปลี่ยนโทนสีหรืออารมณ์ของภาพถ่าย แถบเครื่องมือด้านบนมีฟีเจอร์ AI Scene Enhancement ช่วยปรับปรุงสีสันของภาพให้อัตโนมัติ ตามฉากหรือวัตถุที่ AI ระบุได้
โหมด Portrait สามารถปรับค่า F เพื่อละลายฉากหลังได้ มีฟีเจอร์ Retouch และ Filters เหมือนโหมด Photo ขณะที่ realme 11 5G จะมี Bokeh Flare Portrait ให้เลือกใน Filters โหมด Night ได้รับการปรับแต่งอย่างละเอียดสำหรับการถ่ายภาพในเวลากลางคืนโดยเฉพาะ ด้วยอัลกอริทึมภาพขั้นสูง ช่วยเพิ่มการรับแสง ความชัดเจน และรายละเอียดในสภาวะแสงน้อยให้สูงสุด
โหมด Street ได้รับ Filters ใหม่ 3 แบบ ได้แก่ Crisp (สร้างบรรยากาศโดยการเพิ่มโทนสีน้ำเงินโทนเย็นในบริเวณไฮไลท์ของภาพ) Cinematic (เน้นบุคลิกภาพผ่านคอนทราสต์ และคอนทราสต์ที่ชัดเจนระหว่างแสงและความมืด) และ Tranquil (ฟิลเตอร์ขาวดำ ให้ส่วนที่มืดของภาพมีรายละเอียดที่สมบูรณ์ และคอนทราสต์เพียงพอ)
โหมด Video รองรับการซูมในช่วง 1x – 10x รองรับความละเอียด Full HD 1080p และ HD 720p มีฟีเจอร์ Retouch ช่วยปรับความงามบนใบหน้าระหว่างบันทึกวิดีโอ สามารถเพิ่ม Filters คล้ายโหมด Photo และยังรองรับโหมด Dual-View Video สามารถถ่ายวิดีโอจากกล้องหลังและกล้องหน้าในเฟรมเดียวกัน
กล้องหน้า 8MP Selfie Camera
realme 11x 5G ติดตั้งกล้องหน้าไว้ในหลุมบนหน้าจอ โดยมีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รองรับการถ่ายภาพเซลฟี่ด้วยโหมด Photo ซึ่งมีฟีเจอร์ Retouch ช่วยปรับความงามบนใบหน้าได้ละเอียดกว่ากล้องหลัง สามารถปรับแต่งความงามบนใบหน้าได้เกือบทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็นรายละเอียดผิว, แก้มหรือโครงหน้า, ขนาดดวงตา หรือ ขนาดจมูก พร้อมด้วย Filters สำหรับเปลี่ยนโทนสีของภาพถ่าย
โหมด Portrait สามารถใช้งานบนกล้องหน้าได้เช่นกัน โดยมีฟีเจอร์ช่วยละลายฉากหลัง (เลื่อนปรับค่า F ตามความเบลอที่ต้องการ) พร้อมฟีเจอร์ Retouch และ Filters เหมือนโหมด Photo โหมด Night ของกล้องหน้า ไม่มี Filters แบบกล้องหลัง แต่มีฟีเจอร์ Retouch สามารถปรับแต่งความงามบนใบหน้าได้ละเอียดเหมือนโหมด Photo เพียงพอสำหรับการเซลฟี่ในสภาวะแสงน้อย
โหมด Video ของกล้องหน้า รองรับความละเอียดสูงสุด Full HD 1080p มีฟีเจอร์ Retouch และ Filters เช่นกัน แต่สามารถปรับแต่งความงามด้วยการเลือกระดับได้เท่านั้น ไม่สามารถเลือกปรับได้หลายส่วนแบบโหมด Photo
ตัวอย่างภาพถ่าย
ชิป Dimensity 6100+
realme 11x 5G ใช้ชิปประมวลผล MediaTek Dimensity 6100+ เหมือนกับ realme 11 5G ซึ่งถูกสร้างบนเทคโนโลยีการผลิต 6 นาโนเมตร มีความหนาแน่นของทรานซิสเตอร์ที่สูงขึ้น 211% ใช้พลังงานลดลง 22% และอัดแน่นไปด้วยพลัง 5G ที่แท้จริง ให้ความเร็วในการดาวน์โหลดสูงสุด 3.27Gbps เทียบได้กับการดาวน์โหลดภาพยนตร์ 1080p เต็มรูปแบบได้ในไม่กี่วินาที และรองรับโหมด Dual SA สนับสนุนการใช้งาน 5G พร้อมกัน 2 ซิม
ชิป Dimensity 6100+ มาพร้อม Smart 5G ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน 30% ขณะที่เทคโนโลยี 5G Low Power Smart Hotspot ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถแชร์การเชื่อมต่อ 5G ได้โดยไม่ต้องกังวลว่าแบตจะหมด ด้วยการปรับการใช้พลังงานของ Hotspot แบบไดนามิก ตามสถานการณ์แบบเรียลไทม์ ทำให้การใช้พลังงานลดลง 32% เมื่อเทียบกับเครือข่าย 2.4GHz นอกจากนี้ ยังมี Antenna Array Matrix 2.0 ช่วยลดความล่าช้าของเครือข่ายเกมได้สูงสุดถึง 20% โดยการปรับการเชื่อมต่อให้เหมาะสม
สำหรับความจำของ realme 11x 5G ได้รับ RAM 8GB และขยายได้สูงสุด 8GB ผ่านฟีเจอร์ Dynamic RAM จึงเปรียบเสมือนมีความจำ RAM สูงสุด 16GB โดยมีพื้นที่เก็บข้อมูลในตัวสูงถึง 128GB และขยายพื้นที่ได้สูงสุด 2TB ผ่านการ์ด microSD
แบต 5000mAh ชาร์จไว 33W SUPERVOOC
อีกความสามารถที่ realme 11x 5G ทำได้น่าสนใจ นั่นคือให้แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000mAh เพียงพอต่อการใช้งานนานข้ามวัน ฟังเพลงได้นานต่อเนื่อง 35 ชั่วโมง / โทรคุยยาวนาน 34 ชั่วโมง / ดูวิดีโอนาน 15 ชั่วโมง / ใช้ระบบนำทาง 16 ชั่วโมง
realme 11x 5G ยังรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 33W SUPERVOOC สามารถชาร์จแบตเตอรี่จากระดับ 1 – 50% ในเวลาเพียง 29 นาที ถือว่าชาร์จเร็วกว่าสมาร์ตโฟนรุ่นอื่นในเซกเมนต์เดียวกัน นอกจากนี้ ยังมีกลไกความปลอดภัยในการชาร์จที่ล้ำหน้ามากที่สุดในกลุ่ม ด้วยการป้องกันความปลอดภัย 38 ชั้น นำความปลอดภัยมาสู่ประสบการณ์การชาร์จทุกด้าน ตั้งแต่เทคโนโลยีชาร์จเร็วไปจนถึงเครื่องชาร์จ สายชาร์จ อินเทอร์เฟซการชาร์จ วงจรการชาร์จ และ แบตเตอรี่
realme UI 4.0
realme 11 Series 5G ทำงานบนพื้นฐานระบบปฏิบัติการ Android 13 ครอบทับด้วย realme UI 4.0 ซึ่งได้รับการอัปเกรดใน 4 ด้านหลัก ได้แก่ การออกแบบอินเตอร์เฟซ, ปฏิสัมพันธ์กับผู้ใช้งาน, ความลื่นไหล และ ความปลอดภัยของข้อมูล เพื่อมอบความสะดวกสบายและประสบการณ์การใช้งานที่ราบรื่นสูงสุด โดยมีฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่น่าสนใจดังนี้
Adaptive Sleep – เมื่อเปิดใช้งาน Adaptive Sleep หน้าจอจะไม่ถูกปิดตามเวลาพักหน้าจอที่กำหนดไว้ เหมาะสำหรับการอ่านหรือดูคอนเท้นต์เป็นเวลานานโดยไม่ต้องคอยปลุกหน้าจอ
ซ่อนการแจ้งเตือนอย่างชาญฉลาด – เมื่อผู้ใช้ได้รับข้อมูลการแจ้งเตือน จะมีเพียงเจ้าของเท่านั้นที่สามารถดูการแจ้งเตือนบนหน้าจอ จึงสามารถป้องกันการแอบดูข้อมูลและปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน รวมถึงยัง เบาเสียงเรียกเข้าเมื่อมองหน้าจอสมาร์ตโฟน – เมื่อมีสายเรียกเข้า สมาร์ตโฟนจะเบาเสียงริงโทนโดยอัตโนมัติ เมื่อผู้ใช้งานจ้องไปที่หน้า ทำให้เสียงริงโทนไม่ดังรบกวนคนรอบข้างขณะที่กำลังดูว่าใครโทรเข้ามา
สรุปราคาและกำหนดการจำหน่าย
โดยรวมแล้ว realme 11 5G และ realme 11x 5G มีความเหมือนกันอยู่หลายอย่าง โดยเฉพาะในด้านดีไซน์ที่มีความสวยงามพรีเมียมไม่ต่างกัน หากชอบความหรูหราสามารถเลือกรุ่นไหนก็ได้ ด้านประสิทธิภาพของทั้งคู่ก็ใช้ชิปประมวลผลรุ่นเดียวกัน ความจำ RAM เท่ากัน แตกต่างกันที่ความจุ ROM รุ่น realme 11 5G จะมีขนาดใหญ่กว่า 2 เท่า แต่ขนาดแบตเตอรี่เท่ากัน โดย realme 11 5G รองรับชาร์จเร็ว 67W SUPERVOOC ส่วน realme 11x 5G ชาร์จเร็ว 33W SUPERVOOC
นอกจากเทคโนโลยีชาร์จเร็ว ระบบกล้องของทั้ง 2 รุ่น ก็แตกต่างเช่นกัน realme 11 5G ได้รับกล้องหลัก 108MP ขณะที่กล้องหลักของ realme 11x 5G มีความละเอียด 64MP แต่ลูกเล่นหรือฟีเจอร์ต่างๆ ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก รวมไปถึงความคมชัดขอบภาพถ่าย สรุปแล้ว realme 11 5G เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่มองหาสมาร์ตโฟนที่ดีไซน์หรูหรา กล้องความละเอียดสูง ชาร์จแบตเตอรี่เต็มได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องรอนาน แต่ถ้าต้องการประหยัดเงินในกระเป๋า realme 11x 5G ก็ถือเป็นทางเลือกที่ดีเช่นกัน
- realme 11 5G มาพร้อมความจุ 8/256GB นำเสนอ 2 โทนสีทั้ง Glory Gold และ Glory Black ในราคา 8,999 บาท และสำหรับช่องทางอีคอมเมิร์ชสามารถเป็นเจ้าของได้ผ่านช่องทาง Lazada โดยพรีออเดอร์ได้ตั้งแต่วันที่ 21 กันยายน – 24 กันยายนและวางจำหน่ายวันที่ 25 กันยายน – 28 กันยายน พร้อมรับของแถมจำนวนจำกัด สำหรับช่องทางเครือข่าย True, dtac และ AIS มาในราคาเริ่มต้นเพียง 5,200 บาท โดยสามารถพรีออเดอร์ได้แล้วตั้งแต่วันที่ 21 กันยายน -28 กันยายน สำหรับช่องทาง BaNANA, BKK, KingKong, IT City, CSC, TG phone, Jaymart, Maxlink, Stamp รวมถึง realme Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ สามารถพรีออเดอร์ได้แล้วตั้งแต่วันที่ 21 กันยายน – 28 กันยายน ไม่เพียงเท่านั้น! หากพรีออเดอร์ในช่วงเวลาที่กำหนดในทุกช่องทางยังได้รับสิทธิ์แลกซื้อ realme Buds T300 ได้ในราคาเพียง 999 บาท (สำหรับช่องทางเครือข่าย สงวนสิทธิ์แลกซื้อ realme Buds T300 ในราคา 999 บาทเฉพาะที่ช็อป True เท่านั้น) และสามารถเป็นเจ้าของได้พร้อมกันทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 29 กันยายนเป็นต้นไป
ช่องทางการสั่งซื้อ realme 11 5G : http://bit.ly/48ddX4O
- realme 11x 5G มาพร้อมความจุ 8/128GB นำเสนอ 2 โทนสีทั้ง Purple Dawn และ Midnight Black ในราคา 6,999 บาท และสำหรับช่องทางอีคอมเมิร์ชสามารถเป็นเจ้าของได้เฉพาะช่องทาง Shopee โดยพรีออเดอร์ได้ตั้งแต่วันที่ 21 กันยายน – 24 กันยายนและวางจำหน่ายวันที่ 25 กันยายน – 28 กันยายน พร้อมรับของแถมจำนวนจำกัด สำหรับช่องทางเครือข่าย True, dtac และ AIS มาในราคาเริ่มต้นเพียง 3,399 บาท โดยสามารถพรีออเดอร์ได้แล้วตั้งแต่วันที่ 21 กันยายน -28 กันยายน สำหรับช่องทาง BaNANA, BKK, KingKong, IT City, CSC, TG phone, Jaymart, Maxlink, Stamp รวมทั้ง realme Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศสามารถพรีออเดอร์ได้แล้วตั้งแต่วันที่ 21 กันยายน -28 กันยายนและสามารถเป็นเจ้าของได้พร้อมกันทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 29 กันยายนเป็นต้นไป
ช่องทางการสั่งซื้อ realme 11x 5G : http://bit.ly/44KmOYV
- realme Buds T300 นำเสนอ 2 โทนสีคือ Stylish Black และ Youth White ในราคา 1,199 บาท โดยสามารถเป็นเจ้าของได้ตั้งแต่วันที่ 29 กันยายนเป็นต้นไปผ่านช่องทางเครือข่าย True , ช่องทางอีคอมเมิร์ชทั้งช่องทาง Lazada และ Shopee , ตัวแทนจำหน่าย BaNANA, BKK, KingKong, IT City, CSC, TG phone, Jaymart, Maxlink, Stamp รวมทั้ง realme Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ