ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด คาดว่า Apple จะเปิดตัว iPhone 15 Series ในวันที่ 12 กันยายนนี้ โดยรุ่นพื้นฐานอาจไม่มีแสงส่องไปถึงมากนัก เนื่องจากรุ่น Pro ถูกลือว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญมากกว่า อย่างน้อยก็นับได้ถึง 20 รายการ ที่แตกต่างไปจากรุ่นก่อน
สรุปความแตกต่างระหว่าง iPhone 15 Pro กับ iPhone 14 Pro
- วัสดุตัวเครื่องเปลี่ยนมาใช้ไทเทเนียม น้ำหนักเบาลง ขอบมุมโค้มนเล็กน้อย (iPhone 14 Pro เป็นสแตนเลสเกรดศัลยกรรม ขอบมุมเป็นสันเหลี่ยมชัดเจน)
- ขอบจอแสดงผล (ระยะห่างระหว่างขอบด้านข้างถึงขอบหน้าจอ) บางเพียง 1.55 มิลลิเมตร (iPhone 14 Pro ขอบหน้าจอบาง 2.17 มิลลิเมตร)
- ขอบด้านข้างหนาขึ้นเล็กน้อย อยู่ที่ 8.25 มิลลิเมตร (iPhone 14 Pro ขอบด้านข้างบาง 7.85 มิลลิเมตร)
- ได้รับปุ่ม Action ที่ทำหน้าที่คล้ายปุ่ม Action ของ Apple Watch Ultra โดยมาแทนที่ปุ่มสวิตช์ปิดเสียงที่ใช้มาตั้งแต่ iPhone รุ่นแรก
- พอร์ตเชื่อมต่อ USB-C รองรับความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูล 20 – 40Gb/s (iPhone 14 Pro ใช้พอร์ต Lightning ที่มีความเร็วสูงสุด 480Mb/s)
- กล้อง Telephoto แบบ Periscope ซูมออปติคอลสูงสุด 6x แทนที่กล้อง Telephoto แบบเดิม ซึ่งซูมออปติคอลสูงสุด 3x (แต่อาจมีเฉพาะ iPhone 15 Pro Max เท่านั้น)
- กล้องหลัก หรือ กล้อง Wide มีขนาดรูรับแสง f/1.7 (กล้องหลักของ iPhone 14 Pro มีขนาดรูรับแสง f/1.79)
- LiDAR Scanner ได้รับการปรับปรุงประสิทธิภาพให้ดีขึ้น
- ใช้ชิป A17 Bionic ที่สร้างขึ้นจากกระบวนการ 3nm (iPhone 14 Pro ใช้ชิป A16 Bionic ระดับ 5nm ซึ่งจะถูกส่งต่อไปยัง iPhone 15 และ iPhone 15 Plus)
- จอแสดงผล OLED ใช้ชิปไดรเวอร์ 28nm ช่วยให้ประหยัดพลังงานมากขึ้นเมื่อเทียบกับชิปไดรเวอร์ 40nm ที่ใช้ใน iPhone 14 Pro
- ความจำ RAM 8GB (iPhone 14 Pro มี ความจำ RAM 6GB)
- ชิป Ultra-wideband ใหม่ สร้างขึ้นจากกระบวนการ 7nm (ชิป Ultra-wideband ของ iPhone 14 Pro ที่เรียกว่าชิป U1 มีขนาด 90nm)
- ชิปโมเด็ม Qualcomm X70 (iPhone 14 Pro ใช้ชิปโมเด็ม Qualcomm X65)
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6E จากรุ่นก่อนที่รองรับ Wi-Fi 6
- สนับสนุนมาตรฐานการชาร์จไร้สาย Qi2 จากรุ่นก่อนที่ได้รับมาตรฐาน Qi
- การชาร์จไร้สายด้วยอุปกรณ์จากผู้ผลิตรายอื่น สามารถชาร์ได้สูงสุด 15W จากเดิมที่จำกัดไว้ 7.5W
- รองรับชาร์จเร็วแบบใช้สาย 35W ขณะที่รุ่นก่อนสูงสุด 27W
- ที่เก็บข้อมูลในตัวอาจเพิ่มขึ้น 2 เท่าทุกตัวเลือก 256GB, 512GB, 1TB, 2TB (iPhone 14 Pro มีความจุ 128GB, 256GB, 512GB, 1TB)
- iPhone 15 Pro จะมาในสี Silver, Gold, Space Black, Dark Blue และอาจมีสี Dark Red ให้เลือกด้วย (iPhone 14 Pro เปิดตัวในสี Deep Purple, Silver, Gold, และ Space Black)
- แถมสายชาร์จ USB-C to USB-C แบบถัก ยาว 1.5 เมตร (iPhone 14 Pro แถมสายชาร์จ USB-C to Lightning ยาว 1 เมตร)
เนื่องจากมีการปรับปรุงหลายส่วน ทำให้ iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max ถูกลือว่า จะมีราคาเริ่มต้น 1,099 – 1,199 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 38,390 – 41,990 บาท ขณะที่ iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro Max มีราคาเริ่มต้น 999 – 1,099 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 34,990 – 38,390 บาท
ที่มา – MacRumors