หลังจากเปิดตัว realme 11 Pro Series 5G ซูมเหนือระดับ อย่างเป็นทางการในประเทศไทยไปเมื่อวันที่ 29 มิถุนายนก็เรียกเสียงฮือฮาได้ทั่วประเทศ ไม่เพียงแต่ความตื่นตาตื่นใจกับงานเปิดตัวอันยิ่งใหญ่ แต่ยังรวมไปถึงประสิทธิภาพของ realme 11 Pro Seires 5G ทั้ง 2 รุ่นไม่ว่าจะเป็น realme 11 Pro 5G และ realme 11 Pro+ 5G ที่ให้มาอย่างครบครัน พร้อมสร้างปรากฏการณ์ยอดขายถล่มทลายนับตั้งแต่ที่ได้เริ่มเปิดพรีออเดอร์ โดยเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคมที่ผ่านมา เรียลมีได้จัดกิจกรรม First Sale Event ต้อนรับการเปิดจำหน่ายวันแรกกับช่องทางตัวแทนจำหน่ายไม่ว่าจะเป็น BaNANA , BKK, Kingkong Phone, TG , IT CITY, Jaymart และ realme Brand Shop รวมถึงศูนย์บริการสาขามาร์เก็ตวิลเลจ สุวรรณภูมิ ซึ่งได้รับกระแสตอบรับอย่างท่วมท้น โดยในช่วงวันที่ 7 กรกฏาคม – 9 กรกฏาคม realme 11 Pro Series มียอดขายเป็นอันดับ 1 ในทุกช่องทางดังกล่าวสำหรับสมาร์ตโฟนช่วงระดับราคา 12,000-17,000 บาทและยังมียอดขายสูงขึ้น 96% เมื่อเทียบกับ realme 10 Pro Series
สำหรับช่องทางออนไลน์ก็ได้รับความสนใจอย่างท่วมท้นไม่แพ้กัน โดยเมื่อเปิดพรีออเดอร์ในวันที่ 29 มิถุนายน realme 11 Pro Series 5G ขึ้นแท่นสมาร์ตโฟนที่มียอดขายเปิดตัวเป็นอันดับ 1 ในช่องทาง Shopee สำหรับสมาร์ตโฟนช่วงระดับราคา 10,001-15,000 บาท และในช่วงวันที่ 29 มิถุนายน – 9 กรกฏาคม ยังทำยอดขายสูงขึ้น 212% เมื่อเทียบกับ realme 10 Pro Series ในช่วงเปิดขายอีกด้วยเช่นกัน
ส่วนหนึ่งที่ทำให้ realme 11 Pro Series 5G ทำยอดขายได้อย่างยอดเยี่ยมตั้งแต่ช่วงพรีออเดอร์จนถึงวันเปิดจำหน่ายวันแรก นั่นเพราะ realme 11 Pro Series เป็นสมาร์ตโฟนที่ครบครันตั้งแต่ภายในสู่ภายนอก โดย realme 11 Pro+ 5G มาพร้อมนวัตกรรมกล้อง OIS SuperZoom 200 ล้านพิกเซลรุ่นแรกของโลกที่มอบพลังการซูมสูงสุดในเซกเมนต์ที่ 4 เท่าโดยไม่สูญเสียรายละเอียด พร้อมระบบชาร์จเร็ว 100W SUPERVOOC
หรือใครที่กำลังมองหาสมาร์ตโฟนที่ตอบโจทย์ในทุกด้าน realme 11 Pro 5G ถือเป็นสมาร์ตโฟนที่ดีที่สุดสำหรับผู้ใช้งานทุกเช่นเดียวกัน เพราะ realme 11 Pro 5G มาพร้อมกล้อง OIS Prolight 100MP ซึ่งเป็นครั้งแรกและเป็นสมาร์ตโฟนเพียงตัวเดียวในระดับราคาเดียวกันที่มาพร้อมกับการรองรับเอาต์พุตโดยตรง 100MP ทำให้แต่ละพิกเซลมีส่วนร่วมในการถ่ายภาพ เก็บความละเอียดเต็มรูปแบบ ให้การถ่ายภาพระยะใกล้แบบ Portrait หรือถ่ายภาพวิวทิวทิศน์ระยะไกลอย่างไม่สูญเสียรายละเอียด รวมถึงระบบชาร์จเร็ว 67W SUPERVOOC Charge ชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 100% ใน 47 นาที พร้อมระบบความปลอดภัยในมาตรฐานเดียวกัน
นอกจากนี้ ยังเอาใจเหล่าแฟชั่นสำหรับทั้ง 2 รุ่น ด้วยดีไซน์ฝาหลังสุดหรู ด้วยการคอลแลปกับอดีตดีไซน์เนอร์ผู้ออกแบบลายพิมพ์ให้แบรนด์ Gucci เพื่อนำเสนอดีไซน์ฝาหนังลายลิ้นจี่สุดหรูหราพรีเมียมสุดประทับใจที่สะกดทุกสายตา และจะช่วยป้องกันลายนิ้วมือได้อย่างดีเยี่ยม และเอาใจนักเดินทางด้วยการร่วมมือกับนิตยสาร Lonely Planet ในการนำเสนอฟีเจอร์การถ่ายภาพรูปแบบใหม่ ให้คุณถ่ายภาพแนวสตรีทได้สนุก สร้างสรรค์ และราบรื่นมากยิ่งขึ้น พร้อมกับหน้าจอคุณภาพสูงเพื่อการแสดงผลที่สมบูรณ์แบบ Curved Vision Display มอบประสบการ์การรับชมด้วยหน้าจอโค้ง 2160 Hz PWM ครั้งแรกของโลก ช่วยลดแสงความถี่ระดับสูงพิเศษพร้อมการป้องกันดวงตาระดับสูงสุด มอบประสบการณ์การมองที่สบายตา ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ชอบเล่นสมาร์ตโฟนในระหว่างปิดไฟก่อนเข้านอนเป็นอย่างมาก
realme 11 Pro Series 5G วางจำหน่าย 2 รุ่น ได้แก่ realme 11 Pro+ 5G และ realme 11 Pro 5G โดย realme 11 Pro+ 5G นำเสนอรุ่นความจุ 12/512GB โทนสี Sunrise Beige และ Oasis Green ในราคา 16,999 บาท (ช่องทางการสั่งซื้อ: https://bit.ly/3p8Pwny) ส่วน realme 11 Pro 5G นำเสนอรุ่นความจุ 8/256GB โทนสี Sunrise Beige และ Astral Black ในราคา 12,999 บาท (ช่องทางการสั่งซื้อ : https://bit.ly/43uUSsh) ผู้สนใจสามารถมาทดลองสัมผัสและใช้งานตัวเครื่องจริงได้ที่ realme Brand Shop และศูนย์ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศได้แล้ววันนี้