สัปดาห์ที่ผ่านมา Adobe ได้เปิดตัว Generative Fill สำหรับ Photoshop ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Firefly เครื่องมือสร้างภาพ AI Image Generator ของ Adobe ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถแก้ไขและสร้างภาพได้ง่ายมากๆ ส่วนจะง่ายแค่ไหน เลื่อนลงมาดูวิธีการทำงานกันได้เลย
วิธีใช้งาน Generative Fill ใน Photoshop
ก่อนอื่นต้องทราบก่อนว่า Generative Fill ยังไม่ใช่เวอร์ชันเต็ม ยังเป็นเวอร์ชันทดสอบเท่านั้น จึงรองรับการใช้งานบน Photoshop เวอร์ชัน Beta ซึ่งผู้ใช้ Adobe Creative Cloud สามารถเข้าไปทดลองใช้งานได้ตามขั้นตอนต่อไปนี้
- เข้าไปยังโปรแกรม Adobe Creative Cloud บนคอมพิวเตอร์
- มองหาคำว่า Beta Apps
- กด Install ที่โปรแกรม Photoshop Beta
หลังจากติดตั้ง Photoshop เวอร์ชัน Beta เรียบร้อยแล้ว ให้เปิดโปรแกรมขึ้นมา จากนั้นเปิดรูปภาพที่ต้องการแก้ไข เหมือนการทำงานปกติ
สำหรับการใช้เครื่องมือ Generative Fill จะต้องเลือกพื้นที่บนรูปภาพในส่วนที่ต้องการตัดต่อแก้ไขด้วยเครื่องมือ Lasso Tool
เมื่อเลือกพื้นที่บนภาพเสร็จแล้วจะมีแถบเครื่องมือขึ้นมา ให้คลิกเข้าไปที่ช่อง Generative Fill แล้วพิมพ์สิ่งที่ต้องการเพิ่มเข้าไปในรูปภาพด้วยภาษาอังกฤษ จากนั้นกด Generate แล้วรอให้ระบบประมวลผล
เมื่อประมวลผลเสร็จแล้วเครื่องมือ AI ยังนำเสนอรูปภาพให้ผู้ใช้งานเลือกด้วย เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ถูกใจที่สุด
นอกจากจะเพิ่มวัตถุที่ต้องการลงบนรูปภาพ Generative Fill ยังสามารถช่วยรีทัชรูปภาพได้เช่นกัน อย่างเช่น เปลี่ยนสีสันของวัตถุในรูปภาพ หรือ แม้แต่เปลี่ยนเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของบุคคลในภาพก็ทำได้ หรือจะให้ช่วยขยายภาพจากภาพแนวตั้งเป็นแนวนอน โดยให้ AI แต่งเติมภาพในพื้นที่ด้านข้างให้เต็ม จนได้ภาพ Landscape ที่สวยงาม ซึ่งทั้งหมดขึ้นอยู่กับข้อความที่กรอกลงไปในช่อง Generative Fill
ทั้งนี้ Adobe จะปล่อยฟีเจอร์ Generative Fill ให้กับ Photoshop เวอร์ชันเต็ม ในช่วงครึ่งหลังของปี 2023
ที่มา – Springnews