สมาร์ตโฟน realme C55 มาพร้อมกลยุทธ์ใหม่ A Champion of The Segment เพื่อยกระดับ C Series ให้มีความสามารถสูงขึ้น ด้วยการอัปเกรดฟีเจอร์ที่สำคัญ 4 อย่าง ได้แก่ การถ่ายภาพ, หน่วยความจำ, เทคโนโลยีชาร์จเร็ว และ ดีไซน์ อีกทั้งยังเป็นสมาร์ตโฟนรุ่นแรกของ realme ที่ได้รับ Mini Capsule ฟีเจอร์แจ้งเตือนบนกล้องหน้า คาดว่ารุ่นนี้จะมียอดจำหน่ายถล่มทลายอย่างแน่นอน
สเปก realme C55
- จอแสดงผล Full HD+ ขนาด 6.72 นิ้ว อัตราการรีเฟรช 90Hz
- กล้องหลัก 64MP AI Camera
- กล้องหน้า 8MP Selfie Camera
- ชิปประมวลผล MediaTek Helio G88
- ความจำ RAM 8GB (LPDDR4X) + ROM 256GB (eMMC 5.1)
- ขยายความจำ RAM ได้อีก 8GB ผ่านฟีเจอร์ Dynamic RAM Expansion
- รองรับการ์ด microSD สูงสุด 1TB
- สแกนนิ้วด้านข้าง (Side-Mounted Fingerprint Scanner)
- ลำโพง 200% UltraBoom Speaker
- ระบบปฏิบัติการ realme UI 4.0 (บนพื้นฐาน Android 13)
- แบตเตอรี่ 5000mAh
- รองรับชาร์จเร็ว 33W SUPERVOOC
- ขนาดตัวเครื่อง 165.65 x 75.98 x 7.89 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 189.5 กรัม
- มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Rainy Night และ Sunshower
แกะกล่อง realme C55
realme C55 จัดส่งมาในกล่องสีเหลืองที่เรียบง่ายอันเป็นเอกลักษณ์ของ realme หน้ากล่องพิมพ์ชื่อรุ่น C55 ขนาดใหญ่ ติดโลโก้แบรนด์ไว้ส่วนล่าง ข้างกล่องจะพบชื่อ realme C55 ไว้ชัดเจน และบอกจุดเด่นไว้หลังกล่อง
หลังกล่องระบุจุดเด่นไว้ 6 รายการ ได้แก่ กล้องหลัก 64MP AI Camera, แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000mAh, จอแสดงผล Full HD+ ขนาด 6.72 นิ้ว อัตราการรีเฟรช 90Hz, รองรับชาร์จเร็ว 33W SUPERVOOC, ดีไซน์บาง 7.89 มิลลิเมตร และใช้ชิปประมวลผล MediaTek Helio G88
เมื่อยกฝากล่องขึ้นมาจะพบกับซองสีเหลืองแบนๆ มีข้อความต้อนรับสู่ครอบครัว realme ภายในมีเข็มช่วยถอดช่องใส่ซิมการ์ดแนบมาให้, คู่มือ, ใบรับประกัน และ เคส
ถัดลงมาเป็นชั้นวางสมาร์ตโฟน realme C55 ถูกบรรจุในซองพลาสติก เมื่อแกะออกมาจากซอง จะเห็นว่าได้รับการติดฟิล์มกันร้อยหน้าจอมาให้แล้วชั้นล่างสุดของกล่องเป็นช่องเก็บสายชาร์จแบตเตอรี่ และ หัวชาร์จ Power Adapter ซึ่งรองรับชาร์จเร็ว 33W SUPERVOOC
ดีไซน์บางเฉียบพรีเมียม
realme C55 ผลิตออกมาให้เลือก 2 สี ได้แก่ Rainy Night และ Sunshower โดยทีมงาน @Flashfly ได้รับสี Sunshower มารีวิว ซึ่งฝาหลังมีความโดดเด่นด้วยโครงสร้างกระบวนการ 13 ชั้น ผ่านกระบวนการพิมพ์ที่หลากหลาย และกระบวนการเคลือบผิว 2 ชั้นแบบ 2 พื้นผิว ทุกชั้นผิวรวมกันมีความบางเพียง 0.6 มิลลิเมตร
ฝาหลังของ realme C55 ยังมีอนุภาคแสง 500,000 เส้น ที่ก่อตัวเป็นเส้นแนวตั้งคล้ายกับสายฝน เมื่อสะท้อนแสงจะทำให้เกิดเอฟเฟกต์วิบวับราวกับสายฝนที่กำลังโปรยปราย ไม่ว่าจะเป็นสี Rainy Night หรือ Sunshower ก็ให้ความสวยงามโดดเด่นแตกต่างกันไป
ดีไซน์ของกล้องคู่หลังก็มีความน่าสนใจเช่นกัน ทั้งส่วนของแผงกล้องและโมดูลเลนส์กล้อง ใช้กระบวนการเคลือบผิวที่แตกต่างไปจากฝาหลัง ทำให้เกิดเอฟเฟกต์แสงแบบสเตอริโอ ถ้าหากถือตัวเครื่องในแนว จะดูคล้ายกับเครื่องเล่นแผ่นเสียงของดีเจที่มีแผ่นซีดีวางคู่กัน
มุมมองด้านหน้าเต็มไปด้วยพื้นที่ของจอแสดงผล ซึ่งมีขนาดใหญ่ 6.72 นิ้ว ให้อัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง 91.4% หมายความว่ามีขอบหน้าจอที่ค่อนข้างบางทีเดียว
จอแสดงผลของ realme C55 ถูกเจาะหลุมไว้ตรงกึ่งกลางสำหรับวงกล้องหน้า และยังมาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ Mini Capsule แสดงการแจ้งเตือนต่างๆ บนพื้นที่ของกล้องหน้าที่ผสานเข้ากับ User Interface อย่างกลมกลืน
ขอบด้านข้างมีความบางเพียง 7.89 มิลลิเมตร ใช้ดีไซน์ขอบมุมฉากเรียบแบน ซึ่งเป็นดีไซน์ที่กำลังได้รับความนิยมในกลุ่มพรีเมียมสมาร์ตโฟน realme C55 วางปุ่มปรับระดับเสียง กับ ปุ่มเพาเวอร์ ไว้ฝั่งเดียวกัน โดยรวมเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้บนปุ่มเพาเวอร์ด้วย
อีกข้างจะพบถาดใส่ซิมการ์ด ซึ่งเป็นถาดแบบ 3 ช่อง สามารถวางซิมการ์ดได้ 2 ช่อง (Dual Nano-SIM) และอีกช่องรองรับการ์ด microSD สนับสนุนความจุสูงสุด 1TB
ด้านบนถูกปล่อยให้เรียบแบน ไม่พบรูไมโครโฟนตัวที่ 2 ส่วนด้านล่าง ประกอบด้วย ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร, ไมโครโฟน, พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C และ ลำโพงแบบ UltraBoom 200% ที่ให้เสียงดังกระหึ่ม ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม ได้เต็มอรรถรส
นอกเหนือจากดีไซน์ที่สวยงามพรีเมียม realme C55 ยังมีความทนทานต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันได้เป็นระยะเวลานานหลายปี เนื่องจากผ่านกระบวนการผลิตที่มีคุณภาพสูงเชื่อถือได้ และผ่านการทดสอบที่เข้มงวดมากกว่า 320 รายการ เพื่อส่งมอบประสบการณ์การใช้งานที่ยาวนาน
หน้าจอ 90Hz รุ่นแรกของ C Series
realme C55 เป็นสมาร์ตโฟนรุ่นแรกของ realme C Series ที่รองรับอัตราการรีเฟรชหน้าจอสูงสุด 90Hz จึงแสดงภาพกราฟิกได้ลื่นไหลยิ่งขึ้น ให้สัมผัสที่ดีขึ้น และให้อัตราการตอบสนองต่อการสัมผัส (Touch Sampling Rate) สูงสุด 180Hz โดยมีความละเอียด Full HD+ (1080 x 2400 พิกเซล) ความสว่างสูงสุด 680 นิต (HBM) ดีไซน์ขอบจอบางจนทำให้มีอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง 91.4% อีกทั้งยังมีขนาดใหญ่ถึง 6.72 นิ้ว รับชมวิดีโอหรือดูคอนเท้นต์ต่างๆ ได้เต็มอิ่ม
Mini Capsule
realme C55 ยังเป็นสมาร์ตโฟนรุ่นแรกของ realme ที่ได้รับฟีเจอร์ใหม่ล่าสุด Mini Capsule ใช้พื้นที่วงกลมสีดำของกล้องหน้า ผสานเข้ากับซอฟต์แวร์จนทำให้เกิด User Interface ใหม่ สำหรับแสดงการแจ้งเตือนต่างๆ ตัวอย่างเช่น สถานะแบตเตอรี่ สามารถแสดงแสงไดนามิกสีเขียว เมื่อแบตเตอรี่เต็ม 100%, แสดงแสงไดนามิกสีน้ำเงินเมื่อกำลังชาร์จแบตเตอรี่, แสดงแสงไดนามิกสีแดง เมื่อแบตเตอรี่อยู่ในระดับต่ำ 5%
ผู้ใช้งานยังสามารถตั้งค่าให้ Mini Capsule แจ้งเตือนการใช้งานข้อมูลหรืออินเทอร์เน็ต เมื่อเข้าถึงระดับ 90% จากที่ตั้งค่าไว้ เพื่อป้องกันการใช้ข้อมูลเกินขีดจำกัด และยังสามารถตั้งค่าให้แจ้งเตือนจำนวนก้าวเดินตลอดทั้งวันได้ด้วย
สแกนลายนิ้วมือด้านข้าง
realme C55 ฝังเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือรวมไว้กับปุ่มเพาเวอร์ที่ขอบด้านข้าง (Side-mounted Fingerprint Sensor) ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ช่วยให้ปลดล็อคได้อย่างสะดวกรวดเร็ว เมื่อเทียบกับการติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแยกไว้ที่ด้านหลัง อีกทั้งยังรองรับฟีเจอร์สแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อค (Face Unlock) โดยอาศัยการทำงานร่วมกันระหว่างกล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล และซอฟต์แวร์อัจฉริยะ เพื่อให้สมาร์ตโฟนจดจำใบหน้าได้อย่างแม่นยำ
กล้องหลัก 64MP ใช้เซ็นเซอร์ระดับเรือธง
realme C55 มาพร้อมกล้องหลักความละเอียดสูง 64 ล้านพิกเซล พร้อมขนาดพิกเซลที่ใหญ่ถึง 0.7 ไมครอน ที่หาได้ยากในเซกเมนต์เดียวกัน อีกทั้งยังเป็นสมาร์ตโฟนรุ่นแรกใน C Series ที่ได้รับเซ็นเซอร์กล้องขนาดใหญ่ถึง 1/2 นิ้ว ซึ่งมีขนาดเพิ่มขึ้น 54% ช่วยปรับปรุงความคมชัดและความละเอียดให้ดีขึ้น 53.8% เมื่อเทียบกับ realme C35 และยังเป็นเซ็นเซอร์ตัวเดียวกับที่ใช้ในเรือธงอย่าง realme GT Master Edition
- กล้องหลัก 64 ล้านพิกเซล (OMNIVISION OV64B)
- กล้อง B&W ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
แอปกล้องของ realme C55 จะประกอบไปด้วยโหมด Night, Street, Video, Photo, Portrait, 64MP, Slow Motion, Time-lapse, Pro และ Panorama
โหมด Photo สามารถซูมได้ในช่วง 1x – 10x มีฟีเจอร์ AI Retouching ช่วยปรับความงามบนใบหน้า ส่วนแถบเครื่องมือด้านบนจะมีฟีเจอร์ HDR และ Chrome Boost ให้ใช้งานด้วย (หากต้องการถ่ายภาพความละเอียดสูงสุด ให้เลือกโหมด 64MP)
โหมด Portrait มีเครื่องมือสำหรับละลายฉากหลังตามต้องการ และมี Filters ที่น่าสนใจอย่าง Bokeh Flare Portrait ที่ให้เอฟเฟกต์ดวงไฟโบเก้แบบเดียวกับที่พบในกล้องมืออาชีพ และ AI Color Portrait ทำให้ได้ภาพถ่ายบุคคลที่มีสีสันโดดเด่นจากพื้นหลังที่ถูกย้อมเป็นสีขาวดำ
โหมด Street Photography ที่ปกติจะพบในสมาร์ตโฟน GT Series / Number Series ของ realme ในที่สุดก็ขยายมาถึง C Series แล้ว เริ่มจาก realme C55 เป็นรุ่นแรก ซึ่งเป็นโหมดถ่ายภาพแนวสตรีทที่ช่วยให้ผู้ใช้งานเป็นช่างภาพได้ง่ายๆ ด้วยเทคโนโลยี Dynamic Image Snapshot ช่วยให้ภาพถ่ายมีความคมชัด พร้อม Filters ต่างๆ ที่เพิ่มความน่าสนใจให้ภาพถ่ายแนวสตรีท ไม่ว่าจะเป็น B&W Plus ช่วยเพิ่มความชัดเจนของแสงและเงา, Dramatic แสดงอารมณ์ได้มากขึ้น พร้อมรายละเอียดที่เข้มข้นของตัวแบบ และ 90’s Pop ให้ภาพถ่ายดูคลาสสิคในสไตล์ภาพยนตร์วินเทจ
โหมด Video สามารถซูมได้ในช่วง 1x – 10x มี Filters ให้เลือกหลายแบบ รองรับการถ่ายวิดีโอสูงสุด Full HD 1080p ที่อัตรา 60 เฟรมต่อวินาที โดยกล้องหน้าก็สามารถถ่ายวิดีโอในระดับ Full HD 1080p เช่นเดียวกัน
โหมด Night สามารถซูมได้ในช่วง 1x – 10x มี Filters ที่แตกต่างไปจากโหมดอื่นๆ เช่น Modern gold, Cyberpunk, Flamingo, Astral, Dazzle เป็นต้น ที่น่าสนใจก็คือ แถบเครื่องมือด้านบนของโหมด Night ยังมีโหมด Starry โหมดถ่ายภาพท้องฟ้ายามค่ำคื่นที่ช่วยเพิ่มความสว่างและลดสัญญาณรบกวนบนภาพถ่าย ทำให้ได้ภาพถ่ายดวงดาวบนท้องฟ้ายามค่ำคืนเหมือนถ่ายจากกล้องระดับมืออาชีพ
โหมด Night ของ realme C55 สามารถถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยได้อย่างดี เนื่องจากได้รับเทคโนโลยีการถ่ายภาพ ProLight ซึ่งเป็นอัลกอริทึมการถ่ายภาพกลางคืนแบบเดียวกับที่พบใน realme GT 2 Pro อีกทั้งยังมีอัลกอริทึมหลายเฟรมของโดเมน RAW ที่พัมนาโดย realme สามารถเก็บรายละเอียดเพิ่มเติมได้มากยิ่งขึ้น ทำงานร่วมกับอัลกอริทึมลดสัญญาณรบกวนอัจฉริยะ ช่วยให้ภาพถ่ายในเวลากลางคืน ได้รับการปรับปรุงทั้งรายละเอียด และลดไฮไลต์ได้อย่างเหมาะสม
กล้องหน้า 8MP Selfie Camera
realme C55 มาพร้อมกล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล ซ่อนไว้ในหลุมบนหน้าจอ รองรับโหมดถ่ายภาพ Photo ที่มีฟีเจอร์ Beauty สามารถปรับแต่งความงามบนใบหน้าได้ละเอียดกว่ากล้องหลังไม่ว่าจะเป็นผิว, แก้ม, ขนาดดวงตา, ขนาดจมูก และยังมีฟีเจอร์ HDR, Filters ให้เปิดใช้งานที่แถบเครื่องมือด้านบน
โหมด Portrait ของกล้องหลัง ก็มีฟีเจอร์ปรับ Bokeh เพื่อละลายฉากหลังได้เหมือนกล้องหลัง รวมถึง Filters มากมายที่ช่วยเพิ่มความโดดเด่นให้กับภาพเซลฟี่
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้า
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลัง
ประสิทธิภาพ
realme C55 ใช้ชิปประมวลผล MediaTek Helio G88 ซึ่งออกแบมาสำหรับเกมมิ่งสมาร์ตโฟนโดยเฉพาะ ถูกสร้างขึ้นบนเทคโนโลยีการผลิต 12 นาโนเมตร ประกอบด้วยซีพียู 64-bit Octa Core (Arm Cortex-A55 + Arm Cortex-A75) ความเร็วสูงสุด 2.0GHz พร้อมด้วยจีพียู Arm Mali-G52 MC2 ความเร็วสูงสุด 1GHz สามารถทำคะแนนจากแอปพลิเคชั่น AnTuTu ได้สูงถึง 273,364 คะแนน และตอบสนองการเล่นเกมได้อย่างราบรื่น ไม่ว่าจะเป็น ROV, PUBG Mobile, Call of Duty Mobile, Pokemon UNITE, Asphalt 9 หรือแม้แต่ Genshin Impact
ความจุเยอะ 256GB
อย่างที่กล่าวไว้ในตอนต้น realme C55 เป็นสมาร์ตโฟนรุ่นแรกของ realme C Series ที่มาพร้อมกลยุทธ์ใหม่ A Champion of The Segment และการอัปเกรดหน่วยความจำก็เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ดังกล่าว ทำให้ realme C55 มีความจำขนาดใหญ่ระดับเรือธง โดยมี 2 ตัวเลือก ได้แก่ RAM 6GB + ROM 128GB และ RAM 8GB + ROM 256GB
ด้วยตัวเลือกความจุสูงสุด RAM 8GB + ROM 256GB ช่วยให้ผู้ใช้งาน realme C55 สามารถจัดเก็บรูปภาพได้มากกว่า 50,000 ภาพ / บันทึกซีรีส์ภาพยนตร์ได้มากกว่า 860 ตอน / ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นได้มากกว่า 860 แอป
realme C55 ยังรองรับฟีเจอร์ Dynamic RAM Expansion สามารถยืมความจุ ROM มาใช้เป็นความจำ RAM ได้สูงสุด 8GB จึงเปรียบเสมือนมีความจำ RAM สูงสุด 16GB ทำให้การสลับใช้งานแอปพลิเคชั่นได้ลื่นหลาย เปิดทิ้งไว้ได้หลายแอป และถ้าหากความจุในตัว 256GB ยังไม่เพียงพอ realme C55 ก็ยังขยายความจำได้สูงสุด 1TB ผ่านการ์ด microSD โดยมีช่องใส่การ์ด microSD แยกต่างหาก ไม่ต้องแย่งใส่กับช่อง SIM 2
realme UI 4.0
realme C55 เป็นสมาร์ตโฟนรุ่นแรกใน C Series ที่ทำงานบนระบบปฏิบัติการ realme UI 4.0 ตั้งแต่แกะกล่อง (พื้นฐานเป็น Android 13) ซึ่งได้รับการอัปเกรดใน 4 ด้านหลัก ได้แก่ การออกแบบอินเตอร์เฟซ, ปฏิสัมพันธ์กับผู้ใช้งาน, ความลื่นไหล และ ความปลอดภัยของข้อมูล เพื่อมอบความสะดวกสบายและประสบการณ์การใช้งานที่ราบรื่นสูงสุด
realme UI 4.0 ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวให้กับเจ้าของ realme C55 ด้วยฟีเจอร์ Auto Pixelate สามารถเบลอข้อมูลส่วนตัวแบบอัตโนมัติได้ง่ายๆ ในคลิกเดียว เมื่อมีการบันทึกภาพหน้าจอด้วยแอปส่งข้อความที่ใช้งานเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็น Whatsapp หรือ Messenger ไม่ต้องกังวลว่าจะเผลอเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวสู่โลกออนไลน์
ชาร์จเร็ว 33W SUPERVOOC
อีกความสามารถที่ realme C55 ได้รับการอัปเกรด และถือเป็นหนึ่งในจุดเด่นที่สำคัญ นั่นคือการรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 33W SUPERVOOC ซึ่งเพิ่มความเร็วในการชาร์จขึ้นถึง 100% เมื่อเทียบกับ realme C35 ที่รองรับชาร์จเร็ว 18W และยังชาร์จได้เร็วที่สุดในเซกเมนต์เดียวกัน
เทคโนโลยีชาร์จเร็ว 33W SUPERVOOC สามารถชาร์จแบตเตอรี่ของ realme C55 จนถึงระดับ 50% ในเวลาเพียง 29 นาที และชาร์จจนเต็ม 100% ในเวลา 63 นาที โดยมีความจุแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000mAh สามารถสแตนด์บายได้ยาวนานถึง 27 วัน หรือใช้โทรคุยได้นานต่อเนื่อง 27.8 ชั่วโมง
realme ยังให้ความสำคัญด้านความปลอดภัยของระบบการชาร์จ ด้วยการนำอัลกอริทึมปรับแต่งอัจฉริยะ VCVT มาช่วยปรับแรงดันและกระแสไฟอย่างชาญฉลาด พร้อมปรับปรุงประสิทธิภาพการชาร์จในหลายด้าน ทั้งประสิทธิภาพของช่วงการชาร์จในระดับ 90 – 100% และเพิ่มความเร็วในการชาร์จได้ถึง 200%
นอกจากนี้ ยังมีระบบป้องกันอัจฉริยะ 5 แกน เพื่อความปลอดภัยในการใช้งานประจำวัน ได้แก่ การป้องกันการชาร์จเกิน, การป้องกันแรงดันไฟเกิน, การป้องกันกระแสไฟเกิน, การป้องกันอุณหภูมิเกิน และ การป้องกันในกรณีเกิดปัญาหาการชาร์จที่รุนแรง
สรุปราคาและการจำหน่าย
realme C55 ได้รับการอัปเกรดหลายอย่าง เพื่อยกระดับสมาร์ตโฟน C Series ของ realme ให้เหนือขึ้นไปอีกขั้นเมื่อเทียบสมาร์ตโฟนในเซกเมนต์เดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นกล้องหลักความละเอียดสูง 64 ล้านพิกเซล เทคโนโลยีชาร์จเร็ว 33W SUPERVOOC จอแสดงผลขนาดใหญ่ 6.72 นิ้ว ให้อัตราการรีเฟรช 90Hz ชิปประมวลผลสำหรับเกมมิ่ง ดีไซน์หรูหราบางเฉียบ และยังเป็นสมาร์ตโฟนรุ่นแรกของ realme ที่มาพร้อม Mini Capsule ด้วยความสามารถรอบด้านทำให้ realme C55 เป็นสมาร์ตโฟนที่ไม่เพียงถูกสร้างมาสำหรับผู้ใช้งานระดับเริ่มต้น แต่ยังดึงดูดผู้ที่กำลังมองหาสมาร์ตโฟนระดับกลางและให้ความคุ้มค่าได้มากกว่า
realme C55 วางจำหน่ายด้วยกัน 2 สีคือ สี Sunshower และสี Rainy Night รุ่นความจุ 6+128GB ราคา 5,999 บาทและรุ่นความจุ 8+256GB ราคา 7,299 บาท โดยวางจำหน่ายพร้อมกันในวันที่ 31 มีนาคมผ่านช่องทาง realme brand shop และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ พิเศษ! สำหรับช่องทางออนไลน์ สามารถเป็นเจ้าของ realme C55 ได้ก่อนใคร โดย เอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะช่องทาง Lazada ที่เดียว พร้อมราคาสุดพิเศษเฉพาะวันที่ 27 มีนาคม –1 เมษายน โดย realme C55 รุ่นความจุ 6+128GB จะได้รับส่วนลดสูงสุด 500 บาท (ราคาพิเศษเพียง 5,499 บาท) และผู้ที่สั่งซื้อ realme C55 รุ่นความจุ 8+256GB เป็น 200 ออเดอร์แรก รับไปเลยทันทีกระเป๋า Backpack
ช่องทางการสั่งซื้อทาง Lazada :
- realme C55 รุ่นความจุ 6+128GB https://www.lazada.co.th/products/i4462650998.html?spm=a1zawg.24863640.table_online_product.1.51884edf4Y4FNz
- realme C55 รุ่นความจุ 8+256GB https://www.lazada.co.th/products/i4474612344.html?spm=a1zawg.24863640.table_online_product.1.10254edff0eXGN
