OPPO เพิ่มสมาชิกใหม่ให้กับ OPPO Reno Series ด้วยสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ล่าสุด OPPO Reno8 T 5G ที่มาในสโลแกน “The Portrait Expert ทุกพอร์ตเทรตสวยคมชัดกว่าเดิม” ด้วยกล้อง 108MP Portrait Camera ความละเอียดสูง แม้จะนำมาครอปตัด ก็ยังคมชัดทุกรายละเอียด และยังถ่ายภาพพอร์ตเทรต ให้ดูโปรได้ง่ายๆ ด้วย AI Portrait Retouching, Bokeh Flare Portrait และ AI Colour Portrait ด้านประสิทธิภาพก็ได้รับการอัพเกรดด้วยเทคโนโลยี 67W SUPERVOOCTM ชาร์จไว 100% ภายใน 44 นาที ความจำ RAM 8GB ขยายได้อีก 8GB ความจุ ROM สูงสุด 256GB อีกทั้งยังมีดีไซน์ระดับแฟลกชิป ด้วยจอแสดงผลขอบโค้ง 3D อัตรารีเฟรชสูงสุด 120Hz บนตัวเครื่องสีทอง Sunrise Gold สุดพรีเมี่ยม พร้อม OPPO Enco Air3 หูฟังไร้สาย Music All Around รุ่นใหม่ล่าสุด
สเปก OPPO Reno8 T 5G
- จอแสดงผล AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว อัตรารีเฟรชสูงสุด 120Hz
- กล้องหลัง 108MP Portrait Camera
- กล้องหน้า 32MP Selfie Camera
- ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 695 5G
- ความจำ RAM 8GB + ROM 128GB/256GB
- รองรับ RAM Expansion สูงสุด 8GB
- รองรับการ์ด MicroSD สูงสุด 1TB
- ระบบปฏิบัติการ ColorOS 13
- แบตเตอรี่ 4,800mAh
- รองรับชาร์จเร็ว 67W SUPERVOOCTM
- ขนาดตัวเครื่อง 162.3 x 74.3 x 7.7 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 171 กรัม
- มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Sunrise Gold และ Midnight Black
แกะกล่อง OPPO Reno8 T 5G
OPPO Reno8 T 5G จัดส่งมาในกล่องสีเทา หน้ากล่องระบุชื่อสมาร์ตโฟนไว้อย่างชัดเจน พร้อมด้วยเลข 8 ขนาดใหญ่ ซึ่งอยู่ในกรอบสี่เหลี่ยมสีเงินที่มีพื้นผิวคล้ายกับฝาหลังของสี Sunrise Gold มุมบนกล่องบอกขนาดความจำไว้ในสามเหลี่ยมสีทอง
ภายในกล่องจะพบกับคู่มือ Quick Guide, Safty Guide, เข็มช่วยถอดช่องใส่ซิมการ์ดแนบมากับแผ่นกระดาษ และแถมเคสมาให้ด้วย ด้วยตัวเคสจะเป็นสีขาวแบบขุ่น แต่พื้นที่บริเวณกล้องหลังจะโปร่งใส เพื่อเผยให้เห็นดีไซน์ของกล้องหลัง
ตัวเครื่อง OPPO Reno8 T 5G ถูกเก็บไว้ในซองอย่างดี หน้าซองบอกจุดเด่นไว้ 4 รายการ ได้แก่ จอแสดงผลขอบโค้ง 3D ให้อัตรารีเฟรช 120Hz, กล้องหลัก 108MP Portrait Camera, รองรับชาร์จเร็ว 67W SUPERVOOC และมีฟีเจอร์ RAM Expansion สามารถเพิ่มความจำได้สูงสุด 8GB จึงเสมือนมี RAM ถึง 16GB
ชั้นล่างสุดของกล่อง เป็นช่องเก็บสายชาร์ต USB Type-A to Type-C และอุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่ Power Adapter รองรับชาร์จเร็ว 67W SUPERVOOCTM
ดีไซน์ Ultra-Slim สุดพรีเมี่ยมหน้าจอโค้ง 3D
OPPO ให้ความใส่ใจในการออกแบบเป็นพิเศษ เพื่อสร้างความประทับใจได้ทันทีตั้งแต่แรกเห็น ซึ่งสมาร์ตโฟน OPPO Reno8 T 5G ก็สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนด้วยดีไซน์ที่สวยงามพรีเมี่ยม เน้นความบางเบาเป็นพิเศษ มาพร้อมจอแสดงผลขอบโค้ง 3D ระดับแฟลกชิป และยังให้ความสำคัญในเรื่องของความทนทานด้วย เพื่อรองรับการใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างมั่นใจ โดยผลิตออกมาให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีทอง Sunrise Gold และ สีดำ Midnight Black
ทีมงาน @Flashfly ไดรับ OPPO Reno8 T 5G สีทอง Sunrise Gold มารีวิว ซึ่งเป็นเฉดสีทองอ่อนๆ ได้แรงบันดาลใจมาจากแสงแดดยามรุ่งอรุณ ที่ฉายแสงบนท้องฟ้าจนเกิดเป็นเฉดสีฟ้าและสีม่วงอันเงียบสงบ ไปจนถึงโทนสีแดงและสีเหลืองที่อบอุ่น นอกจากสีทอง OPPO Reno8 T 5G ยังมีสีดำ Midnight Black เป็นอีกตัวเลือก ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากการสะท้อนของแสงจันทร์บนทะเลสาบที่เงียบสงบ เสริมด้วยเทคนิคเคลือบผิวแบบ OPPO Glow อันเป็นเอกลักษณ์ ทำให้ฝาหลังเปล่งประกาย ดูมีมิติมากขึ้น
ฝาหลังของ OPPO Reno8 T 5G ยังใช้ดีไซน์ OPPO Glow เป็นกระบวนการผลิตพิเศษเฉพาะของ OPPO ด้วยการแกะสลักวัสดุในระดับจุลภาค เพื่อสร้างคริสตัลรูปทรงปิรามิดหลายล้านเม็ดบนฝาหลัง ทำให้ได้พื้นผิวด้านละเอียด เปล่งประกาย มีสีสันที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น และยังป้องกันรอยนิ้วมือได้อย่างดี
นอกเหนือจากพื้นผิวที่สวยงามโดดเด่น กล้องหลังของ OPPO Reno8 T 5G ก็เป็นอีกจุดที่สะดุดตา ด้วยโมดูลกล้องคู่ที่ทันสมัย จัดวางในแนวตั้ง เพื่อสร้างรูปลักษณ์ที่สมดุลยิ่งขึ้น โมดูลกล้องคู่ ถูกล้อมรอบด้วยวงแหวนโลหะ วางอยู่บนแผงวงรีที่มีพื้นผิวตัดกัน ช่วยเพิ่มสัมผัสระดับพรีเมี่ยมพร้อมปกป้องเลนส์ได้ดียิ่งขึ้น
ดีไซน์ด้านหน้าให้ความรู้สึกเหมือนสมาร์ตโฟนเรือธง ด้วยจอแสดงผลแบบขอบโค้ง 3D ซึ่งได้รับการออกแบบด้วยเส้นโค้งขนาดเล็กพิเศษที่มีความโค้ง 56 องศา ส่วนโค้งสูง 1.9 มิลลิเมตร ทำให้จับถือได้อย่างสบายมือ มอบประสบการณ์ระดับพรีเมี่ยมทุกครั้งที่หยิบขึ้นมาใช้งาน
ด้วยกระบวนการบรรจุภัณฑ์หน้าจอ COP ขั้นสูง ทำให้จอแสดงผล AMOLED ของ OPPO Reno8 T 5G มีส่วนขอบหน้าจอที่บางเฉียบ 1.57 มิลลิเมตร สำหรับด้านข้าง ขณะที่ส่วนขอบด้านล่างบางเพียง 2.32 มิลลิเมตร ส่งผลให้มีอัตราส่วนหน้าจอต่อเครื่องสูงถึง 93% จึงแสดงคอนเท้นต์ต่างๆ ได้เต็มตามากขึ้น กับดีไซน์หน้าจอแบบไร้ขอบ
OPPO Reno8 T 5G ติดตั้งกล้องหน้าความละเอียดสูง 32 ล้านพิกเซล ไว้ในหลุมบนหน้าจอ เหนือขึ้นไปซ่อนลำโพงไว้ในแนวตะแกรงที่สุดขอบด้านบน
ส่วนขอบด้านข้างมีดีไซน์ Ultra-Slim บางเบา เรียบหรู ด้วยความบางเพียง 7.7 มิลลิเมตร ถึงแม้จะมีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 4,800mAh และหนักเพียง 171 กรัมเท่านั้น ปุ่มปรับระดับเสียง ติดตั้งไว้ที่ส่วนขอบด้านขวาของจอแสดงผล
ปุ่มเพาเวอร์ ติดตั้งแยกไว้อีกด้าน
ด้านบนพบรูไมโครโฟนตัวที่ 2 ช่วยลดเสียงรบกวนรอบข้าง ทำให้เสียงสนทนาและการบันทึกเสียงชัดเจนยิ่งขึ้น
ด้านล่างประกอบด้วยลำโพง, พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C, ไมโครโฟนตัวหลัก และ ถาดใส่ซิมการ์ด
จอ AMOLED ขอบโค้งสี 10-bit รีเฟรช 120Hz
OPPO Reno8 T 5G มอบประสบการณ์การใช้งานระดับแฟลกชิปด้วยจอแสดงผล AMOLED ที่มีความลึกสีระดับ 10-bit ให้สีสันมากกว่า 1 พันล้านสี (จอแสดงผลของสมาร์ตโฟนทั่วไปให้สีสัน 16.7 ล้านสี) ความละเอียด 2412 x 1080 พิกเซล ขนาด 6.7 นิ้ว รองรับอัตราการรีเฟรชหน้าจอสูงสุด 120Hz และสามารถปรับลดแสง PWM (Pulse Width Modulation) ได้ที่ความถี่สูง 2,160Hz ช่วยลดการกะพริบของหน้าจอ
จอแสดงผลของ OPPO Reno8 T 5G ได้รับการรับรอง Amazon Prime HD และ Netflix HD ถือเป็นจอภาพที่เหมาะสำหรับรับชมภาพยนตร์อย่างแท้จริง และยังให้ประสบการณ์การรับชมที่เต็มอิ่มจากหน้าจอ AMOLED ที่คมชัดระดับ 10-bit ขนาดใหญ่ 6.7 นิ้ว พร้อมปกป้องดวงตาด้วย AI Adaptive Eye Protection System ทำให้มองหน้าจอได้อย่างสบายตาในที่แสงน้อย
อีกจุดเด่นของหน้าจอ คือ ดีไซน์ไร้กรอบ ขอบจอโค้ง 3D และด้วยกระบวนการบรรจุภัณฑ์หน้าจอ COP ขั้นสูง ทำให้ OPPO Reno8 T 5G มีพื้นที่ขอบจอรอบด้านบางเฉียบ ไม่เพียงแต่ขอบด้านข้าง แต่ขอบด้านล่างก็บางเป็นพิเศษ ทำให้มีอัตราส่วนหน้าจอต่อเครื่องสูงถึง 93%
ถึงแม้จะใช้จอแสดงผลแบบขอบโค้ง แต่ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องความทนทาน เพราะ OPPO ได้เพิ่มประสิทธิภาพให้กับจอแสดงผลของ OPPO Reno8 T 5G ด้วยการใช้กระจกป้องกัน DT-Star2 ซึ่งเป็นวัสดุกระจกนิรภัยระดับ 2 ในฝาครอบหน้าจอ อีกทั้งยังมีการทดสอบคุณภาพหน้าจออย่างละเอียดถึง 23 รายการ ใน 5 หมวดหมู่ที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นทดสอบการตกจากที่สูง 1 เมตร ทดสอบการกระแทก ทดสอบความทนทานต่อการสึกหรอ ทดสอบในสภาพแวดล้อมที่ผิดปกติ เพื่อให้ได้หน้าจอที่ทนทานเป็นพิเศษ มั่นใจได้ว่า OPPO Reno8 T 5G พร้อมรองรับการใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างยาวนาน
สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ
OPPO ติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ใต้หน้าจอ ซึ่งเป็นอีกจุดที่แสดงให้เห็นว่า OPPO Reno8 T 5G ได้รับการออกแบบเหมือนเป็นสมาร์ตโฟนระดับแฟลกชิป แต่เหนือกว่านั้นคือการทำงานที่แม่นยำ และ ปลอดภัย สามารถอ่านลายนิ้วมือเพื่อปลดล็อคสมาร์ตโฟนได้อย่างรวดเร็ว ภายในเวลาเพียงเสี้ยววินาที กรณีนิ้วมือเลอะเทอะ หรือ ไม่สะดวกใช้ปลายนิ้ว ก็ยังสามารถปลดล็อคด้วยการสแกนใบหน้า โดยอาศัยการทำงานร่วมกันระหว่าง AI กับกล้องหน้าความละเอียดสูง 32 ล้านพิกเซล ช่วยให้ระบุใบหน้าเจ้าของสมาร์ตโฟนได้อย่างถูกต้อง
กล้องหลัง 108MP Portrait Camera
อีกไฮไลท์ของ OPPO Reno8 T 5G คือการถ่ายภาพพอร์ตเทรตได้สวย คมชัดที่สุดด้วย 108MP Portrait Camera พร้อม Microlens ให้ภาพถ่ายมีมุมมองแปลกใหม่ด้วยกำลังขยายถึง 40 เท่า และยังมี Depth Camera ซึ่งทั้งหมดถูกติดตั้งไว้ในโมดูลกล้องคู่ที่ทันสมัย ใช้กรอบวงแหวนโลหะ วางอยู่บนแผงวงรีที่มีพื้นผิวตัดกับฝาหลัง ช่วยเสริมภาพลักษณ์ให้ดูพรีเมี่ยม
- กล้องหลัก 108 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.7 ชุดเลนส์ 6P มีระบบออโต้โฟกัส
- กล้อง Depth 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
- กล้อง Microlens 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/3.3 กำลังขยายสูงสุด 40 เท่า
108MP Portrait Camera ของสมาร์ตโฟน OPPO Reno8 T 5G ใช้เซ็นเซอร์ Samsung HM6 ขนาด 1/1.67 นิ้ว พร้อมเทคโนโลยี Pixel Binning การรวมภาพแบบ NonaPixel Plus ขั้นสูง รวมพิกเซล 9 พิกเซลเป็นพิกเซลเดียวขนาดใหญ่เทียบเท่ากับขนาด 1.92 ไมครอน ซึ่งให้ความไวแสงเป็นพิเศษในสภาพแวดล้อมที่มืด สามารถรับแสงได้มากกว่าเซ็นเซอร์รุ่นก่อนหน้าถึง 96% จึงให้ภาพถ่ายในสภาวะแสงน้อยหรือในเวลากลางคืนออกมาสวยงามมากขึ้น
นอกจากจะใช้เซ็นเซอร์คุณภาพสูง OPPO Reno8 T 5G ยังมาพร้อม AI Portrait Super Resolution อัลกอริทึม AI ที่ได้รับการฝึกฝนจากตัวอย่างมากกว่า 200,000 ตัวอย่าง ทั้งภาพพอร์ตเทรตที่ชัดเจนและภาพที่เบลอ โดย AI Portrait Super Resolution สามารถจดจำ วิเคราะห์ และปรับภาพพอร์ตเทรตที่ถ่ายให้เหมาะสมได้ แม้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มืดหรือมีแสงน้อย ช่วยลดสัญญาณรบกวน และเพิ่มความคมชัดของภาพในการถ่ายภาพพอร์ตเทรต
เมื่อเปิดแอปกล้องขึ้นมา จะพบกับโหมดถ่ายภาพ Night, Video, Photo, Portrait ส่วนโหมดอื่นๆ ถูกรวมอยู่ใน More ได้แก่ Pro, Extra HD, Panorama, Slow-Motion, Time-Lapse, Dual-View Video, Microscope, Sticker และ Text scanner
โหมด Photo รองรับการซูมแบบดิจิทัลสูงสุด 6 เท่า มีเครื่องมือที่รวมฟีเจอร์ Retouch (ปรับใบหน้าให้ดูดีขึ้น) และ Filters (เปลี่ยนโทนสีหรืออารมณ์ของภาพถ่าย) แถบเครื่องมือด้านบนมีฟีเจอร์ AI Scene Enhancement ช่วยปรับปรุงสีสันของภาพให้อัตโนมัติ ตามฉากหรือวัตถุที่ AI ระบุได้ และเมื่อแตะที่ปุ่มเมนู จะพบกับฟีเจอร์ Hi-res (108MP) และ Auto HDR
โหมด Portrait มาพร้อม AI Portrait Retouching ที่ใช้อัลกอริทึมจดจำใบหน้าของ OPPO ช่วยให้ผู้ใช้งานปรับ Retouch ได้อย่างละเอียดแบบเรียลไทม์ เพื่อให้ใบหน้าดูดีอย่างเป็นธรรมชาติ และยังมี Bokeh Flare Portrait ซ่อนอยู่ใน Filters สามารถละลายฉากหลังด้วยเอฟเฟกต์ดวงไฟโบเก้ เหมือนถ่ายภาพด้วยกล้องมืออาชีพ
โหมด Microscope เป็นอีกความน่าสนใจของ OPPO Reno8 T 5G สามารถถ่ายภาพด้วยกำลังขยาย 20 และ 40 เท่า ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยให้ถ่ายภาพวัตถุขนาดเล็กเท่านั้น แต่ยังสามารถถ่ายภาพพื้นผิวหรือวัตถุที่ต้องการเห็นรายละเอียดเล็กๆ ที่กล้องตัวอื่นไม่สามารถทำได้ ช่วยเปิดมุมมองใหม่ๆ ในการถ่ายภาพ
โหมด Video รองรับการซูมแบบดิจิทัลสูงสุด 6 เท่า สามารถบันทึกวิดีโอในความละเอียด Full HD 1080p หรือ HD 720p โดยมีฟีเจอร์ Retouch (ปรับใบหน้าให้ดูดีขึ้น) และ Filters (เปลี่ยนโทนสีหรืออารมณ์ของวิดีโอ) มาให้ใช้งานด้วย อีกทั้งยังมีโหมด Dual-View Video ที่สามารถเปิดใช้งานกล้องหน้าและกล้องหลังพร้อมกัน เหมาะสำหรับการถ่าย Vlog
โหมด Night ซูมได้สูงสุด 6 เท่าเช่นกัน และได้รับ Filters อย่าง Cosmopolitan, Astral และ Dazzle ช่วยเปลี่ยนโทนสีหรืออารมณ์ของภาพถ่ายยามค่ำคืน ซึ่งเป็น Filters สำหรับภาพถ่ายในยามค่ำคืน แตกต่างจาก Filters ในโหมด Photo
กล้องหน้า 32MP Selfie Camera
OPPO Reno8 T 5G ได้รับกล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 ชุดเลนส์ 5P ให้มุมมองภาพ 89 องศา โดยซ่อนกล้องหน้าไว้ในหลุมบนหน้าจอแบบ Punch-Hole Display
โหมด Photo ของกล้องหน้ามีฟีเจอร์ Retouch และ Filters มาให้เช่นกัน แต่การ Retouch ทำได้ละเอียดกว่า เพราะมีครื่องมือปรับแต่งความงามบนใบหน้าที่แตกต่างกัน 8 แบบ และยังมีอัลกอริทึม AI Imperfection Removal สามารถลบรอยตำหนิต่างๆ บนใบหน้า เช่น จุดด่างดำหรือผิวไหม้จากแสงแดด ขณะที่ยังคงรักษาลักษณะส่วนบุคคล เช่น ไฝ เอาไว้ได้ โหมด Photo ยังมี Selfie HDR รองรับการถ่ายเซลฟี่ย้อนแสง หรือ อยู่ในบริเวณที่ฉากหลังมีความสว่างกว่า เพียงเปิดฟีเจอร์ Auto HDR บนแถบเครื่องมือด้านบน (ค่าเริ่มต้นจะเปิดใช้งานอยู่แล้ว) ทำให้ภาพถ่ายมีรายละเอียดดีขึ้นทั้งในส่วนที่มืดและสว่าง
โหมด Portrait ของกล้องหน้ามี Filters อย่าง Bokeh Flare Portrait มาให้เช่นกัน และยังมี AI Color Portrait ทำให้ได้ภาพถ่ายบุคคลที่มีสีสันโดดเด่นจากพื้นหลังที่ถูกย้อมเป็นสีขาวดำโหมด Night ของกล้องหน้า มีฟีเจอร์ Retouch ที่สามารถปรับแต่งใบหน้าได้อย่างละเอียดทั้งผิว แก้ม ขนาดดวงตา จมูก เช่นเดียวกับโหมด Photo
โหมด Video ของกล้องหน้า รองรับความละเอียด Full HD 1080p หรือ HD 720p ไม่สามารถซูมได้ แต่มีฟีเจอร์ Retouch (ปรับใบหน้าให้ดูดีขึ้น) และ Filters (เปลี่ยนโทนสีหรืออารมณ์ของวิดีโอ) มาให้ใช้งานเช่นกัน รวมถึงโหมด Dual-View Video
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้า
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลัง
ชิป Snapdragon 695 5G
OPPO Reno8 T 5G ใช้ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 695 5G ซึ่งถูกสร้างขึ้นบนเทคโนโลยีการผลิตระดับ 6 นาโนเมตร ประกอบด้วยซีพียู 64-bit Octa-Core สามารถทำความเร็วนาฬิกาได้สูงสุด 2.2GHz มาพร้อมจีพียู Adreno 619 มีประสิทธิภาพของซีพียูดีขึ้นสูงสุด 15% จีพียูดีขึ้นสูงสุด30% เมื่อเทียบกับชิป Snapdragon 690 อีกทั้งยังให้ประสบการณ์ 5G ที่เร็วขึ้น โดยใช้พลังงานน้อยลง
ด้านความจำ มาพร้อม RAM 8GB จับคู่กับ ROM 128GB หรือ 256GB ขยายความจุได้อีก 1TB ผ่านการ์ด MicroSD รองรับฟีเจอร์ RAM Expansion สามารถขยายความจำ RAM ได้อีก 8GB ผ่าน Virtual RAM (ยืมพื้นที่จาก ROM) จึงเปรียบเสมือนมี RAM ถึง 16GB ตอบสนองการทำงานแบบ Multitasking สามารถเปิดแอปพลิเคชั่นได้หลายแอปพร้อมกัน และสลับระหว่างแอปได้อย่างลื่นไหล
OPPO Reno8 T 5G ยังได้รับเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด Dynamic Computing Engine ที่พัฒนาโดย OPPO ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการจัดตารางเวลา และการกู้คืนทรัพยากรการประมวลผล เพื่อเพิ่มความเร็ว และความเสถียรโดยรวม สามารถเพิ่มความเร็วในการเปิดแอปได้มากถึง 11% นอกจากนี้ ยังช่วยให้แอปต่างๆ ทำงานในพื้นหลังได้มากขึ้น รองรับการเปิดแอปทิ้งไว้ในพื้นหลังได้มากถึง 22 แอป ด้วยความจำ RAM 8GB
นอกจากประสิทธิภาพการใช้งานที่ลื่นไหล OPPO Reno8 T 5G ยังผ่านการทดสอบ 48-Month Fluency Protection ซึ่งเป็นการทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานในระยาว เพิ่มความมั่นใจได้ว่า OPPO Reno8 T 5G จะตอบสนองการทำงานได้อย่างลื่นไหลตลอดอายุการใช้งาน
ชาร์จเร็ว 67W SUPERVOOCTM
ถึงแม้จะมีดีไซน์ Ultra-Slim แต่ OPPO Reno8 T 5G ก็ได้รับความจุแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 4,800mAh จึงรองรับการใช้งานได้ยาวนานตั้งแต่เช้าจรดค่ำ สามารถแสตนด์บายได้นานถึง 389 ชั่วโมง ซึ่งมากกว่า 16 วัน โดยสนับสนุนเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 67W SUPERVOOC (แถมอุปกรณ์ชาร์จเร็วมาให้ในกล่อง ไม่ต้องซื้อเพิ่ม)
ทคโนโลยีชาร์จเร็ว 67W SUPERVOOCTM ช่วยให้ OPPO Reno8 T 5G พร้อมใช้งานอยู่ตลอดเวลา เพราะใช้เวลาชาร์จเพียง 5 นาที ก็สามารถนำไปโทรคุยได้นาน 5.59 ชั่วโมง หรือชมวิดีโอได้นาน 3.56 ชั่วโมง และใช้เวลา 44 นาที ก็สามารถชาร์จแบตเตอรี่ความจุ 4,800mAh ได้เต็ม 100%
OPPO Reno8 T 5G ยังมาพร้อม Battery Health Engine เอกสิทธิ์เฉพาะของ OPPO ช่วยรักษาอายุการใช้งานแบตเตอรี่ให้ยาวนานยิ่งขึ้น จนสามารถขยายได้สูงสุดถึง 1,600 รอบการชาร์จ/คายประจุ มากกว่า 2 เท่า เมื่อเทียบกับแบตเตอรี่ของสมาร์ตโฟนทั่วไป ที่มีอายุการใช้งาน 800 รอบ หมายความว่า แบตเตอรี่ของ OPPO Reno8 T 5G ยังคงอยู่ในสภาพดีแม้ผ่านการใช้งานเป็นเวลา 4 ปี ขณะที่สมาร์ตโฟนทั่วไป แบตเตอรี่อาจจะเริ่มเสื่อมเมื่อมีอายุ 2 ปี
ความปลอดภัยระหว่างการชาร์จแบตเตอรี่ OPPO ก็ให้ความสำคัญเช่นกัน นอกจากจะชาร์จเร็วแล้ว OPPO Reno8 T 5G ยังได้รับการป้องกันการชาร์จ 5 ชั้น ประกอบด้วย การป้องกันการโอเวอร์โหลดของอะแดปเตอร์, สภาพแวดล้อมการชาร์จเร็ว, การป้องกันการโอเวอร์โหลดอินเทอร์เฟซ, การป้องกันกระแสแบตเตอรี่โอเวอร์โหลด และ การป้องกันฟิวส์แบตเตอรี่ เรียกได้ว่าให้ความปลอดภัยตลอดกระบวนการชาร์จ และป้องกันตั้งแต่อุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่ไปจนถึงสมาร์ตโฟน (ตราบใดที่ใช้อุปกรณ์ของแท้ที่ OPPO แถมมาให้ในกล่อง และไม่มีการดัดแปลงแก้ไขตัวเครื่องสมาร์ตโฟน)
ColorOS 13
OPPO Reno8 T 5G ทำงานบนระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นล่าสุด ColorOS 13 ที่ได้รับการพัฒนาให้มีความฉลาดมากขึ้น เพื่อตอบสนองการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เน้น User Interface ที่ใช้งานง่าย เป็นมิตรกับมือใหม่ และยังมีฟีเจอร์พิเศษเอกสิทธิ์สมาร์ตโฟนของ OPPO
หนึ่งในฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจของ ColorOS 13 คือ Smart Always-On Display ไม่เพียงแต่เป็นโหมด AOD ที่ให้ข้อมูลพื้นฐาน แต่ยังสามารถควบคุมการเล่นเพลงบน Spotify ได้ด้วย ช่วยให้ผู้ใช้งานควบคุมการเล่นเพลง โดยไม่ต้องเปิดเข้าไปในแอป จึงสามารถประหยัดแบตเตอรี่ได้ดียิ่งขึ้น
Auto Pixelate สามารถจดจำและแยกพิกเซลข้อมูลที่ละเอียดอ่อนโดยอัตโนมัติ เพื่อช่วยในการเบลอรูปโปรไฟล์และชื่อในภาพหน้าจอแชทโดยอัตโนมัติ ด้วยการแตะเพียงครั้งเดียว จึงประหยัดเวลาในการรักษาข้อมูลส่วนตัว เมื่อต้องการแชร์แชท โดยไม่ต้องกังวลว่าจะเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวที่มากเกินไป
Private Safe ได้รับการเข้ารหัสด้วย Advanced Encryption Standard (AES) ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย เพื่อให้ไฟล์ส่วนตัวมีความปลอดภัยสูง Security Authentication for Privacy วางใจได้ในการปกป้องความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของผู้ใช้ ด้วยมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยที่เชื่อถือได้และการตรวจสอบความเป็นส่วนตัว โดยการรับรองจากองค์กรภายนอก เช่น ePrivacy, ISO27001, ISO27701 และ TRUSTe
OPPO Enco Air3 ฝาเคสโปร่งแสง ดีไซน์หยดน้ำ
หูฟังไร้สายแบบ TWS รุ่นใหม่ล่าสุดของ OPPO ถูกสร้างขึ้นมาภายใต้สโลแกน “Music All Around” ได้รับการออกแบบมาอย่างโดดเด่นด้วยฝาเคสโปร่งแสง มองเห็นหูฟังที่เก็บอยู่ภายใน และยังหยิบหูฟังออกมาได้อย่างสะดวก เนื่องจากฝาเคสกางได้ถึง 110 องศา พร้อมให้อายุการใช้งานยาวนานสูงสุด 25 ชั่วโมง
ดีไซน์โดดเด่นไม่ซ้ำใคร
OPPO Enco Air3 มาพร้อมเคสชาร์จทรงกลมที่มีฝาเคสโปร่งแสง มองทะลุเห็นหูฟังทั้ง 2 ข้างที่เก็บอยู่ภายใน เวลาจะหยิบติดตัวไปใช้งานก็สามารถมองเห็นได้ทันทีว่าไม่ได้ลืมหูฟังไว้ที่ไหน และยังหยิบหูฟังออกมาจากเคสได้อย่างง่ายดาย ด้วยบานพับของฝาที่กางได้กว้างถึง 110 องศา ขณะเดียวกันหูฟังก็ถูกเก็บไว้อย่างมั่นคงด้วยพลังแม่เหล็ก
หูฟัง OPPO Enco Air3 มีน้ำหนักเบาเพียงข้างละ 3.7 กรัม ขณะที่หูฟัง TWS ส่วนใหญ่ในตลาดมีน้ำหนักเกิน 4 กรัม ช่วยให้สบายหูเมื่อสวมใส่เป็นเวลานาน ส่วนดีไซน์ก็โดดเด่นไม่แพ้เคสชาร์จ ด้วยดีไซน์คล้ายหยดน้ำค้างที่ปลายก้าน และยังได้รับการออกแบบมาให้ทนน้ำในระดับ IP54 (เฉพาะตัวหูฟัง) ป้องกันเหงื่อจากการออกกำลังกาย ไปจนถึงสายฝนที่ตกลงมาเบาๆ และกันน้ำกระเซ็นได้
ไดรเวอร์ขนาดใหญ่พิเศษ
ภายในหูฟัง OPPO Enco Air3 ติดตั้งไดรเวอร์ไดนามิกขนาดใหญ่พิเศษ 13.4 มิลลิเมตร สามารถดันอากาศได้มากเป็น 2 เท่า ของไดรเวอร์ขนาด 12 มิลลิเมตร ที่พบในหูฟังไร้สายส่วนใหญ่ จึงตอบสนองเสียงเบสที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น และได้ยินเสียงร้องที่ใสชัดเจน
เพื่อประสิทธิภาพเสียงเบสที่ดียิ่งขึ้น OPPO Enco Air3 ใช้ช่องเสียงเบสอิสระมาตรฐานระบบสเตอริโอ ด้วยเส้นผ่านศูนย์กลางของท่อเสียงเบสเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า เมื่อเทียบกับ OPPO Enco Air2 ช่วยแก้ปัญหาการรั่วไหลของเสียงเบสที่มักพบในหูฟังแบบเดียวกัน ทำให้ได้เสียงเบสที่มีคุณภาพสูงกว่า
DSP ประสิทธิภาพสูง
เมื่อเทียบกับหูฟังไร้สาย TWS ในระดับกัน จะพบว่า OPPO Enco Air3 เป็นหูฟังไร้สายราคาประหยัดรุ่นแรกในตลาดที่มี DSP (Digital Signal Processor) ประสิทธิภาพสูง โดย Cadence HiFi5 inside ให้พลังประมวลผลมากถึง 25 เท่า เมื่อเทียบกับ OPPO Enco Air2
DSP เป็นไมโครโปรเซสเซอร์ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับจัดการสัญญาณเสียง สามารถขยายไดนามิกและช่วงความถี่ของหูฟังไร้สาย กำจัดเสียงรบกวนและเสียงสะท้อนที่ไม่ต้องการ และปรับ EQ ให้เหมาะสมโดยอัตโนมัติ และด้วยพลังการประมวลผลของ Cadence HiFi5 inside ทำให้ OPPO Enco Air3 รองรับการประมวลผล OPPO Alive Audio เพื่อให้เสียงเซอร์ราวด์รอบทิศทาง ในมาตรฐานระดับโรงภาพยนตร์
94ms Low Latency
OPPO Enco Air3 รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.3 ซึ่งสนับสนุนการส่งข้อมูลแบบคู่ที่มีความหน่วงจากต้นทางถึงปลายทางอยู่ที่ 94 มิลลิวินาที ขณะที่ความหน่วงของหูฟังไร้สายอยู่ที่ 47 มิลลิวินาทีเท่านั้น ทำให้ภาพและเสียงได้รับการปรับเทียบให้ตรงกัน ไม่พบปัญหาภาพมาก่อนเสียง ขณะเดียวกัน เทคโนโลยี Bluetooth 5.3 ยังได้รับการปรับปรุงให้มีความเสถียรดีขึ้น แม้อยู่ในบริเวณที่มีสัญญาณรบกวน และลดปัญหาการเชื่อมต่อขาดๆ หายๆ
นอกจากนี้ OPPO Enco Air3 ยังสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้พร้อมกัน 2 เครื่อง จึงสามารถสลับการฟังระหว่างอุปกรณ์ได้อัตโนมัติ โดยไม่ต้องเสียเวลาจับคู่ใหม่ หรือ เข้าไปเปิด-ปิดการใช้งานในการตั้งค่า
อายุการใช้งานนาน 25 ชั่วโมง
หูฟังแต่ละข้างของ OPPO Enco Air3 มีความจุแบตเตอรี่ 27mAh ให้อายุการใช้งานยาวนานสูงสุด 6 ชั่วโมง ขณะที่เคสชาร์จ มาพร้อมแบตเตอรี่ 300mAh ช่วยขยายอายุการใช้งานของหูฟังให้ยาวนานสูงสุด 25 ชั่วโมง และเมื่อเก็บหูฟังไว้ในเคสชาร์จ จะทำให้มีน้ำหนักรวมกันเพียง 37.4 กรัมเท่านั้น
สำหรับการชาร์จแบตเตอรี่ ทำได้ผ่านพอร์ต USB Type-C ของเคสชาร์จ ใช้เวลาชาร์จจนเต็ม 2 ชั่วโมง (ทั้งหูฟังและเคส ส่วนหูฟังใช้เวลาชาร์จ 1.2 ชั่วโมง) อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้งานสามารถใช้เวลาชาร์จเพียง 10 นาที ก็เพียงพอต่อการฟังเพลงได้นานถึง 2 ชั่วโมง
สรุปราคาและการจำหน่าย
OPPO Reno8 T 5G เป็นสมาร์ตโฟนที่มีคอนเซ็ปต์ The Portrait Expert จึงไม่น่าแปลกใจที่ให้ความสำคัญกับการถ่ายภาพเป็นพิเศษ โดยเฉพาะการถ่ายภาพพอร์ตเทรตก็ได้รับการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นด้วยกล้อง 108MP Portrait Camera พร้อมด้วย AI Portrait Retouching ทำให้ใบหน้าสวยงามเป็นธรรมชาติ, Bokeh Flare Portrait ละลายฉากหลังเป็นดวงไฟโบเก้เหมือนกล้อง DSLR และ AI Colour Portrait ช่วยให้ภาพเซลฟี่จากกล้องหน้าโดดเด่นมากขึ้น
สรุปแล้ว OPPO Reno8 T 5G เหมาะสำหรับผู้ที่รักการถ่ายภาพพอร์ตเทรตอย่างแท้จริง แต่ก็ไม่ลืมที่จะให้ความสำคัญกับฟีเจอร์อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นจอแสดงผล AMOLED ที่คมชัดระดับ 10-bit ทัชลื่น 120Hz ชิปประมวลผลสำหรับการเชื่อมต่อ 5G แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ รองรับชาร์จเร็ว 67W SUPERVOOC และทั้งหมดบรรจุอยู่ในตัวเครื่องที่ดีไซน์ออกมาอย่างสวยงามพรีเมี่ยม
OPPO Enco Air3 หูฟังไร้สายแบบ TWS ที่มีดีไซน์โดดเด่นไม่เหมือนใคร ฝาเคสโปร่งแสงขนาดใหญ่มองเห็นหูฟังข้างในได้อย่างชัดเจน และยังเป็นหูฟังไร้สายราคาประหยัดที่มาพร้อมตัวประมวลผลสัญญาณดิจิทัล DSP และไดรเวอร์ไดนามิกขนาดใหญ่พิเศษ 13.4 มิลลิเมตร ให้เสียงเบสคุณภาพสูง เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่เน้นดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม เพื่อการพักผ่อนในมุมโปรดของบ้านหรือภายในอาคาร
ทั้งนี้ OPPO Reno8 T 5G เปิดให้สั่งซื้อล่วงหน้า หรือ พรีออเดอร์ ในระหว่างวันที่ 9 – 16 กุมภาพันธ์ 2566 มาในราคาเริ่มต้น 13,990 บาท สำหรับรุ่น RAM 8GB + ROM 128GB และราคา 14,990 บาท สำหรับรุ่น RAM 8GB + ROM 256GB โดยมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Sunrise Gold และ Midnight Black
สำหรับผู้ที่สั่งซื้อล่วงหน้าในระหว่างวันที่ 9 – 16 กุมภาพันธ์ 2566 จะได้รับของแถมสุดพิเศษ มาในกล่อง Reno Gift Set ภายในแถมเคสมาให้อีก 1 อัน, ขาตั้งสมาร์ตโฟนทำจากโลหะอย่างดี ให้ความแข็งแรงทนทาน และ ลำโพง Bluetooth ขนาดใหญ่ ดีไซน์แบบ Soundbar นอกจากนี้ ผู้ที่สั่งจอง OPPO Reno8 T 5G ในช่วงเวลาดังกล่าว ยังได้รับบัตร E-VIP รับประกันจอแตก 1 ครั้ง ภายในระยะ 1 ปี รวมของแถมมูลค่า 7,599 บาท
และเป็นเจ้าของ OPPO Reno8 T 5G ได้ง่ายขึ้นเมื่อซื้อกับผู้ให้บริการเครือข่ายในราคาลดสูงสุด 8,000 บาท โดย OPPO Reno8 T 5G โดย OPPO Reno8 T 5G จะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการพร้อมกันวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2566 ณ OPPO Brand Shop ทุกสาขา และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ
OPPO Enco Air3 มอบอีกขั้นของประสบการณ์ความบันเทิง ด้วยประสิทธิภาพอันทรงพลังและคุณภาพ พร้อมเป็นคู่หูลุยไปในทุกไลฟ์สไตล์ เพลิดเพลินกับกิจกรรมต่างๆ ตลอดวันได้อย่างมั่นใจ มาในสีขาว Glaze White ราคา 1,999 บาท พร้อมวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นไป ที่ OPPO Brand Shop ทุกสาขาและตำแทนจำหน่ายทั่วประเทศ
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.facebook.com/oppothai
รายละเอียดผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมที่ : https://bit.ly/3RiKQVM
#OPPOReno8T5G_th #OPPO108MPPortraitCamera #ThePortraitExpert