ฟีเจอร์ Crash Detection ช่วยให้ iPhone 14 และ Apple Watch รุ่นใหม่ๆ ในปี 2022 สามารถตรวจจับการเกิดอุบัติเหตุจากการชนกันอย่างรุนแรง และสามารถแจ้งหน่วยฉุกเฉินโดยอัตโนมัติหากไม่มีการตอบสนองของผู้ใช้งาน แต่ยังคงทำงานผิดพลาดที่ยังไม่สามารถแก้ไขได้
หน่วยบริการฉุกเฉินของ Kita-Alps จังหวัดนากาโน่ ในญี่ปุ่น รายงานว่าระหว่างวันที่ 16 ธันวาคม 2022 – 23 มกราคม 2023 ได้รับสายจากการโทรที่ผิดพลาดมากถึง 134 ครั้ง โดยส่วนใหญ่โทรมาจากฟีเจอร์ Crash Detection ของผู้ใช้ iPhone 14 ที่พกพาไปเล่นสกีด้วย
ปกติแล้วหน่วยบริการฉุกเฉินของญี่ปุ่นได้รับสายทั้งหมด 919 สาย ในระยะเวลา 1 เดือนนั้น หมายความว่าสายที่ผิดพลาดประมาณ 100 สายที่เกิดจาก ฟีเจอร์ Crash Detection ของ iPhone เป็นความผิดพลาดมากกว่า 1 ใน 10 ซึ่งทำให้ทีมฉุกเฉินมีภาระเพิ่มขึ้นโดยไม่จำเป็น
นอกจากญี่ปุ่น รายงานในปลายปีที่แล้ว ก็พบว่าหน่วยบริการฉุกเฉินในสหรัฐอเมริกา ก็พบปัญหาแบบเดียวกัน
ทั้งนี้ ฟีเจอร์ Crash Detection ยังมีอยู่ใน iPhone 14 ทั้ง 4 รุ่น, Apple Watch SE (รุ่นที่ 2), Apple Watch Series 8 และ Apple Watch Ultra
ที่มา – 9to5Mac