วันนี้ Apple เผยโฉม Mac mini ใหม่ที่อัดฉีดพลังแรงโดยชิป M2 และ M2 Pro แบบใหม่หมด ทำให้ Mac mini ที่มาพร้อมชิป M2 นั้นทรงพลัง มากความสามารถ และอเนกประสงค์ยิ่งขึ้นในราคาเริ่มต้นที่ปรับใหม่เหลือเพียง 20,900 บาท ในขณะที่ชิป M2 Pro นำประสิทธิภาพระดับโปรมาอยู่ใน Mac mini เป็นครั้งแรก ช่วยให้ผู้ใช้สามารถรันเวิร์กโฟลว์ประสิทธิภาพสูงที่ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะทำได้ในดีไซน์ที่กะทัดรัดขนาดนี้ Mac mini พร้อมชิป M2 และ M2 Pro มีประสิทธิภาพที่เร็วยิ่งขึ้น หน่วยความจำแบบรวมที่มากขึ้น และความสามารถในการเชื่อมต่อที่ล้ำสมัย ทั้งยังรองรับจอภาพสูงสุด 2 จอในรุ่นที่ใช้ชิป M2 และสูงสุด 3 จอในรุ่นที่ใช้ชิป M2 Pro ซึ่งเมื่อจับคู่กับ Studio Display และอุปกรณ์เสริม Magic รวมถึงขุมพลังและความใช้ง่ายของ macOS Ventura แล้ว Mac mini จึงมอบประสบการณ์การใช้งานที่เรียกได้ว่าเป็นปรากฏการณ์ พร้อมยกระดับประสิทธิภาพการทำงานและความคิดสร้างสรรค์ของผู้ใช้ไปอีกขั้น
“Mac mini มาพร้อมความสามารถที่เหนือชั้นและการเชื่อมต่อหลากหลายแบบในดีไซน์ที่กะทัดรัด จึงมีการนำไปใช้ในหลายสถานที่และหลายรูปแบบ มาวันนี้เราตื่นเต้นอย่างยิ่งที่จะได้ยกระดับ Mac mini ไปอีกขั้นด้วยชิป M2 และ M2 Pro” Greg Joswiak รองประธานอาวุโสฝ่าย Worldwide Marketing ของ Apple กล่าว “ด้วยประสิทธิภาพที่สูงขึ้นในราคาเริ่มต้นที่ลดลง Mac mini พร้อมชิป M2 จึงมีความคุ้มค่าสุดๆ ส่วนผู้ใช้ที่ต้องการประสิทธิภาพระดับโปรที่ทรงพลัง Mac mini พร้อมชิป M2 Pro ก็แตกต่างจากเดสก์ท็อปอื่นๆ ในระดับเดียวกัน”
อีกระดับของประสิทธิภาพด้วยชิป M2 และ M2 Pro
ชิป M2 และ M2 Pro มีทั้ง CPU และ GPU เจเนอเรเชั่นถัดไปที่เร็วกว่า รวมถึง แบนด์วิดท์ หน่วยความจำที่สูงกว่ามาก และมีเดียเอนจิ้นที่ทรงพลังยิ่งขึ้น ทำให้ Mac mini มีประสิทธิภาพที่น่าทึ่งและการประหยัดพลังงานอยู่ในชั้นแนวหน้าของอุตสาหกรรมเมื่อเทียบกับ Mac mini รุ่นก่อนหน้า และทั้งสองรุ่นยังมีระบบควบคุมความร้อนอันล้ำสมัยเพื่อให้คงประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมได้นานต่อเนื่อง
Mac mini พร้อมชิป M2
Mac mini พร้อมชิป M2 มี CPU แบบ 8-core ที่ประกอบด้วยคอร์ประสิทธิภาพสูง 4 คอร์ และคอร์ประหยัดพลังงานสูง 4 คอร์ พร้อมด้วย GPU แบบ 10-core จึงเหมาะสมลงตัวสำหรับผู้ที่ต้องการความเร็วสุดขั้วและประสิทธิภาพการทำงานที่เหนือชั้นในราคาเริ่มต้นที่เป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้นเพียง 20,900 บาท โดยสำหรับการใช้งานทั่วไปในแต่ละวัน ตั้งแต่การเปิดแอปและทำงานแบบมัลติทาสก์สลับไปมาระหว่างแอปนั้นก็เร็วสุดขีด ส่วนผู้ใช้ที่ต้องทำงานจริงจังยิ่งขึ้น Mac mini พร้อมชิป M2 ก็ยังสามารถจัดการกับเวิร์กโหลดที่ต้องประมวลผลหนักๆ ได้สบาย ยิ่งกว่านั้นยังมีหน่วยความจำแบบรวมขนาดสูงสุด 24GB และแบนด์วิดท์หน่วยความจำ 100GB/s จึงสามารถทำงานอย่างการปรับแต่งภาพใน Adobe Photoshop ได้เร็วขึ้นสูงสุด 50%1 เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า และชิป M2 ยังเพิ่มความสามารถในการเร่งความเร็ว ProRes ให้กับ Mac mini ด้วย จึงตัดต่อวิดีโอใน Final Cut Pro ได้เร็วขึ้นมากกว่า 2 เท่า1 นอกจากนี้รุ่นที่ใช้ชิป M2 ยังสามารถเล่นวิดีโอ ProRes 422 ระดับ 8K ที่ 30 fps ได้สูงสุด 2 สตรีม หรือเล่นวิดีโอ ProRes 422 ระดับ 4K ที่ 30 fps ได้สูงสุด 12 สตรีม ซึ่งจากประสิทธิภาพทั้งหมดนี้ ทำให้ Mac mini เร็วกว่าวินโดวส์เดสก์ท็อปรุ่นที่ขายดีที่สุดถึง 5 เท่า2 จึงคุ้มค่าเหลือเชื่อทั้งสำหรับผู้ที่ซื้อคอมพิวเตอร์เครื่องแรก ผู้ที่อยากอัปเกรด และผู้ที่เปลี่ยนมาจาก PC
เมื่อเปรียบเทียบกับ Mac mini ที่มาพร้อม Intel Core i73 แล้ว Mac mini ที่มาพร้อมชิป M2 มีประสิทธิภาพดังนี้
- การอัปสเกลภาพด้วยการเรียนรู้ของระบบ (ML) ใน Pixelmator Pro เร็วขึ้นสูงสุด 22 เท่า
- การเรนเดอร์ไทม์ไลน์ที่ซับซ้อนใน Final Cut Pro เร็วขึ้น 9.8 เท่า
เมื่อเปรียบเทียบกับ Mac mini รุ่นก่อนหน้าที่มาพร้อมชิป M11 แล้ว Mac mini ที่มาพร้อมชิป M2 มีประสิทธิภาพดังนี้
- การแปลงวิดีโอ ProRes ใน Final Cut Pro เร็วขึ้นสูงสุด 2.4 เท่า
- ประสิทธิภาพของฟิลเตอร์และฟังก์ชั่นใน Adobe Photoshop เร็วขึ้นสูงสุด 50%
- การเล่นเกม Resident Evil: Village เร็วขึ้นสูงสุด 35%
Mac mini พร้อมชิป M2 Pro
ชิป M2 Pro นำประสิทธิภาพระดับโปรมาอยู่ใน Mac mini เป็นครั้งแรก โดยชิป M2 Pro นั้นมาพร้อม CPU สูงสุดแบบ 12-core ที่ประกอบด้วยคอร์ประสิทธิภาพสูง 8 คอร์ และคอร์ประหยัดพลังงานสูง 4 คอร์ พร้อมด้วย GPU สูงสุดแบบ 19-core ทั้งยังมี แบนด์วิดท์หน่วยความจำ 200GB/s ซึ่งมากกว่าชิป M2 ถึงสองเท่า และรองรับหน่วยความจำสูงสุด 32GB ในขณะที่ Neural Engine เจเนอเรชั่นถัดไปเร็วกว่าชิป M1 ถึง 40% ช่วยเพิ่มความเร็วให้กับงานด้าน ML อย่างการวิเคราะห์วิดีโอและประมวลผลภาพ นอกจากนี้ชิป M2 Pro ยังมาพร้อมมีเดียเอนจิ้นที่ทรงพลัง ซึ่งออกแบบมาเพื่อเร่งความเร็วในการเล่นและเข้ารหัสวิดีโอโดยที่ใช้พลังงานเพียงนิดเดียว จึงจัดการกับ Codec วิดีโอยอดนิยมได้สบาย และสามารถเล่นวิดีโอ ProRes 422 ระดับ 8K ที่ 30 fps ได้สูงสุด 5 สตรีม หรือเล่นวิดีโอ ProRes 422 ระดับ 4K ที่ 30 fps ได้สูงสุด 23 สตรีม ส่วนรุ่นที่ใช้ชิป M2 Pro นั้นมีประสิทธิภาพเร็วกว่า Mac mini ที่ใช้โปรเซสเซอร์ Intel ที่เร็วที่สุดถึง 14 เท่า3
เมื่อเปรียบเทียบกับ iMac รุ่น 27 นิ้ว ที่มี Intel Core i7 และ Radeon Pro 5500 XT4 แล้ว Mac mini ที่มาพร้อมชิป M2 Pro มีประสิทธิภาพดังนี้
- ประสิทธิภาพของฟิลเตอร์และฟังก์ชั่นใน Adobe Photoshop เร็วขึ้นสูงสุด 50%
- การรวมภาพพาโนรามาใน Adobe Lightroom Classic เร็วขึ้นสูงสุด 5.5 เท่า
- การติดตามวัตถุใน Final Cut Pro เร็วขึ้นสูงสุด 4.4 เท่า
เมื่อเปรียบเทียบกับ Mac mini รุ่นก่อนหน้าที่มาพร้อมชิป M11 แล้ว Mac mini ที่มาพร้อมชิป M2 Pro มีประสิทธิภาพดังนี้
- ประสิทธิภาพกราฟิกใน Affinity Photo เร็วขึ้นสูงสุด 2.5 เท่า
- การแปลงวิดีโอ ProRes ใน Final Cut Pro เร็วขึ้นสูงสุด 4.2 เท่า
- การเล่นเกม Resident Evil: Village เร็วขึ้นสูงสุด 2.8 เท่า
Mac mini พร้อมชิป M2 Pro ช่วยให้ผู้ใช้สามารถรันเวิร์กโฟลว์ประสิทธิภาพสูงอย่างที่ไม่เคยคิดว่าจะทำได้บนเครื่องที่มีรูปทรงกะทัดรัดแบบนี้ ตัวอย่างเช่น นักดนตรีสามารถสร้างงานเพลงด้วยปลั๊กอินและเอฟเฟ็กต์ที่ทรงพลังแบบไม่มีพลาดสักจังหวะ ในขณะที่ช่างภาพสามารถปรับแต่งไฟล์ภาพขนาดใหญ่ได้ในพริบตา ส่วนนักสร้างสรรค์ก็สามารถทำงานในแบบมัลติแคมกับกล้องหลายรูปแบบได้อย่างราบรื่น ซึ่งรวมถึงวิดีโอ ProRes ส่วนคอเกมก็สามารถเล่นเกมที่ต้องประมวลผลหนักๆ ในคุณภาพระดับคอนโซล ด้วยประสิทธิภาพในการเล่นเกมที่เร็วขึ้นสูงสุด 15 เท่า เมื่อเทียบกับ Mac mini ที่ใช้โปรเซสเซอร์ Intel ที่เร็วที่สุด3
การเชื่อมต่ออันล้ำสมัย
Mac mini ยังคงโดดเด่นเรื่องการเชื่อมต่อที่ครบเครื่องพร้อมด้วยพอร์ตหลากหลายแบบ โดยรุ่นที่ใช้ชิป M2 มีพอร์ต Thunderbolt 4 จำนวน 2 พอร์ต และรองรับจอภาพสูงสุด 2 จอ ส่วนรุ่นที่ใช้ชิป M2 Pro มีพอร์ต Thunderbolt 4 จำนวน 4 พอร์ต และรองรับจอภาพสูงสุด 3 จอ นอกจากนี้รุ่นที่ใช้ชิป M2 Pro ยังรองรับจอภาพ 8K หนึ่งจอ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกสำหรับ Mac อีกด้วย และทั้งสองรุ่นก็มาพร้อมพอร์ต USB-A จำนวน 2 พอร์ต, HDMI จำนวน 1 พอร์ต, Gigabit Ethernet พร้อมตัวเลือก 10GB จำนวน 1 พอร์ต และช่องต่อหูฟังที่อัปเกรดใหม่เพื่อรองรับหูฟังความต้านทานสูง นอกจากนี้ในด้านการเชื่อมต่อแบบไร้สาย ทั้งสองรุ่นใหม่นี้ยังรองรับมาตรฐานล่าสุดด้วย Wi-Fi 6E5 ที่รับส่งข้อมูลได้เร็วขึ้นสูงสุด 2 เท่า รวมถึง Bluetooth 5.3
ประสบการณ์เดสก์ท็อประดับพลิกวงการด้วย Studio Display และอุปกรณ์เสริม Magic
Mac mini ที่จับคู่กับ Studio Display และอุปกรณ์เสริม Magic พร้อมมอบประสบการณ์ เดสก์ท็อประดับพลิกวงการ โดย Studio Display จะเข้ามาเติมเต็มประสบการณ์การใช้งานเดสก์ท็อป Mac ด้วยจอภาพ Retina 5K ขนาดใหญ่ 27 นิ้ว, กล้องอัลตร้าไวด์ความละเอียด 12MP พร้อมคุณสมบัติจัดให้อยู่ตรงกลาง, ชุดไมโครโฟน 3 ตัวคุณภาพระดับสตูดิโอ และระบบเสียง 6 ลำโพงที่มาพร้อมระบบเสียงตามตำแหน่ง นอกจากนี้ลูกค้ายังสามารถเพิ่มอุปกรณ์เสริม Magic ซึ่งเข้ากับดีไซน์อันเรียบหรูของ Mac mini และ Studio Display อย่างลงตัว
macOS Ventura
เมื่อใช้งานกับ macOS Ventura แล้ว Mac mini ก็จะมีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้นไปอีกและช่วยให้ผู้ใช้ทำงานได้ดียิ่งขึ้น ด้วยการอัปเดตที่ทรงพลังอย่างความต่อเนื่องของกล้องที่นำคุณสมบัติสำหรับการประชุมแบบวิดีโอมาอยู่บน Mac ทุกเครื่อง รวมถึงมุมมองด้านหน้าโต๊ะ จัดให้อยู่ตรงกลาง แสงไฟสตูดิโอ และอีกมากมาย ขณะที่ Handoff ใน FaceTime ก็ช่วยให้ผู้ใช้เริ่มโทร FaceTime บน iPhone หรือ iPad แล้วส่งต่อมาที่ Mac หรือกลับกันได้แบบไม่มีสะดุด และยังมีเครื่องมืออย่างตัวจัดการให้อยู่ตรงกลาง หรือ Stage Manager ที่จะจัดระเบียบแอปและหน้าต่างโดยอัตโนมัติ เพื่อให้ผู้ใช้จดจ่อกับสิ่งที่ทำอยู่ได้เต็มที่โดยที่ยังคงมองเห็นทุกอย่างได้เพียงแค่เหลือบมอง
แอปข้อความและเมลดียิ่งกว่าที่เคย ในขณะที่ Safari ซึ่งเป็นเบราว์เซอร์ที่เร็วที่สุดในโลกบน Mac นั้น ก็ก้าวล้ำเข้าสู่อนาคตแบบไร้รหัสผ่านด้วยพาสคีย์ นอกจากนี้ยังมีคลังรูปภาพ iCloud ที่แชร์ ซึ่งให้ผู้ใช้สร้างและแชร์คลังรูปภาพแยกอีกคลังในกลุ่มสมาชิกครอบครัวได้สูงสุด 6 คน และมีแอป Freeform ใหม่เป็นผืนผ้าใบที่ยืดหยุ่นที่ช่วยให้ผู้ใช้ทำงานและถ่ายทอดความคิดได้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะวางแผนหรือระดมความคิดด้วยตัวเองหรือร่วมกับคนอื่น ส่วนการเล่นเกมบน Mac ก็ดียิ่งกว่าที่เคยจากขุมพลังและความนิยมของ Apple Silicon และเครื่องมือใหม่ๆ สำหรับนักพัฒนาใน Metal 3
Mac mini กับสิ่งแวดล้อม
Mac mini ได้รับการออกแบบมาเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้เหลือน้อยที่สุด ซึ่งรวมถึงการใช้วัสดุรีไซเคิล 100% ดังต่อไปนี้ ได้แก่ อะลูมิเนียมในตัวเครื่อง แร่โลหะหายากในแม่เหล็กทั้งหมด ดีบุกในบัดกรีของแผงวงจรหลัก และทองคำในการเคลือบแผงวงจรพิมพ์หลายชิ้น ยิ่งกว่านั้นยังใช้พลาสติกรีไซเคิล 35% หรือมากกว่าในส่วนประกอบหลายชิ้นและตรงตามมาตรฐานระดับสูงของ Apple ด้านการประหยัดพลังงาน อีกทั้งยังปลอดสารอันตรายหลายชนิด และบรรจุภัณฑ์ 96% ใช้เยื่อไม้เป็นหลัก จึงทำให้ Apple เข้าใกล้เป้าหมายในการเลิกใช้พลาสติกในบรรจุภัณฑ์ทั้งหมดภายในปี 2025 มากยิ่งขึ้น
วันนี้การดำเนินงานของบริษัท Apple ทั่วโลกมีความเป็นกลางทางคาร์บอน และภายในปี 2030 เราวางแผนที่จะมีความเป็นกลางทางคาร์บอน 100% ในทุกภาคส่วนของธุรกิจ ซึ่งรวมถึงซัพพลายเชนการผลิตและวงจรชีวิตของสินค้าทั้งหมด นั่นหมายความว่าอุปกรณ์ Apple ทุกเครื่องที่จำหน่ายจะไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อสภาพภูมิอากาศ ตั้งแต่การผลิตชิ้นส่วน การประกอบ การขนส่ง การใช้งานของลูกค้า การชาร์จ ตลอดจนการรีไซเคิลและการคัดแยกวัสดุ
ราคาและความพร้อมในการวางจำหน่าย
- Mac mini พร้อมชิป M2 ราคาเริ่มต้นที่ 20,900 บาท และ 17,400 บาท สำหรับราคาส่งเสริมการศึกษา ดูข้อมูลทางเทคนิคเพิ่มเติมที่ apple.com/th/mac-mini
- Mac mini พร้อมชิป M2 Pro ราคาเริ่มต้นที่ 45,900 บาท และ 42,400 บาท สำหรับราคาส่งเสริมการศึกษา ดูข้อมูลทางเทคนิคเพิ่มเติมที่ apple.com/th/mac-mini
- ดูข้อมูลทางเทคนิคและรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Studio Display และอุปกรณ์เสริม Magic ที่ apple.com/th/store
- ลูกค้าทุกท่านที่ซื้อ Mac จาก Apple สามารถเข้าร่วม Online Personal Session ฟรีกับ Apple Specialist, รับบริการตั้งค่าผลิตภัณฑ์ที่ร้านหลายสาขา รวมถึงความช่วยเหลือในการถ่ายโอนข้อมูล และคำแนะนำเกี่ยวกับการปรับแต่ง Mac เครื่องใหม่ให้ทำงานอย่างที่ต้องการ
- AppleCare+ สำหรับ Mac มอบบริการช่วยเหลือด้านเทคนิคและความคุ้มครองด้านฮาร์ดแวร์จาก Apple เพิ่มเติม รวมทั้งความคุ้มครองด้านความเสียหายจากอุบัติเหตุแบบไม่จำกัดจำนวนครั้ง โดยแต่ละครั้งมีค่าธรรมเนียมการให้บริการ