OPPO แนะนำสมาร์ทแบนด์รุ่นใหม่ OPPO Band 2 สำหรับทำตลาดในประเทศไทย หลังจากที่เปิดตัว OPPO Band รุ่นแรกไปในปีที่แล้ว โดยชูสโลแกน “Your Sports Assistant – สมาร์ทแบนด์ดีไซน์เทรนดี้ ผู้ช่วยในการออกกำลังกายระดับมืออาชีพ” ซึ่งชัดเจนว่า มีจุดเด่นที่การออกแบบทันสมัย เข้ากับทุกสไตล์การแต่งตัวในชีวิตประจำวัน และยังรับหน้าที่เป็นเทรนเนอร์ส่วนตัวในการออกกำลังกายอย่างจริงจัง
สเปก OPPO Band 2
- จอแสดงผล AMOLED ขนาด 1.57 นิ้ว
- เซ็นเซอร์ gyroscope optical heart rate, optical pulse oximetry sensor
- ติดตามการออกกำลังกาย 100 โหมด
- ตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจ, ตรวจวัดออกซิเจนในเลือด, ตรวจสอบความเครียด, ติดตามการนอนหลับ
- โปรเซสเซอร์ Apollo 3.5
- ความจำ 8 MB PSRAM + 128 MB NAND
- การเชื่อมต่อ Bluetooth 5.0
- รองรับการทำงานร่วมกับอุปกรณ์ Android 6 ขึ้นไป และ iOS 13 ขึ้นไป
- มาตรฐานป้องกันน้ำ 5 ATM
- แบตเตอรี่ 200mAh
- อายุการใช้งานแบตเตอรี่ นานสูงสุด 14 วัน
- ขนาด 45.3 x 29.1 x 10.6 มิลลิเมตร (หรือ 11.4 มิลลิเมตร รวมเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ)
- น้ำหนัก 20 กรัม (ไม่รวมสาย)
- มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีฟ้า Baby Blue และ สีดำ Midnight Black
แกะกล่อง OPPO Band 2
OPPO Band 2 ถูกเก็บไว้ในกล่องสีขาว หน้ากล่องพิมพ์รูปภาพด้านหน้าของอุปกรณ์ไว้อย่างชัดเจน คู่กับชื่อ Band ในแนวตั้ง หลังกล่องบอกรายละเอียดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ในเรื่องของแบตเตอรี่ มาตรฐานป้องกันน้ำ และความเข้ากันได้กับอุปกรณ์อื่นที่สามารถจับคู่ได้
ภายในกล่องจะพบว่า OPPO Band 2 ถูกห่อไว้ในซอง และได้รับการติดตั้งสายมาให้แล้ว นอกจากนี้ ยังมาพร้อมสายชาร์จแบบแม่เหล็ก คู่มือแนะนการใช้งานเบื้องต้น และ คู่มือด้านความปลอดภัย
ดีไซน์เทรนดี้
OPPO Band 2 มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีฟ้า Baby Blue และ สีดำ Midnight Black โดยทีมงาน @Flashfly ได้รับสี Baby Blue มารีวิว ซึ่งเป็นสีที่ให้ความรู้สึกสดใสมีชีวิตชีวา เนื่องจากมาพร้อมสายซิลิโคนแบบทูโทน ข้างหนึ่งเป็นสีฟ้า อีกข้างใช้สีขาว ขอบตัวเครื่องสีบรอนซ์เงิน ตัดกับแผงหน้าปัดสีดำ ทำให้ภาพรวมดูทันสมัย ขณะที่สี Midnight Black จะถูกคุมโทนด้วยสีดำทั้งหมด เหมาะสำหรับผู้ใช้งานส่วนใหญ่ ที่ไม่เน้นความเรียบง่าย
OPPO Band 2 มาพร้อมจอแสดงผล AMOLED ระบบสัมผัส ขนาด 1.57 นิ้ว มีจุดเด่นที่หน้าปัดรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ซึ่งให้พื้นที่แสดงข้อมูลได้กว่ากว่าสมาร์ทแบนด์ทั่วไป ที่ใช้หน้าปัดรูปทรงรี
ขอบด้านข้างไม่มีปุ่มกดใดๆ วัดความบางวัดได้ 10.6 มิลลิเมตร อย่างไรก็ตาม หากวัดรวมเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจที่อยู่ด้านหลัง จะมีความบาง 11.4 มิลลิเมตร น้ำหนักเบาเพียง 20 กรัม แต่ถ้าชั่งรวมสายจะมีน้ำหนัก 33 กรัม
ด้านหลังเป็นตำแหน่งของเซ็นเซอร์ optical heart rate และ optical pulse oximetry รวมถึงหมุดแม่เหล็ก 2 จุด สำหรับแนบกับอุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่ที่แถมมาให้ในกล่อง
สายซิลิโคนมีความยาว 130 – 210 มิลลิเมตร สวมใส่สบาย ระบายอากาศได้ดี ไม่ว่าจะใส่เพื่อออกกำลังกาย หรือ ใส่นอนในเวลากลางคืน มาพร้อมตัวล็อคแบบสายนาฬิกาข้อมือทั่วไป โดยใช้วัสดุพลาสติก และสามารถอดเปลี่ยนสายได้
นอกจากนี้ OPPO Band 2 ยังได้รับการออกแบบมาให้สามารถป้องกันน้ำในระดับ 5 ATM (กันน้ำได้สูงถึง 50 เมตร) จึงสามารถสวมใส่ระหว่างว่ายน้ำในสระ หรือ เล่นน้ำกลางแจ้งได้ แต่ไม่ควรสวมใส่เข้าไปในห้องอบไอน้ำ ดำน้ำ หรือ เล่นกีฬาทางน้ำแบบผาดโผน
จอสัมผัสสีสันคมชัด
OPPO Band 2 มาพร้อมจอแสดงผล AMOLED ระบบสัมผัส ขนาด 1.57 นิ้ว ความละเอียด 256 x 402 พิกเซล (302 PPI) ความลึกสี 16.7 ล้านสี ระดับเดียวกับสมาร์ทโฟนทั่วไป จึงให้สีสันสวยงามคมชัด อีกทั้งยังให้ความสว่างสูงสุด 500 นิต และได้รับการป้องกันด้วยกระจก 2.5D
เมื่อเทียบกับ OPPO Band รุ่นแรกที่ออกมาในปี 2021 จะพบว่า OPPO Band 2 มีอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องสูงกว่ารุ่นก่อนถึง 47% และให้พื้นที่แสดงผลที่ใหญ่ขึ้นถึง 74% จึงแสดงข้อมูลต่างๆ บนหน้าจอได้ครบถ้วนมากขึ้น และด้วยเทคโนโลยีจอภาพ AMOLED ผสานกับความสว่างสูงสุด 500 นิต ก็ช่วยทำให้ผู้สวมใส่มองเห็นหน้าจอได้อย่างชัดเจน แม้อยู้ในที่กลางแจ้ง
ปรับแต่งหน้าปัดได้หลายสไตล์
OPPO Band 2 มีหน้าปัด (Watch Face) ให้เลือกเปลี่ยนมากกว่า 150 รูปแบบ และทำได้ง่ายๆ เพียงแตะหน้าจอหลักค้างไว้ โดยหน้าปัดแต่ละแบบจะแสดงกราฟิกและให้ข้อมูลที่แตกต่างกันไป โดยผู้ใช้งานยังสามารถปรับแต่งวิดเจ็ตหน้าปัดให้เหมาะกับความต้องการได้มากถึง 12 วิดเจ็ต
ผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งหน้าปัด OPPO Band 2 ให้เข้ากับเสื้อผ้าเครื่องแต่งกันในแต่ละวันได้ง่ายๆ ผ่านฟีเจอร์ AI Outfit Watch Face 2.0 โดยทำงานร่วมกับแอปพลิเคชั่น HeyTap Health บนสมาร์ทโฟน เพียงใช้กล้องของสมาร์ทโฟนจับภาพเสื้อผ้าที่สวมใส่ AI ก็จะออกแบบหน้าปัดที่เข้ากันมาให้เลือก
OPPO Band 2 ยังสามารถใช้รูปภาพในสมาร์ทโฟนมาตั้งค่าเป็นหน้าปัดได้ และยังสามารถใช้ฟีเจอร์ Light Paint วาดภาพหน้าปัดขึ้นมาใหม่ เพื่อสร้างเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร ( AI Outfit Watch Face 2.0 และ Light Paint รองรับเฉพาะอุปกรณ์ Android เท่านั้น)
ออกกำลังกายอย่างมืออาชีพ
OPPO Band 2 รับหน้าที่เป็นเทรนเนอร์ส่วนตัวเพื่อช่วยยกระดับการออกกำลังกายให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สามารถติดตามการออกกำลังกายได้มากถึง 100 โหมด ไม่ว่าจะเป็นการเดิน, วิ่ง, ปั่นจักรยาน, ว่ายน้ำ, โยคะ และ อีกหลายชนิดกีฬาที่ได้รับความนิยมของคนส่วนใหญ่ โดยมีจุดเด่นที่สามารถติดตามการออกกำลังการได้อัตโนมัติ 4 โหมด ได้แก่ เดิน, วิ่ง, ใช้เครื่อง Elliptical Machine และ Rowing Machine
นอกจากติดตามการออกกำลังกายได้อย่างครอบคลุมทุกชนิดกีฬา OPPO Band 2 ยังให้คำแนะนำในการออกกำลังกายตามหลักวิทยาศาสตร์ได้อีกด้วย เพื่อช่วยให้ผู้สวมใส่สามารถวิ่งได้อย่างปลอดภัย และมีประสิทธิภาพสูงสุด ด้วยการตรวจสอบอัตราการเต้นของหัวใจระหว่างวิ่ง, ประเมินค่า CRF (Cardiorespiratory Fitness) จากการวัดค่า VO2 Max และ ให้คำแนะนำในการฟื้นฟูร่างกายหลังจากการวิ่ง นอกจากนี้ ยังมีหลักสูตรการวิ่งระดับมืออาชีพถึง 13 คอร์ส คอยแนะนำให้ใช้ความเร็วตามอัตราการเต้นของหัวใจ
OPPO Band 2 ยังช่วยยกระดับการเล่นเทนนิสจากมือสมัครเล่นเป็นมืออาชีพ ด้วยโหมดเทนนิสที่ได้รับการพัฒนาใหม่ สามารถบันทึกทุกจังหวะการเล่นของผู้สวมใส่ ไม่ว่าจะเป็นการตีด้วยหน้ามือ, การตีด้วยหลังมือ, ความเร็วในการตี, ระยะเวลาในการเล่น พร้อมทั้งวัดอัตราการเต้นของหัวใจ และคำนวณการเผาผลาญแคลอรี่ เพื่อช่วยให้ผู้สวมใส่ประเมินทักษะของตัวเองได้ดียิ่งขึ้น
ติดตามการนอนหลับด้วย OSleep
การนอนหลับอย่างเพียงพอ เป็นอีกปัจจัยที่ช่วยส่งเสริมให้มีสุขภาพร่างกายที่ดีขึ้น OPPO Band 2 จึงได้รับการปรับปรุงฟีเจอร์ติดตามสุขภาพการนอนหลับให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้นด้วย OSleep ที่คอยดูแลผู้สวมใส่ตั้งแต่ก่อนเข้านอน ระหว่างนอนหลับ จนถึงเวลาตื่นนอน
OSleep ไม่เพียงแต่ติดตามการนอนเท่านั้น ยังเริ่มทำหน้าที่ตั้งแต่ก่อนเข้านอน ด้วยการแจ้งเตือนผู้สวมใส่ OPPO Band 2 เมื่อถึงเวลานอนตามที่ตั้งค่าไว้ล่วงหน้า จากนั้นจะเปิดโหมด Sleep บนสมาร์ทโฟนที่จับคู่กัน ซึ่งเป็นการเปิดโหมดห้ามรบกวน รวมถึงโหมดป้องกันดวงตา นอกจากนี้ ยังหยุดการเล่นเพลงโดยอัตโนมัติ เพื่อสร้างบรรยากาศที่เงียบสงบก่อนเข้านอน
หลังจากเข้านอนแล้ว OSleep จะคอยตรวจสอบการนอนหลับของผู้สวมใส่ OPPO Band 2 อย่างละเอียดทุกช่วงการนอน ไม่ว่าจะเป็นหลับตื้น หลับลึก หลับฝัน (REM) จนถึงการตื่นนอน พร้อมตรวจวัดระดับออกซิเจนในเลือดอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งคืน เพื่อตรวจหาปัญหาสุขภาพ และยังสามารถประเมินความเสี่ยงจากการนอนกรนได้อีกด้วย
OSleep ใน OPPO Band 2 สามารถวิเคราะห์การนอนหลับของผู้สวมใส่ แล้วจัดทำรายงานให้ตรวจสอบย้อนหลังเมื่อตื่นนอน เพื่อดูว่าตนเองมีคุณภาพการนอนเป็นอย่าง รวมถึงดูบันทึกการนอนกรน ที่สามารถบ่งชึ้ถึงปัญหาการหายใจระหว่างนอนหลับได้
ตรวจวัดสุขภาพรอบด้าน
OPPO Band 2 มีเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจที่แม่นยำ พร้อมดูแลผู้สวมใส่ทุกเวลา สามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจตลอดวัน, วัดอัตราการเต้นของหัวใจขณะพัก (RHR) และติดตามอัตราการเต้นของหัวใจระหว่างออกกำลังกาย
นอกจากเซ็นเซอร์ Optical Heart Rate ที่ตรวจสอบอัตราการเต้นของหัวใจ OPPO Band 2 ยังมีเซ็นเซอร์ Optical Pulse Oximetry สำหรับวัดค่าออกซิเจนในเลือด (SpO2) อย่างต่อเนื่องทุกๆ 1 วินาที ซึ่งจะทำงานโดยอัตโนมัติ ขณะที่ผู้สวมใส่นอนหลับ
ถ้าชีวิตมีแต่ความเคร่งเครียด ยิ่งควรมี OPPO Band 2 ไว้บนข้อมือ เพราะสามารถตรวจสอบระดับความเครียดได้แบบเรียลไทม์ พร้อมให้คำแนะนำสำหรับการฝึกหายใจอย่างเหมาะสม ซึ่งช่วยให้ผู้สวมใส่ผ่อนคลาย OPPO Band 2 สามารถแจ้งเตือนผู้สวมใส่ให้ดื่มน้ำได้ตามเป้าหมายในแต่ละวันที่กำหนดไว้ อีกทั้งยังคอยแจ้งเตือนให้ลุกขึ้นและผ่อนคลาย เมื่อพบว่าผู้สวมใส่นั่งอยู่กับที่เป็นเวลานาน
ผู้ช่วยอัจฉริยะ
เมื่อจับคู่สมาร์ทโฟนกับ OPPO Band 2 การตั้งค่านาฬิกาปลุก และโหมดห้ามรบกวน จะซิงค์กันโดยอัตโนมัติ ผู้ใช้งานจึงไม่ต้องเข้าไปตั้งค่าด้วยตัวเองให้ยุ่งยาก รวมถึงข้อความ SMS และการโทรจากสมาร์ทโฟน ก็จะซิงค์กับ OPPO Band 2 ด้วยเช่นกัน ทำให้ผู้ใช้งานสามารถกดวางสายได้จากข้อมือโดยตรง
เพื่อให้การใช้งานมีความสะดวกสบายมากขึ้น OPPO Band 2 จึงถูกสร้างมาให้สามารถควบคุมสมาร์ทโฟนที่จับคู่ได้ ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมเพลง ไฟฉาย นาฬิกาจับเวลา นาฬิกาปลุก รับการแจ้งเตือน รวมถึงค้นหาสมาร์ทโฟนผ่านฟีเจอร์ Find My Phone
อายุการใช้งานยาวนานถึง 14 วัน
ชารเพียง 5 นาที OPPO Band 2 ก็สามารถรองรับการใช้งานได้ตลอดทั้งวัน 24 ชั่วโมง และเมื่อชาร์จแบตเตอรี่จนเต็ม ก็สามารถใช้งานทั่วไปได้ยาวนานสูงสุด 14 วัน โดยใช้เวลาชาร์จจนเต็ม 100% เพียง 60 นาทีเท่านั้น ผ่านอุปกรณ์ชาร์จที่แถมมาให้ในกล่อง กรณีใช้งานอย่างหนักหน่วง ทั้งติดตามสุขภาพ ออกกำลังกาย การทำกิจกรรม ติดตามการนอนหลับ และ เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน ก็ยังให้อายุการใช้งานานถึง 5 วัน
สรุปราคาและการจำหน่าย
เมื่อเทียบกับรุ่นแรก สามารถบอกได้ว่า OPPO Band 2 ได้รับการปรับปรุงอย่างมาก ทั้งดีไซน์ที่มีความทันสมัย ขนาดหน้าจอใหญ่ขึ้นอย่างชัดเจน แต่ยังคงมีน้ำหนักเบา สวมใส่สบายตลอดทั้งวัน และสามารถเปลี่ยนหน้าปัดให้เข้ากับเสื้อผ้าในแต่ละวันได้ด้วย AI Outfit Watch Face 2.0 ด้านสุขภาพ มีความโดดเด่นในการติดตามการออกกำลังกายที่ครอบคลุมมากกว่า 100 โหมด ไม่ว่าจะเป็นกีฬาพื้นฐานที่คนส่วนใหญ่เล่นกัน รวมไปถึงว่ายน้ำ ก็สามารถสวมใส่ลงสระได้อย่างไม่เป็นปัญหา เพราะสามารถต้านทานน้ำได้ในระดับ 5ATM และยังสามารถติดตามคุณภาพการนอนหลับได้อย่างละเอียด
OPPO Band 2 มาพร้อมแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน 14 วัน ชาร์จเต็มได้ภายใน 1 ชั่วโมง และการชาร์จเพียง 5 นาที สามารถใช้งานได้ตลอดวัน พกพาสะดวก ใช้งานได้ง่าย พร้อมเป็นคู่หูสุขภาพในทุกสถานการณ์ OPPO Band 2 วางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 เป็นต้นไป ในราคา 2,999 บาท ที่ OPPO Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ
รายละเอียดผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมที่ : https://bit.ly/3s8jXID