หลังจากวางจำหน่าย realme 9 Pro+ ในไทยไปก่อนหน้านี้ ล่าสุด realme ก็ได้เปิดตัวเกมมิ่งสมาร์ทโฟนรุ่นพิเศษ realme 9 Pro+ Free Fire Limited Edition เข้ามาเสริมทัพ เพื่อเอาใจแฟนเกม Free Fire โดยเฉพาะ และแน่นอนว่ามาพร้อมดีไซน์ที่แตกต่างไปจาก realme 9 Pro+ รุ่นปกติ รวมถึงกล่องบรรจุภัณฑ์และอุปกรณ์ภายในก็มีความพิเศษกว่า
การเปิดตัว realme 9 Pro+ Free Fire Limited Edition ในไทย ยังถือเป็นการเปิดตัวครั้งแรกในโลกด้วย และยังเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่มีการจับมือกันอย่างทางการระหว่าง realme กับเกม Free Fire ซึ่งความร่วมมือนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะซอฟต์แวร์ แต่มีการนำความเป็นเกม Free Fire มาใช้กับดีไซน์ของสมาร์ทโฟนด้วย โดยออกแบบมาภายใต้แนวคิด “Dare to BOOYAH!” ซึ่งเป็นการเล่นคำมาจากสโลแกน “Dare to Leap” ของ realme
สเปก realme 9 Pro+ Free Fire Limited Edition
- จอแสดงผล Super AMOLED ขนาด 6.4 นิ้ว
- สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ In-display Fingerprint Scanner
- วัดอัตราการเต้นของหัวใจผ่าน In-display Fingerprint Scanner
- กล้องหลัง 50MP Triple Camera (กล้องหลัก Sony IMX766 OIS)
- กล้องหน้า 16MP In-display Selfie Camera
- ชิปประมวลผล MediaTek Dimensity 920 5G
- ความจำ RAM 8GB + ROM 256GB
- ขยาย RAM ได้สูงสุด 5GB ผ่านเทคโนโลยี (Dynamic RAM Expansion)
- ระบบระบายความร้อน Vapor Chamber Cooling System
- มอเตอร์สั่นเชิงเส้นบนแกน X (X-axis Linear Motor)
- ลำโพงคู่ รองรับระบบเสียง Dolby Atmos
- การเชื่อมต่อ 5G, Wi-Fi 6 (IEEE802.11 a/b/g/n/ac/ax), Bluetooth 5.2, USB Type-C, 3.5mm Earphone Jack
- เซ็นเซอร์ Magnetic induction sensor, Light sensor, Proximity Sensor, Gyro-meter, Acceleration sensor
- ระบบนำทาง GPS/AGPS, Beidou, Glonass
- ระบบปฏิบัติการ realme UI 3.0 บนพื้นฐาน Android 12
- แบตเตอรี่ 4500mAh
- รองรับชาร์จเร็ว 60W SuperDart Charge
- ขนาดบอดี้ 160.2 x 73.3 x 7.99 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 182 กรัม
แกะกล่อง realme 9 Pro+ Free Fire Limited Edition
realme 9 Pro+ Free Fire Limited Edition มีความแตกต่างจากรุ่นปกติตั้งแต่กล่องบรรจุภัณฑ์ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ โดยตัวกล่องถูกห่อหุ้มด้วยกระดาษสีเหลืองตามธีมสีของ realme โดยมีลูกเล่นมากมายตั้งแต่พิกัดบนแผนที่ หรือคำว่า BooYah!
เมื่อแกะออกมา ก็จะพบคำว่า Dare to Fight เมื่อกางห่อกระดาษออกมาพบว่าคือรูปภาพของแผนที่เกม Free Fire นั่นเอง
หลังจากแกะแผ่นกระดาษที่ห่อหุ้มกล่องออกไป ก็จะพบซองสีดำวางอยู่บนสุด ซึ่งทาง realme ทำเป็นเหมือนซองจดหมาย ต้อนรับเข้าสู่สมรภูมิรบ ด้านในมีบัตร REDEEM รับของรางวัลในเกม และสติกเกอร์ที่รวมโลโก้และตัวละครในเกม Free Fire มาให้ 2 แผ่น
ถัดมาจะพบกล่องสีเหลืองที่หน้ากล่องมีใบหน้าของ “ชิมาดะ คิริโกะ” ตัวละครในเกม Free Fire เจ้าของฉายา Kelly The Swiftly เหนือศีรษะของ Kelly ระบุเลข 9 ขนาดใหญ่ ถัดลงมาเป็นชื่อรุ่น PRO+ และติดโลโก้ Free Fire กับ realme ไว้ที่ด้านล่าง
ด้านหลังจะระบุฟีเจอร์ที่น่าสนใจของรุ่นนี้เอาไว้
เมื่อเปิดฝากล่องขึ้นมา จะพบกับซองเอกสารสีเหลือง ซึ่งมีโลโก้ realme และ Free Fire ประทับอยู่บนซองแสดงถึงการจับมือเป็นพาร์ทเนอร์อย่างทางการ ด้านในจะมีเอกสารคู่มือการใช้งานและเข็มจิ้มถาดใส่ซิมที่ออกแบบมาได้พิเศษสุดๆเหมือนกับมีด FF Knife พร้อมคำว่า Booyah!
มาถึงสิ่งที่น่าสนใจที่สุดในกล่อง นั่นก็คือสมาร์ทโฟน realme 9 Pro+ Free Fire Limited Edition ที่ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษ พร้อมโลโก้เกม Free Fire ที่ด้านหลัง
ที่ด้านล่างสุดจะมีเคสใส สายชาร์จ USB Type-C และ อุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่ 60W SuperDart Charge มาให้ในกล่องครบครัน
Dare to BOOYAH!
realme เป็นแบรนด์ของคนรุ่นใหม่ที่เติบโตอย่างรวดเร็วตามสโลแกน “Dare to Leap” หรือ กล้าที่จะก้าวกระโดด ซึ่งเกิดจากความกล้าหาญที่ไม่กลัวความล้มเหลว พร้อมเผชิญหน้ากับความท้าทายใหม่ๆ เพื่อทำลายทุกอุปสรรค แม้จะถูกมองว่าเป็นรองคู่แข่ง แต่ก็จะใช้ความรู้สึกนั้นมาเป็นแรงผลักดันจนสามารถพลิกสถานการณ์ให้เป็นฝ่ายชนะ
ด้วยแนวคิด “Dare to Leap” ที่ทำให้แบรนด์ realme ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วแบบก้าวกระโดด ถูกถ่ายทอดมาเป็นสโลแกน “Dare to BOOYAH!” ของสมาร์ทโฟน realme 9 Pro+ Free Fire Limited Edition ซึ่ง BOOYAH! ในที่นี้ เปรียบเสมือนรสชาติแห่งความรุ่งโรจน์ เป็นเสียงแห่งชัยชนะ และที่สำคัญ มีไว้สำหรับผู้ที่ต่อสู้อย่างไม่เกรงกลัว กล้าเขียนกฎเกณฑ์ใหม่ ผู้กล้าที่จะก้าวกระโดด และเป็นม้ามืดในการแข่งขัน
ด้วยการหลอมรวมจิตวิญญาณหลักของ realme กับ Free Fire ทำให้ realme 9 Pro+ Free Fire Limited Edition เป็นสมาร์ทโฟนที่คอยสนับสนุนจิตวิญญาณของคนรุ่นใหม่ให้ “กล้าที่จะกระโดด” และกล้าที่จะท้าทายและเอาชนะตัวเอง เช่นเดียวกับ BOOYAH! ซึ่งถือเป็นตัวแทนในเกม Free Fire ให้ผู้เล่นได้แสดงออกถึงความกล้าหาญในการต่อสู้และชัยชนะ พร้อมที่จะแทรกซึมเข้าไปในหัวใจของผู้เล่นนับล้านที่อยู่ทั่วโลก
ดีไซน์พิเศษจากเกม Free Fire
การออกแบบโดยรวมของสมาร์ทโฟน realme 9 Pro+ Free Fire Limited Edition ยังเหมือนกับ realme 9 Pro+ รุ่นปกติ แต่ที่พิเศษกว่าก็คือลวดลายและสีสันที่ได้รับการออกแบบใหม่ตามธีมของเกม Free Fire ผ่านฝีมือของทีม realme Design Studio
realme 9 Pro+ Free Fire Limited Edition ยืนพื้นด้วยสีเทาอมฟ้า เสริมด้วยลวดลายที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก FF Knife และมีเอฟเฟกต์สีรุ้งเมื่อสะท้อนแสง
ด้านหลังยังติดโลโก้ Free Fire มาให้ด้วย พร้อมโลโก้ realme ในแนวตั้ง ส่วนดีไซน์ของระบบกล้องหลัง 3 ตัว จัดวางเลนส์กล้องเหมือนกับ realme 9 Pro+ รุ่นปกติ
ด้านหน้ามาพร้อมจอแสดงผล Super AMOLED ขนาด 6.4 นิ้ว และมีการติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ใต้หน้าจอด้วย สำหรับปลดล็อก ยืนยันตัวตน และยังสามารถรวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้อีกด้วย
กล้องหน้าถูกติดตั้งไว้ในหลุมที่มุมบนหน้าจอ และวางลำโพงไว้บนขอบจอด้านบนที่บางเฉียบ
ส่วนขอบด้านข้างมีความบางเพียง 7.99 มิลลิเมตร วางปุ่มเพาเวอร์ไว้ทางซ้ายของจอแสดงผล
อีกข้างจะพบปุ่มปรับระดับเสียง วางอยู่ใต้ช่องใส่ซิมการ์ด
ด้านบนมีไมโครโฟนตัวที่ 2 ช่วยลดเสียงรบกวนรอบข้าง
ด้านล่างประกอบด้วย ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร, ไมโครโฟน, พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C และ ลำโพงตัวหลัก
นอกจากนี้ทาง realme ยังได้ใส่ Wallpaper สุดพิเศษพร้อมไอคอนที่ไม่เหมือนใครเป็นธีมพิเศษเฉพาะในรุ่นนี้อีกด้วย
จอ Super AMOLED ขนาด 6.4 นิ้ว 90Hz ระบบเสียง Dolby Atmos
realme 9 Pro+ Free Fire Limited Edition มาพร้อมจอแสดงผล Super AMOLED ขนาด 6.4 นิ้ว มั่นใจได้ในเรื่องความสวยงามคมชัด โดยมีความละเอียด Full HD+ (2400 x 1080 พิกเซล) อัตราส่วนหน้าจอต่อบอดี้ 90.8% ให้ความสว่างสูงสุดถึง 1,000 นิต รองรับอัตราการรีเฟรชสูงสุด 90Hz อัตราการตอบสนองต่อการสัมผัส หรือ Touch Sampling Rate ที่ 360Hz ตอบสนองการควบคุมเกมได้อย่างแม่นยำและลื่นไหล
นอกจากจอสวย realme 9 Pro+ Free Fire Limited Edition ยังได้รับการติดตั้งลำโพงคู่ ให้เสียงสเตอริโอ พร้อมรองรับระบบเสียง Dolby Atmos และสนับสนุนไฟล์เสียงคุณภาพสูง Hi-Res Audio มอบประสบการณ์ฟังในระดับพรีเมียม เหมาะสำหรับการเล่นเกมและรับชมภาพยนตร์
สแกนนิ้วใต้จอพร้อมวัดชีพจร
เช่นเดียวกับรุ่นปกติ realme 9 Pro+ Free Fire Limited Edition ได้รับการติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ใต้หน้าจอ ช่วยให้การปลดล็อกและยืนยันตัวตนมีความสะดวกรวดเร็ว และแม่นยำ อีกทั้งยังรองรับการสแกนใบหน้าอีกด้วย แต่ที่พิเศษก็คือ เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอของ realme 9 Pro+ ยังสามารถใช้วัดอัตราการเต้นของหัวใจได้อีกด้วย โดยไม่จำเป็นต้องใช้สมาร์ทวอทช์หรืออุปกรณ์ภายนอกมาเชื่อมต่อ และสามารถบันทึกประวัติชีพจรของผู้ใช้งานเพื่อตรวจสอบความเปลี่ยนแปลงได้
กล้องหลัง 3 ตัว 50 ล้านพิกเซล
realme 9 Pro+ Free Fire Limited Edition ไม่ได้ตอบโจทย์แค่การเล่นเกมเท่านั้น แต่ยังเอาใจคนรักการถ่ายภาพด้วยกล้องหลังระดับเรือธง โดยกล้องตัวหลักใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX766 ความละเอียดสูง พร้อมเทคโนโลยีป้องกันภาพสั่นไหวแบบ OIS และ EIS วางคู่กับกล้อง Ultra Wide และ Macro
- กล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล (Sony IMX766) ขนาดเซ็นเซอร์ 1/1.56 นิ้ว ขนาดพิกเซล 2.0 ไมครอน รูรับแสง F1.8 กันสั่น OIS & EIS
- กล้อง Ultra Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง F2.2 ให้มุมมองกว้าง 119 องศา
- กล้อง Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง F2.4 ช่วยถ่ายภาพใกล้วัตถุในระยะ 4 เซนติเมตร
กล้องหลังของ realme 9 Pro+ รองรับโหมดถ่ายภาพ Night, Street, Video, Photo, Portrait, 50M, Pro, Pano, Ultra Macro, Movie, Slo-mo, Time-lapse. Dual View Video, Text Scanner, Starry Mode และ Tilt-Shift
โหมดถ่ายภาพที่เป็นไฮไลท์ของ realme 9 Pro+ ได้แก่ โหมด Street Photography 2.0 ช่วยถ่ายภาพแนวสตรีทเหมือนเป็นช่างภาพมืออาชีพได้อย่างง่ายดาย พร้อมด้วยฟีเจอร์ Smart Long Exposure ที่มีให้เลือก 4 แบบ สำหรับเปิดรับแสงให้ยาวนานแตกต่างกันขึ้นอยู่กับฉากหรือสถานการณ์
โหมด Street ยังรองรับการถ่ายภาพรูปแบบไฟล์ RAW, มีฟิลเตอร์ Street, B&W Plus, Dramatic และฟิลเตอร์ใหม่ล่าสุด 90’s Pop ให้ภาพถ่ายออกมาในแนวคลาสสิกร่วมสมัย และมีฟีเจอร์ Peek & Zoom ช่วยให้ควบคุมตำแหน่งการซูมและโฟกัสได้ง่ายขึ้น
สำหรับโหมด Photo ที่ใช้ถ่ายภาพทั่วไป รองรับการซูมตั้งแต่ 0.6x ซึ่งเป็นการเปิดกล้อง Ultra Wide ส่วนกล้องหลักจะซูมในช่วง 1x จนสูงสุด 20x ในรูปแบบดิจิทัล ส่วนแถบเครื่องมือด้านบนรองรับฟีเจอร์ใช้งานแฟลช LED, HDR, AI และ ปรับอัตราส่วนภาพ ส่วนโหมด Video รองรับความละเอียดสูงสุด 4K ด้วยอัตรา 30 เฟรมต่อวินาที รองรับการซูมตั้งแต่ 0.6x จนสูงสุด 10x
กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล
กล้องหน้าของ realme 9 Pro+ Free Fire Limited Edition มีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รองรับการถ่ายวิดีโอด้วยความละเอียดสูงสุด Full HD 1080p ด้วยอัตรา 30 เฟรมต่อวินาที
การถ่ายวิดีโอด้วยกล้องหน้าของ realme 9 Pro+ รองรับฟิลเตอร์ Bokeh Flare Portrait รวมถึง AI Color Portrait, Delight และ Natural อีกทังยั้งมีฟีเจอร์ Retouch ที่สามารถปรับความงามบนใบหน้าได้หลายส่วน ทั้งผิวหน้า, รูปทรงแก้ม, ขนาดดวงตา และ จมูก
ตัวอย่างภาพถ่าย
Dimensity 920 5G ชิปเซ็ทสำหรับเกมมิ่ง
realme 9 Pro+ Free Fire Limited Edition จัดเต็มด้วยชิปประมวลผล MediaTek Dimensity 920 5G Processor ซึ่งถูกผลิตด้วยอุตสาหกรรมขั้นสูง 6 นาโนเมตร ประกอบด้วยซีพียู 64-bit Octa-Core โดยมี Arm Cortex-A78 ที่สามารถทำความเร็วนาฬิกาได้สูงสุดถึง 2.5GHz และ Arm Cortex-A55 ความเร็วสูงสุด 2.0GHz พร้อมด้วยจีพียู Arm Mali-G68 MC4
MediaTek Dimensity 920 5G Processor มีความเร็วของซีพียูเพิ่มขึ้น 4% จีพียูได้ปรับปรุงประสิทธิภาพการเล่นเกมให้ดีขึ้น 9% และด้วย ISP ใหม่ ยังทำให้ realme 9 Pro+ Free Fire Limited Edition ถ่ายภาพที่มีรายละเอียดได้มากขึ้น 35% เมื่อเทียบกับชิปรุ่นก่อน (Dimensity 900)
ระบบระบายความร้อน
ตอบสนองการเล่นเกมได้สนุกยิ่งขึ้นด้วยระบบระบายความร้อน Vapor Chamber Cooling System ภายในสมาร์ทโฟน realme 9 Pro+ Free Fire Limited Edition ซึ่งมีแผงระบายความร้อนขนาดใหญ่พิเศษ ครอบคลุมแหล่งความร้อนหลักได้100% บนพื้นที่มากกว่า 13,029 ตารางมิลลิเมตร ช่วยลดอุณหภูมิได้อย่างดี ทำให้สมาร์ทโฟนอยู่ในสถานะการใช้งานที่มีประสิทธิภาพสูงสุดแม้จะเปิดใช้งานเป็นเวลานาน
เพิ่มความสมจริงในการเล่นเกมด้วย Tactile Engine
realme 9 Pro+ Free Fire Limited Edition มีระบบตอบสนองการสั่นขณะใช้งานด้วย Gamer edition X-axis Tactile Engine ซึ่งถูกขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ X-axis Linear
X-axis Linear Motor ได้รับการปรับปรุงจากมอเตอร์แนวราบแกน Z ปกติ เป็นมอเตอร์แนวราบสัมผัสแกน X โดยมอเตอร์แนวราบแกน Z สามารถสั่นขึ้นและลงได้เท่านั้น แต่มอเตอร์แนวราบแกน X มอบประสบการณ์การสั่นสะเทือนที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
ชาร์จไว 60W SuperDart Charge
realme 9 Pro+ Free Fire Limited Edition รองรับการเล่นเกมได้นานหลายชั่วโมง ด้วยแบตเตอรี่ขนาด 4500mAh และเมื่อพลังงานใกล้หมดก็ไม่ต้องอดทนรอนาน เพราะรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 60W SuperDart Charge สามารถชาร์จแบตเตอรี่ถึง 50% ในเวลาประมาณ 15 นาที โดยในกล่องได้แถมอุปกรณ์ชาร์จเร็วมาให้แล้ว ไม่ต้องจ่ายเพิ่ม
สรุปราคาและการวางจำหน่าย
โดยรวมแล้วสมาร์ทโฟน realme 9 Pro+ Free Fire Limited Edition ยังคงมีสเปกแบบเดียวกับ realme 9 Pro+ รุ่นปกติที่วางจำหน่ายไปก่อนหน้านี้ แต่มีความพิเศษที่ได้รับการออกแบบลวดลายใหม่เพื่อเอาใจแฟนเกม Free Fire โดยเฉพาะ ซึ่งหาไม่ได้จากสมาร์ทโฟนรุ่นอื่น เนื่องจากเป็นการจับมือเป็นพาร์ทเนอร์อย่างทางการระหว่างเกม Free Fire กับ realme ทำให้ realme 9 Pro+ Free Fire Limited Edition ไม่เพียงแต่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่เน้นเล่นเกมเท่านั้น แต่ยังเหมาะสำหรับผู้ที่รักการถ่ายภาพ และสามารถซื้อไปเก็บสะสมได้อีกด้วย เนื่องจากมาพร้อมกล่องแพ็กเกจที่สวยงามตามธีมของเกม Free Fire
realme 9 PRO+ Free Fire Limited Edition (8+128GB) ราคาเพียง 12,499 บาท จำหน่ายราคาพิเศษเพียง 11,999.- รับฟรี! ของแถมมูลค่า 3,000.- พร้อมโค้ดรับเงินคืน 500 Coins* เฉพาะช่องทาง Shopee วันที่ 20 เม.ย. – 30 เม.ย. 65 เท่านั้น
พรีออเดอร์วันที่ 12 เม.ย. – 22 เม.ย. 65 รับฟรี! realme Gaming Set มูลค่า 2,000.- ผ่าน realme Brand Shop ทั่วประเทศ หรือ รับฟรี! realme Gift Box มูลค่า 1,798.- ผ่าน ร้านค้าที่กำหนด*