สมาร์ทโฟนในปัจจุบันสามารถถ่ายภาพ Portrait ได้หลายรุ่น แต่ไม่ใช่ทุกรุ่นที่จะให้คุณภาพเทียบเท่ากล้องระดับมืออาชีพ นั่นทำให้ OPPO Reno7 Z 5G มีความโดดเด่นกว่าคู่แข่งในฐานะกล้องสมาร์ทโฟนที่รองรับการถ่ายภาพ Portrait ได้อย่างสวยงามเหมือนถ่ายจากกล้อง DSLR สมกับเป็นจุดยืน The Portrait Expert โดยมีโหมดกล้อง Portrait ที่หลากหลาย และใช้งานง่าย เพียงทำตามเคล็ด(ไม่)ลับ ที่ทีมงาน @Flashfly แนะนำข้างล่างนี้
Bokeh Flare Portrait
การถ่ายภาพ Portrait ด้วยสมาร์ทโฟน OPPO Reno7 Z 5G มีจุดเด่นที่ Bokeh Flare Portrait ซึ่งเป็นฟิลเตอร์ในโหมด Portrait รองรับทั้งกล้องหลังและกล้องหน้า เมื่อเปิดใช้งานจะพบว่าฉากหลังของตัวบุคคลถูกละลายกลายเป็นดวงไฟโบเก้โดยอัตโนมัติ ด้วยอัลกอริทึมเฉพาะของ OPPO ที่ได้รับการฝึกฝนกว่า 100 ฉาก ช่วยเพิ่มความสว่างให้แก่ตัวบุคคล และสามารถแยกตัวบุคคลออกจากพื้นหลังได้แม่นยำมากขึ้นแม้แต่เส้นผม
เทคนิคการถ่ายภาพด้วย Bokeh Flare Portrait ไม่มีเคล็ดลับอะไรเป็นพิเศษ เพียงเข้าไปเปิดใช้งานในแอปกล้อง เลือกโหมด Portrait และเลือกฟิลเตอร์ Bokeh Flare Portrait เอฟเฟกต์ละลายฉากหลังเป็นดวงไฟโบเก้ก็จะทำงานโดยอัตโนมัติ แต่เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรใช้ฟิลเตอร์ Bokeh Flare Portrait ภายใต้สถานการณ์เหล่านี้…
- ช่วงเวลากลางวัน – หาฉากหลังที่เป็นต้นไม้ใหญ่ และมีแสงแดดรอดเข้ามาตามกิ่งก้านและใบไม้ โดยถ่ายตัวบุคคลเพียงคนเดียว แบบครึ่งตัว หรือ เฉพาะส่วนไหล่ขึ้นไป
- ช่วงเวลากลางคืน – ไม่ว่าจะเป็นงานปาร์ตี้ หรือ เดินเล่น นอกตัวอาคาร ขอเพียงพื้นหลังมีแสงไฟ ไม่ว่าจะเป็นไฟประดับตัวอาคาร แสงไฟนีออน ก็สามารถถ่ายภาพด้วย Bokeh Flare Portrait ให้ออกมาสวยงามได้ไม่ยาก
Portrait Retouching
ลืมโหมดบิ้วตี้ไปได้เลย เมื่อได้ลองใช้ Portrait Retouching ที่ OPPO พัฒนาอัลกอริทึมขึ้นมาใหม่ สามารถระบุจุดสำคัญบนใบหน้าได้มากถึง 373 จุด ผ่านการฝึกฝนจากภาพถ่ายกว่า 400,000 ภาพ ที่มีใบหน้ามากกว่า 5,000 ใบหน้า ผสานกับอัลกอริทึมลดจุดด่างดำบนใบหน้า ทำให้ใบหน้าปราศจากสิวและริ้วรอย มอบความสวยงามอย่างเป็นธรรมชาติ
Portrait Retouching ยังสามารถปรับแต่งภาพถ่าย Portrait เพื่อปรับความงามบนใบหน้าได้ถึง 10 แบบ ไม่ว่าจะเป็นสีผิว, ลักษณะของผิว, ลดจุดด่างดำ, แก้ม, ขนาดดวงตา, ความสว่างของดวงตา เป็นต้น หรือจะเลือกอัตโนมัติให้ซอฟต์แวร์ปรับค่าให้ก็ได้เช่นกัน
ผู้ใช้งาน OPPO Reno7 Z 5G สามารถเปิด Portrait Retouching ได้จากแอปกล้อง เลือกโหมด Portrait แล้วแตะที่ไอคอนใบหน้า โดยสามารถใช้งานได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง กรณีใช้งานกล้องหน้า ยังสามารถถ่ายภาพเซลฟี่แบบกลุ่มได้ด้วย โดยอัลกอริทึมของ OPPO สามารถระบุเพศ อายุ และ เชื้อชาติ ของทุกคนที่อยู่ในเฟรมเดียวกันได้อย่างแม่นยำ เพื่อปรับความงามบนใบหน้าให้เหมาะสมสำหรับทุกคน
Selfie HDR
การถ่ายภาพเซลฟี่ในสภาพแสงที่ไม่เป็นใจ ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ของ OPPO Reno7 Z 5G ไม่ว่าจะอยู่ในอาคารที่มีแสงน้อย อยู่กลางแจ้งที่มีแสงจ้า หรือ แม้แต่เวลากลางคืน เพียงเข้าไปที่แอปกล้อง สลับไปใช้กล้องหน้า แล้วเปิดฟีเจอร์ HDR ก็จะทำให้ภาพเซลฟี่สวยงามขึ้นมาทันที โดย Selfie HDR จะช่วยเพิ่มความสว่างและคมชัดให้กับใบหน้า พร้อมปรับปรุงรายละเอียดของพื้นหลัง เพื่อให้ได้ภาพเซลฟี่ที่สมบูรณ์แบบ
การถ่ายภาพ Selfie HDR ให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าประทับใจ ควรเปิดใช้งานเมื่อต้องการถ่ายเซลฟี่ขณะอยู่ในที่ทำงานหรือในร่ม โดยมีฉากหลังเป็นหน้าต่างกว้างๆ มองเห็นวิวทิวทัศน์ในเวลากลางวัน จะทำให้ได้ภาพเซลฟี่ที่มีใบหน้าสวยงาม และยังมองเห็นวิวสวยๆ ของฉากหลังด้วย
ในเวลากลางคืนก็สามารถใช้ Selfie HDR ได้เช่นกัน เพียงถ่ายในจุดที่มีแสงไฟเป็นฉากหลัง ไม่ว่าจะเป็นไฟจากป้ายโฆษณา แสงไฟของหลอดนีออน หรือ ไฟประดับอาคาร และยังรองรับการถ่ายเซลฟี่แบบกลุ่มได้อีกด้วย
ตัวอย่างภาพถ่าย
ดีไซน์สวยงามสะดุดตา
นอกเหนือจากการถ่ายภาพ Portrait ที่น่าประทับใจ OPPO Reno7 Z 5G ยังมีดีไซน์สวยงามสะดุดตา ด้วยแสงไฟ Dual Orbit Lights รอบกล้องหลัก 2 ตัว ซึ่งจะกะพริบหรือเปล่งแสงเป็นสีน้ำเงิน ฟ้าอ่อน ฟ้าคราม หรือเบบี้บลู ตามสถานการณ์ต่างๆ เช่น เมื่อเปิดเครื่อง ขณะชาร์จแบตเตอรี่ รับสายเรียกเข้า มีการแจ้งเตือนที่ยังไม่ได้อ่าน รวมถึงการเปิดเกมอีกด้วย
ด้านหลังของ OPPO Reno7 Z 5G ให้ความโดดเด่นอย่างมากเมื่อถืออยู่ในมือ ไม่ว่าจะเป็นสี Rainbow Spectrum และ Cosmic Black ล้วนผ่านการเคลือบผิว 2 ชั้นและพื้นผิว 3 เลเยอร์ เริ่มจากชั้นแรกที่มีการเคลือบแบบไล่ระดับสีระหว่างเฉดสีแดง, สีเหลือง และ สีเขียว จากนั้นจึงเคลือบด้วยสีเงินสะท้อนแสงในชั้นบนสุด ทำให้ฝาหลังมีความเปล่งประกายระยิบระยับ
OPPO Reno7 Z 5G ยังมาพร้อมจอแสดงผล Full HD+ AMOLED ขนาด 6.4 นิ้ว ติดตั้งเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ใต้หน้าจอ บนดีไซน์แบบ Ultra-Slim Retro ซึ่งมีส่วนขอบแบนราบและบางเฉียบเพียง 7.49 มิลลิเมตร สำหรับสี Cosmic Black ขณะที่สี Rainbow Spectrum มีความบาง 7.55 มิลลิเมตร
สเปกแรง ชาร์จเร็ว
ด้านประสิทธิภาพของ OPPO Reno7 Z 5G เรียกได้ว่าไม่เป็นรองคู่แข่งในระดับเดียวกัน โดยมีจุดเด่นที่เทคโนโลยีชาร์จเร็ว 33W SUPERVOOC สามารถชาร์จแบตเตอรี่จนเต็ม 100% ภายในเวลาเพียง 63 นาที หรือใช้เวลาชาร์จเพียง 5 นาที ก็สามารถนำไปสนทนาได้นานถึง 3 ชั่วโมง โดยมีความจุแบตเตอรี่ 4,500mAh ที่รองรับการใช้งานได้ตลอดทั้งวัน
OPPO Reno7 Z 5G ยังมาพร้อมชิปประมวลผลระดับ 6 นาโนเมตร Qualcomm Snapdragon 695 5G รองรับการทำงานที่มีประสิทธิภาพสูง ด้วยการใช้พลังงานที่น้อยลง พร้อมด้วยความจำขนาดใหญ่จุใจด้วย RAM 8GB ขยายได้อีก 5GB ผ่านฟีเจอร์ RAM Expansion(ยืมพื้นที่จาก ROM) เสมือนมี RAM ถึง 13GB ตอบสนองการทำงานแบบ Multitasking (เปิดหลายแอปพร้อมกัน) ได้อย่างราบรื่น โดยมีความจุ ROM สูงถึง 128GB
ราคาและโปรโมชั่น
OPPO Reno7 Z 5G สมาร์ทโฟน 5G ที่ถ่ายภาพพอร์ตเทรตที่ดีที่สุด กับนวัตกรรมถ่ายภาพที่ให้เป็นตัวเองได้ไม่จำกัดด้วยพอร์ตเทรตในราคา 12,990 บาท มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีรุ้ง Rainbow Spectrum และสีดำ Cosmic Black ทั้งนี้ OPPO Reno7 Z 5G จะเริ่มวางจำหน่ายอย่างทางการ ตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคม 2565 เป็นต้นไป ณ OPPO Brand Shop ทุกสาขา และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ
รายละเอียดเพิ่มเติม – https://bit.ly/3KQFA7h
#OPPOReno7Z5G
#ThePortraitExpert
#เป็นตัวเองได้ไม่จำกัดด้วยพอร์ตเทรต