จบกันไปแล้วสำหรับงานต้นปี 2022 ของ Apple ที่ได้ใช้ชื่อว่า Apple Event “Peek performance” โดยงานครั้งนี้เป็นการเปิดตัวชิปใหม่ที่ทรงพลังกว่าที่ผ่านมา สมกับชื่องานจริงๆ และสำหรับใครที่อยากได้สรุปครบจบที่เดียว ทีมงาน @Flashfly ก็เตรียมไว้ให้แล้ว
เริ่มต้นเปิดงานด้วย Tim Cook ซีอีโอของ Apple เช่นเคย โดยเริ่มงานด้วยการพูดถึง Apple TV+ บริการสตรีมภาพยนตร์และซีรีส์ Apple Originals ที่จะมีเรื่องใหม่ๆ เข้ามาให้ได้รับชม และแนะนำ Friday night Baseball รับชมเกมการแข่งขัน 2 เกมได้ในทุกคืนวันศุกร์
iPhone 13 Pro, iPhone 13 สีใหม่
ก่อนจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ Apple ได้ทำการเปิดตัว 2 สีใหม่ ได้แก่ iPhone 13 Pro สีเขียวอัลไพน์และ iPhone 13 สีเขียว พร้อมเปิดให้สั่งซื้อล่วงหน้าในวันศุกร์ที่ 18 มีนาคม และจะเริ่มวางจำหน่ายในวันศุกร์ที่ 25 มีนาคมนี้
iPhone SE รุ่นที่ 3
เป็นไปตามคาด Apple ได้ทำการเปิดตัว iPhone SE รุ่นที่ 3 โดยยังคงมาในดีไซน์ iPhone 8 แบบเดิม มีหน้าจอ LCD ขนาด 4.7 นิ้ว จอภาพ Retina HD มาพร้อมปุ่ม Touch ID ที่ใช้งานร่วมกับปุ่มโฮมใต้หน้าจอแสดงผล กล้องหน้า True Depth ความละเอียด 7 ล้านพิกเซล และกล้องหลังความละเอียด 12 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ True tone พร้อมกับใช้ชิป A15 Bionic ชิปรุ่นล่าสุดที่ใช้ใน iPhone 13 ทำให้มีประสิทธิภาพที่สูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานต่างๆ รวมถึงการเล่นเกม และการถ่ายภาพและวิดีโออีกด้วย มีความจุเริ่มต้น 64GB, 128GB และ 256GB ให้เลือก มาตรฐานทนน้ำที่ระดับ IP67 และรองรับการเชื่อมต่อ 5G
ราคาและความพร้อมในการวางจำหน่าย
- iPhone SE จะวางจำหน่ายในรุ่นความจุ 64GB, 128GB และ 256GB ในสีมิดไนท์ สตาร์ไลท์ และ (PRODUCT)RED ในราคาเริ่มต้นที่ 15,900 บาท
- ลูกค้า จะสามารถสั่งซื้อ iPhone SE ล่วงหน้าได้ตั้งแต่เวลา 9:00 น. ตามเวลาในประเทศไทยของวันศุกร์ที่ 18 มีนาคม และจะวางจำหน่ายในวันศุกร์ที่ 25 มีนาคม
- ลูกค้าสามารถซื้อ iPhone SE ในราคา 1,590 บาท ต่อเดือน เป็นเวลา 10 เดือน ก่อนการแลกซื้อที่ apple.com/th/store, ในแอป Apple Store และที่ร้าน Apple Store7
- นอกจากนี้ iPhone SE ยังวางจำหน่ายผ่านตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตของ Apple และผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์บางรายด้วย
- Apple มีบริการหลายประเภทให้แก่ลูกค้าทั้งในร้านและทางออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นความช่วยเหลือและคำแนะนำเฉพาะสำหรับลูกค้าแต่ละรายจาก Apple Specialists จนถึงบริการจัดส่งและรับสินค้าที่ร้านที่สะดวกสบาย ทั้งหมดนี้ก็เพราะ Apple ตั้งใจให้ Apple Store apple.com/th/store เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการซื้อผลิตภัณฑ์ Apple นั่นเอง
iPad Air รุ่นที่ 5
เป็นการปรับปรุงภายในที่ทำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเลยก็ว่าได้ โดย iPad Air รุ่นที่ 5 นี้ ได้ถูกเปลี่ยนมาใช้ชิป M1 ชิป Apple Silicon ที่อยู่ใน Mac และ iPad Pro รุ่นปี 2021 โดยจะทำให้การประมวลผลต่างๆ ทำได้รวดเร็วมากขึ้น ส่วนภายนอกยังคงมาในดีไซน์เดิม หน้าจอขนาด 10.9 นิ้ว รองรับการใช้งาน Apple Pencil รุ่นที่ 2 พร้อมปุ่ม Touch ID ที่ด้านข้างตัวเครื่องโดยใช้ร่วมกับปุ่ม Power และมีการอัปเกรดกล้องหน้ามาเป็นความะเอียด 12 ล้านพิกเซล รองรับฟีเจอร์ Center Stage เพื่อมอบประสบการณ์ FaceTime ที่ดีขึ้น ส่วนกล้องหลังยังคงที่ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล
ราคาและความพร้อมในการวางจำหน่าย
- iPad Air ใหม่จะเปิดให้สั่งซื้อเร็วๆนี้ทางapple.com/th/store
- iPad Air รุ่น Wi-Fi จะเปิดให้สั่งซื้อในราคาเริ่มต้น 20,900 บาท และรุ่น Wi-Fi + Cellular ในราคาเริ่มต้นที่ 25,900 บาท iPad Air ใหม่ รุ่นความจุ 64GB และ 256GB มาในสีเทาสเปซเกรย์ สีสตาร์ไลท์ สีชมพู สีม่วง และสีฟ้า
- iPadOS 15 ระบบปฏิบัติการทรงพลังที่ออกแบบมาเพื่อ iPad โดยเฉพาะ จะมีมาให้ในเครื่องพร้อมกับ iPad Air ใหม่ iPadOS 15 พร้อมให้ใช้งานในรูปแบบของการอัปเดตซอฟต์แวร์ฟรีสำหรับ iPad Air 2 และใหม่กว่า
- ราคาส่งเสริมการศึกษาสามารถใช้ได้กับนักศึกษาที่กำลังศึกษาหรือเพิ่งเข้าศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยและผู้ปกครอง รวมถึงอาจารย์ และเจ้าหน้าที่ iPad Air ใหม่มีราคาเริ่มต้นที่ 19,200 บาท Apple Pencil รุ่นที่ 2 มีวางจำหน่ายในราคา 4,190 บาท, Smart Keyboard Folio มีวางจำหน่ายในราคา 5,300 บาท และ Magic Keyboard มีวางจำหน่ายในราคา 9,300 บาท สำหรับนักศึกษา ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ apple.com/th-edu/shop
- Apple Pencil (รุ่นที่ 2) ที่สามารถใช้งานร่วมกับ iPad Air ใหม่มีวางจำหน่ายแยกต่างหากในราคา4,490 บาท
- Magic Keyboard สำหรับ iPad Air ใหม่มีวางจำหน่ายในสีดำและสีขาวในราคา 9,990 บาท ซึ่งมาพร้อมเลย์เอาท์กว่า 30 ภาษา
- Smart Keyboard Folio สำหรับ iPad Air ใหม่มีวางจำหน่ายในราคา 5,990 บาท
- Smart Folio สำหรับ iPad Air ใหม่มีวางจำหน่ายในราคา 2,990 บาทโดยมาในสีดำ สีขาว สีส้มอิเล็คทริค สีเชอรี่เข้ม สีอิงลิชลาเวนเดอร์ และสีมารีนบลู
- ลูกค้าสามารถนำ iPad เครื่องปัจจุบันมาแลก เพื่อรับเครดิตสำหรับใช้ซื้อเครื่องใหม่ได้ เมื่อ Apple ได้รับและตรวจสอบอุปกรณ์แล้ว เราจะคืนเครดิตให้ลูกค้าผ่านทางวิธีการชำระเงินที่ลูกค้าเลือก
- สลักอิโมจิผสมกับชื่อ ตัวย่อ และตัวเลขที่มีความหมายลงบน iPad ทั้งหมดโดยไม่มีค่าใช้จ่ายที่ apple.com/th/store หรือในแอป Apple Store เท่านั้น
- Apple มีบริการหลายประเภทให้แก่ลูกค้าทั้งในร้านและทางออนไลน์ ทั้งความช่วยเหลือและคำแนะนำเฉพาะสำหรับลูกค้าแต่ละรายจาก Apple Specialists จนถึงบริการจัดส่งและรับสินค้าที่ร้านที่สะดวกสบาย ทั้งหมดนี้ก็เพราะ Apple ตั้งใจให้ Apple Store และ apple.com/th/store เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการซื้อผลิตภัณฑ์ Apple นั่นเอง
ชิป M1 Ultra
Apple เปิดตัวชิปรุ่นใหม่ M1 Ultra ที่ออกแบบมาสำหรับ Mac เดสท็อปโดยเฉพาะ โดยใช้เทคโนโลยี UltraFusion ด้วยการนำชิป M1 Max 2 ตัวมาทำงานร่วมกัน รองรับหน่วยความจำสูงถึง 128GB มี CPU 20-Core และ GPU 64-Core พร้อมกับ Neural Engine 32-Core แรงกว่า M1 ถึง 8 เท่า โดยมีประสิทธิภาพสูงและประหยัดพลังงานกว่าชิปเดสท็อปทั่วไปถึง 90%
Mac Studio และจอภาพ Studio Display
เป็นไปตามข่าวลือสำหรับ Mac Studio และจอภาพ Studio Display ที่ออกแบบมาสำหรับการใช้งานระดับมืออาชีพ โดย Mac Studio นั้นมีดีไซน์ที่เหมือน Mac mini วางซ้อนกัน 2 ชั้น โดยมีความสูงถึง 3.7 นิ้ว และกว้าง 7.7 นิ้ว มาพร้อมกับพอร์ต USB-C (Thunderbolt 4) จำนวน 4 พอร์ต, USB-A, HDMI และ 3.5 มม. ด้านหน้า USB-C(Thunderbolt 4) จำนวน 2 พอร์ต และ SC Card reader พร้อมกับชิป M1 Max (RAM สูงสุด 64GB) และ M1 Ultra (RAM สูงสุด 128GB)สำหรับ Mac Desktop รองรับการต่อหน้าจอมากถึง 4 หน้าจอ และทีวีระดับ 4K มีความจุสูงสุด 8TB
ส่วนจอภาพ Studio Display นั้นจะมีขนาด 27 นิ้ว ความละเอียด 5K Retina สามารถปรับองศาได้สูงสุด 30 องศา หรือสามารถปรับเปลี่ยนแกนหมุนใหม่เพื่อการทำงานที่ยืดหยุ่นมากขึ้น (แยกจำหน่ายต่างหาก) มาพร้อมกล้องหน้าความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รองรับ Center Stage มาพร้อมไมโครโฟน 3 ตัว และลำโพง 6 ตัว รองรับ Spatial Audio ด้านหลังมาพร้อมพอร์ต USB-C (Thunderbolt 4) จำนวน 4 พอร์ต
ราคาและความพร้อมในการวางจำหน่าย
- Studio Display ใหม่พร้อมให้สั่งซื้อแล้ววันนี้ทาง apple.com/th/store และในแอป Apple Store® ในขณะที่ Mac Studio จะวางจำหน่ายเร็วๆ นี้
- Mac Studio วางจำหน่ายในราคาเริ่มต้นที่ 69,900 บาท และ 62,900 บาท สำหรับราคาส่งเสริมการศึกษา นอกจากนี้ยังสามารถดูตัวเลือกในการปรับแต่งตามความต้องการได้ที่ apple.com/th/store
- Studio Display วางจำหน่ายในราคา 54,900 บาท และ 51,500 บาท สำหรับราคาส่งเสริมการศึกษา นอกจากนี้ยังสามารถดูข้อมูลทางเทคนิคเพิ่มเติม รวมถึงตัวเลือกกระจก Nano-texture และฐานตั้งแบบต่างๆ ได้ที่ apple.com/th/store
- Magic Keyboard พร้อม Touch ID และปุ่มตัวเลข 6,590 บาท Magic Trackpad 4,890 บาท และ Magic Mouse 3,190 บาท ในแบบสีเงิน/ดำใหม่มีจำหน่ายที่ apple.com/th/store
- Apple Trade In® ให้ลูกค้านำคอมพิวเตอร์เครื่องปัจจุบันมาแลกเป็นเครดิตสำหรับใช้ซื้อ Mac Studio เครื่องใหม่ และลูกค้าสามารถตรวจสอบมูลค่าของอุปกรณ์ได้ที่ apple.com/th/shop/trade-in