Microsoft Surface Pro 8 แล็ปท็อปและแท็บเล็ตในเครื่องเดียวรุ่นล่าสุดได้เริ่มทำตลาดในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยรุ่นใหม่นี้มีการปรับหน้าจอให้มีขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 13 นิ้ว รองรับการใช้งานปากกา และยังมีรีเฟรชเรทสูงสุด 120Hz มาพร้อมชิป Intel เจนเนอเรชัน 11 และรองรับ Wi-Fi 6 ซึ่งตอนนี้ก็มาอยู่ในมือทีมงาน @Flashfly เรียบร้อยแล้ว สำหรับแล็ปท็อปและแท็บเล็ตในเครื่องเดียวรุ่นใหม่นี้จะเป็นอย่างไร ไปติดตามรีวิวกันได้เลย
สเปก Microsoft Surface Pro 8
- ขนาดตัวเครื่อง 287 มม. × 208 มม. × 9.3 มม.
- น้ำหนัก 891 กรัม
- หน้าจอสัมผัส PixelSense Flow ขนาด 13 นิ้ว ความละเอียด 2880 × 1920 (267 PPI) รีเฟรชเรทสูงสูด 120Hz รองรับ Dolby Vision
- รองรับการใช้งานกับปากกา Microsoft Surface Slim Pen 2
- มาพร้อมขาตั้ง Kickstand ในตัวที่ปรับได้เกือบ 180 องศา
- กล้องหน้า 1080p ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
- กล้องหลัง 4K ความละเอียด 10 ล้านพิกเซล
- โปรเซสเซอร์ Intel Core เจนเนอเรชัน 11
- Intel Iris Xe Graphics (i5, i7)
- RAM แบบ LPDDR4x: 8GB / 16GB / 32GB
- ความจุ SSD: 128GB / 256GB / 512GB / 1TB
- ระบบปฏิบัติการ Windows 11
- ลำโพงสเตอริโอ 2W ระบบเสียง Dolby Atmos
- พอร์ต USB-C สองช่อง พร้อม Thunderbolt 4
- WiFi 6
- แบตเตอรี่ 51.5Wh
- มี 2 สีให้เลือก ได้แก่ สีเทาแกรไฟต์ สีเงินแพลตินัม
แกะกล่อง Surface Pro 8
กล่องของ Surface Pro 8 จะมาในกล่องสีขาวพร้อมกับพิมพ์รูปตัวเครื่องไว้บนหน้ากล่อง ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าตัวเครื่องเพียงเล็กน้อย โดยด้านหลังจะมีบอกรายละเอียดเกี่ยวกับชิป, หน่วยความจำ, พื้นที่จัดเก็บข้อมูล และสีของตัวเครื่อง
เมื่อเปิดออกมาก็จะพบกับ Surface Pro 8 ที่ถูกห่อหุ้มด้วยกระดาษไขเพื่อปกป้องรอยขีดข่วนต่างๆ และมีการพิมพ์บอกตำแหน่งของพอร์ต, ปุ่ม และเซ็นเซอร์ต่างๆ ไว้ด้วย
เมื่อยกตัวเครื่องออกมา ก็จะพบกับซองใส่เอกสาร ซึ่งภายในก็จะมีคู่มือการใช้งานและเอกสารจากทาง กสทช. ซึ่ง Surface Pro 8 จะได้รับการยกเว้นไม่ต้องขอใบอนุญาตเนื่องจากไม่มีการใช้งานซิมการ์ดนั่นเอง และมีสายชาร์จไฟมาให้
ดีไซน์
Surface Pro 8 ยังคงมาในดีไซน์แนวเดิม แต่มีการปรับหน้าจอใหญ่ขึ้นจากเดิม 12.3 นิ้ว มาเป็น 13 นิ้ว มีความละเอียด 2880 x 1920 พิกเซล สนับสนุน Dolby Vision ให้อัตราการรีเฟรชหน้าจอสูงถึง 120Hz และรองรับการใช้งานร่วมกับปากกา Surface Slim Pen 2 ถูกออกแบบให้มีการใช้งานในแนวนอนเป็นหลัก
โดยมีการวางจำแหน่งกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซลและเซ็นเซอร์สแกนใบหน้าไว้ด้านบนหน้าจอแสดงผลพร้อมกับไมโครโฟน 2 ตัวสำหรับการใช้งานวิดีโอคอลหรือประชุมออนไลน์ และด้านข้างหน้าจอแสดงผลจะมีการวางลำโพงสปีกเกอร์ไว้ทั้ง 2 ข้าง โดยจะเป็นลำโพงสเตอริโอ 2W ระบบเสียง Dolby Atmos ซึ่งมีดีไซน์ที่วางได้กลมกลืนแทบจะดูไม่ออกเลยทีเดียว
ด้านหลังยังคงมาพร้อมกับขาตั้ง Kickstand ในตัว ที่สามารถปรับได้เกือบถึง 180 องศา ทำให้การปรับมุมองศาในการใช้งานได้แบบหลากหลาย โดย Kickstand นี้จะมีความหนืดและแข็งแรงสำหรับการวางใช้งานบนโต๊ะ และมีวางกล้องหลังความละเอียด 10 ล้านพิกเซลสำหรับใช้งานถ่ายภาพหรือถ่ายเอกสารทั่วไป
ด้านข้างซ้ายของตัวเครื่องจะมีปุ่มปรับระดับเสียงสนทนาและช่องต่อชุดหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร ส่วนด้านขวาจะมีปุ่ม Power และพอร์ต USB-C ที่เป็น Thunderbolt 4 จำนวน 2 ช่อง และสุดท้ายจะเป็นพอร์ตสำหรับชาร์จไฟกับอะแดปเตอร์ที่แถมมาให้ในชุดจัดจำหน่าย (สามารถชาร์จไฟผ่านพอร์ต USB-C ได้)
ด้านบนของตัวเครื่องจะมีแผงรูระบายความร้อนวางตามแนวยาวโดยจะยาวไปถึงกึ่งกลางด้านข้างของตัวเครื่องทั้งสองข้าง
ด้านล่างจะมีพอร์ตสำหรับเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์เสริม อาทิคีย์บอร์ดที่ใช้งานเป็นเคสสำหรับปกป้องหน้าจอ
นอกจากการใช้งานในรูปแบบแล็ปท็อปแล้ว ยังสามารถถือใช้งานในรูปแบบแท็บเล็ตได้เนื่องจากสามารถสั่งงานผ่านหน้าจอสัมผัสได้ โดยจะรองรับการใช้งานในแนวตั้งด้วย ทั้งนี้ด้วยน้ำหนัก 891 กรัม ก็ถือว่าเป็นน้ำหนักที่ค่อนข้างสูงทำให้การใช้งานมือเดียวอาจจะไม่ถนัดมากนัก แต่จะมีความสะดวกในการพกพาและนำไปพรีเซนท์นำเสนองานต่างๆ
หน้าจอสัมผัส PixelSense Flow ขนาด 13 นิ้ว รีเฟรชเรทสูงสูด 120Hz
Surface Pro 8 มาพร้อมกับหน้าจอ PixelSense Flow ขนาด 13 นิ้ว ความละเอียด 2880 × 1920 (267 PPI) Adaptive Color, เร่งหมึกด้วย GPU มาพร้อมระบบสัมผัสแบบมัลติทัช 10 จุด ทำให้สั่งงานผ่านการสัมผัสหน้าจอได้ และยังมีอัตรารีเฟรชเรทสูงสูด 120Hz เพื่อการแสดงผลที่สมูทลื่นไหล รองรับ Dolby Vision ที่จะทำให้เพิ่มอรรถรสในการรับชมภาพยนตร์, ซีรีส์ หรือคลิปวิดีโอต่างๆ ได้มากขึ้น
ใช้คู่กับอุปกรณ์เสริม Microsoft Signature Keyboard with Slim Pen 2
โดย Microsoft Signature Keyboard with Slim Pen 2 ที่มีการวางจำหน่ายแยกนี้จะทำให้การใช้งาน Surface Pro 8 สมบูรณ์มากขึ้น ไม่ว่าจะเรื่องการพิมพ์ผ่านแป้นพิมพ์ที่มีแทรคแพดมาให้ใช้งาน มีช่องเก็บตัวปากกา โดยสามารถยกขึ้นมาเพื่อทำให้แป้นคีย์บอร์ดมีองศาที่พิมพ์สะดวกขึ้นและยังเป็นการเก็บปากกาเอาไว้ได้ และเมื่อพับปิดก็จะเป็นการปกป้องหน้าจอจากการพกพาอีกด้วยโดยจะมีการดูดติดหน้าจอแบบเบาๆ ช่วยเรื่องป้องกันแป้นคีย์บอร์ดเปิดออกมาเองแบบไม่ได้ตั้งใจได้
ด้วยหน้าจอที่รองรับมัลติทัช 10 ก็ยังรองรับการใช้งานจดโน๊ตหรือวาดเขียนด้วยปากกา Slim Pen 2 ที่เชื่อมต่อและใช้งานง่าย เพียงแค่คลิกที่ท้ายปากกาก็จะเป็นการเรียกโปรแกรม Whiteboard ขึ้นมาเพื่อทำการจดหรือวาดเขียนได้ทันที
ประสิทธิภาพ Intel เจนเนอเรชัน 11
สำหรับรุ่นที่ทางทีมงานได้มาจะเป็นชิป Intel Core i7 แบบ Quad-core เจนเนอเรชัน 11 สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม Intel Evo พร้อม Intel Iris Xe Graphics ร่วมประมวลผลกับ RAM แบบ LPDDR4x 16GB มีพื้นที่จัดเก็บข้อมูลแบบ SSD ความจุ 256GB ระบบปฏิบัติการ Windows 11 ที่สามารถใช้งานได้แบบทั่วไป หรือจะนำมาเล่นเกมก็ยังไหวอยู่
แบตเตอรี่
Surface Pro 8 สามารถใช้งานได้นานถึง 16 ชั่วโมง เรียกได้ว่าใช้งานได้ตลอดวัน ซึ่งตรงนี้ก็ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานของแต่ละบุคคล สามารถชาร์จไฟผ่านพอร์ต USB-C ทั้ง 2 พอร์ตได้ หรือถ้าหากต้องการใช้งานพอร์ต USB-C เพื่อทำงานอย่างอื่น ภายในชุดจัดจำหน่ายก็มีอะแดปเตอร์สำหรับใช้งานชาร์จไฟโดยเฉพาะมาให้
สรุปราคาและการวางจำหน่าย
Microsoft Surface Pro 8 นั้นเป็นแล็ปท็อปที่ออกแบบมาให้ใช้งานในลักษณะแท็บเล็ตในเครื่องเดียวได้ โดยสามารถทัชหน้าจอ สั่งงานและพิมพ์ผ่านแป้นคีย์บอร์ดบนหน้าจอได้ รวมถึงรองรับการใช้งานปากกาของ Microsoft ในการจดและวาดเขียนต่างๆ ตัวเครื่องมีการออกแบบจะถูกออกแบบมาให้ใช้งานแนวนอน มีจุดเด่นที่ Kickstand ในตัว สามารถกางออกมาเพื่อใช้งานในมุมองศาต่างๆ ได้เกือบถึง 180 องศา และด้วยชิปประมวลผล Intel Core i7 เจนเนอเรชัน 11 ก็ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างครอบคลุม และถ้าต้องการให้ใช้งานได้สมบูรณ์มากขึ้นก็แนะนำว่าให้ใช้ร่วมกับอุปกรณ์เสริมอย่าง Microsoft Signature Keyboard with Slim Pen 2 ที่จะทำให้ใช้งานในรูปแบบแล็ปท็อปได้เต็มที่มากขึ้น
Microsoft Surface Pro 8 วางจำหน่ายแล้วผ่านช่องทางตัวแทนจำหน่ายสำหรับลูกค้าภาคธุรกิจ Cipher Med และ ADD In Business และสำหรับลูกค้าทั่วไปที่ Banana IT, JIB, DKAN, IT City, Power Buy Shopee Microsoft Authorized Store และ Lazada Microsoft Authorized Store โดยมีราคาดังนี้
- Surface Pro 8 Intel Core i5 RAM8GB +128GB ราคา 39,590 บาท
- Surface Pro 8 Intel Core i5 RAM8GB +256GB ราคา 42,790 บาท
- Surface Pro 8 Intel Core i7 RAM16GB +256GB ราคา 59,190 บาท
- Surface Pro 8 Intel Core i7 RAM16GB +512GB ราคา 59,190 บาท