vivo สานต่อความสำเร็จของสมาร์ทโฟนซีรีย์ยอดนิยม V Series ด้วยการเปิดตัว vivo V23e 5G มาพร้อมสโลแกน “คมชัดทุกโมเม้นท์ที่คุณเป็น” โดดเด่นด้วยดีไซน์ฟรีเมียมบางเฉียบสีสันไล่เฉดสีสวยงาม กล้องหน้าความละเอียดสูงถึง 44 ล้านพิกเซล ทำงานร่วมกับฟีเจอร์การถ่ายภาพใหม่ๆ อย่าง Natural Portrait, Multi-Style Portrait, Steadiface Selfie Video ขณะที่กล้องหลังก็มีความละเอียดสูง 50 ล้านพิกเซล วางคู่กับกล้อง Ultra Wide กล้อง Macro ตอบสนองการทำงานได้อย่างลื่นไหลด้วยความจำ RAM สูงสุด 12GB (8GB + 4GB) และยังรองรับชาร์จเร็ว 44W นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์อื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย ซึ่งทีมงาน @Flashfly พร้อมพาไปสำรวจแล้ว
สเปก vivo V23e 5G
- จอแสดงผล AMOLED, Full HD+ ขนาด 6.44 นิ้ว
- กล้องหน้า 44MP Natural Portrait Selfie Camera
- กล้องหลัง 50MP Triple Camera
- ชิปประมวลผล MediaTek Dimensity 810
- ความจำ RAM 8GB + 4GB (Extended RAM), ROM 128GB
- รองรับการ์ด MicroSD สูงสุด 1TB
- การเชื่อมต่อ 5G, Wi-Fi (2.4/5GHz), Bluetooth 5.1, USB Type-C, OTG
- เซ็นเซอร์ Accelerometer, Ambient light sensor, Proximity Sensor, E-compass, Gyroscope
- สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ (In-display Fingerprint Sensor)
- ระบบนำทาง GPS, BEIDOU, GLONASS, GALILEO, QZSS
- ระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 12
- แบตเตอรี่ 4050mAh
- รองรับชาร์จเร็ว 44W FlashCharge (11V/4A)
- มี 2 สี ให้เลือก ได้แก่ Moonlight Shadow และ Sunshine Coast
- ขนาดตัวเครื่อง 160.87 x 74.28 x 7.41 มิลลิเมตร (Sunshine Coast)
- น้ำหนัก 172 กรัม
แกะกล่อง vivo V23e 5G
vivo V23e 5G ถูกจัดส่งมาในกล่องสีน้ำเงินเข้มที่มีประกายเหมือนท้องฟ้ายามค่ำคืน มุมบนที่หน้ากล่องติดโลโก้ vivo อีกมุมระบุความจำ RAM 8GB + ROM 128GB ตรงกลางมีเลข 23 ขนาดใหญ่ ทับด้วยชื่อรุ่น V23e และมีโลโก้ 5G ที่ส่วนล่างง
เมื่อยกฝากล่องขึ้นมาจะพบกับสมาร์ทโฟนเป็นอย่างแรก ถูกเก็บไว้ในซองอย่างดี โดยที่หน้าซองมีการระบุตำแหน่งของเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอเอาไว้ด้วย เมื่อนำสมาร์ทโฟนออกจากซองก็จะเห็นว่าได้รับการติดฟิล์มกันรอยหน้าจอมาให้แล้ว
นอกจากจะติดฟิล์มกันรอยหน้าจอมาให้แล้ว ยังแถมเคสใสมาให้ด้วย วางอยู่ใต้สมาร์ทโฟน พร้อมด้วยคู่มือการใช้งาน, ข้อมูลสำคัญและบัตรรับประกัน
มาดูของในถาดด้านล่างทาง vivo ได้จัดมาให้ครบถ้วน
ไม่ว่าจะเป็นแถมชุดหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร พร้อม Adapter แปลงแจ็ค 3.5 มิลลิเมตร เป็น USB-C เนื่องจาก vivo V23e 5G ไม่มีช่องเสียบหูฟังโดยตรง
เข็มจิ้มถาดใส่ซิมการ์ดแนบมากับแผ่นกระดาษ
ชั้นล่างสุดเป็นช่องเก็บสายชาร์จแบบ USB-C และอุปกรณ๋ชาร์จแบตเตอรี่ รองรับชาร์จเร็ว 44W Power Adapter (11V/4A)
ดีไซน์หรูหราบางเฉียบ
vivo V23e 5G ได้รับการออกแบบมาอย่างหรูหราพรีเมียม โดยเฉพาะด้านหลังของสี Sunshine Coast ที่ทีมงาน @Flashfly ได้รับมารีวิว เป็นผิวกระจก Satin AG ผลิตจากเทคโนโลยีชั้นนำ ให้สัมผัสที่เรียบหรู และยังให้สีสันที่เปล่งประกายแตกต่างกัน ตามมุมที่แสงตกลงมากระทบจากการเอียงตัวเครื่อง
สี Sunshine Coast ใช้เทคโนโลยีการเคลือบเม็ดสีแบบผสมผสาน 2 ชั้น พร้อมไล่เฉดสีที่สวยงาม ทำให้สะท้อนความงามของตัวเครื่องที่แตกต่างกันในแต่ละมุม เปรียบเสมือนชายฝั่งท้องทะเลในช่วงฤดูร้อนที่น่าหลงใหล แต่มีความหนาเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย 0.05 มิลลิเมตร เมื่อเทียบกับสี Moonlight Shadow ซึ่งไม่ส่งผลต่อการสวมใส่เคสแต่อย่างใด ขณะที่สี Moonlight Shadow ใช้เทคโนโลยีการเคลือบเม็ดสีด้วยฟิล์มเซรามิกที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ผ่านกระบวนการเคลือบสีระดับนาโน สะท้อนความงามผ่านโทนเฉดสีดำสุดคลาสสิก
vivo V23e 5G ยังมีส่วนขอบที่แบนเรียบ และผ่านการเคลือบอย่างดีเยี่ยม เพื่อให้เกิดความแวววาวของโลหะโปร่งแสง ทำให้พื้นผิวดูดีมีระดับ และยังมีความบางเพียง 7.36 มิลลิเมตร น้ำหนักเบา 172 กรัม ช่วยให้จับถือได้อย่างสบายมือ
ด้านหน้ามาพร้อมจอแสดงผล ขนาด 6.44 นิ้ว ทำรอยบากที่ขอบบนสำหรับติดตั้งกล้องหน้า 44 ล้านพิกเซล เหนือขึ้นไปเป็นตำแหน่งของลำโพงหูฟัง
พื้นที่ส่วนล่างของจอแสดงผล ยังมีการซ่อนเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือเอาไว้ด้วย จึงรองรับการปลดล็อกและยืนยันตัวตนด้วยการสแกนนิ้วมือบนหน้าจอ
ด้านหลังวางระบบกล้อง 3 ตัว จัดเรียงในแนวตั้ง ประกอบด้วยกล้อง Ultra Wide หรือกล้องมุมกว้างพิเศษ, ถัดลงมาเป็นกล้องหลัง ตามด้วยกล้อง Macro สำหรับถ่ายภาพระยะใกล้ และยังมีแฟลช LED ติดตั้งไว้ด้วยกันภายในกรอบสีดำ
ปุ่มปรับระดับเสียง กับปุ่มเพาเวอร์ติดตั้งอยู่ด้านเดียวกัน อีกข้างถูกปล่อยให้เรียบแบน โดยมีความบางเพียง 7.36 มิลลิเมตร สำหรับสี Moonlight Shadow ส่วนสี Sunshine Coast มีความบาง 7.41 มิลลิเมตร
ด้านบนพบรูไมโครโฟนตัวที่ 2 ช่วยลดเสียงรบกวนรอบข้าง
ด้านล่างมีถาดใส่ซิมการ์ด รองรับ 2 ซิมการ์ดแบบไฮบริด ช่องแรกสำหรับวางซิมการ์ด Nano SIM อีกช่องต้องเลือกว่าจะใส่ซิมการ์ด Nano SIM หรือการ์ด MicroSD ใกล้กันเป็นรูไมโครโฟนตัวหลัก, ตามด้วยพอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C และช่องลำโพง
จอแสดงผล AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว
vivo V23e 5G มาพร้อมจอแสดงผล AMOLED ความละเอียด Full HD+ (2400 x 1080 พิกเซล) ขนาด 6.44 นิ้ว มีอัตราส่วนภาพ 20:9 ให้สีสันสดใสและรายละเอียดคมชัด เหมาะสำหรับการรับชมภาพยนตร์ รวมถึงคอนเท้นต์ความบันเทิงต่างๆ
สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ
vivo V23e 5G ได้รับการติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ใต้จอแสดงผล (In-Display Fingerprint Sensor) ซึ่งเป็นระบบรักษาความปลอดภัยทาง Biometrics แบบเดียวกับสมาร์ทโฟนระดับเรือธงนิยมใช้งาน และถ้ายังจำกันได้ vivo ถือเป็นผู้บุกเบิกเทคโนโลยีการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจออย่างแท้จริง (เริ่มนำมาใช้กับ vivo X20 Plus UD ในปี 2018) จึงมั่นใจได้ว่าเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอของ vivo V23e 5G จะทำงานได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ
การปลดล็อคหรือยืนยันตัวตนด้วยการสแกนลายนิ้วมือ ยังถือเป็นวิธีการที่ดีที่สุดในยุคปัจจุบัน ในขณะที่ทั่วโลกกำลังเผชิญกับวิกฤตด้านสุขภาพ และมีความจำเป็นต้องสวมหน้ากากป้องกันอยู่ตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม vivo V23e 5G ยังรองรับฟีเจอร์ Face Wake หรือ ปลดล็อคด้วยการสแกนใบหน้า เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้งานเมื่ออยู่ในบ้านหรือพื้นที่ส่วนตัว โดยอาศัยการทำงานของระบบจดจำใบหน้า ร่วมกับกล้องหน้าความละเอียดสูงถึง 44 ล้านพิกเซล
กล้องหน้า 44MP Natural Portrait Selfie Camera
สโลแกน “คมชัดทุกโมเม้นท์ที่คุณเป็น” ของ vivo V23e 5G มาจากกล้องเซลฟี่นี่เอง โดยให้กล้องหน้าความละเอียดสูงถึง 44 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 เก็บภาพได้อย่างคมชัดทุกรายละเอียด และมี AF หรือระบบออโต้โฟกัส ไม่ว่าจะถ่ายเซลฟี่จากระยะใกล้หรือไกล ก็สามารถจับภาพได้อย่างคมชัด ไม่หลุดโฟกัส
กล้องหน้ายังมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจมากมาย เริ่มที่ Natural Portrait ถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้งานถ่ายภาพเซลฟี่ได้อย่างสวยงามธรรมชาติยิ่งขึ้น โดยอาศัยเทคโนโลยี AI และยังรองรับการถ่สยเซลฟี่แบบกลุ่ม ซึ่งให้ใบหน้าของทุกคนดูดีอย่างเป็นธรรมชาติในสไตล์ของตัวเอง
Eye Autofocus Selfie ช่วยจับโฟกัสดวงตาทั้งคู่ของผู้ใช้งานได้อย่างแม่นยำ ไม่ว่าจะเคลื่อนไหว หรืออยู่ในมุมไกล โดยไม่จำเป็นต้องใช้สายตาโฟกัสไปที่กล้องตลอดเวลา และด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงนี้ ระบบโฟกัสของกล้องจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งปรับโฟกัสแบบไดนามิก ทำให้ไม่หลุดโฟกัส ช่วยให้ภาพเซลฟี่ออกมาโดดเด่น มีความสมจริงเป็นธรรมชาติ
AI Extreme Night ได้รับการพัฒนาขึ้นมาเพื่อปรับปรุงการถ่ายเซลฟี่ในที่แสงน้อย หรือในเวลากลางคืนได้ดีขึ้น ด้วยการประมวลภาพหลายเฟรมรวมกัน เพื่อลดนอยส์หรือจุดรบกวน และยังได้เทคโนโลยี AI มาช่วยแก้ไขลักษณะเฉพาะของใบหน้า จึงสามารถเก็บรายละเอียดของภาพได้ดีขึ้น ไม่ต่างจากการถ่ายภาพในเวลากลางวัน
Multi-Style Portrait เป็นอีกขั้นของการถ่ายภาพบุคคล หรือ Portrait โดยนำฟิลเตอร์ Face Beauty, Color Tone และเอฟเฟกต์ Bokeh มารวมเข้าด้วยกัน ช่วยให้ผู้ใช้งานสนุกไปกับไอเดียใหม่ๆ ในการถ่ายภาพบุคคลมากขึ้น
Double Exposure 2.0 เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานนำเข้ารูปภาพพื้นหลังได้ แล้วรวม 2 ภาพ ให้อยู่กลายเป็นภาพเดียวกันอย่างสร้างสรรค์ เหมือนภาพถ่ายที่ได้รับการตัดต่อโดยมืออาชีพ แต่ทำได้ง่ายๆ บนสมาร์ทโฟน vivo V23e 5G
นอกจากนี้ Steadiface Selfie Video เหมาะสำหรับการถ่าย Vlog หรือ ขณะกำลังเคลื่อนไหวไปด้วย โดยใช้อัลกอริทึมช่วยล็อคโฟกัสใบหน้าให้คมชัดอยู่ตลอดเวลา ทำให้ภาพเคลื่อนไหวราบรื่นเหมือนใช้ขาตั้งกล้อง
Dual-View Video 3.0 โหมดถ่ายวิดีโอด้วยกล้องหน้าและกล้องหลังในเวลาเดียวกัน ซึ่งได้รับการพัฒนามาถึงรุ่นที่ 3 แล้ว เป็นอีกโหมดที่ถูกใจ Youtuber และ Vlogger เพราะสามารถถ่ายวิดีโอใบหน้าตัวเองด้วยกล้องหน้า ขณะเดียวกันยังใช้กล้องหลังบันทึกสิ่งที่ต้องการสื่อสารออกไปได้พร้อมกันไม่เพียงแค่นั้น กล้องหน้าของ vivo V23e 5G ยังมีโหมด Video Face Beauty, Slo-Mo, Live Photo และ AR Stickers
กล้องหลัง 3 ตัว 50 ล้านพิกเซล
vivo V23e 5G ติดตั้งกล้องหลังมาให้ 3 ตัว ภายในกรอบสี่เหลี่ยมผืนผ้าสีดำ โดยเลนส์บนสุดเป็นกล้อง Ultra Wide หรือกล้องมุมกว้างพิเศษ สำหรับถ่ายภาพหมู่ วิวทิวทัศน์ รวมถึงสถาปัตยกรรมสุดคลาสสิกของสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ถัดลงมาเป็นกล้องหลังความละเอียดสูง 50 ล้านพิกเซล ตามด้วยกล้อง Macro ช่วยขยายรายละเอียดของโลกใบเล็กที่ซ่อนอยู่ในทุกที่
- กล้องหลัก ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล (f/1.8) เก็บรายละเอียดของภาพถ่ายได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
- กล้อง Ultra Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล (f/2.2) ให้มุมมองกว้าง 120 องศา
- กล้อง Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล (f/2.4) สำหรับถ่ายภาพใกล้วัตถุด้วยโหมด Super Macro
กล้องหลังของ vivo V23e 5G มีฟีเจอร์ที่น่าสนใจมากมาย แต่ที่โดดเด่นที่สุดคือ Bokeh Flare Portrait โหมดถ่ายภาพบุคคล โดยเฉพาะในเวลากลางคืน เพราะช่วยปรับแสงไฟของฉากหลังให้เบลออย่างสวยงาม เหมือนถ่ายจากกล้องระดับมืออาชีพ
Ultra Stabilization ตัวช่วยในการถ่ายวิดีโอ โดยอาศัยเทคโนโลยีป้องกันภาพสั่นไหว Ultra Stable Video และ EIS ช่วยตรวจจับระดับการเคลื่อนไหวของร่างกายอย่างชาญฉลาด เพื่อทำให้ภาพเคลื่อนไหวราบรื่นนุ่มนวล และครอบคลุมมุมมองที่กว้างขึ้น
กล้องหลังของ vivo V23e 5G ยังมีโหมด Eye Autofocus, Dual-View Video 3.0, Double Exposure 2.0 เช่นเดียวกับกล้องหน้า รวมถึงโหมดถ่ายภาพในเวลากลางคืน ที่ใช้ได้ทั้งกล้องหลักและกล้อง Ultra Wide พร้อมด้วยโหมด Bokeh Portrait, Portrait Filters, 50MP, Live Photo, AR Stickers, Slo-Mo, Time-Lapse, Documents, Pano และ Pro
ตัวอย่างภาพถ่ายหล้องหน้า
ตัวอย่างภาพถ่ายหล้องหลัง
ประสิทธิภาพแรงด้วย Dimensity 810
หัวใจหลักของ vivo V23e 5G อยู่ที่ชิปประมวลผล MediaTek Dimensity 810 ที่ถูกสร้างขึ้นด้วยกระบวนการโหนดอุตสาหกรรมประสิทธิภาพสูงระดับ 6 นาโนเมตร ของ TSMC ซึ่งได้รับการพัฒนาให้ใช้งานได้นานยิ่งขึ้นต่อการชาร์จแต่ละครั้ง เนื่องจากชิปรุ่นนี้บรรจุทรานซิสเตอร์ที่มีขนาดเล็กและประหยัดพลังงานมากกว่ากระบวนการผลิตชิปรูปแบบอื่นๆ โดยใช้ซีพียูแบบ 64-bit Octa Core ประกอบด้วย Arm Cortex-A55 + Arm Cortex-A76 ความเร็วสูงสุดถึง 2.4GHz พร้อมด้วยจีพียู Arm Mali-G57 MC2
ชิปประมวลผล MediaTek Dimensity 810 ยังมาพร้อมเทคโนโลยีเกมมิ่ง MediaTek HyperEngine 2.0 ที่ประกอบด้วย Intelligent Resource Management และ Networking Engines ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อการเล่นเกมในยุค 5G โดยเฉพาะ ช่วยบริหารจัดการซีพียู, จีพียู และหน่วยความจำอย่างชาญฉลาด เพื่อการตอบสนองที่ฉับไว, ป้องกันไม่ให้เกิดค่า Jitter ในเกมที่ต้องโหลดข้อมูลสูง รวมถึงการเล่นเกมอย่างหนักหน่วง, มีระบบ Smart Switch ระหว่างเครือข่าย 5G และ 4G รวมถึงคาดการณ์การใช้ Wi-Fi พร้อมกับ 5G ได้อย่างชาญฉลาด เพื่อให้การเล่นเกมออนไลน์ไม่สะดุด
ด้านความจำให้ RAM มาถึง 8GB และยังขยายได้อีก 4GB รวมเป็น 12GB ผ่านเทคโนโลยี Extended RAM 2.0 จับคู่กับ ROM 128GB และยังสนับสนุนการ์ด MicroSD สูงสุด 1TB (เทคโนโลยี Extended RAM ของ vivo จะนำความจุ ROM มาจำลองเป็นความจำ RAM เพื่อรองรับการทำงานแบบ Multitasking ได้อย่างราบรื่น แม้เปิดแอปพลิเคชั่นมากถึง 25 แอป
5G Dual SIM Dual Mode
vivo V23e 5G รองรับการใช้งาน 5G ทันทีตั้งแต่แะกล่อง เมื่อใส่ซิมการ์ด 5G พร้อมเปิดใช้งานกับผู้ให้บริการเครือข่ายแล้ว ที่น่าสนใจก็คือ สามารถใส่ซิมการ์ด 5G ได้ทั้ง 2 ช่อง สแตนด์บายได้พร้อมกันทั้ง 2 เครือข่าย และสามารถสลับการใช้งานข้ามเครือข่ายได้อย่างราบรื่น ด้วยการออกแบบเสารับสัญญาณรอบทิศทาง 360 องศา เพื่อให้การรับ-ส่งข้อมูลเป็นไปอย่างรวดเร็วบนสัญญาณที่เสถียรที่สุด
vivo V23e 5G ยังรองรับ 5G แบบ Dual Mode (SA/NSA) ซึ่ง SA หรือ Standalone หมายถึงการใช้งานบนเทคโนโลยี 5G อย่างแท้จริง ที่ช่วยให้การเชื่อมต่อมีความเร็วสูงสุด ขณะที่ NSA หรือ Non-Standalone หมายถึงการใช้งาน 5G ผ่านโครงสร้างพื้นฐานของเครือข่าย 4G จึงมั่นใจได้ว่าประสบการณ์การดาวน์โหลด รับ-ส่งไฟล์ขนาดใหญ่ รวมถึงสตรีมภาพยนตร์คุณภาพสูง จะทำได้อย่างราบรื่นรวดเร็ว
ชาร์จเร็ว 44W FlashCharge
vivo V23e 5G มีความจุแบตเตอรี่ 4050mAh ให้อายุการใช้งานยาวนานจลอดทั้งวันโดยไม่ต้องกังวล และเมื่อถึงเวลาที่ต้องเติมพลังงานให้กับแบตเตอรี่ ก็สนับสนุนเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 44W FlashCharge สามารถชาร์จแบตเตอรี่ของ vivo V23e 5G จากระดับ 1% ถึง 69% ภายในเวลาเพียง 30 นาที โดยแถมอุปกรณ์ชาร์จเร็ว 44W Power Adapter (11V/4A) มาให้ในกล่อง ไม่ต้องจ่ายเพิ่ม
ระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 12
vivo V23e 5G ทำงานบนพื้นฐาน Android ครอบทับด้วย Funtouch OS 12 ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด มาพร้อมวิดเจ็ตใหม่ๆ จากแอปพลิเคชั่นต่างๆ ที่ใช้งานอยู่เป็นประจำ เพื่อให้เข้าถึงได้ทันทีที่ปลดล็อกหน้าจอ โดยไม่ต้องเสียเวลาเปิดเข้าไปในแอป และยังมีฟีเจอร์อื่นๆ ที่น่าสนใจ เลื่อนลงมาอ่านกันเลย
Nano Music Player สัมผัสประสบการณ์การฟังเพลงที่สะดวกและง่ายดาย เพียงปุ่มเดียวบนหน้าจอหลักก็สามารถเข้าถึงเพลงโปรดจากแอปพลิเคชันต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Spotify หรือ JOOX
Stickers ประกอบด้วยชุดสติกเกอร์ที่แสดงข้อมูลสำคัญต่างๆ ที่ช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นฟีเจอร์ติดตามการดื่มน้ำในแต่ละวัน คำคมที่จดบันทึกไว้เพื่อแรงบันดาลใจ ระบบเตือนความจำ และยังสามารถปรับแต่งสี และรูปภาพพื้นหลังได้
Picture-in-Picture ใช้งาน 2 แอปพร้อมกันได้อย่างง่ายดายและราบรื่น เช่น รับชมภาพยนตร์หรือเล่นเกมแบบเต็มจอ และยังสามารถตอบกลับข้อความในหน้าต่างขนาดเล็กได้
Funtouch OS 12 ยังมีการเพิ่มระบบป้องกันอีกชั้นให้กับ vivo V23e 5G เมื่อเจ้าของสมาร์ทโฟนตั้งค่ารหัสผ่านเพื่อปลดล็อกอุปกรณ์ ผู้ใช้งานก็จะต้องป้อนรหัสผ่านเพื่อปิดเครื่องด้วยเช่นกัน หมายความว่าถ้าหากมีคนร้ายขโมยสมาร์ทโฟนไป จะไม่สามารถปิดเครื่องได้ถ้าไม่ทราบรหัสผ่าน จึงเพิ่มโอกาสในการติดตามค้นหาเพื่อนำสมาร์ทโฟนกลับคืนมาได้มากขึ้น
สรุปราคาและการวางจำหน่าย
vivo V23e 5G ได้รับการออกแบบมาอย่างสวยงามทันสมัยบนดีไซน์กระจกสุดหรู ให้ความพรีเมี่ยมด้วยจอแสดงผล MOLED ขนาด 6.44 นิ้ว ซึ่งติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ใต้จอแบบเดียวกับที่พบในสมาร์ทโฟนเรือธง โดดเด่นด้วยกล้องหน้าความละเอียดสูงถึง 44 ล้านพิกเซล รองรับการถ่ายเซลฟี่ได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะถ่ายคนเดียวหรือถ่ายกับเพื่อน ทั้งช่วงกลางวันและกลางคืน ก็ให้ภาพเซลฟี่ออกมาโดดเด่นที่สุด ขณะที่กล้องหลังก็มีความละเอียดสูงถึง 50 ล้านพิกเซล พร้อมด้วยกล้องสำหรับถ่ายภาพมุมกว้างพิเศษ และถ่ายภาพใกล้วัตถุ
นอกเหนือจากการถ่ายภาพที่ยอดเยี่ยม vivo V23e 5G ยังมีจุดเด่นที่เทคโนโลยีชาร์จเร็ว 44W FlashCharge โดยมีความจุแบตเตอรี่ 4050mAh ให้อายุการใช้งานยาวนานตั้งแต่เช้าจนเข้านอน และมีประสิทธิภาพเพียงพอสำหรับการเล่นเกมที่ราบรื่น รวมถึงให้ประสบการณ์ในการเชื่อมต่อที่รวดเร็ว ด้วยการสนับสนุน 5G แบบ Dual SIM Dual Mode จึงเหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนระดับกลางไว้ถ่ายภาพสวยๆ และตอบโจทย์การใช้งานด้านความบันเทิงได้อย่างลื่นไหล
vivo V23e 5G มี 2 เปิดราคาทางการในประเทศไทยที่ 12,999 บาท ซื้อพร้อมแพคเกจจากค่ายมือถือเริ่มต้นเพียง 5,789 บาท มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Moonlight Shadow และ Sunshine Coast เปิดจองตั้งแต่วันที่ 23-30 พฤศจิกายน 2564 โดยจะวางจำหน่ายทางการ 1 ธันวาคม 2564 เป็นต้นไป