Amazfit แบรนด์อุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะชั้นนำระดับโลก เปิดตัวสมาร์ทวอทช์ 3 รุ่นใหม่ ได้แก่ GTR 3 Pro, GTR 3 และ GTS 3 เพื่อให้การดูแลสุขภาพง่ายขึ้น อุปกรณ์สวมใส่ซีรีส์ล่าสุดของ Amazfit จึงออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้สวมใส่สามารถยกระดับสุขภาพของตนเอง [1] และอัปเกรดไลฟ์สไตล์โดยไม่กระทบต่อสไตล์ส่วนตัว สมาร์ทวอทช์ซีรีส์ใหม่อัดแน่นด้วยฟีเจอร์สุดล้ำที่ช่วยรักษาสุขภาพและความแข็งแรงของร่างกาย มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Zepp OS ผสานรูปลักษณ์ที่ดูดีมีสไตล์
ฟีเจอร์เพื่อสุขภาพและไลฟ์สไตล์
สมาร์ทวอทช์ 3 รุ่นใหม่อัดแน่นด้วยฟีเจอร์เพื่อสุขภาพ ความแข็งแรงของร่างกาย และไลฟ์ไตล์ โดยได้รับขุมพลังจากระบบปฏิบัติการ Zepp OS มาพร้อมอินเทอร์เฟซที่ทรงพลังและใช้งานง่าย ผู้สวมใส่จึงสามารถปลดปล่อยศักยภาพสูงสุดของตนเอง สำรวจสิ่งที่น่าสนใจ และใช้ชีวิตที่เปี่ยมด้วยพลังบวก
ระบบปฏิบัติการใหม่นี้พัฒนาขึ้นเพื่อช่วยให้อุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะของ Amazfit มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยไม่ต้องพึ่งพาระบบปฏิบัติการของสมาร์ทโฟนที่กินแบตเยอะ ระบบปฏิบัติการใหม่พัฒนาขึ้นตามแนวคิดน้ำหนักเบา ราบรื่น และใช้ได้จริง ช่วยให้การสื่อสารข้อมูลง่ายขึ้นและลดการทำงานซ้ำซ้อน ทั้งยังกินแบตน้อยกว่าเมื่อเทียบกับระบบปฏิบัติการรุ่นเก่า
นอกจากนั้นยังรองรับทั้งอุปกรณ์ Android และ iOS รวมทั้งสามารถเชื่อมกับแพลตฟอร์มสุขภาพยอดนิยม เช่น Apple Health หรือ Google Fit เพื่อซิงค์ข้อมูลสุขภาพ รวมถึง Strava, Relive, Runkeeper และ TrainingPeaks เพื่อซิงค์และแชร์ข้อมูลการเล่นกีฬา สำหรับคุณสมบัติเด่นอื่น ๆ ประกอบด้วย
ปรับแต่งได้ตามใจต้องการ : มีภาพหน้าจอสมาร์ทวอทช์ให้เลือกกว่า 150 แบบ พร้อม Always-on Display [2] ที่เข้ากันสำหรับทุกอารมณ์ความรู้สึกและทุกโอกาส รวมถึงเอฟเฟกต์และภาพเคลื่อนไหวต่าง ๆ นอกจากนี้ ผู้สวมใส่ยังสามารถออกแบบภาพหน้าจอสมาร์ทวอทช์และมินิแอปด้วยตัวเองโดยใช้ชุดพัฒนาแอป (เร็ว ๆ นี้)
ตรวจวัดสุขภาพอย่างง่ายดายแบบ 4-in-1: สามารถตรวจวัดสุขภาพ 4 รายการด้วยการแตะเพียงครั้งเดียว [3] ด้วยเซนเซอร์ 6PD (photodiodes) BioTrackerTM PPG 3.0 ที่ฝังมากับสมาร์ทวอทช์ โดยสามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ความเข้มข้นของออกซิเจนในเลือด [4] ระดับความเครียด และอัตราการหายใจ ทั้งหมดภายในเวลาเพียง 45 วินาทีเท่านั้น
จัดการสุขภาพอย่างง่ายดายตลอด 24 ชั่วโมง: ตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจตลอดวัน [5] แม้กระทั่งตอนว่ายน้ำ พร้อมแจ้งเตือนเมื่ออัตราการเต้นของหัวใจสูงหรือต่ำผิดปกติ รวมถึงติดตามโซนอัตราการเต้นของหัวใจเพื่อปรับการออกกำลังกายให้เหมาะสม นับเป็นคู่หูดูแลสุขภาพครบวงจรและใช้งานง่ายสำหรับทุกคน
เข้าใจง่าย : คำนวณข้อมูลสุขภาพและสภาพร่างกายอย่างรวดเร็วและแปลงเป็นค่า PAI [6] โดยใช้ข้อมูลการทำกิจกรรมตลอด 7 วันที่ผ่านมา
ติดตามการนอนหลับ : ตรวจจับการนอนระดับต่าง ๆ [7] ทั้งช่วงหลับไม่สนิท ช่วงหลับลึก และช่วงหลับที่มีการกลอกตาอย่างรวดเร็ว (REM) รวมถึงช่วงที่ตื่นกลางดึก ช่วงนอนกลางวันนานเกิน 20 นาที หรือแม้กระทั่งคุณภาพการหายใจขณะนอนหลับ โดยสามารถดูข้อมูลการนอนหลับได้โดยตรงบนสมาร์ทวอทช์
ติดตามรอบประจำเดือน : ทำความเข้าใจรอบประจำเดือนและวางแผนล่วงหน้าได้อย่างง่ายดาย หลังจากบันทึกข้อมูลประจำเดือนก็จะสามารถคาดการณ์เวลาและความยาวนานของประจำเดือนรอบต่อไปและวันไข่ตก ช่วยให้ผู้สวมใส่คุมเกมได้โดยไม่ต้องกลัวว่าจะมีเซอร์ไพรส์
หน้าจอใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพ : ปรับแต่งหน้าจอได้ตามความต้องการ โดยสามารถสร้างชอร์ตคัตเข้าสู่ฟีเจอร์ที่ใช้งานบ่อยเพื่อประหยัดเวลาและเข้าถึงข้อมูลสำคัญอย่างง่ายดายเพียงแค่ปัดหรือแตะเท่านั้น
ควบคุมด้วยเสียง : Alexa [8] ช่วยให้ผู้สวมใส่สามารถตั้งนาฬิกาปลุก ถามคำถามเมื่อออนไลน์ และสั่งการด้วยเสียง [9] เมื่อออฟไลน์ เพื่อเปิดโหมดกีฬาหรือฟีเจอร์สุขภาพ หรือแม้กระทั่งเข้าถึง Home Connect เพื่อควบคุมอุปกรณ์อัจฉริยะภายในบ้าน พร้อมเพลิดเพลินไปกับมินิแอปมากกว่า 10 แอป
GPS ที่รวดเร็วและแม่นยำ: ติดตามโลเคชันอย่างรวดเร็วและแม่นยำ [10] ด้วยระบบดาวเทียม 5 ระบบ
เลือกแต่งหน้าจอด้วยตัวเอง : ตั้งค่าฟีเจอร์ที่ใช้งานบ่อย อัปโหลดรูปภาพเพื่อแต่งภาพหน้าจอสมาร์ทวอทช์ด้วยตัวเอง หรือเลือกภาพหน้าจอเคลื่อนไหว 15 แบบให้เข้ากับเสื้อผ้าทั้งในวันทำงาน พักผ่อน หรือเที่ยวเล่น
เครื่องมือสร้างแรงกระตุ้น : ติดตามการวิ่งด้วย Virtual Pacer [11] จากนั้นยกระดับความก้าวหน้าด้วยอัลกอริทึม PeakBeats
เครื่องมือบริหารจัดการชีวิต : จัดการชีวิตประจำวันด้วยฟังก์ชันแจ้งเตือนข้อความ แจ้งเตือนให้ขยับร่างกายและดื่มน้ำ ปฏิทิน อีเวนต์และรายการสิ่งที่ต้องทำ พยากรณ์อากาศ ควบคุมกล้องจากทางไกลด้วยบลูทูธ และอีกมากมาย
ระบบปฏิบัติการ Zepp OS มาพร้อมข้อมูลเชิงลึกด้านสุขภาพและความแข็งแรงของร่างกายอย่างครอบคลุม ส่วน Zepp App ในสมาร์ทโฟนก็พร้อมให้คำแนะนำเพิ่มเติมเพื่อช่วยให้ผู้สวมใส่บรรลุเป้าหมายตามที่ตั้งใจ
สมาร์ทวอทช์ GTR 3 Pro, GTR 3 และ GTS 3 ได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อช่วยให้ผู้สวมใส่กล้าที่จะทำสิ่งใหม่ ๆ อย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อให้ใช้ชีวิตดิจิทัลได้อย่างง่ายดาย มีสมดุล และประสบความสำเร็จ
GTR 3 Pro: รังสรรค์ขึ้นเพื่อมอบพลังให้ผู้สวมใส่
GTR 3 Pro คือตัวเลือกระดับพรีเมียมในสมาร์ทวอทช์สายแฟชั่นซีรีส์ใหม่ของ Amazfit มาพร้อมนวัตกรรมสุดล้ำเพื่อให้ผู้สวมใส่ใช้ชีวิตอย่างใส่ใจสุขภาพและมีแรงผลักดันจากภายใน
GTR 3 Pro มีหน้าจอ AMOLED Ultra HD ขนาด 1.45 นิ้ว ความละเอียด 331 ppi ให้ภาพสว่างสดใส พร้อมอินเทอร์เฟซใช้งานง่าย และทำงานอย่างราบรื่นด้วยอัตรา Refresh Rate สูง จอทรงกลมขนาดใหญ่มีอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเรือนสูงถึง 70.6% นับว่าเป็นสมาร์ทวอทช์จอกลมขนาดใหญ่ที่สุดรุ่นหนึ่งในตลาด แต่ก็มีขนาดสวมใส่สบายไม่เทอะทะ
เพียงแค่ใช้ปลายนิ้วหมุนเม็ดมะยมด้านข้างสมาร์ทวอทช์ด้วยสัมผัสที่คุ้นเคยเช่นเดียวกับนาฬิกาทั่วไป ผู้สวมใส่ก็สามารถดูฟีเจอร์และโหมดกีฬาต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย
ผู้สวมใส่สามารถติดตามการออกกำลังกายตามโหมดกีฬากว่า 150 โหมดที่มาพร้อมกับสมาร์ทวอทช์ รวมถึงติดตามระดับความเครียดเพื่อดูแลสุขภาพของตนเองตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน หากลืมเปิดโหมดกีฬาก็ไม่ต้องกังวล เพราะฟีเจอร์ตรวจจับการออกกำลังกายอัจฉริยะ [12] จะเปิดโหมดกีฬายอดนิยม 8 โหมดเพื่อไม่ให้พลาดการติดตามการออกกำลังกาย
สิ่งที่ทำให้ GTR 3 Pro ยิ่งเหนือกว่าสมาร์ทวอทช์รุ่นอื่นก็คือแบตเตอรี่ 450 mAh ซึ่งใช้งานได้ยาวนานสูงสุด 12 วัน [13] ด้วยการชาร์จครั้งเดียว จึงไม่ต้องกังวลเรื่องแบตหมดอีกต่อไป
ผู้ที่รักเสียงเพลงต้องปลื้มกับเมมโมรี่ความจุ 2.3 GB [14] ซึ่งเก็บเพลงได้สูงสุด 470 เพลง จึงเล่นเพลงจากสมาร์ทวอทช์ได้โดยตรงและไม่ต้องใช้สมาร์ทโฟน นอกจากนี้ GTR 3 Pro ยังสามารถโทรออกและรับสายเมื่อเชื่อมกับสมาร์ทโฟนผ่านบลูทูธ จึงคุยได้โดยไม่ต้องถือสมาร์ทโฟน
GTR 3: รังสรรค์ขึ้นเพื่อความทนทาน
GTR 3 ทำจากอลูมินัมอัลลอยเกรดเดียวกับเครื่องบิน มีความทนทานสูงและน้ำหนักเบา มาพร้อมดีไซน์ไร้ขอบผสานกับจอกระจกโค้ง ให้ความรู้สึกกลมกลืนสวยงาม ด้านข้างมีเม็ดมะยมดูหรูหราที่ช่วยเติมเต็มดีไซน์ให้สมบูรณ์
ตัวเรือนดูดีมีสไตล์และสายซิลิโคนป้องกันแบคทีเรียสวมใส่สบายเข้ากันได้ดีกับเสื้อผ้าหลายแบบ ตั้งแต่ชุดสูทไปจนถึงชุดออกกำลังกาย ทั้งยังสามารถปรับแต่งภาพหน้าจอสมาร์ทวอทช์เพื่อแสดงข้อมูลทั้งหมดที่ต้องการให้เห็นชัดเจนเพียงแค่ชายตามอง
GTR 3 มีหน้าจอ AMOLED HD ขนาด 1.39 นิ้วลุคสปอร์ต มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Zepp OS รวมถึงแบตเตอรี่ 450 mAh ใช้งานยาวนานสูงสุด 21 วัน หรือ 3 สัปดาห์ด้วยการชาร์จเพียงครั้งเดียว และยาวนานยิ่งกว่านั้นหากเปิดโหมดประหยัดแบตเตอรี่
GTS 3: รังสรรค์ขึ้นเพื่อรองรับทุกการเคลื่อนไหว
GTS 3 มาพร้อมจอสี่เหลี่ยมโมเดิร์น Ultra HD AMOLED ขนาด 1.75 นิ้ว ความละเอียด 341 ppi ถือเป็นสมาร์ทวอทช์บางที่สุดและน้ำหนักเบาที่สุดรุ่นหนึ่งในตลาด และมีอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเรือนสูงถึง 72.4% โดยออกแบบมาเพื่อทุกคนที่ต้องการสมาร์ทวอทช์ที่มีสไตล์และบาง แต่มีฟีเจอร์เทียบเท่ารุ่น GTR 3 แทบทั้งหมด
“สมาร์ทวอทช์ทั้งสามรุ่นเป็นไปตามสโลแกน Smart Health Made Easy โดยรุ่น GTR 3 Pro รังสรรค์ขึ้นเพื่อมอบพลังให้ผู้สวมใส่ รุ่น GTR 3 รังสรรค์ขึ้นเพื่อความทนทาน และรุ่น GTS 3 รังสรรค์ขึ้นเพื่อรองรับทุกการเคลื่อนไหว เราหวังว่าทุกคนจะตื่นเต้นกับสมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่เช่นเดียวกับเรา การเชื่อมสุขภาพเข้ากับเทคโนโลยีคือปรัชญาสำคัญเบื้องหลังระบบปฏิบัติการ Zepp OS ที่เราสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อมุ่งเน้นสุขภาพโดยเฉพาะ ช่วยให้สมาร์ทวอทช์ของเราบรรลุพันธกิจในการทำให้ทุกคนมีสุขภาพดีอย่างง่ายดาย” เวย์น หวง ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Zepp Health กล่าว
ราคาและการวางจำหน่าย
สมาร์ทวอทช์ซีรีส์ GTR 3 และ GTS 3 วางจำหน่ายทั่วโลกในวันที่ 11 ตุลาคม 2564 (GMT+1)
ในยุโรป วางจำหน่ายในราคาเริ่มต้นที่ 149.99 ยูโรสำหรับรุ่น GTR 3 และ GTS 3 และเริ่มต้นที่ 199.99 ยูโรสำหรับรุ่น GTR 3 Pro โดยวางจำหน่ายผ่าน Amazfit Store ในสหราชอาณาจักร เยอรมนี ฝรั่งเศส อิตาลี และสเปน ตั้งแต่วันที่ 11 ตุลาคม 2564 (GMT+1)
ในสหรัฐอเมริกา วางจำหน่ายในราคาเริ่มต้นที่ 179.99 ดอลลาร์สำหรับรุ่น GTR 3 และ GTS 3 และเริ่มต้นที่ 229.99 ดอลลาร์สำหรับรุ่น GTR 3 Pro โดย GTR 3 Pro และ GTR 3 วางจำหน่ายผ่าน Amazfit Store ในสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่วันที่ 11 ตุลาคม 2564 (GMT+1) ส่วน GTS 3 จะวางจำหน่ายเร็ว ๆ นี้