คณะกรรมาธิการยุโรป ร่างกฎหมายที่จะบังคับให้ Apple ต้องเปลี่ยนพอร์ตเชื่อมต่อจาก Lightning มาเป็น USB-C สำหรับผลิตภัณฑ์ต่างๆ อย่าง iPhone, iPad และ AirPods ที่จะวางจำหน่ายในยุโรป
ความจริงแล้วเป็นกฎหมายดังกล่าวมีผลบังคับใช้กับทุกแบรนด์ ที่เป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต กล้อง หูฟัง ลำโพงแบบพกพา คอนโซลวิดีโอเกมพกพา และมีความพยายามในการผลักดันกฎหมายมานานหลายปีแล้ว แต่ยังไม่เป็นผลทางกฎหมาย
จากการศึกษาของคณะกรรมาธิการยุโรปในปี 2019 พบว่าโทรศัพท์มือถือที่มาพร้อมสายชาร์จ ส่วนใหญ่ใช้ USB micro-B ถึง 50% รองลงมาเป็น USB-C (29%) และ Lightning (21%) อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านั้น 1 ปี Apple เคยเตือนว่า การบังคับให้เปลี่ยนพอร์ตเชื่อมต่อใหม่ จะสร้างขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างมหาศาล เพราะผู้ใช้งานต้องเปลี่ยนสายชาร์จใหม่ทั้งหมด และยังเป็นตัวชะลอนวัตกรรมในอุตสาหกรรมด้วย
นอกจากจะมีแผนเปลี่ยนพอร์ตเชื่อมต่อแล้ว ร่างกฎหมายดังกล่าว ยังเสนอให้ผู้ผลิตวางจำหน่ายอุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่ หรือ Power Adapter แยกต่างหากด้วย ซึ่ง Apple เริ่มทำแล้วตั้งแต่ปีก่อน แต่ทางคณะกรรมาธิการยุโรป ต้องการแก้ไขกฎระเบียบด้านการออกแบบเพื่อสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ผู้ผลิตนำเสนออุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่ที่สามารถทำงานร่วมกันได้ หรือ ใช้ด้วยกันได้กับทุกแบรนด์
อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอของคณะกรรมาธิการยุโรป ยังเป็นเพียงร่างกฎหมาย ซึ่งจำเป็นต้องผ่านการอนุมัติจากรัฐสภาสหภาพยุโรปและรัฐบาลระดับประเทศ ก่อนจึงจะมีผลบังคับใช้ โดยทางคณะกรรมาธิการยุโรปหวังว่าร่างกฎหมายดังกล่าวจะได้รับไฟเขียวภายในปี 2022 จากนั้นบริษัทต่างๆ ที่จะส่งผลิตภัณฑ์เข้าไปวางจำหน่ายในยุโรป จะมีเวลาราว 2 ปี ในการเปลี่ยนพอร์ตเชื่อมต่อมาเป็น USB-C
ที่มา – MacRumors