หลังจากเปิดตัวในระดับโลกช่วงปลายเดือนมีนาคม 2021 ที่ผ่านมาในที่สุด OnePlus 9 Series 5G สมาร์ทโฟนเรือธงที่หลายคนรอคอยก็มาถึงมือของทีมงาน @flashflyเรียบร้อยแล้วทั้ง 2 รุ่น ได้แก่ OnePlus 9 5G และ OnePlus 9 Pro 5G ซึ่งทั้งคู่ถือเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของ OnePlus ที่ทำงานร่วมกับแบรนด์กล้องชั้นนำระดับโลกอย่าง Hasselblad เพื่อพัฒนาระบบกล้องให้มีคุณภาพมากกว่าทุกรุ่นที่ผ่านมา ถือว่าเป็นก้าวสำคัญของ OnePlus ที่ได้มุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์ใช้งานที่ดีที่สุดแก้แฟน OnePlus ทุกคนทั่วโลก ตามมาดูกันได้เลยว่าจะมีอะไรที่น่าสนใจกันบ้าง
สเปก OnePlus 9 5G
- จอแสดงผล 120Hz, Fluid Display ขนาด 6.55 นิ้ว
- สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ (In-display Fingerprint Sensor)
- กล้องหลัง 48MP (Main) + 50MP (Ultra-Wide) + 2MP (Monochrome)
- กล้องหน้า 16MP
- ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 888
- ความจำ RAM 8GB แบบ LPDDR5 + ROM 128GB แบบ UFS 3.1 2-LANE
- การเชื่อมต่อ 5G, Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/ax, Bluetooth 5.2, NFC, USB Type-C (USB 3.1 GEN1)
- เซ็นเซอร์ Accelerometer, Electronic Compass, Gyroscope, Ambient Light Sensor, Proximity Sensor, Barometer, Sensor Core, Flicker-detect Sensor, Front RGB sensor
- ระบบนำทาง GPS (L1+L5 Dual Band), GLONASS, Galileo (E1+E5a Dual Band), Beidou, A-GPS
- ลำโพงคู่ Stereo Speakers, ระบบเสียง Dolby Atmos
- ระบบปฏิบัติการ OxygenOS บนพื้นฐาน Android 11
- แบตเตอรี่ 4,500mAh
- รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 65W และชาร์จเร็วแบบไร้สาย 15W
- ขนาดบอดี้ 160 x 74.2 x 8.7 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 192 กรัม
- มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Winter Mist, Arctic Sky, Astral Black
สเปก OnePlus 9 Pro 5G
- จอแสดงผล 120Hz, Fluid Display 2.0 (Curve Display) ขนาด 6.7 นิ้ว
- สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ (In-display Fingerprint Sensor)
- กล้องหลัง 48MP (Main) + 50MP (Ultra-Wide) + 8MP (Telephoto) + 2MP (Monochrome)
- กล้องหน้า 16MP
- ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 888
- ความจำ RAM 12GB แบบ LPDDR5 + ROM 256GB แบบ UFS 3.1 2-LANE
- การเชื่อมต่อ 5G, Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/ax, Bluetooth 5.2, NFC, USB Type-C (USB 3.1 GEN1)
- เซ็นเซอร์ Accelerometer, Electronic Compass, Gyroscope, Ambient Light Sensor, Proximity Sensor, Barometer, Sensor Core, Flick-detect Sensor, Front RGB sensor
- ระบบนำทาง GPS (L1+L5 Dual Band), GLONASS, Galileo (E1+E5a Dual Band), Beidou, A-GPS
- ลำโพงคู่ Stereo Speakers, ระบบเสียง Dolby Atmos
- ระบบปฏิบัติการ OxygenOS บนพื้นฐาน Android 11
- แบตเตอรี่ 4,500mAh
- รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 65W และชาร์จเร็วแบบไร้สาย 50W
- ขนาดบอดี้ 163.2 x 73.6 x 8.7 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 197 กรัม
- ป้องกันน้ำในระดับ IP68
- มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Morning Mist, Pine Green, Stellar Black
แกะกล่อง OnePlus 9 และ OnePlus 9 Pro
OnePlus 9 5G และ OnePlus 9 Pro 5G ถูกเก็บไว้ในกล่องสีแดงเหมือนกัน หน้ากล่องระชื่อรุ่นไว้ชัดเจน พร้อมด้วยข้อความ Co-developed with Hasselblad แสดงถึงความร่วมกันระหว่าง 2 บริษัท พลิกมาดูที่หลังกล่องจะเห็นว่าตัวกล่องจริงๆ นั่นสีดำ ติดฉลากสติกเกอร์บอกชื่อรุ่น ความจำ สีสัน หมายเลขรุ่น หมายเลขอีมี่ ติดโลโก้ผู้ผลิตชิป ระบบเสียง และส่วนล่างติดโลโก้ Android พร้อมข้อความบอกว่า สามารถเข้าถึงแอปของ Google ได้อย่างง่ายดาย
เมื่อยกฝากล่องสีแดงออกไป สิ่งแรกที่เห็นก็คือด้านหลังของสมาร์ทโฟน โดย OnePlus 9 5G มาในสี Winter Mist และยังมีสี Arctic Sky กับ Astral Black ให้เลือกด้วย ส่วน OnePlus 9 Pro 5G มาในสี Morning Mist และยังมีสี Pine Green กับ Stellar Black เป็นอีกทางเลือก สมาร์ทโฟนทั้ง 2 รุ่น นอนอยู่บนถาดรองสีขาว ที่มีสโลแกน Never Settle และได้รับการห่อหุ้มด้วซองพลาสติกมาอย่างดี พร้อมบอกตำแหน่งของชิป NFC และขดลวดวงกลมสำหรับการชาร์จแบตเตอรี่แบบไร้สาย
ด้านหน้าจอของทั้ง OnePlus 9 5G และ OnePlus 9 Pro 5G ได้รับการติดฟิล์มป้องกันรอยมาให้แล้ว ถัดลงมาจะพบกับเคสที่แถมมาให้ โดย OnePlus 9 5G ได้รับเคสใส ส่วน OnePlus 9 Pro 5G ได้รับเคสแบบทึบแสงสีเทา
ทั้ง 2 กล่อง ได้รับสายชาร์จแบตเตอรี่ USB Type-C เส้นสีแดง
และมาพร้อม USB-C Power Adapter หรือ อุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่ Warp Charge 65 ซึ่งหมายความว่าสมาร์ทโฟนทั้ง 2 รุ่น รองรับชาร์จเร็วแบบใช้สาย 65W (10V/6.5A)
สำหรับซองเอกสารสีแดง ถูกซ่อนไว้ใต้ฝากล่อง ภายในบรรจุแผ่นกระดาษข้อความต้อนรับ พร้อมแนบเข็มจิ้มถาดซิมการ์ดมาให้ด้วย นอกจากนี้ ยังมีคู่มือแนะนำการใช้งานเบื้องต้น, ข้อมูลด้านความปลอดภัย และ ใบรับประกัน
ดีไซน์พรีเมียม
OnePlus 9 Series 5G ทั้ง 2 รุ่น ได้รับการออกแบบมาอย่างสวยงามพรีเมียม สมกับเป็นสมาร์ทโฟนระดับเรือธง และทั้งคู่ยังมีการแชร์ดีไซน์ร่วมกัน แต่ก็มองเห็นความแตกต่างได้ไม่ยาก เนื่องจาก OnePlus 9 5G ได้รับกล้องหลัง 3 ตัว ส่วน OnePlus 9 Pro 5G มาพร้อมกล้องหลัง 4 ตัว ขอบจอโค้ง และมีมิติตัวเครื่องยาวกว่าเล็กน้อย
โครงสร้างของ OnePlus 9 5G และ OnePlus 9 Pro 5G ผลิตด้วยวัสดุอะลูมิเนียมที่มีความบาง 2.2 มิลลิเมตร ขณะที่ขอบด้านข้างของทั้งคู่มีความบางเท่ากัน 8.7 มิลลิเมตร และยังถูกออกแบบมาให้มีความสมดุล ด้านหลังโค้งรับฝ่ามือ เพื่อให้ผู้ใช้งานถือสมาร์ทโฟนได้อย่างสบายมือเป็นเวลานาน
OnePlus 9 Series 5G มีให้เลือก 3 สี ที่แตกต่างกัน แต่ล้วนได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติ OnePlus 9 5G มาพร้อมสสีม่วง Winter Mist, สีฟ้า Arctic Sky และ สีดำ Astral Black ขณะที่ OnePlus 9 Pro 5G มาในสีเทา Morning Mist, สีเขียว Pine Green และ สีดำ Stellar Black
ดีไซน์ด้านหน้าของทั้งคู่ ก็มีความแตกต่างที่ชัดเจน ถึงแม้จะมีการเจาะหลุมไว้ที่มุมบนเพื่อติดตั้งกล้องเซลฟี่ไว้ใต้หน้าจอเหมือนกัน แต่ OnePlus 9 Pro 5G ก็มีความโดดเด่นกว่า เพราะใช้จอแสดงผลแบบขอบมุมโค้งทั้ง 2 ข้าง โดยมีการปรับแต่งสัดส่วนการโค้งของหน้าจอให้เล็กลง เพื่อลดการเปลี่ยนสีและการมองเห็นที่เพี้ยนไป
OnePlus 9 Pro 5G มาพร้อมจอแสดงผล Fluid Display 2.0 (Curve Display) ความละเอียด Quad HD+ ขนาด 6.7 นิ้ว และใช้เทคโนโลยี LTPO (Low-Temperature Polycrystalline Oxide) ส่วนจอแสดงผลของ OnePlus 9 5G เป็นแบบ Fluid Display ความละเอียด Full HD+ ขนาด 6.55 นิ้ว ทำให้ OnePlus 9 Pro 5G มีมิติตัวเครื่องยาวกว่าเล็กน้อย แต่ในมิติอื่นๆ ทั้งความกว้าง ความบาง และ น้ำหนัก เกือบจะมองไม่เห็นความแตกต่าง
ด้านหน้าของทั้ง 2 รุ่น ได้รับการป้องกันด้วยกระจก Corning Gorilla Glass และด้านหลังก็ใช้กระจกเช่นเดียวกัน เพื่อสนับสนุนการชาร์จไร้สาย
ขอบด้านข้างของทั้งคู่ มีความบางเท่ากัน 8.7 มิลลิเมตร และมีการจัดวางปุ่มควบคุมในตำแหน่งเดียวกัน ด้านซ้ายมือจะพบปุ่มปรับระดับเสียง
อีกข้างมีปุ่ม Alert Slider ที่เป็นเอกลักษณ์ของสมาร์ทโฟน OnePlus สำหรับสไลด์เพื่อใช้เปิดเสียง, ปิดเสียง และ สั่น ถัดลงมาเป็นปุ่มเพาเวอร์
ด้านบนจะพบรูไมโครโฟรตัวที่ 2 ช่วยให้ OnePlus 9 Series 5G สามารถลดเสียงรบกวนรอบข้างได้
ด้านล่างมีถาดใส่ซิมการ์ด รองรับ Nano SIM ใบเดียว ใกล้กันมีรูไมโครโฟน ถัดมาเป็นพอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C (USB 3.1 GEN1) และตะแกรงลำโพง นอกจากนี้ OnePlus 9 Pro 5G ยังได้รับการออกแบบมาให้สามารถต้านทานน้ำและฝุ่นได้ในระดับ IP68 แต่ OnePlus 9 5G ไม่ได้รับมาตรฐานป้องกันน้ำ จึงต้องเพิ่มความระวังในการใช้งานเมื่ออยู่ใกล้น้ำ
จอแสดงผล 120Hz ระดับ A+ จาก DisplayMate
OnePlus 9 Pro 5G สร้างความแตกต่างจากรุ่นน้องที่ออกมาพร้อมกัน ด้วยการใช้จอแสดงผลแบบ Fluid Display 2.0 ขอบมุมโค้ง ให้ความคมชัดด้วยจอภาพ OLED ระดับไฮเอนด์ มาพร้อมเทคโนโลยี LTPO (โพลีคาร์บอเนตออกไซด์อุณหภูมิต่ำ) และ เทคโนโลยีพิเศษ BackPlane ที่ทันสมัยที่สุด ช่วยให้จอแสดงผลของ OnePlus 9 Pro 5G รองรับอัตราการรีเฟรชแบบปรับได้โดยอัตโนมัติ ในช่วง 1Hz ไปจนถึง 120Hz
อัตราการรีเฟรชแบบปรับได้โดยอัตโนมัติ ช่วยให้สมาร์ทโฟนใช้พลังงานน้อยลงเป็นอย่างมาก และยังคงตอบสนองการสัมผัสอย่างลื่นไหล อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี Hyper Touch ช่วยให้ทัชได้เร็วมากขึ้นเมื่อเล่นเกม โดยการเพิ่มความเร็วในการซิงค์ระหว่างโปรเซสเซอร์และจอแสดงผลเป็น 360Hz เร็วกว่าเดิมถึง 6 เท่า
จอแสดงผลของ OnePlus 9 Pro 5G มีความละเอียด 3216 x 1440 พิกเซล ขนาด 6.7 นิ้ว ความหนาแน่นพิกเซล 525ppi อัตราส่วนภาพ 20.1:9 ความลึกสี 10-bit รองรับ HDR10+, sRGB, Display P3 ความสว่างสูงสุดถึง 1,300 nits พร้อมเทคโนโลยี MEMC ปรับอุณหภูมิสีอัตโนมัติ โดยการตรวจจับแสงโดยรอบ และยังให้สีที่แม่นยำเป็นธรรมชาติที่สุดด้วยค่า JNCD ที่น้อยกว่า 1.0 จนได้รับคะแนนระดับ A + จาก DisplayMate
OnePlus 9 5G ใช้จอแสดงผลแบบ Fluid Display เป็นจอแบนแบบเดียวกับ OnePlus 8T ให้สีสันสวยงามด้วยจอภาพ AMOLED รับรอง HDR10+, sRGB, Display P3 พร้อมความแม่นยำของสีที่สุดในอุตสาหกรรมและการควบคุมความสว่างอัตโนมัติที่ดีขึ้น และได้รับคะแนนระดับ A+ เช่นเดียวกัน
จอแสดงผลของ OnePlus 9 5G มีความละเอียด 2400 x 1080 พิกเซล ขนาด 6.55 นิ้ว ความหนาแน่นพิกเซล 402ppi อัตราส่วนภาพ 20:9 ให้ความสว่างสูงสุด 1,100 nits รองรับอัตราการรีเฟรช 120Hz และมีฟีเจอร์ Comfort Tone ช่วยปรับอุณหภูมิสีของจอแสดงผลให้เข้ากับสภาพแวดล้อมรอบข้าง เพื่อให้สามารถจ้องหน้าจอสำหรับอ่านหนังสือหรือบทความต่างๆ ได้สบายตายิ่งขึ้น
สแกนลายนิ้วมือใต้จอแสดงผล
OnePlus 9 Series 5G ทั้ง 2 รุ่น มาพร้อม In-display Fingerprint Sensor ติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ใต้จอแสดงผล จึงรองรับการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอเพื่อปลดล็อค หรือ ยืนยันตัวตน ซึ่งสามารถอ่านลายนิ้วมือได้อย่างรวดเร็ว และ แม่นยำ แต่ตำแหน่งเซ็นเซอร์ดูเหมือนจะอยู่ชิดขอบหน้าด้านล่างมากไปสักหน่อย แต่ไม่มีปัญหาในการใช้งานถ้าหากใช้มือหนึ่งจับสมาร์ทโฟนและใช้มือที่ว่างในการสแกน
นอกเหนือจากการสแกนลายนิ้วมือ OnePlus 9 5G และ OnePlus 9 Pro 5G ยังสามารถใช้กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล สแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อคได้ด้วยฟีเจอร์ Face Unlock
OnePlus ร่วมมือกับ Hasselblad
OnePlus และ Hasselblad ได้ทำงานร่วมกันในระยะยาว เพื่อยกระดับกล้องของสมาร์ทโฟนเรือธงจากแบรนด์ OnePlus และ OnePlus 9 5G กับ OnePlus 9 Pro 5G ก็เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของแบรนด์ที่มาจากความร่วมมือดังกล่าว
Hasselblad ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่สองในปี 1841 โดยนาย Victor Hasselblad เป็นผู้บุกเบิกการนำเทคโนโลยีกล้องประสิทธิภาพสูง มาเป็นกล้องและเลนส์ดิจิทัลขนาดกลาง (Medium Format) แบรนด์แรกของโลก และเป็นที่เป็นที่รู้จักในด้านคุณภาพความละเอียดของไฟล์ภาพที่ยอดเยี่ยม กลไกและสีที่แม่นยำ เป็นธรรมชาติ สมบูรณ์แบบในการถ่ายภาพทุกประเภท ทำให้ได้รับความไว้วางใจจากช่างภาพมืออาชีพที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกให้เก็บภาพประวัติศาสตร์หรือบุคคลดังระดับโลกไว้มากมายหลายเหตุการณ์ รวมถึงภาพถ่ายก้าวแรกของมนุษย์บนดวงจันทร์ก็ถูกบันทึกด้วยกล้องของ Hasselblad
เพื่อนำคุณภาพกล้องระดับมือโปรมาสู่กล้องสมาร์ทโฟน OnePlus จึงได้ทำงานร่วมกับ Hasselblad ในระยะยาว (Long-term partnership) เพื่อส่งมอบระบบกล้องที่ได้รับการปรับปรุงอย่างมีประสิทธิภาพที่สุดบนสมาร์ทโฟน OnePlus โดยเริ่มจากการปรับปรุงซอฟต์แวร์ รวมถึงการปรับแต่งสีและการปรับเทียบเซ็นเซอร์และขยายไปยังมิติอื่นๆ ในอนาคต
OnePlus และ Hasselblad จะร่วมกันกำหนดมาตรฐานเทคโนโลยีของประสบการณ์กล้องมือถือ และพัฒนาเทคโนโลยีการถ่ายภาพที่เป็นนวัตกรรมใหม่ เพื่อปรับปรุง Hasselblad Camera for Mobile อย่างต่อเนื่องทั้ง 2 รุ่น ใน OnePlus 9 Series 5G
กล้องหลังจาก Hasselblad
กล้องหลังของ OnePlus 9 5G และ OnePlus 9 Pro 5G เกิดจากการพัฒนาร่วมกันระหว่าง OnePlus กับ Hasselblad ได้รับการปรับเทียบสีขั้นสูง การตรวจสอบและการปรับแต่งอย่างละเอียด ด้วยระบบสีใหม่ Natural Color Calibration with Hasselblad เพื่อให้ได้สีที่แม่นยำ และดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น ในภาพถ่ายที่ถ่ายด้วยกล้องเรือธงจาก OnePlus
โหมดถ่ายภาพของสมาร์ทโฟน OnePlus 9 Series 5G ได้รับการปรับปรุงใหม่ด้วยอินเทอร์เฟซอย่าง Hasselblad Pro Mode ที่ใช้ซอฟต์แวร์ประมวลผลภาพของ Hasselblad เพื่อให้ผู้ใช้งานได้สัมผัสกับรูปลักษณ์ ประสบการณ์ และความรู้สึกที่แท้จริงของ Hasselblad ไม่ว่าจะเป็นปุ่มกดถ่ายภาพหรือวิดีโอที่เป็นสีส้ม รวมถึงเสียงกดปุ่มชัตเตอร์เหมือนกับกล้อง Hasselblad นอกจากนี้ ยังช่วยให้ช่างภาพมืออาชีพสามารถควบคุมการปรับแต่งภาพถ่ายอย่างละเอียดได้ พร้อมความสามารถในการปรับ ISO, โฟกัส, เวลาเปิดรับแสง, ไวต์บาลานซ์ และยังสามารถใช้รูปแบบไฟล์ RAW 12 bit เพื่อให้ได้สีที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
ระบบกล้องหลังของ OnePlus 9 Pro 5G
- กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล (Sony IMX789) รูรับแสง f/1.8 ขนาดเซ็นเซอร์ 1/1.43″ ขนาดพิกเซล 1.12µm เลนส์ 7P ทางยาวโฟกัสเทียบเท่า 23 มม. มีระบบกันสั่น OIS
- กล้อง Ultra-Wide 50 ล้านพิกเซล (Sony IMX766) รูรับแสง f/2.2 ขนาดเซ็นเซอร์ 1/1.56″ เลนส์ 7P ทางยาวโฟกัสเทียบเท่า 14 มม.
- กล้อง Telephoto 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 ขนาดพิกเซล 1.0µm มีระบบกันสั่น OIS
- กล้อง Monochrome 2 ล้านพิกเซล
กล้องหลักของ OnePlus 9 Pro 5G ใช้เซ็นเซอร์ IMX789 ขนาด 1/1.43″ ของ Sony พร้อมด้วยด้วยเทคโนโลยีชั้นนำ ได้แก่ เลนส์ 2×2 บนชิป (OCL), ไฟล์ RAW 12 บิต, ISO แบบคู่ และ DOL-HDR ให้ความเร็วในการโฟกัสที่เร็วขึ้น ข้อมูลสีเพิ่มขึ้น 4 เท่า เพื่อความแม่นยำของสีที่มากขึ้น ภาพกลางวันและกลางคืนที่คมชัดยิ่งขึ้น และลดความเบลอของภาพเคลื่อนไหวในวิดีโอ
กล้อง Ultra-Wide ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX766 ขนาด 1/1.56″ ช่วยเพิ่มคุณภาพของภาพและลดจุดรบกวนบนภาพ โดยใช้เลนส์ Freeform ทำให้ความผิดเพี้ยนบิดเบี้ยวขอบของภาพถ่ายลดลงเหลือประมาณ 1% และยังช่วยถ่ายภาพมาโครคุณภาพสูงได้จากระยะใกล้วัตถุถึง 4 เซนติเมตร
กล้อง Telephoto รองรับการซูม 3.3 เท่าแบบออปติคอล (77 มม.) พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS (Optical Image Stabilization) และสามารถซูมออกได้สูงสุด 30 เท่าแบบดิจิทัล
กล้อง Monochrome จะทำงานร่วมกับกล้องหลัก เพื่อเพิ่มรายละเอียดและการจัดเลเยอร์ให้กับภาพถ่ายขาวดำ ในขณะที่การปรับความเอียงแบบใหม่ จะจำลองเอฟเฟกต์ขนาดเล็กพิเศษของเลนส์ปรับเอียง เพื่อให้ได้ภาพถ่ายที่สร้างสรรค์ยิ่งขึ้น
ระบบกล้องหลังของ OnePlus 9 5G
- กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล (Sony IMX689) รูรับแสง f/1.8 ขนาดเซ็นเซอร์ 1/1.43″ ขนาดพิกเซล 1.12µm เลนส์ 7P ทางยาวโฟกัสเทียบเท่า 23 มม.
- กล้อง Ultra-Wide 50 ล้านพิกเซล (Sony IMX766) รูรับแสง f/2.2 ขนาดเซ็นเซอร์ 1/1.56″ เลนส์ 7P ทางยาวโฟกัสเทียบเท่า 14 มม.
- กล้อง Monochrome 2 ล้านพิกเซล
ระบบกล้องหลังของ OnePlus 9 5G มีรายละเอียดใกล้เคียงกับ OnePlus 9 Pro 5G แต่ขาดกล้อง Telephoto และกล้องตัวหลักใช้เซ็นเซอร์ที่ต่างออกไป และไม่มีระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS แต่ได้รับกล้อง Ultra-Wide กับกล้อง Monochrome ชุดเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม กล้องหลังของ OnePlus 9 Series 5G ทั้ง 2 รุ่น มาพร้อมฟีเจอร์และโหมดการถ่ายภาพแบบเดียวกัน อย่าง Nightscape, Super Macro, UltraShot HDR, Smart Scene Recognition, Portrait mode, Pro mode, Panorama, Tilt-shift mode, Focus Peaking, Cat/Dog Face Focus และ RAW Image
การถ่ายวิดีโอด้วยกล้องหลังของทั้งคู่ ก็ให้ประสบการณ์เดียวกัน สามารถถ่ายวิดีโอ ความละเอียดสูงสุด 8K (ทั้งกล้องหลัก และ Ultra-Wide) ที่อัตรา 30 เฟรมต่อวินาที (4K ที่อัตรา 120 เฟรมต่อวินาที) รองรับโหมด Super Slow Motion (1080p @ 240fps หรือ 720p @ 480fps), Time-Lapse (1080p @ 30fp หรือ 4K @ 30fps), Video Nightscape, Video HDR, Video Portrait, Focus Tracking, Hyperlapse, Super Stable และยังมี Video Editor สำหรับติดต่อวิดีโอ ไม่ต้องลงแอปเพิ่ม
กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล
ถึงแม้กล้องหลังของทั้งคู่จะมีความแตกต่างกันบ้าง แต่ในส่วนของกล้องหน้า OnePlus 9 5G และ OnePlus 9 Pro 5G ใช้โมดูลเดียวกัน โดยมีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX471 รูรับแสง f/2.4 ขนาดพิกเซล 1.0µm และใช้ระบบกันสั่นแบบ EIS
กล้องหน้าของ OnePlus 9 Series 5G รองรับฟีเจอร์ HDR, Portrait, Screen Flash, Face Retouching, Time-Lapse และสามารถถ่ายวิดีโอ ความละเอียดสูงสุด Full HD 1080p ที่อัตรา 60 เฟรมต่อวินาที
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้า
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลัง
ชิปเซ็ต Snapdragon 888 RAM 12GB
OnePlus 9 5G และ OnePlus 9 Pro 5G ใช้ชิปประมวลผลรุ่นเดียวกันและเป็นชิประดับเรือธงที่ดีที่สุดในปัจจุบันนี้ของ Qualcomm นั่นก็คือ Snapdragon 888 ที่ถูกสร้างขึ้นด้วยเทคโนโลยีการผลิต 5 นาโนเมตร ประกอบด้วยซีพียูแบบ Octa Core ความเร็วสูงสุด 2.84GHz ที่มีเทคโนโลยี Arm Cortex-X1 ให้ประสิทธิภาพโดยรวมดีขึ้น 25% พร้อมด้วยจีพียู Adreno 660 ให้ประสิทธิภาพโดยรวมดีขึ้น 35% และยังประหยัดพลังงานมากขึ้น เมื่อเทียบกับชิปรุ่นก่อน
OnePlus 9 Series 5G ยังมีระบบระบายความร้อนถึง 5 ชั้น ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ เรียกว่า OnePlus Cool Play ช่วยระบายความร้อนระหว่างการเล่นเกม ช่วยให้ประสิทธิภาพของสมาร์ทโฟนคงที่ เล่นเกมได้ราบรื่นเป็นเวลานาน พร้อมด้วย Pro Gaming Mode ช่วยปลดล็อคประสิทธิภาพของซีพียูและจีพียู เพื่อให้เล่นเกมด้วยอัตราเฟรมเรทที่ลื่นไหล และยังมีฟีเจอร์บล็อคการแจ้งเตือนแอป การโทร และการรบกวนอื่นๆ เพื่อโฟกัสการเล่นเกมได้อย่างเต็มที่
ด้านความจำ OnePlus 9 Series 5G ทั้ง 2 รุ่น ใช้ความจำ RAM แบบ LPDDR5 ความจุในตัวแบบ UFS 3.1 ทำงานเร็วกว่า LPDDR4X ถึง 1.5 เท่า และมีความเร็วสูงถึง 6,400Mbps ช่วยให้การอ่านหรือโหลดรวมไปถึงการบันทึกข้อมูลมีความรวดเร็ว แต่ทั้ง 2 รุ่น มีขนาดความจำแตกต่างกัน (OnePlus 9 Pro 5G มาพร้อม RAM 12GB + ROM 256GB ส่วน OnePlus 9 5G ได้รับ RAM 8GB + ROM 128GB)
รองรับ 5G พร้อมใช้งานทันที
ด้วยชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 888 ทำให้ OnePlus 9 5G และ OnePlus 9 Pro 5G สนับสนุนการเชื่อมต่อ 5G ทั้ง 2 รุ่น พร้อมใช้งานเครือข่าย 5G ในประเทศไทยทันทีตั้งแต่แกะกล่อง และยังรองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/ax (2.4/5GHz), 2×2 MIMO หรือ Wi-Fi 6 ซึ่งเป็นมาตรฐานใหม่ล่าสุด จึงทำความเร็วในการเชื่อมต่อที่รวดเร็วและเสถียรมากกว่า Wi-Fi 5 ที่ใช้ในสมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ แต่จำเป็นต้องเชื่อมต่อกับ Wi-Fi Router ที่สนับสนุน Wi-Fi 6 ด้วยเช่นกัน
ระบบปฏิบัติการ OxygenOS 11
OnePlus 9 Series 5G ทำงานบนระบบปฏิบัติการ OxygenOS 11 (บนพื้นฐาน Android 11) ซึ่งได้รับการปรับแต่งมาให้มีประสิทธิภาพที่รวดเร็วขึ้น มีความปลอดภัยให้ความเป็นส่วนตัวสูงขึ้น และออกแบบ UI มาอย่างเรียบง่าย ใช้งานง่ายด้วยมือเดียว
OxygenOS 11 มาพร้อม Turbo Boost 3.0 ที่เพิ่มประสิทธิภาพหน่วยความจำ ทำให้ข้อมูลบน RAM มีขนาดเล็กลง ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเปิดแอปต่างๆ ที่รันไว้ได้มากกว่าเดิมถึง 25%
แบตเตอรี่ 4,500mAh รองรับ Warp Charge 65T และ Warp Charge 50 Wireless
OnePlus 9 5G และ OnePlus 9 Pro 5G ได้รับความจุแบตเตอรี่เท่ากัน 4,500mAh แบบเซลล์คู่ หรือ ใช้แบตเตอรี่ 2 ก้อน ก้อนละ 2,250mAh ซึ่งมีข้อดีที่ช่วยลดความต้านทานภายใน และลดความร้อนขณะชาร์จ เหมาะสำหรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว ที่ทั้งคู่รองรับ Warp Charge 65T หรือ ชาร์จเร็วแบบใช้สาย 65W (10V/6.5A) ใช้เวลาในการชาร์จจาก 1 – 100% เพียง 29 นาที
ภายในกล่อง OnePlus 9 5G และ OnePlus 9 Pro 5G มาพร้อมอุปกรณ์ชาร์จเร็วแบบใช้สาย 65W ไม่ต้องซื้อเพิ่ม และยังสามารถชาร์จสมาร์ทโฟนที่ไม่ใช่แบรนด์ OnePlus รวมถึงแท็บเล็ต และแล็ปท็อป ได้สูงสุด 45W โดยใช้ USB PD หรือ PPS
OnePlus 9 Pro 5G ยังสนับสนุน Warp Charge 50 Wireless ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการชาร์จแบบไร้สายที่เร็วที่สุดเท่าที่เคยมีมาของ OnePlus และเร็วที่สุดในอุตสาหกรรม ด้วยเซลล์แบตเตอรี่แบบคู่ รองรับการชาร์จ 25W ทำให้ Warp Charge 50 Wireless เหนือกว่าการชาร์จเร็วแบบมีสายส่วนใหญ่ สามารถชาร์จจาก 1 – 100% ในเวลาเพียง 43 นาที ขณะที่ OnePlus 9 5G รองรับการชาร์จไร้สายสูงสุด 15W
OnePlus Warp Charge 50 Wireless Charger
เนื่องจาก OnePlus ไม่ได้แถมอุปกรณ์ชาร์จไร้สายมาให้ ดังนั้น OnePlus Warp Charge 50 Wireless Charger จึงเป็นอุปกรณ์เสริมที่เจ้าของ OnePlus 9 Pro 5G ควรซื้อไว้ใช้งานคู่กันโดย OnePlus Warp Charge 50 Wireless Charger เป็นอุปกรณ์ชาร์จไร้สายที่ได้รับการออกแบบใหม่ มาพร้อมกับขดลวดชาร์จ 2 ชุด จึงสามารถชาร์จแบตเตอรี่ให้กับ OnePlus 9 Pro 5G ได้อย่างรวดเร็วไม่ว่าจะวางสมาร์ทโฟนในแนวตั้งหรือแนวนอน
สรุปการวางจำหน่ายในประเทศไทย
OnePlus 9 Series 5G ทั้ง 2 รุ่น มาพร้อมคุณสมบัติครบถ้วนสำหรับการเป็นสมาร์ทโฟนระดับเรือธง ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ที่ให้ความพรีเมียม จอแสดงผลสวยงาม ประสิทธิภาพสูง การเชื่อมต่อครบครัน กล้องดิจิทัลคมชัด โดย OnePlus 9 Pro 5G จะเหนือกว่าที่จอแสดงผลแบบขอบมุมโค้ง มีกล้อง Telephoto รองรับการซูมแบบออปติคอล มีระบบกันสั่น OIS และจอแสดงผลรสามารถปรับอัตราการรีเฟรชได้อัตโนมัติ
สรุปแล้ว OnePlus 9 Pro 5G เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการสมาร์ทโฟนที่ดีที่สุดของ OnePlus โดยเน้นไปที่การรับชมคอนเท้นต์วิดีโอ และการถ่ายภาพ ขณะที่ OnePlus 9 5G ก็มีประสิทธิภาพไม่ได้ด้อยไปกว่ากัน เพียงแต่ขาดกล้อง Telephoto ชาร์จไร้สายได้ช้ากว่า แต่ถ้าเน้นเล่นเกม เชื่อว่าจอแบนของ OnePlus 9 5G ก็เพียงพอแล้ว โดยตอนนี้ (กรกฎาคม 2564) ทั้ง OnePlus 9 และ OnePlus 9 Pro ยังไม่มีกำหนดวางจำหน่ายทางการในประเทศไทยแต่อย่างใด มีเพียง OnePlus Nord CE ที่เป็นรุ่นล่าสุดที่ทาง OnePlus ประเทศไทยทำการตลาดเท่านั้น