Xiaomi ส่งสมาร์ทโฟน Redmi Note 10 Series เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยพร้อมกัน 2 รุ่น ได้เแก่ Redmi Note 10 5G – The Performance Racer สมาร์ทโฟน 5G ในราคาที่ดีที่สุด และ Redmi Note 10S – The 64MP Adventurer ผจญภัยไปกับกล้อง 64 ล้านพิกเซล ให้ Gen Z มีไลฟ์สไตล์ที่สนุกมากขึ้น ซึ่งทีมงาน @flashfly ก็ได้นำสมาร์ทโฟนทั้ง 2 รุ่น มารีวิวเรียบร้อยแล้ว
Redmi Note 10 5G
Redmi Note 10 5G ถูกสร้างมาให้เป็นสมาร์ทโฟน 5G ที่เข้าถึงได้ง่ายด้วยราคาสบายกระเป๋า รองรับ 5G Dual SIM ใช้ชิประดับ 7 นาโนเมตร จอแสดงผล AdaptiveSync ขนาด 6.5 นิ้ว ให้อัตราการรีเฟรชหน้าจอ 90Hz กล้องหลัง 3 ตัว 48MP Triple Camera แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,000mAh และรองรับชาร์จเร็ว 18W
สเปก Redmi Note 10 5G
- จอแสดงผล 90Hz AdaptiveSync, FHD+ DotDisplay ขนาด 6.5 นิ้ว
- สแกนนิ้วด้านข้าง Side-Mounted Fingerprint Scanner, สแกนใบหน้า AI face unlock
- กล้องหลัง 48MP Triple Camera
- กล้องหน้า 8MP Selfie Camera
- ชิปประมวลผล MediaTek Dimensity 700
- ความจำ RAM LPDDR4X + ROM UFS 2.2 (4GB+128GB, 8GB+128GB)
- การเชื่อมต่อ 5G Dual SIM, Wi-Fi (2.4GHz/5GHz), Bluetooth 5.1, NFC
- เซ็นเซอร์ Proximity, Ambient light sensor, Accelerometer, Gyroscope, Electronic compass, IR blaster
- ระบบนำทาง GPS, A-GPS, Galileo, GLONASS, Beidou
- สนับสนุน Hi-Res Audio มีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
- ระบบปฏิบัติการ MIUI 12 บนพื้นฐาน Android 11
- แบตเตอรี่ 5,000mAh รองรับชาร์จเร็ว 18W
- ขนาดบอดี้ 161.81 x 75.34 x 8.92 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 190 กรัม
- มี 4 สีให้เลือก Chrome Silver, Graphite Gray, Nighttime Blue, Aurora Green
แกะกล่อง Redmi Note 10 5G
Redmi Note 10 5G ถูกเก็บไว้ในกล่องสีขาว หน้ากล่องพิมพ์รูปภาพสมาร์ทโฟนขนาดใหญ่ เห็นดีไซน์ด้านหน้าชัดเจน และบางส่วนของด้านหลัง มุมบนติดโลโก้ Xiaomi ส่วนล่างระบุชื่อรุ่น Redmi Note 10 5G และยังพบชื่อรุ่นติดไว้ที่ข้างกล่องด้วย
ภายในกล่อง จะพบกับสมาร์ทโฟน Redmi Note 10 5G ถูกเก็บอยู่ในซองอย่างดี หน้าซองระบุจุดเด่นไว้ 4 รายการ ได้แก่ ชิปประมวลผลระดับ 7 นาโนเมตร MediaTek Dimensity 700 รองรับ 5G, จอแสดงผล DotDisplay ขนาด 6.5 นิ้ว ให้อัตราการรีเฟรช 90Hz พร้อมเซ็นเซอร์ตรวจจับแสงรอบทิศทาง 360 องศา, กล้องหลัง 48MP Triple Camera ที่มีกล้อง Macro และ Depth Camera และมาพร้อมแบตเตอรี่ในตัว 5,000mAh รองรับชาร์จเร็ว 18W
นอกจากสมาร์ทโฟนที่มีแบตเตอรี่ในตัว ภายในกล่องยังมี สายเคเบิล USB Type-C, อุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่ 22.5W Power Adapter, เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด, เคสใส, คู่มือแนะนำการใช้งาน Quick Start Guide, เอกสารด้านความปลอดภัย และ บัตรรับประกัน
ดีไซน์
Redmi Note 10 5G มาพร้อมจอแสดงผล 2400 x 1080 พิกเซล ขนาด 6.5 นิ้ว ดีไซน์ DotDisplay เจาะหลุมไว้ตรงกึ่งกลางเพื่อวางกล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล
เหนือกล้องหน้า เป็นตำแหน่งของลำโพงหูฟัง ซ่อนอยู่ในแนวตะแกรงชิดขอบบนสุด
ด้านหลังมีดีไซน์ขอบโค้ง 3D รับกับฝ่ามือ ผลิตออกมา 4 สี ได้แก่ Graphite Gray, Chrome Silver, Nighttime Blue และ Aurora Green โดยทีมงาน @flashfly ได้รับสี Graphite Gray มารีวิว
Redmi Note 10 5G ติดตั้งกล้องหลังมาให้ 3 ตัวในระบบ 48MP Triple Camera พร้อมแฟลช LED มุมล่างติดโลโก้ Redmi 5G ในแนวตั้ง
ขอบด้านข้างมีความบาง 8.92 มิลลิเมตร มีปุ่มปรับระดับเสียง และถัดลงมาเป็นตำแหน่งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ รวมกับปุ่มเพาเวอร์
อีกข้างมีถาดใส่ซิมการ์ด รองรับ 5G+5G Dual Sim Dual Standby
ด้านบนมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร และเซ็นเซอร์ IR blaster
ด้านล่างจะพบกับลำโพง, พอร์ต USB Type-C และ ไมโครโฟน
จอแสดงผลขนาด 6.5 นิ้ว รีเฟรชเรท 90Hz
Redmi Note 10 5G มาพร้อมจอแสดงผล AdaptiveSync Display ความละเอียด 2400 x 1080 พิกเซล ขนาด 6.5 นิ้ว ให้อัตราการรีเฟรชหน้าจอ 90Hz จึงแสดงผลได้อย่างลื่นไหล เหมาะสำหรับการเล่นเกม และยังสามารถปรับอัตราการรีเฟรชหน้าจอได้อัตโนมัติตามคอนเท้นต์ที่กำลังใช้งาน เช่น 30Hz หรือ 60Hz สำหรับการรับชมวิดีโอ หรือ คอนเท้นต์อื่นๆ ที่ไม่จำเป็นต้องใช้อัตราการรีเฟรช 90Hz เพื่อให้ประหยัดพลังงานของแบตเตอรี่
จอแสดงผลของ Redmi Note 10 5G ยังได้รับเซ็นเซอร์ตรวจจับแสงรอบทิศทาง 360 องศา จึงสามารถปร้บแสงสว่างหน้าจอให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมโดยรอบได้อย่างแม่นยำเป็นธรรมชาติถึง 4096 ระดับ
ไม่เพียงแต่ให้ความคมชัดและลื่นไหล จอแสดงผลของ Redmi Note 10 5G ยังถูกพัฒนามาให้ปกป้องดวงตาของผู้ใช้งานด้วย เพื่อให้สบายตาที่สุด ไม่ว่าจะใช้งานในที่แสงจ้าตอนกลางวันหรือแสงน้อยตอนกลางคืน และยังมี Reading mode 3.0 ให้ประสบการณ์การอ่านข้อความบนหน้าจอเหมือนอ่านบนแผ่นกระดาษ
กล้องหลัง 3 ตัว 48MP
ระบบกล้องหลังถือเป็นหนึ่งในไฮไลท์ที่น่าสนใจของ Redmi Note 10 5G โดยติดตั้งกล้องหลังมาให้ 3 ตัว ไม่ว่าจะเป็นกล้องหลักความละเอียดสูง กล้อง Macro ช่วยถ่ายภาพระยะใกล้ และยังมีกล้อง Depth สำหรับถ่ายภาพบุคคลให้ออกมาโดดเด่น
- กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.79 ขนาดเซ็นเซอร์ 1/2″
- กล้อง Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
- กล้อง Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
เมื่อเข้ามาในแอพกล้อง จะเข้าสู่โหมด Photo สำหรับถ่ายภาพนิ่งทันที ซึ่งผู้ใช้งานสามารถเลื่อนไปยังโหมดอื่นๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นโหมด Video, Pro, Portrait หรือไปที่ More เพื่อดูโหมดถ่ายภาพทั้งหมด ได้แก่ Night, 48M, Short video, Panorama, Slow motion และ Time-lapse
กล้องหลังของ Redmi Note 10 5G รองรับการถ่ายภาพในเวลากลางคืนด้วย Night mode โดยอาศัยความฉลาดของซอฟต์แวร์ ทำงานร่วมกับกล้องตัวหลักที่มีขนาดรูรับแสง f/1.79 ทำให้ภาพถ่ายในเวลากลางคืนออกมาสว่างคมชัด
การถ่ายวิดีโอก็มีความน่าสนใจไม่แพ้กัน เพราะกล้องหลังของ Redmi Note 10 5G สามารถใช้กล้อง Macro ถ่ายวิดีโอได้ใน Video macro mode และยังรองรับโหมด Time-lapse และ Slow motion ความละเอียด 1280×720 @ 120fps ขณะที่การถ่ายวิดีโอปกติ สนับสนุนความละเอียดสูงสุด 1920×1080 @ 30fps
กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล
กล้องหน้าติดตั้งไว้ในหลุมบนหน้าจอแบบ DotDisplay โดยมีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 รองรับโหมดถ่ายภาพ AI Beautify, AI Portrait พร้อมเอฟเฟกต์ bokeh ควบคุมระยะชัดลึกได้ อีกทั้งยังมีโหมด Timed burst และ Movie frame
สำหรับการถ่ายวิดีโอด้วยกล้องหน้า สนับสนุนความละเอียด 1920×1080 @ 30fps หรือ 1280×720 @ 30fps พร้อมด้วยโหมด Time-lapse และ AI Video Beautify ทำให้ใบหน้าดูดีในระหว่างถ่ายวิดีโอ
ตัวอย่างภาพถ่าย Redmi Note 10 5G
ชิปประมวลผล MediaTek Dimensity 700
Redmi Note 10 5G ใช้ชิปประมวลผล MediaTek Dimensity 700 ซึ่งถูกสร้างขึ้นบนเทคโนโลยีการผลิต 7 นาโนเมตร ประกอบด้วยซีพียูแบบ Octa Core ที่มีคอร์ขนาดใหญ่ Arm Cortex-A76 ความเร็วสูงสุด 2.2GHz กับ Arm Cortex-A55 ความเร็วสูงสุด 2GHz และยังมาพร้อมจีพียู Arm Mali-G57 MC2 ความเร็วสูงสุด 950MHz
ด้านความจำใช้ RAM แบบ LPDDR4X พื้นที่ความจำภายในแบบ UFS 2.2 โดยเวอร์ชั่นที่เข้ามาวางจำหน่ายในประเทศไทย มีให้เลือก 2 รุ่น ได้แก่ RAM 4GB + ROM 128GB และ RAM 8GB + ROM 128GB
ด้วยประสิทธิภาพของชิปประมวลผล MediaTek Dimensity 700 และจอแสดงผล 90Hz AdaptiveSync ทำให้ Redmi Note 10 5G เป็นสมาร์ทโฟนที่ตอบสนองการเล่นเกมได้อย่างสนุกลื่นไหล ไม่ว่าจะเป็นเกม Asphalt 9 หรือ Call of Duty Mobile
5G Dual Sim
MediaTek Dimensity 700 ที่ฝังอยู่ใน Redmi Note 10 5G มาพร้อมชิปโมเด็ม 5G ในตัว และยังสนับสนุนเทคโนโลยี 5G+5G Dual Sim Dual Standby จึงสามารถใส่ซิมการ์ดที่รองรับ 5G ได้พร้อมกัน 2 ช่อง สแตนด์บายพร้อมกัน และพร้อมใช้งาน 5G ในประเทศไทยทันทีตั้งแต่แกะกล่อง แต่ต้องอยู่ในพื้นที่ให้บริการของสัญญาณ 5G ด้วย
แบตเตอรี่ 5,000mAh ชาร์จเร็ว 18W
Redmi Note 10 5G รองรับการใช้งานได้ยาวนานเป็นพิเศษ ด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,000mAh รองรับการเล่นเกมสูงสุด 16 ชั่วโมง, ดูวิดีโอนานสูงสุด 22 ชั่วโมง หรือ ฟังเพลงนานต่อเนื่อง 178 ชั่วโมง และใช้งานทั่วไปได้ยาวถึง 2 วัน
สำหรับการชาร์จแบตเตอรี่ Redmi Note 10 5G สนับสนุนการชาร์จเร็ว 18W ผ่านพอร์ต USB Type-C โดยแถมอุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่ 22.5W มาให้ในกล่อง
Redmi Note 10S
สำหรับใครที่คิดว่า 5G ยังไม่จำเป็น Redmi Note 10S ก็ถือเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ เนื่องจากเป็นสมาร์ทโฟนที่มีความคุ้มค่า ให้ฟังก์ชั่นครบครัน โดยมุ่งเน้นไปที่การถ่ายภาพ ด้วยระบบกล้องหลัง 4 ตัว 64MP Quad Camera จอแสดงผลคมชัด AMOLED ใช้ชิปประมวลผล MediaTek Helio G95 แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,000mAh และรองรับชาร์จเร็ว 33W
สเปก Redmi Note 10S
- จอแสดงผล AMOLED DotDisplay ขนาด 6.43 นิ้ว
- สแกนนิ้วด้านข้าง Arc side fingerprint sensor, สแกนใบหน้า AI face unlock
- กล้องหลัง 64MP Quad Camera
- กล้องหน้า 13MP Selfie Camera
- ชิปประมวลผล MediaTek Helio G95
- ความจำ RAM LPDDR4X + ROM UFS 2.2 (8GB+128GB)
- การเชื่อมต่อ 4G Dual SIM, Wi-Fi (2.4GHz/5GHz), Bluetooth 5.0, NFC
- เซ็นเซอร์ Proximity, Ambient light sensor, Accelerometer, Gyroscope, Electronic compass, Linear vibration motor, IR Blaster
- ระบบนำทาง GPS, Galileo, GLONASS, Beidou
- ลำโพงคู่ สนับสนุน Hi-Res Audio มีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
- ระบบปฏิบัติการ MIUI 12.5 บนพื้นฐาน Android 11
- แบตเตอรี่ 5,000mAh รองรับชาร์จเร็ว 33W
- ขนาดบอดี้ 160.46 x 74.5 x 8.29 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 178.8 กรัม
- มี 3 สีให้เลือก Onyx Gray, Pebble White, Ocean Blue
แกะกล่อง Redmi Note 10S
กล่องบรรจุภัณฑ์ของ Redmi Note 10S คล้ายกับกล่องของ Redmi Note 10 5G เป็นกล่องสีขาวที่มีรูปภาพสมาร์ทโฟนพิมพ์อยู่ที่หน้ากล่อง เผยให้เห็นดีไซน์ด้านหลังและบางส่วนของด้านหลังอย่างชัดเจน ใต้รูปภาพบอกชื่อรุ่น Redmi Note 10S และติดโลโก้ Xiaomi ไว้ที่มุมบนขวามือ
ภายในกล่องจะพบกับสมาร์ทโฟน Redmi Note 10S ที่มีแบตเตอรี่ในตัว ความจุ 5,000mAh พร้อมด้วยสายเคเบิล USB Type-C, อุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่ 33W Power Adapter, เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด, เคสใส, คู่มือแนะนำการใช้งาน Quick Start Guide, เอกสารด้านความปลอดภัย และ บัตรรับประกัน
ดีไซน์
Redmi Note 10S ได้รับการออกแบบมาคล้ายกับ Redmi Note 10 5G โดยเฉพาะด้านหน้า เนื่องจากใช้ดีไซน์จอแสดงผลแบบ DotDisplay เช่นเดียวกัน โดยมีขนาด 6.43 นิ้ว ขณะที่ Redmi Note 10 5G มีขนาดหน้าจอ 6.5 นิ้ว ทำให้มีขนาดบอดี้ใหญ่กว่า และมีน้ำหนักมากกว่าเล็กน้อย
ภายในหลุมบนหน้าจอ มีกล้องหน้า 13 ล้านพิกเซล เหนือขึ้นไปเป็นตำแหน่งของลำโพงหูฟัง
ด้านหลังมาพร้อมกล้อง 4 ตัว และติดโลโก้ Redmi ในแนวตั้ง ส่วนสีสันมีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Onyx Gray, Pebble White และ Ocean Blue
ด้านข้างมีความบาง 8.29 มิลลิเมตร ติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ที่ด้านข้าง รวมกับปุ่มเพาเวอร์ และอยู่ใต้ปุ่มปรับระดับเสียง
อีกข้างมีถาดใส่ซิมการ์ดแบบ Dual SIM รองรับเครือข่ายฯ สูงสุด 4G LTE
ด้านบนจะเห็นว่ามีลำโพงและไมโครโฟนตัวที่สอง รวมถึง IR Blaster สำหรับใช้เป็นรีโมทเครื่องใช้ไฟฟ้าได้
ด้านล่างประกอบไปด้วยลำโพงตัวหลัก (ให้เสียงสเตอริโอ เมื่อขับเสียงร่วมกับลำโพงด้านบน), พอร์ต USB Type-C, ไมโครโฟน และ ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
Redmi Note 10S ยังได้รับการป้องกันด้วยกระจก Corning Gorilla Glass ที่ทนทานต่อการขีดข่วนและการตกกระแทก อีกทั้งยังสามารถป้องกันละอองน้ำตามมาตรฐาน IP53
จอ AMOLED ขนาด 6.43 นิ้ว
ถึงแม้จะไม่ได้รับจอแสดงผลแบบ 90Hz แต่ Redmi Note 10S ก็ชดเชยด้วยจอแสดงผล AMOLED ที่ให้ความคมชัดกว่า โดยมีความละเอียด 2400 x 1080 พิกเซล ขนาด 6.43 นิ้ว ความหนาแน่นพิกเซล 409PPI อัตราส่วนภาพ 20:9 ความสว่างสูงสุด 1100nits อัตราส่วนความคมชัด 4,500,000:1 และสนับสนุนขอบเขตสี DCI-P3
จอแสดงผลของ Redmi Note 10S ยังได้รับเซ็นเซอร์ตรวจจับแสงรอบทิศทาง 360 องศา จึงสามารถปร้บแสงสว่างหน้าจอให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมโดยรอบได้อย่างแม่นยำ และผ่านการรับรองมาตรฐานแสงสีฟ้าต่ำจาก SGS
กล้องหลัง 4 ตัว 64MP
ระบบกล้องถือเป็นจุดเด่นที่ทำให้ Redmi Note 10S มีความน่าสนใจมากกว่ารุ่นอื่นใน Series เดียวกัน โดยเฉพาะระบบกล้องหลัง 4 ตัว 64MP Quad Camera ที่รองรับการถ่ายภาพได้หลากหลายสถานการณ์ ทั้งการถ่ายภาพมุมกว้างพิเศษ ภาพใกล้วัตถุ และ ภาพบุคคล โดยกล้องหลังทั้ง 4 ตัว มีรายละเอียดแตกต่างกันดังนี้
- กล้องหลัก 64 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.79 ขนาดเซ็นเซอร์ 1/1.97″ ขนาดพิกเซล 0.7μm
- กล้อง Ultra Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 มุมมองกว้าง 118 องศา
- กล้อง Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
- กล้อง Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
สำหรับใครที่ชอบถ่ายภาพบุคคล ก็มีโหมด AI Portrait มาให้ใช้งาน ซึ่งมาพร้อมเอฟเฟกต์ bokeh และสามารถควบคุมระยะชัดลึกได้ หรือ ถ้าเน้นถ่ายใบหน้า ก็มีโหมด AI Beautify มารองรับ ทำให้ใบหน้าดูดีขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
กล้องหลังของ Redmi Note 10S มาพร้อม Night mode สำหรับถ่ายภาพในที่แสงน้อยหรือในเวลากลางคืน ด้วยกล้องตัวหลักที่มีขนาด รูรับแสง f/1.79 สามารถเก็บภาพยามค่ำคืนได้อย่างสวยงาม
การถ่ายวิดีโอด้วยกล้องหลังของ Redmi Note 10S รองรับความละเอียดสูงสุด 4K (3840×2160) @ 30fps โดยมีลูกเล่นที่น่าสนใจอย่างโหมด Video macro, Pro time-lapse และ Slow motion
กล้องหน้า 13 ล้านพิกเซล
กล้องหน้าถูกติดตั้งไว้ในหลุมบนหน้าจอ มีความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.45 มาพร้อมโหมด AI Beautify และ AI Portrait เช่นเดียวกับกล้องหลัง
สำหรับการถ่ายวิดีโอด้วยกล้องหน้า รองรับความละเอียดสูงสุด Full HD 1080p (1920×1080) @ 30fps และรองรับโหมด Time-lapse
ตัวอย่างภาพถ่ายด้วย Redmi Note 10S
ชิปเซ็ทเกมมิ่ง MediaTek Helio G95 เร็วแรง
Redmi Note 10S ให้ประสิทธิภาพดีกว่ารุ่นก่อนหน้า 31% ด้วยชิปเซ็ทสำหรับเกมมิ่ง MediaTek Helio G95 ซึ่งถูกสร้างโดยกระบวนการผลิต 12 นาโนเมตร ประกอบด้วย Cortex-A76 แบบ 2-Core และ Cortex-A55 แบบ 6-Core ความเร็วสูงสุด 2.05GHz พร้อมด้วยจีพียู Mali-G76 MC4 900MHz ตอบสนองการเล่นเกมได้ราบรื่น
ด้านความจำ Redmi Note 10S ได้รับ RAM แบบ LPDDR4X ขนาด 8GB จับคู่กับ ROM แบบ UFS 2.2 ความจุ 128GB สามารถสลับการใช้งานระหว่างแอพได้อย่างลื่นไหล มีพื้นที่ติดตั้งเกมขนาดใหญ่ได้อย่างจุใจ
แบตเตอรี่ 5,000mAh ชาร์จเร็ว 33W
Redmi Note 10S รองรับการใช้งานได้ยาวนานต่อเนื่องไม่มีสะดุด กับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,000mAh ใช้งานทั้งวันยังมีพลังงานเหลือเฟือ และยังสนับสนุนเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 33W สามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 0 – 54% โดยใช้เวลาชาร์จเพียง 30 นาที ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งานตลอดทั้งวัน
สรุปราคาและการวางจำหน่าย
Redmi Note 10S มีจุดเด่นที่ความคมชัดของจอแสดงผล ระบบเสียงจากลำโพงคู่ กล้องถ่ายรูปความละเอียดสูงพร้อมกล้องมุมกว้างพิเศษ และรองรับชาร์จเร็ว 33W เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการสมาร์ทโฟนที่เน้นความบันเทิง ชมคอนเท้นต์วิดีโอ และรักการถ่ายภาพ โดยไม่สนใจเทคโนโลยี 5G มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Onyx Gray, Pebble White และ Ocean Blue ราคา 7,499 บาท วางจำหน่ายพร้อมกันทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 27 พฤษภาคมเป็นต้นไป ที่ Mi Store ร้านค้าที่ร่วมรายการทั่วประเทศและช่องทางออนไลน์
Redmi Note 10 5G มีจุดเด่นที่จอแสดงผลลื่นไหล ให้อัตราการรีเฟรชหน้าจอ 90Hz ชิปประมวลผลระดับ 7 นาโนเมตร พร้อมรองรับเทคโนโลยี 5G เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการสมาร์ทโฟนประสิทธิภาพสูง ใช้งานในพื้นที่ 5G และสามารถประหยัดเงินในกระเป๋าได้ เพราะมีความคุ้มค่ากว่าสมาร์ทโฟน 5G หลายรุ่นในตลาด
Redmi Note 10 5G วางจำหน่ายพร้อมกันทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 27 พฤษภาคมเป็นต้นไป โดยมีราคาและโปรโมชั่นดังนี้
- รุ่นความจุ 8GB+128GB ราคา 6,999 บาท วางจำหน่ายที่ Mi Store ร้านค้าที่ร่วมรายการทั่วประเทศและช่องทางออนไลน์
- รุ่นความจุ 4GB+128GB ราคา 5,999 บาท วางจำหน่ายที่ Mi Store ร้านค้าที่ร่วมรายการทั่วประเทศและช่องทางออนไลน์
ผู้ที่ซื้อ Redmi Note 10 5G ตั้งแต่ 27 พฤษภาคม – 30 มิถุนายนนี้ รับฟรี Note 10 5G Box Set ประกอบด้วย Mi True Wireless Earbuds Basic 2 และ เสื้อยืด พร้อมประกันหน้าจอแตก 1 ครั้ง ในระยะเวลา 6 เดือน มูลค่ารวม 3,090 บาท