หลังจากเริ่มวางจำหน่ายในต่างประเทศไปเมื่อปลายปีก่อน ในที่สุด PlayStation 5 คอนโซลรุ่นใหม่ของ Sony ก็พร้อมเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยแล้ว โดยเปิดให้จับจองเมื่อวันที่ 22 มกราคมที่ผ่านมา ก่อนจะเริ่มวางจำหน่ายครั้งแรก ตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นไป ซึ่งทีมงาน @flashfly ก็ไม่พลาดที่จะนำมาพรีวิว พร้อมแกะกล่องให้ได้ชมกันก่อน
แกะกล่อง PlayStation 5
PlayStation 5 มีให้เลือก 2 รุ่น ได้แก่ รุ่นมาตรฐานมีช่องอ่านแผ่น Ultra HD Blu-ray มาในกล่องสีขาว ส่วนอีกรุ่นเรียกว่า Digital Edition จะไม่มีช่องอ่านแผ่น Blu-ray จะใช้กล่องสีดำ จึงสามารถแยกความแตกต่างได้อย่างชัดเจนตั้งแต่เห็นกล่อง ทีมงาน @flashfly ได้นำ PlayStation 5 รุ่นมาตรฐาน มาพรีวิว ซึ่งอยู่ในกล่องสีขาวขนาดใหญ่ เนื่องจากคอนโซลรุ่นใหม่ของ Sony มีขนาดใหญ่กว่า PlayStation ทุกรุ่นที่ผ่านมา
หน้ากล่องมีรูปภาพคอนโซลพร้อมคอนโทรลเลอร์ พิมพ์อยู่บนพื้นหลังสีขาวที่มีลายบางๆ ของปุ่มกดที่เป็นสัญลักษณ์ของ PlayStation โดยติดโลโก้ Sony ไว้ที่มุมบนซ้ายมือ อีกมุมหนึ่งติดสัญลักษณ์ 8K, 4K (120fps) และ HDR เพื่อบอกว่า PlayStation 5 สนับสนุนการแสดงผลตามมาตรฐานเหล่านี้
ข้างกล่องทางซ้ายพิมพ์รูปภาพคอนโซลพร้อมคอนโทรลเลอร์ ในแนวตั้ง เห็นด้านหน้าตรงของ PlayStation 5 และ DualSense แต่อีกข้างมีเฉพาะโลโก้ PS5
ด้านขวาจะมีสติ้กติดอยู่ชัดเจนว่าเป็นเครื่องศูนย์ประเทศไทย พร้อมขั้นตอนแนะนำการลงทะเบียนรับประกันสินค้า
หลังกล่องจะพบรูปภาพคอนโซลที่ถูกวางในแนวนอน พร้อมสโลแกน Play Like Never Before และที่มุมบนขวามือระบุความจุในตัว 825GB (ณ เวลานี้ มีขนาดพื้นที่ความจุ เพียงตัวเลือกเดียว)
ด้านหลังกล่องยังอวดสรรพคุณไว้ 3 รายการ ได้แก่
- ความเร็วดุจสายฟ้า – ใช้ประโยชน์จากขุมพลัง CPU, GPU และ SDD แบบเฉพาะ พร้อม Integrated I/O ที่จะกำหนดกฎเกณฑ์ใหม่ที่คอนโซล PlayStation สามารถทำได้
- ความดื่มด่ำจนแทบหยุดหายใจ – พบกับประสบการณ์การเล่นเกมที่ล้ำลึกกว่าเดิมด้วยการรองรับการตอบสนองการสัมผัส ทริกเกอร์แบบปรับเปลี่ยนได้ และเทคโนโลยีเสียง 3D
- เกมอันน่าทึ่ง – ตื่นตาตื่นใจไปกับเกมใหม่ๆ ที่ให้ประสบการณ์และกราฟิกคุณภาพสูง พร้อมสนับสนุนเกมจากระบบ PlayStation 4
เมื่อเปิดกล่องออกมาสิ่งแรกที่เจอก็คือกล่องสีขาวที่อยู่ชั่นบนสุด จะมีคู่มือเริ่มต้นการใช้งานให้เห็นสิ่งแรก ซึ่งเอกสารจะมีบอกวิธีสมัครสมาชิก My Sony & You เพื่อรับสิทธิพิเศษรับประกันเพิ่มอีก 3 เดือนโดยตัวเครื่องปกติจะมีประกัน 1 ปีอยู่แล้ว
ต่อมาจะเป็นเอกสารคู่มือการใช้งานในรูปแบบภาษาไทยตั้งแต่การติดตั้ง ไปจนถึงขั้นตอนการดูแลรักษาตัวเครื่อง
สายไฟเครื่อง PlayStation 5
คอนโทรลเลอร์ DualSense แถมมาให้ 1 อันห่อมาให้อย่างดี
ที่ด้านล่างยังมีอุปกรณ์อื่นอีกดังนี้ฐานวางคอนโซลใช้วางได้ทั้งในแนวตั้งและแนวนอน
สาย USB-C สำหรับเชื่อมต่อจอย DualSense กับเครื่อง PlayStation 5 และใช้สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ DualSense อีกด้วย
สาย HDMI 2.1
หลังจากที่นำกล่องด้านบนออกไปแล้ว ก็จะพบกับพระเอกของเราเครื่อง PlayStation 5 ที่ถูกห่อหุ้มมาเป็นอย่างดี โดยมีถาดกระดาษประกบทั้ง 2 ข้าง ช่วยป้องกันอุปกรณ์ไม่ให้ได้รับความเสียหายในระหว่างขนส่ง โดยตัวเครื่อง
ดีไซน์สุดโฉบเฉี่ยว
ดีไซน์โดยรวมของ PlayStation 5 และ DualSense มีภาพลักษณ์ที่ทันสมัยและโฉบเฉี่ยว สะท้อนความแรงของประสิทธิภาพที่อยู่ภายใน โดยใช้สีทูโทน แกนหลักของบอดี้ใช้สีดำพื้นผิวมันเงา ประกับด้วยแผงด้านข้าง หรือ ที่เรียกกันว่า Front Plate สีขาว เสริมดีไซน์ด้วยลวดลายขนาดเล็ก ที่เป็นสัญลักษณ์ปุ่มกดของ PlayStation ไว้ด้านใน
ด้านหน้าคอนโซลมีพอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-A และ เชื่อมต่อ USB Type-C ถัดลงมาเป็นปุ่มดันแผ่นเกม หรือ แผ่น Blu-ray ออกมา และปุ่มล่างสุดสำหรับเปิดหรือปิดเครื่อง
ด้านหลังเต็มไปด้วยตะแกรงระบายความร้อน ด้านล่างมีพอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-A (จำนวน 2 ช่อง), LAN, HDMI 2.1 และ ช่องล่างสุดสำหรับต่อสายไฟที่แถมมาให้ในกล่อง
ทั้งนี้ PlayStation 5 รุ่นมาตรฐาน วัดความสูงได้เกือบ 40 เซนติเมตร กว้าง 10 เซนติเมตร ลึก 26 เซนติเมตร และชั่งน้ำหนักได้ประมาณ 4.5 กิโลกรัม
จอย DualSense สุดล้ำ
PlayStation 5 มาพร้อมคอนโทรลเลอร์รุ่นใหม่ เรียกว่า DualSense มาในสีทูโทนเช่นกัน และถ้าสังเกตให้ดีๆ จะเห็นว่าบนพื้นผิวนั้น เต็มไปด้วยลวดลายปุ่มกดที่เป็นเอกลักษณ์ของ PlayStation
ซึ่งเราจะพบลวดลายแบบเดียวกันนี้ที่ด้านในของแผงด้านข้างคอนโซล ลวดลายดังกล่าวช่วยให้ผู้เล่นจับคอนโทรลเลอร์ได้กระชับมือมากขึ้น
DualSense มีขนาดใหญ่และหนักกว่า DUALSHOCK 4 อยู่เล็กน้อย แต่กลับให้ความรู้สึกดีกว่า โดยมีการเปลี่ยนปุ่ม Share ให้เป็นปุ่ม Create เพิ่มไมโครโฟนในตัว และ ใช้ระบบ Haptic Feedback ส่งตรงสัมผัสจากเกมสู่มือผู้เล่นแทนระบบมอเตอร์สั่นแบบเดิม
นอกจากนี้ DualSense ยังเพิ่มระบบ Adaptive Triggers หรือทริกเกอร์แบบไดนามิกให้กับปุ่ม L2 และ R2 ช่วยให้ผู้เล่นมีความรู้สึกสมจริงในการควบคุมเกมมากยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น เกมที่มีการยิงธนู ผู้เล่นจะรู้สึกได้ถึงความตึงของเชือก ในระหว่างออกแรงดึงลูกศร
นอกจากนี้จอย DualSense ยังมีไมโครโฟนในตัวสามารถกดปิดได้ตามต้องการ ที่ด้านล่างจะมีช่องหูฟัง 3.5 มม. และด้านจะมีพอร์ต USB-C สำหรับชาร์จแบตเตอรี่
ทดสอบเล่นเกม
ต้องบอกว่าหลังจากได้ทดลองสัมผัส PlayStation 5 อย่างเป็นทางการแล้ว ทีมงาน @flashfly ทุกคนประทับใจอย่างมาก แม้ว่าตัวเครื่องจะมีขนาดใหญ่และหนักพอสมควร แต่เปิดใช้งานจริงกับทำงานได้อย่างเงียบ ไม่มีเสียงพัดลมมากวนใจอีกต่อไป
และเมื่อใช้งานร่วมกับจอย DualSense ก็พบว่าเป็นการเปิดประสบการณ์เล่นเกมครั้งใหม่เลยก็ว่าได้ นอกจากจะมีน้ำหนักที่พอเหมาะพอดีมือแล้ว ทาง Sony ได้พัฒนาการตอบสนองได้สมจริงอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นควบคุมจอยด้วยการเอียงไปมาตามทิศทางที่ต้องการ ใช้งานระบบสัมผัสได้ดีมาก ที่ปุ่ม R2 และ LR ที่กดแล้วให้ความรู้สึกสมจริงสุดๆ อย่างการกดยิงปืนก็จะให้ความรู้สึกเหมือนกดไกปืนจริงๆ การโหนใยแมงมุมที่ตึงจนสุด การกดโยกตู้กาชาปอง ที่ให้ความรู้สึกเสมือนจริงอย่างมาก
แนะนำให้เล่นเกม ASTRO PlayRoom ที่ติดตั้งมาในเครื่องจากโรงงานแล้ว จะเป็นเกมที่โชว์ความสามารถของจอย DualSense ได้ดีมาก
แม้ว่าเกมที่ออกแบบมาเฉพาะ PlayStation 5 จะยังมีไม่เยอะมาก แต่ตัวเครื่องก็สามารถเปิดเล่นเกมเก่าจากเครื่อง PlayStation 4 ได้เกือบจะทุกเกมเลยก็ว่าได้ แถมเมื่อนำมาเปิดเล่นเครื่อง PlayStation 5 แล้วจะช่วยให้การเปิดเข้าเกมไวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด มีเฟรมเรทที่ดีขึ้นด้วยช่วยให้เล่นเกมได้เลื่อนไหลกว่าเดิม อาจทำให้หลายคนไม่ต้องสนใจเกม PlayStation 5 เลยก็เป็นได้ (สำหรับใครที่สะสมไว้หลายๆเกม)
ทีมงานได้ทดสอบเล่นเกม Marvel’s Spider-Man: Miles Morales เวอร์ชั่น PlayStation 5 สามารถแสดงผลแบบ HDR ลืนไหลระดับ 60fps แสดงผลร่วมกับ Ray Tracing เอ็ฟเฟ็คสะท้อนแสงทำให้เกิดเงาและการสะท้อนภาพของฉากในเกมที่สมจริงแบบสุดๆ
โดย PlayStation 5 รองรับระบบเสียงรอบทิศทางเมื่อทำการเชื่อมต่อหูฟัง ได้ทั้งแบบมีสาย และแบบไร้สาย ช่วยเพิ่มอรรถรสความสมจริงมากขึ้นไปอีก
นอกจากนี้ยังสามารถถ่ายโอนข้อมูลจากเครื่อง PlayStation 4 มายังเครื่อง PlayStation 5 ได้ง่ายๆเพียงเปิดเครื่องไว้และอยู่ใน Wi-Fi เดียวกันเท่านั้น หรือใครที่เป็นสมาชิก PS Plus อยู่ก็สามารถอัพโหลดขึ้นผ่านทาง Cloud ได้ง่ายๆ แต่วิธีที่สะดวกที่สุดก็จะเป็นการสำรองข้อมูลผ่านทาง USB
ตัวเครื่องระบุความจุมา 825GB แต่เหลือให้ใช้งานจริงราวๆ 667GB เท่านั้น ใครเล่นเกมความจุเยอะๆหรือซื้อเกมใหม่บ่อยๆต้องระวังกันนิดนึ่งเตรียมซื้อฮาร์ดดิสก์เพิ่มมารอได้เลย
ราคา
- PlayStation 5 รุ่นมีช่องอ่านแผ่น Ultra HD Blu-ray ราคา 16,990 บาท
- PlayStation 5 รุ่น Digital Edition ราคาวางจำหน่าย 13,990 บาท
- คอนโทรลเลอร์ไร้สาย DualSense (เฉพาะตัวคอนโทรลเลอร์) ราคา 2,390 บาท
- ชุดหูฟังไร้สาย PULSE 3D รองรับเสียง 3D และไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน ราคา 3,490 บาท
- กล้อง HD มาพร้อมเลนส์คู่รองรับความละเอียด 1080p สำหรับเกมเมอร์ที่ต้องการถ่ายวิดีโอตนเองควบคู่ไปพร้อมกับการเล่นเกม ราคา 2,090 บาท
- รีโมตสื่อ ควบคุมการเล่นภาพยนตร์ และบริการสตรีมมิ่งต่างๆ ราคา 1,090 บาท
- แท่นชาร์จ DualSense อำนวยความสะดวกในการชาร์จคอนโทรลเลอร์ไร้สาย DualSense ราคา 1,090 บาท
สรุป
ไม่มีข้อสงสัยในเรื่องประสิทธิภาพของ PlayStation 5 เพราะนี้คือคอนโซลที่ดีที่สุดของ Sony แต่ก็เป็นคอนโซลที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของ Sony เช่นกัน เนื่องจากผู้ออกแบบต้องการให้มีพื้นที่ว่างภายใน เพื่อช่วยให้ความร้อนถูกถ่ายเทได้อย่างสะดวก ดังนั้น PlayStation 5 จึงมาพร้อมฐานรองที่สามารถวางคอนโซลได้ทั้งในแนวตั้งและแนวนอน ขึ้นอยู่กับพื้นที่ว่างของแต่ละคน
นอกจากการอัพเกรดประสิทธิภาพตัวคอนโซลแล้ว PlayStation 5 ยังอัพเกรดคอนโทรลเลอร์ด้วยเช่นกัน โดยมีระบบตอบสนองการเล่นเกมที่แม่นยำทั้ง Haptic Feedback และ Adaptive Triggers ช่วยให้ผู้เล่นมีความรู้สึกสมจริงมากยิ่งขึ้น ใครที่ได้สัมผัสแล้วเชื่อว่าจะเปลี่ยนมุมมองการเล่นเกมคอนโซลใหม่ไปตลอดกาลเลยทีเดียว
และจากกระแสความต้องการของเหล่าเกมเมอร์ที่ต้องการครอบครองเป็นของ PlayStation 5 ราคาเครื่องศูนย์ประเทศไทยตอนนี้ ต้องบอกว่าเป็นเรื่องยากอย่างมาก โดย Sony เองก็จะทยอยนำเข้ามาจำหน่ายเรื่อยๆ และเนื่องจากสถานกาณ์ COVID-19 ที่ทำให้กำลังผลิตมีไม่เพียงต่อความต้องการ ซึ่ง Sony ก็พบปัญหาสินค้ามีไม่เพียงพอต่อความต้องไปทั่วโลก คาดว่ากว่าจะหาซื้อได้ปกติในช่วงกลางปีหรืออาจจะยาวไปถึงช่วงปชายปี 2021 เลยก็เป็นได้