Redmi เริ่มปี 2021 ด้วยการเปิดตัวสมาร์ทโฟน 2 รุ่นใหม่ราคาสุดคุ้มที่ออกมาสะเทือนวงการอีกครั้งกับ Redmi Note 9T 5G สมาร์ทโฟน 5G ราคาถูกที่สุดในตลาด และ Redmi 9T แบตอึด 6000 mAh ซึ่งมีสเปกไม่ธรรมดาใช้ชิป Dimensity 800U ระดับ 7 นาโนเมตรและ Snapdragon 662 กล้องหลังความละเอียดสูง 48 ล้านพิกเซล แบตสุดอึดและยังรองรับชาร์จไว 18W อีกด้วย
ซึ่งก็ได้เปิดอย่างเป็นทางการในประเทศไทยไปเรียบร้อย โดยทั้งคู่มีดีไซน์และสเปกแตกต่างกันพอสมควร ส่วนจะแตกต่างกันอย่างไร เลื่อนลงมาอ่านรีวิวจากทีมงาน @flashfly กันได้เลย
สำหรับตัวเครื่องที่ทีมงาน @flashfly นำมารีวิวในครั้งนี้คือ Redmi 9T ตัวเครื่องสีส้มแดง Sunrise Orange แรม 4GB ความจุ 64GB และ Redmi Note 9T 5G ตัวเครื่องสีดำ Nightfall Black แรม 4GB ความจุ 128GB
ซึ่งอุปกรณ์ภายในกล่องของทั้ง 2 รุ่นนั้นนอกจากตัวเครื่องแล้ว ก็มีให้มาเหมือนกันก็คือ เข็มจิ้มถาดใส่ซิม เอกสารการรรับประกันตัวเครื่อง คู่มือการใช้งานเบื้องต้น เคสใส สาย USB-C และที่ชาร์จแบบพกพา 22.5W แบบไม่ต้องไปซื้อเพิ่ม
สเปกหลักของ Redmi Note 9T 5G
- จอแสดงผล Full HD+ ขนาด 6.53 นิ้ว
- กล้องหลัง 48MP AI Triple Camera
- กล้องหน้า 13 ล้านพิกเซล
- ชิปประมวลผล MediaTek Dimensity 800U
- ความจำ RAM 4GB แบบ LPDDR4X
- ตัวเก็บข้อมูลภายใน 64GB (UFS 2.1) หรือ 128GB (UFS 2.2)
- การเชื่อมต่อ 5G 4×4 MIMO, Wi-Fi, Bluetooth 5.0, NFC, IR Blaster, USB Type-C
- แบตเตอรี่ 5,000mAh รองรับชาร์จเร็ว 18W
- ขนาดบอดี้ 161.96 x 77.25 x 9.05 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 199 กรัม
สเปกหลักของ Redmi 9T
- จอแสดงผล Full HD+ ขนาด 6.53 นิ้ว
- กล้องหลัง 48MP AI Quad Camera
- กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล
- ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 662
- ความจำ RAM 4GB แบบ LPDDR4X
- ตัวเก็บข้อมูลภายใน 64GB (UFS 2.1) หรือ 128GB (UFS 2.2)
- การเชื่อมต่อ 4G, Wi-Fi, Bluetooth 5.0, IR Blaster, USB Type-C
- ลำโพงคู่ รองรับ Hi-Res Audio
- แบตเตอรี่ 6,000mAh รองรับชาร์จเร็ว 18W
- ขนาดบอดี้ 162.3 x 77.3 x 9.6 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 198 กรัม
ดีไซน์
Redmi Note 9T 5G และ Redmi 9T มาพร้อมดีไซน์ด้านหลังโค้งแบบ Unibody สามมิติ ด้านหลังมีพื้นผิวเป็นโพลีคาร์บอเนตเพื่อช่วยเพิ่มการยึดเกาะและลดรอยนิ้วมือ แถมยังปกป้องตัวเครื่องจากของเหลว
ทั้ง 2 รุ่นมีขนาดตัวเครื่องพอๆกัน แต่ก็ยังมีดีไซน์ที่แตกต่างกันอยู่พอสมควร
ทั้ง 2 รุ่นมีจอแสดงผลขนาดเท่ากัน 6.53 นิ้วเท่ากันโดย Redmi Note 9T 5G ใช้จอแสดงผลแบบ Dot Display ติดตั้งกล้องเซลฟี่ 13 ล้านพิกเซล ไว้ในหลุมที่มุมบนหน้าจอ และครอบทับด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 5
Redmi 9T ใช้จอแสดงผลแบบ Dot Drop Display มีรอยบากแบบหยดน้ำที่กึ่งกลาง สำหรับวางกล้องเซลฟี่ 8 ล้านพิกเซล และครอบทับด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 3
Redmi Note 9T 5G และ Redmi 9T มีความบางใกล้เคียงกัน ขนาดหน้าจอเท่ากัน น้ำหนักพอๆ กัน และ ติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ที่ขอบด้านข้างรวมไว้กับปุ่ม Power เหมือนกัน
ถาดใส่ซิมการ์ดของทั้งคู่อยู่ที่ขอบด้านข้าง Redmi 9T รองรับ 2 ซิมการ์ด และยังมีช่องใส่การ์ด microSD สูงสุด 512GB ส่วน Redmi Note 9T 5G รองรับ 2 ซิมการ์ด สามารถใส่ซิมการ์ด 5G ได้ทั้ง 2 ช่อง แต่ไม่มีช่องใส่การ์ด microSD
Redmi Note 9T 5G มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัว วางอยู่ในกรอบวงกลม ประกอบด้วย กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล, กล้อง Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล และ กล้อง Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ด้านล่างจะมีโลโก้ Redmi พร้อม 5G
Redmi 9T มาพร้อมกล้องหลัง 4 ตัว วางอยู่ในกรอบสี่เหลี่ยมผืนผ้าทำมุมโค้งมน ประกอบด้วย กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล, กล้อง Ultrawide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, กล้อง Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล และ กล้อง Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ด้านล่างจะมีตัวอักษร Redmi ขนาดใหญ่วางอยู่แนวตั้ง
Redmi Note 9T 5G และ Redmi 9T มาพร้อมลำโพงคู่ สเตอริโอ ติดตั้งไว้ที่ด้านบน (เหนือกล้องหน้า) และอีกตัวอยู่ด้านล่าง นอกจากนี้ด้านบนของทั้ง 2 รุ่นยังมีอินฟราเรดบลาสเตอร์ สำหรับใช้งานแทนรีโมทของอุปกรณ์ไฟฟ้าในบ้านได้อีกด้วย
ด้านล่างของ Redmi Note 9T 5G และ Redmi 9T มีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร, ไมโครโฟน, ช่องต่อ USB Type-C และ ลำโพง ไว้ขับเสียงร่วมกับลำโพงด้านบน
จอแสดงผล Full HD+ ขนาด 6.53 นิ้ว
Redmi Note 9T 5G มาพร้อมจอแสดงผล Full HD+ ขนาด 6.53 นิ้ว ใช้ดีไซน์แบบ Dot Display เจาะหลุมไว้ตรงกึ่งกลางหน้าจอ ให้อัตราส่วนภาพ 19.5:9 ความสว่างสูงสุด 450 นิต รองรับขอบเขตสี NTSC 84%
ผ่านการรับรองด้านป้องกันแสงสีฟ้าจาก TÜV Rheinland และครอบทับด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 5 ที่ทนทาน
Redmi 9T มาพร้อมจอแสดงผล Full HD+ ขนาด 6.53 นิ้ว ใช้ดีไซน์แบบ Dot Drop Display หรือ มีรอยบากแบบหยดน้ำ ให้ความสว่างสูงสุด 400 นิต สามารถปรับอุณหภูมิสีได้ มีโหมด Sunlight สู้แสงแดด และโหมดการอ่าน ช่วยถนอมสายตา
ผ่านการรับรองด้านป้องกันแสงสีฟ้าจาก TÜV Rheinland รวมถึงผ่านการรับรอง Widevine ระดับ L1 และครอบทับด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 3
กล้องหน้าถ่ายสวยระดับโปร
Redmi Note 9T 5G ซ่อนกล้องหน้าไว้ในหลุมที่เจาะไว้ตรงมุมบนของจอแสดงผล มีความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ขนาดพิกเซล 1.12 ไมครอน รูรับแสง f/2.25 และใช้เลนส์แบบ 5P
สามารถถ่ายภาพโหมด Photo สำหรับเซลฟี่ได้อย่างสวยงามด้วยการปรับแต่งระดับความงาม ใบหน้าเรียว และตาโต ได้ 100 ระดับแถมยังได้ภาพที่คมชัดด้วยพลัง AI และ HDR พร้อมฟิลเตอร์สวยๆก็มีให้เลือกมากมายอีกด้วย
เท่านี้ยังไม่พอยังถ่ายภาพโหมด Portrait หน้าชัดหลังละลายได้สวยงามด้วยบิวตี้ 100 ระดับ สามารถเลือกปรับระดับความเบลอฉากหลังได้ภายหลัง พร้อม Studio lighting ตกแต่งสภาพแสงในภาพถ่ายสวยงามราวกับถ่ายในสตูดิโอเลยทีเดียว
สำหรับการถ่ายวิดีโอนั้น Redmi Note 9T 5G ที่ความละเอียดสูงสุด 1080P ที่ 30fps ปรับบิวตี้ได้ 100 ระดับพร้อมฟิลเตอร์ให้เลือกมากมาย
สำหรับกล้องหน้าของ Redmi 9T นั้นถูกวางเอาไว้ในรอยบากบนหน้าจอ มีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ขนาดพิกเซล 1.12 ไมครอน รูรับแสง f/2.05 รองรับโหมดถ่ายภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวแบบเดียวกับกล้องหน้าของ Redmi Note 9T 5G ทั้งหมด
โดยกล้องหน้าของทั้ง 2 รุ่นรองรับฟีเจอร์ AI Face Unlock ปลดล็อคหน้าจอด้วยการสแกนใบหน้าอย่างรวดเร็วอีกด้วย
Redmi Note 9T 5G กล้องหลังคมชัด 48 ล้านพิกเซล
Redmi Note 9T 5G มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัว AI Super Camera ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล ติดตั้งรวมกับแฟลช LED อยู่ในกรอบวงกลม โดยกล้องแต่ละตัวมีรายละเอียดแตกต่างกันดังนี้
- กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล ขนาดเซ็นเซอร์ 1/2” ขนาดพิกเซล 0.8 ไมครอน รูรับแสง f/1.79 ใช้เลนส์แบบ 6P
- กล้อง Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ขนาดพิกเซล 1.75 ไมครอน รูรับแสง f/2.4
- กล้อง Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ขนาดพิกเซล 1.75 ไมครอน รูรับแสง f/2.4
สำหรับโหมดถ่ายภาพของ Redmi Note 9T 5G นั้นมีมาให้ใช้งานครบทั้งโหมด Pro ที่สามารถปรับค่าต่างๆได้เอง ถ่ายภาพไฟล์ RAW ได้ ,โหมด Photo มาพร้อม AI และ HDR ช่วยให้ถ่ายภาพได้สีสันสวยงาม และสว่างคมชัดยิ่งขึ้นซูมไกลสุด 10 เท่าแบบดิจิตอล
,โหมด Portrait ถ่ายภาพหน้าชัดหลังละลาย ,Night โหมดถ่ายภาพกลางคืน ,Panorama และโหมดถ่ายภาพความละเอียดสูง 48MP สำหรับงานสิ่งพิมพ์
ในโหมด Portrait นอกจากจะเลือกระดับบิ้วตี้ได้ 100 ระดับแล้ว พร้อมฟิลเตอร์สวยๆแล้ว ยังสามารถเลือกปรับค่า f ได้ตั้งแต่ f1.0 จนถึง f16 เพื่อให้ละลายฉากหลังได้สวย
เมื่อถ่ายเสร็จยังสามารถมาเลือกปรับค่า f หรือการเบลอฉากหลังได้ภายหลังอีกด้วย
ฟิลเตอร์เปลี่ยนฉากหลังให้กลายเป็นสีขาวดำ เพิ่มความโดดเด่นของตัวบุคคลก็มีให้ใช้งานในชื่อ Color focus ในหมวดฟีลเตอร์กลุ่ม Portrait
อีกฟีเจอร์ที่เชื่อว่าหลายคนต้องชอบมากๆนั่นก็คือการเปลี่ยนท้องฟ้าให้ภาพถ่ายเวลาไปเที่ยวดูสวยงามสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นได้ในพริบตา หรือจะเปลี่ยนจากภาพกลางวันให้เป็นกลางคืนก็สามารถทำได้ และยังมีลูกเล่นเปลี่ยนให้ภาพนิ่งเป็นภาพเคลื่อนไหวได้ทันทีอีกด้วย
สำหรับการถ่ายภาพเคลื่อนไหวรองรับความละเอียดสูงถึง 4K ที่ 30fps รวมถึงยังสามารถเปิดโหมดบิวตี้ได้ถึง 100 ระดับแบบเดียวโหมดถ่ายภาพ Portrait รวมถึงยังมีฟิลเตอร์ให้เลือกใช้งานมากมายอีกด้วย สามารถซูมแบบดิจิตอลได้สูงสุด 6 เท่า
โหมดถ่ายวิดีโอแบบอื่นๆก็ยังมีให้เลือกใช้งานทั้งโหมด Short video ถ่ายวิดีโอสั้นๆ 15 วินนาทีสำหรับลง Story พร้อมเอ็ฟเฟ็คเร่งความเร็วหรือช้าแถมยังใส่เพลงได้อีกด้วย โหมด VLOG ที่มีเทมเพลทพร้อมเพลงให้เลือกใช้งานหลายแบบ แถมยังแต่งสีมาให้สวยงามแบบมือโปร ส่วนโหมดอื่นๆก็จะมี Slow motion และ Time-lapse
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้า
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลัง
Redmi 9T กล้องหลัง 4 ตัวพร้อมเลนส์ Ultrawide
Redmi 9T มาพร้อมกล้องหลัง 4 ตัว Super Quad Camera ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล วางรวมกับแฟลช LED อยู่ในกรอบสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่ทำมุมโค้งมน โดยกล้องแต่ละตัวมีรายละเอียดแตกต่างกันดังนี้
- กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล ขนาดเซ็นเซอร์ 1/2” ขนาดพิกเซล 0.8 ไมครอน รูรับแสง f/1.79 ใช้เลนส์แบบ 6P
- กล้อง Ultrawide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มุมมองกว้าง 120 องศา รูรับแสง f/2.2
- กล้อง Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ขนาดพิกเซล 1.75 ไมครอน รูรับแสง f/2.4
- กล้อง Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ขนาดพิกเซล 1.75 ไมครอน รูรับแสง f/2.4
สำหรับโหมดถ่ายภาพของ Redmi 9T ก็มีให้ใช้งานเหมือนกับ Redmi Note 9T 5G แต่ที่น่าสนใจกว่าเพราะสามารถถ่ายภาพมุมกว้างด้วยเลนส์ Ultrawide มุมกว้าง 120 องศาได้ ซูมไกลสุด 8 เท่าแบบดิจิตอล
สำหรับโหมดวิดีโอกล้องหลังของ Redmi 9T รองรับเพียงแค่ 720P 30fps เท่านั้น และไม่มีโหมด VLOG แต่สามารถถ่ายวิดีโอด้วยเลนส์ Ultrawide มุมกว้าง 120 องศา ได้ซูมแบบดิจิตอลได้ 2 เท่าและสูงสุด 6 เท่า
โดยรวมกล้องหลังของ Redmi Note 9T 5G จะมีคุณภาพสูงกว่า Redmi 9T โดยเฉพาะการถ่ายวิดีโอที่รองรับถึงความละเอียด 4K และกล้องหน้ามีความละเอียดสูงกว่า ถูกใจคนชอบถ่ายภาพเซลฟี่และ VLOG อย่างแน่นอน ขณะที่ Redmi 9T ถูกชดเชยด้วยกล้องหลังที่หลากหลายกว่าโดยเฉพาะกล้อง Ultrawide มุมกว้าง 120 องศาสำหรับถ่ายภาพมุมกว้างทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวแถมยังไม่ผิดพี้ยน ซึ่ง Redmi Note 9T 5G ไม่มีเลนส์นี้ใส่เข้ามา
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้า
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลัง
สเปกแรง Dimensity 800U รองรับ 5G
Redmi Note 9T 5G ใช้ชิปประมวลผล MediaTek Dimensity 800U ที่สร้างขึ้นด้วยเทคโนโลยีกระบวนการผลิตแบบ 7 นาโนเมตร ประกอบด้วยซีพียู Arm Cortex-A76 สูงสุด 2.4GHz 2-Core + Arm Cortex-A55 สูงสุด 2GHz 6-Core ความเร็วสูงสุด 2.3GHz พร้อมด้วยจีพียู Arm Mali-G57 MC3 ทำให้เร็วกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 100% และประหยัดพลังงานอย่างมาก ทำให้สามารถเล่นเกมกราฟิกสูงๆได้อย่างราบลื่นคุ้มค่าเกินราคาอย่างแน่นอน
มาพร้อมกับแรม 4GB ความจุ 128GB ที่เพียงพอต่อการใช้งานในปัจจุบันทั้งการติดตั้งเกมยอดนิยมทั้ง ROV ,PUBG ,Asphalt 9 หรือ Call of Duty ได้อย่างสบาย รวมถึงแอพพลิเคชั่นโซเชียลต่างๆได้อย่างไม่ต้องกลัวพื้นที่จะเต็ม
รองรับ 5G แบบ 2 ซิม
Redmi Note 9T 5G รองรับมาตรฐานใหม่ล่าสุด 5G เนื่องจากใช้ชิปประมวลผล 5G ของ MediaTek Dimensity 800U ช่วยให้ Redmi Note 9 สนับสนุนเครือข่าย 5G ทั้ง 2 ซิมการ์ด แบบ Dual Standby จึงไม่ต้องเสียเวลาสลับการใช้งานระหว่างซิมการ์ด และพร้อมใช้งาน 5G ทันทีตั้งแต่แกะกล่อง ตามสโลแกน Ready, Set, 5G! ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในตระกูล Redmi Note
และด้วยเทคโนโลยี 4×4 MIMO พร้อมเสาอากาศรอบตัวเครื่อง Redmi Note 9T 5G ทำให้การเชื่อมต่อไร้สายรวดเร็ว เสถียรภาพมากขึ้น แม้ในสภาพแวดล้อมที่แออัด
ส่วน Redmi 9T รองรับการใช้งาน 4G ใช้ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 662 ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี 11 นาโนเมตร ประกอบด้วยซีพียู Kryo 260 Octa-core ความเร็วสูงสุด 2GHz พร้อมด้วยจีพียู Adreno 610 จึงรองรับการทำงานและเล่นเกมได้อย่างราบรื่นและยังมี AI Engine รุ่นที่ 3 สำหรับการประมวลผลด้าน AI
มาพร้อมแรมสูงสุด 6GB ความจุสูงสุด 128GB สามารถเพิ่มพื้นที่ได้ด้วย MicroSD ได้อีกถึง 512GB แถมตัวเครื่องยังมาพร้อมระบบเสียงสเตอริโอระดับ Hi-Res Audio ช่วยเพิ่มอรรถรสในการเล่นเกม ดูหนัง หรือฟังเพลงได้ยิ่งขึ้นไปอีก
แบตเตอรี่ 6,000mAh ชาร์จเร็ว 18W
Redmi Note 9T 5G ก็มึความจุแบตเตอรี่ไม่น้อยถึง 5,000mAh และยังรองรับชาร์จเร็ว 18W พร้อมกับอุปกรณ์ชาร์จ 22.5 วัตต์ในกล่อง ตัวแบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ยาวนานมากกว่า 3 ปี โดยไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่เสื่อมสภาพอีกด้วย
ทางด้าน Redmi 9T มาพร้อมสโลแกน Power up! จึงให้แบตเตอรี่มากถึง 6,000mAh รองรับการใช้งานตลอดทั้งวันได้อย่างสบาย และยังสนับสนุนชาร์จเร็ว 18W ผ่านช่องต่อ USB Type-C แน่นอนว่าทาง Redmi ก็แถมอุปกรณ์ชาร์จ 22.5 วัตต์มาในกล่องด้วยเช่นเดียวกัน
สรุป
อาจจะดูเหมือน Redmi Note 9T 5G และ Redmi 9T เป็นสมาร์ทโฟนที่อยู่กันคนละกลุ่ม ดีไซน์ก็ไม่เหมือนกัน แต่เมื่อเจาะลงไปในรายละเอียดต่างๆ ของทั้งคู่ กลับพบว่าไม่ได้มีความแตกต่างห่างชั้นกันมากนัก
Redmi Note 9T 5G นี่คือสมาร์ทโฟน 5G ที่ออกมาเขย่าราคาทั้งตลาดในราคาเริ่มต้นหลักพันบาทแถมยังใช้งาน 5G ได้ทั้งสองซิมอีกด้วย สเปกแรง จอใหญ่ เล่นเกมได้อย่างลื่นไหลตัวกล้องคุณภาพสูงทั้งการถ่ายภาพเซลฟี่ การถ่ายวิดีโอภาพเคลื่อนไหว VLOG ซึ่งมีฟีเจอร์น่าสนใจใส่ไว้เยอะทีเดียว
สำหรับ Redmi 9T ทำออกมาตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่ยังพอใจกับความเร็วของ 4G แต่ต้องการสมาร์ทโฟนหน้าจอขนาดใหญ่ ใช้งานถ่ายรูปได้หลากหลาย มีแบตเตอรี่สุดอึดถึง 6,000mAh ดูหนังเล่นเกม ฟังเพลงต่อเนื่องได้แบบยาวนานลืมชาร์จกันไปเลย แถมยังรองรับการชาร์จเร็วในราคาสุดประหยัดไม่ถึงห้าพันบาท
ราคาและการวางจำหน่าย
Redmi Note 9T ทั้ง 2 สี Nightfall Black และ Daybreak Purple พร้อมวางจำหน่ายแบบเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะบนแพลตฟอร์มออนไลน์ JD Central ตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2564 นี้ ด้วยกัน 2 รุ่น
- Redmi Note 9T ขนาดความจุ 4+64GB ราคา 6,999 บาท
- Redmi Note 9T ขนาดความจุ 4+128GB ราคา 7,499 บาท
และพิเศษสุดๆ! สำหรับลูกค้าที่สั่งซื้อในระหว่างวันที่ 9-15 มกราคม 2564
- Redmi Note 9T ขนาดความจุ 4+64GB ราคาพิเศษเพียง 5,999 บาท จากราคาปกติ 6,999 บาท
- Redmi Note 9T ขนาดความจุ 4+128GB ราคาพิเศษเพียง 6,599 บาท จากราคาปกติ 7,499 บาท
และพิเศษสุดๆ! สำหรับลูกค้าที่สั่งซื้อในระหว่างวันที่ 9-15 มกราคม 2564
• Redmi Note 9T ขนาดความจุ 4+64GB ราคาพิเศษเพียง 5,999 บาท จากราคาปกติ 6,999 บาท เลือกซื้อได้ที่ลิ้งค์ https://bit.ly/38eS2xu
• Redmi Note 9T ขนาดความจุ 4+128GB ราคาพิเศษเพียง 6,599 บาท จากราคาปกติ 7,499 บาท เลือกซื้อได้ที่ลิ้งค์ http://bit.ly/3ngkjYP
พร้อมรับฟรี! Mi Band 4C มูลค่า 599 บาท และซิม AIS 5G มูลค่า 99 บาท (หมายเหตุ* ของสมนาคุณมีจำนวนจำกัด)
Redmi 9T ทั้ง 4 สี Carbon Gray, Twilight Blue, Sunrise Orange และ Ocean Green
- Redmi 9T ขนาดความจุ 4+64GB ราคา 4,499 บาท วางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม 2564
- Redmi 9T ขนาดความจุ 6+128GB ราคา 5,299 บาท วางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 25 มกราคม 2564
Redmi 9T ทั้งรุ่น 4+64GB และ 6+128GB จะว่างจำหน่ายที่ AIS, dtac, True, Banana, BKK, Kingkong Phone, TG Fone, Jaymart, JD Central, Shopee, Lazada และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ