realme เริ่มต้นธุรกิจด้วยการผลิตสมาร์ทโฟน โดยใช้เวลาเพียง 2 ปี (นับจากก่อตั้งบริษัทฯ ในเดือนพฤษภาคม 2018) ก็สามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่ อยู่ในอันดับ 7 ของโลก และครองอันดับ 4 ของประเทศไทย ในไตรมาสที่ 3 ปี 2020 พร้อมขยายตลาดไปยังกลุ่มผลิตภัณฑ์อัจฉริยะ AIoT ซึ่งมีทั้งหูฟังไร้สาย, สมาร์ทวอทช์, แปรงสีฟันไฟฟ้า รวมถึง สมาร์ททีวี ซึ่งพร้อมแล้วสำหรับการเปิดตัวในประเทศไทย และทีมงาน @flashfly ก็ไม่พลาดที่จะนำมารีวิวให้ได้ชมกัน
realme Smart TV มาพร้อมสโลแกน “ภาพสวย สีสด เสียงชัดรอบด้าน” ที่บอกจุดเด่นได้เป็นอย่างดี มีให้เลือก 2 รุ่น ได้แก่ 32 นิ้ว และ 43 นิ้ว ทั้งคู่ใช้สเปกเดียวกัน มีรายละเอียดแตกต่างกันเล็กน้อยที่ความละเอียดจอแสดงผล และความต้องการของกำลังไฟ และแน่นอนว่าขนาดกับน้ำหนักก็ย่อมแตกต่างกัน
สเปกหลักของ realme Smart TV
- จอแสดงผล LED ขนาด 32 นิ้ว (80 ซม.) และ 43 นิ้ว (108 ซม.)
- รองรับเทคโนโลยี Chrome Boost Picture Engine
- ลำโพง 4 ตัว 24W พร้อมระบบเสียง Dolby Audio
- ระบบปฏิบัติการ Android TV
- มาพร้อม Google Assistant และ Chromecast ในตัว
- ชิปประมวลผล MediaTek 64-bit Quad Core
- ความจำ RAM 1GB จับคู่กับ ROM 8GB
- การเชื่อมต่อ Wi-Fi (2.4GHz), DLNA, Bluetooth 5.0, Infrared, HDMI, AV, USB, LAN, USB, S/PDIF
- ขนาดและน้ำหนักทีวี 730 x 432 x 88 มิลลิเมตร, น้ำหนัก 3.6 กิโลกรัม สำหรับรุ่น 32 นิ้ว (ไม่รวมขาตั้ง)
อุปกรณ์ภายในกล่อง
นอกจากทีวี สิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือรีโมท โดยรีโมทของ realme Smart TV ผลิตจากวัสดุโพลีเมอร์ ทำให้มีน้ำหนักเบา แข็งแรง ทนทาน สัมผัสสบายมือ โดยใช้แบตเตอรี่ขนาด AAA จำนวน 2 ก้อน
รีโมทของ realme Smart TV ได้รับการออกแบบตามหลักการยศาสตร์ ผ่านการประเมินน้ำหนักที่เหมาะสม มีจุดศูนย์กลางที่พอดีกับอุ้งมือ และด้ามจับมีขนาดความโค้งพอดีกับสรีระของมือ
บนตัวรีโมทยังมาพร้อมปุ่มทางลัดเปิดแอพ YouTube, Netflix, Prime Video ได้ทันที รวมถึงปุ่มทางลัด Google Assistant แน่นอนว่าติดตั้งไมโครโฟนมาให้ด้วย สำหรับสั่งการ Google Assistant
realme Smart TV ยังแถมขาตั้งมาให้ 2 แบบตามมาตรฐาน VESA สำหรับวางบนโต๊ะ หรือ จะแขวนผนังก็แล้วแต่สไตล์การแต่งบ้านของแต่ละคน ถ้าหากจะติดผนัง ก็แถมตะปูมาให้ 4 ตัว
ดีไซน์ไร้กรอบขอบจอแคบเพียง 8.7 มิลลิเมตร
realme Smart TV ได้รับการออกแบบมาอย่างสวยงามทันสมัย และให้ภาพลักษณ์ที่ดูพรีเมียม ด้วยดีไซน์แบบ Edge-to-Edge ทำให้มีขอบจอแคบเพียง 8.7 มิลลิเมตร (รุ่น 32 นิ้ว) จึงสามารถวางไว้ในห้องนั่งเล่นได้อย่างลงตัว หรือจะแขวนผนังก็มีชุดติดตั้งแถมมาให้ในกล่อง
realme Smart TV ผ่านการทดสอบมาตรฐานความทนทานอย่างเข้มงวด ไม่ว่าจะเป็นการทดสอบในอุณหภูมิห้องที่ต่ำถึง -20 องศาเซลเซียส, ทดสอบ Drop Test ตกจากที่สูงกว่า 76 เซนติเมตร, ทดสอบการใช้งานปุ่มกว่า 5,000 ครั้ง, กดเปิด/ปิดกว่า 5,500 ครั้ง และยังผ่านการรับรองมาตรฐานระดับสากล ISTA จึงมั่นใจได้ว่า realme Smart TV ผ่านกระบวนการผลิตที่มีคุณภาพไม่แพ้สมาร์ทโฟน
ภาพสวยสีสด LED Ultra Bright
realme Smart TV มาพร้อมจอภาพ LED Ultra Bright ที่มีความสว่างเป็นพิเศษ 400 นิต แสดงภาพชัดเจนในเวลากลางวันที่แสงจ้า และยังให้มุมมองกว้างถึง 178 องศา จึงรองรับการนั่งชมพร้อมกันหลายคน ไม่ว่าจะนั่งมุมไหนของโซฟาก็มองเห็นภาพได้อย่างชัดเจน
realme Smart TV มีให้เลือก 2 รุ่น ได้แก่ 32 นิ้ว ความละเอียด 1366 x 768 พิกเซล และ 43 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล ทั้ง 2 รุ่น รองรับสีมากถึง 16.7 ล้านสี และมีอัตราส่วนภาพ 16:9 เท่ากัน ทั้งนี้ realme Smart TV รองรับการถอดรหัสและเล่นวิดีโอรูปแบบ HDR 10 และ HLG แต่ไม่รองรับการแสดงผล HDR
เทคโนโลยี Chroma Boost
นอกจากความสว่าง ยังให้สีสันที่สวยงามสดใสด้วยเทคโนโลยี Chroma Boost ซึ่งพบได้ในกล้องของสมาร์ทโฟน realme และเมื่อมาอยู่ใน Smart TV ก็ช่วยให้จอทีวีแสดงภาพออกมาอย่างสวยงาม สีสันสดใส พร้อมปรับปรุงคุณภาพให้ดีขึ้น ความสว่างของสีมากขึ้น คอนทราสต์สูงขึ้น และ ให้ความคมชัดมากขึ้น
เสียงชัดรอบด้านลำโพง 4 ตัว
จอภาพสวยงามแล้ว ระบบเสียงก็ต้องดีด้วย realme Smart TV ได้รับการติดตั้งลำโพง 4 ตัว 24W ไว้ที่ด้านล่างของจอภาพ แบ่งเป็นลำโพงคู่ 2 ชุด แต่ละชุดประกอบด้วยลำโพง Full-Range 1 ตัว และ ลำโพง Tweeter 1 ตัว
ลำโพง Full-Range ใช้วัสดุขอบยางพร้อมกรวยและกระดาษคอมโพสิต ดีไซน์โครงสร้างลำโพงแบบวงแหวนที่ขับเคลื่อนด้วยพลังไดนามิก ทำให้ความถี่ของเสียงเบสขยายมากขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
ลำโพง Tweeter ใช้วัสดุจากฟิล์มไหม (Silk Film) ดีไซน์โครงสร้างลำโพงแบบเพียโซอิเล็กทริก ที่ช่วยในเรื่องขยายความกว้างความถี่สูงได้อย่างเต็มที่ และใช้การออกแบบกล่องเสียงทูโทน เพื่อเพิ่มศักยภาพเสียงความถี่ต่ำ โดยตำแหน่งอยู่ในบริเวณสมมาตร (ซ้ายและขวาของหน้าจอ) ทำให้อรรถรสในการรับเสียงเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น
ด้วยประสิทธิภาพของลำโพงทั้ง 2 แบบ ทำให้ realme Smart TV สามารถสร้างความถี่เสียงได้ตั้งแต่ 148Hz ถึง 20,000Hz ครอบคลุมการได้ยินเสียงของมนุษย์
ระบบเสียง Dolby Audio
นอกจากลำโพงจะมีคุณภาพแล้ว ระบบเสียงก็ช่วยเพิ่มมิติการฟังให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น realme จึงได้พัฒนาประสิทธิภาพระบบเสียงรอบทิศทาง ด้วยเทคโนโลยีที่รองรับ Dolby Audio บน realme Smart TV สามารถแยกคลื่นเสียงและเล่นเสียงได้รอบด้าน (ทั้งด้านหน้า ด้านข้าง และ ด้านหลัง) เพื่อเพิ่มอรรถรสในการรับฟังเสียงรอบทิศทางเสมือนจริง
ด้วยธรรมชาติของมนุษย์ที่มีความไวต่อการรับเสียงพูดมนุษย์มากที่สุด ดังนั้น realme จึงได้นำอัลกอริทึมจาก Dolby Audio มาใช้ควบคุมระดับเสียงได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมลดระดับเสียงที่ดังเกินมาตรฐานอย่างกระทันหันโดยอัตโนมัติ
ระบบเสียง Dolby Audio เป็นตัวช่วยสำคัญ โดยจะระบุอุปกรณ์และประสิทธิภาพของเสียงจากอุปกรณ์นั้น จากนั้นจะทำการปรับช่วงไดนามิก เพื่อให้เสียงมีความชัด ไม่ผิดเพี้ยน ผู้ชมสามารถรับเสียงได้ทุกรายละเอียดไม่ว่าจะความถี่สูงหรือต่ำ
ระบบปฏิบัติการ Android TV
realme Smart TV ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android TV (Android 9.0) ของ Google สามารถดาวน์โหลดเกมและแอพพลิเคชั่นสำหรับสมาร์ททีวีใน Play Store ได้มากกว่า 5,000 แอพ และมาพร้อมผู้ช่วยเสียงอัจฉริยะ Google Assistant ที่รองรับคำสั่งภาษาไทยใช้งานเหมือนสมาร์ทโฟน
Google Assistant ใน realme Smart TV ตอบสนองต่อคำสั่งเสียงภาษาไทยเหมือนใช้งานในสมาร์ทโฟน ไม่ว่าจะเป็นการตอบคำถาม ขอข้อมูลที่ต้องการ หรือให้ช่วยเตือนความจำ โดยสามารถเรียกใช้งานจากปุ่ม Google Assistant บนรีโมทที่แถมมาให้
realme Smart TV ยังรองรับ Chromecast ในตัว ไม่ต้องซื้อ USB Dongle มาต่อเพิ่ม จึงสามารถส่งภาพจากหน้าจอสมาร์ทโฟน ไปแสดงผลบนจอทีวี realme Smart TV ได้ทันที
realme Smart TV มาพร้อมแอพพลิเคชั่นของบริการวิดีโอสตรีมมิ่งที่ได้รับความนิยมอย่าง Netflix, Prime Video และ YouTube นอกจากนี้ ยังสามารถดาวน์โหลดเพิ่มเติมได้จาก Play Store
ประสิทธิภาพ
realme Smart TV มาพร้อมชิปประมวลผล 64-bit Quad Core ของ MediaTek ประกอบด้วยซีพียู ARM Cortex A53 1.1GHz พร้อมจีพียู GPU Mali-470 MP3 ความจำ RAM 1GB ที่มีความเร็วถึง 2133MHz จับคู่กับ ROM 8GB ช่วยให้ realme Smart TV ส่งมอบประสบการณ์ภาพที่เสถียร ตอบสนองการทำงานได้อย่างลื่นไหลทั้งการชมซีรีย์เรื่องโปรดหรือการเล่นเกมกับครอบครัว
การเชื่อมต่อครบครัน
realme Smart TV สนับสนุนการเชื่อมต่อไร้สาย Wi-Fi (2.4GHz), DLNA, Bluetooth 5.0 และ Infrared ด้านหลังยังมีช่องต่อ HDMI มาให้ถึง 3 ช่อง, USB อีก 2 ช่อง, ช่องต่อสัญญาณเสียงแบบดิจิตอบ S/PDIF, AV, หูฟัง 3.5 มิลลิเมตร, ช่องต่อสาย LAN และ เสาอากาศทีวี DVB-T2
สรุป
realme Smart TV เป็นสมาร์ททีวีรุ่นแรกของ realme ที่มีการผลิตและงานประกอบคุณภาพไม่แพ้สมาร์ทโฟน และยังดึงจุดเด่นจากสมาร์ทโฟนมาใช้ด้วย อย่างเทคโนโลยี Chroma Boost ทำให้จอภาพมีความสว่างและขับสีให้สวยสดใส และอีกจุดเด่นที่เพิ่มความน่าสนใจได้เป็นอย่างดี ก็คือ ระบบเสียงที่มาพร้อมลำโพง 4 ตัว พร้อมรองรับระบบเสียง Dolby Audio เรียกได้ว่าให้ความบันเทิงได้อย่างเต็มอิ่มทั้งภาพและเสียง
realme Smart TV ยังมีความอัจฉริยะจากระบบปฏิบัติการ Android TV สำหรับใครที่เคยใช้กล่องทีวี Android กับทีวีธรรมดามาก่อน realme Smart TV ก็เปรียบเสมือนนำทั้ง 2 อย่างมารวมกัน และยังมาพร้อมรีโมทที่มีปุ่มทางลัดเปิดแอพยอดนิยมได้ทันใจ รวมถึงสั่งการ Google Assistant ได้ทันทีผ่านไมโครโฟนของรีโมท
สรุปแล้ว realme Smart TV เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่กำลังมองหา Smart TV มาใช้แทนทีวีธรรมดา โดยเน้นที่ราคาต้องให้ความคุ้มค่ากว่า Smart TV จากเจ้าตลาด แต่ยังได้รับฟังก์ชั่นครบครัน และยังรองรับ Chromecast ในตัว สามารถส่งภาพจากสมาร์ทโฟนขึ้นจอทีวีได้ทันที
realme Smart TV เริ่มวางจำหน่ายในประเทศไทยเร็วๆนี้ราคา 4,999 บาท สำหรับรุ่น 32 นิ้ว และราคา 7,999 บาท สำหรับรุ่น 43 นิ้ว