HUAWEI เปิดตัวสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียม Mate 40 Pro ในช่วงปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา นับเป็นสมาร์ทโฟนบนพื้นฐาน Android รุ่นแรก ที่มาพร้อมชิปประมวลผลระดับ 5 นาโนเมตร และตอนนี้ก็มาอยู่ในมือของทีมงาน @flashfly เรียบร้อยแล้ว เพื่อรีวิวให้ดูว่า Mate 40 Pro มีอะไรที่น่าสนใจบ้าง
สเปกหลักของ HUAWEI Mate 40 Pro
- จอแสดงผล Horizon Display ขอบโค้ง 88 องศา ขนาด 6.76 นิ้ว
- ระบบกล้องหลัง 50MP Ultra Vision Cine จาก Leica
- กล้องเซลฟี่ 13MP Ultra Vision
- ชิปประมวลผล Kirin 9000
- ความจำ RAM 8GB + ROM 256GB
- การเชื่อมต่อ 5G, Wi-Fi 6+, Bluetooth 5.2, NFC, USB Type-C
- ระบบนำทาง GPS (L1 + L5 Dual band) / AGPS / GLONASS / BeiDou (B1I + B1C + B2a + B2b Quad-band) / GALILEO (E1 + E5a + E5b Tri-band) / QZSS (L1 + L5 Dual band) / NavIC
- เซ็นเซอร์ 3D Face Recognition, Gesture Sensor, Fingerprint Sensor, Laser Sensor, Infrared Sensor, Gravity Sensor, Barometric Pressure Sensor, Gyroscope, Compass, Ambient Light Sensor, Proximity Sensor และ Colour Temperature Sensor
- ระบบปฎิบัติการ EMUI 11.0 บนพื้นฐาน Android 10
- ลำโพงคู่สเตอริโอ พร้อมระบบเสียง HUAWEI Histen
- ป้องกันน้ำและฝุ่นในระดับ IP68
- แบตเตอรี่ 4400mAh ชาร์จเร็ว 66W
- ขนาดบอดี้ 162.9 x 75.5 x 9.1 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 212 กรัม
ดีไซน์พรีเมียม Space Ring Design
HUAWEI ใส่ใจในการออกแบบสมาร์ทโฟน Mate 40 Pro ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง โดยด้านหลังเน้นดีไซน์ที่สมมาตร ติดตั้งกล้องหลังไว้บนวงแหวน Space Ring Design
ที่ได้แรงบันดาลใจจากการอยู่ท่ามกลางจักรวาลและดวงดาวแบบในภาพยนตร์แนว Sci-Fi อีกทั้งวงแหวนยังสื่อถึงความงามที่ล้ำสมัยและสร้างสรรค์ความเป็นไปได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ด้านหน้าก็มีความโดดเด่นไม่แพ้ด้านหลัง ด้วยจอแสดงแบบ Horizon Display ขอบโค้ง 88 องศา ขนาด 6.76 นิ้ว ทำให้มีพื้นที่หน้าจอกว้างสุดขอบ แสดงภาพได้อย่างสวยงามคมชัดด้วยเทคโนโลยี OLED และยังติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ใต้จอแสดงผล
จอแสดงผลถูกเจาะหลุมเป็นรูปทรงแคปซูล สำหรับติดตั้งกล้องหน้า 13MP Ultra Vision Selfie Camera วางคู่กับกล้อง 3D Depth Sensing Camera รองรับการควบคุมด้วยท่าทาง และปลดล็อคด้วยใบหน้าแบบ 3D
ขอบด้านข้างมีความบาง 9.1 มิลลิเมตร มองเห็นส่วนขอบของจอแสดงผล Horizon Display ที่โค้งมนอย่างชัดเจน
ด้านข้างมาพร้อมปุ่มปรับระดับเสียงและปุ่มเพาเวอร์ ทั้งคู่เป็นปุ่มกดได้จริงแบบ Physical
แต่ก็ยังรองรับการปรับระดับเสียงด้วยวิธีสัมผัสที่ขอบจอเหมือนรุ่นก่อนด้วย (Mate 30 Pro ไม่มีปุ่มปรับระดับเสียงแบบ Physical)
ด้านบนมองเห็นตะแกรงลำโพง และไมโครโฟนช่วยลดเสียงรบกวน
ด้านล่างมีถาดใส่ซิมการ์ด, ช่องต่อ USB Type-C และ ลำโพง ขับเสียงร่วมกับลำโพงอีกตัวที่ด้านบน เพื่อให้เสียงในระบบสเตอริโอ
HUAWEI Mate 40 Pro ยังได้รับการออกแบบมาให้ทนน้ำในระดับ IP68 สามารถกันน้ำลึกสูงสุด 1.5 เมตร เป็นเวลานาน 30 นาที
จอ Horizon Display รีเฟรช 90Hz
จอแสดงผลของ HUAWEI Mate 40 Pro ให้พื้นที่กว้างสุดขอบด้วยดีไซน์ Horizon Display ทำให้ขอบจอมีความโค้งมน 88 องศา จนดูเหมือนไร้กรอบ มาพร้อมจอแสดงผล OLED ความละเอียด 2772 x 1344 พิกเซล ขนาด 6.76 นิ้ว ให้สีสันที่สมจริง สามารถปรับระดับความสว่างได้อย่างแม่นยำ
มีอัตราการรีเฟรชหน้าจอ 90Hz และความไวต่อการตอบสนองการสัมผัส 240Hz จึงตอบสนองการสัมผัสหน้าจอได้อย่างรวดเร็วและลื่นไหล เหมาะสำหรับการดูวิดีโอหรือเล่นเกม
จอแสดงผลของ HUAWEI Mate 40 Pro ยังรองรับการใช้งานร่วมกับปากกา HUAWEI M-Pen 2 สำหรับการวาด เขียน หรือสเก็ตช์ แต่ไม่ได้แถม M-Pen มาให้ ต้องซื้อแยกต่างหาก
HUAWEI Mate 40 Pro มาพร้อม 3D Depth Sensing Camera (ติดตั้งคู่กับกล้องเซลฟี่) ช่วยตรวจจับใบหน้าผู้ใช้งาน แล้วสามารถปรับมุมมองการแสดงผลเป็นแนวนอนหรือแนวตั้งอัตโนมัติ แม้วางสมาร์ทโฟนบนพื้นราบ และ 3D Depth Sensing Camera ยังมีประโยชน์กับการควบคุมด้วยท่าทางด้วย Smart Gesture Control เพียงวางมือไว้เหนือสมาร์ทโฟนโดยไม่ต้องสัมผัสก็สามารถเปิดหน้าจอ และเลื่อนหน้าจอ ซ้าย ขวา บน ล่าง ได้ทันที นอกจากนี้ ยังสามารถรับสายด้วยการใช้มือทำท่าแตะได้อีกด้วย
ระบบยืนยันตัวตน 3D Depth Sensing Camera
3D Depth Sensing Camera ช่วยให้ HUAWEI Mate 40 Pro รองรับการสแกบใบหน้าเพื่อปลดล็อคสมาร์ทโฟนได้อย่างปลอดภัยและแม่นยำกว่าสมาร์ทโฟนทั่วไปที่ใช้เฉพาะกล้องดิจิตอลปกติ เนื่องจาก 3D Depth Sensing Camera สามารถตรวจจับใบหน้าได้แบบ 3 มิติ และยังมองเห็นแม้อยู่ในที่มืด จึงสามารถใช้งานฟีเจอร์ 3D Face Unlock ในเวลากลางคืนหรือในที่แสงน้อยได้อย่างสะดวก
นอกจากนี้ HUAWEI Mate 40 Pro ยังติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ใต้จอแสดงผลด้วย ถ้าหากไม่ต้องการใช้ฟีเจอร์ 3D Face Unlock ก็สามารถสแกนนิ้วบนหน้าจอเพื่อปลดล็อคสมาร์ทโฟนได้เช่นกัน
กล้องหลัง 3 ตัว Ultra Vision Cine Camera
สมาร์ทโฟนเรือธงของ HUAWEI มีจุดเด่นที่คุณภาพกล้องมาหลายรุ่น และสำหรับ Mate 40 Pro ก็ยังได้รับการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพแบบก้าวกระโดดมากขึ้นไปอีก โดย HUAWEI ยังคงพัฒนาร่วมกับ Leica ในการสร้างกล้องหน้า Ultra Vision Selfie Camera และระบบกล้องหลัง 3 ตัว Ultra Vision Cine Camera ซึ่งมีรายอะเอียดแตกต่างกันดังนี้
- กล้องหลัก Super Sensing Wide Camera ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล ขนาดเซ็นเซอร์ 1/1.28” รูรับแสง f/1.9 มีระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS ระบบออโต้โฟกัส Omnidirectional
- กล้อง Ultra Wide Cine Camera ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 ถือเป็นกล้องสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของโลกที่ใช้เลนส์ Free Form ช่วยลดความผิดเพี้ยนของเลนส์ Ultra-wide
- กล้อง Periscope Telephoto Camera ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ทางยาวโฟกัส 125 มม. รูรับแสง f/3.4 รองรับออปติคอลซูม 7 เท่า ไฮบริดซูม 10 เท่า ดิจิตอลซูม 50 เท่า มีระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS
ระบบกล้องหลังยังมีเลเซอร์ช่วยโฟกัส ที่ทำงานได้รวดเร็ว แม่นยำ และทำให้ HUAWEI Mate 40 Pro ดูเหมือนมีกล้องหลัง 4 ตัว สามารถซูมในระยะ 5 เท่าหรือ 10 เท่าได้อย่างคมชัด และสามารถซูมไกลสุดได้ 50 เท่าแบบดิจิตอลที่ถ่ายได้ง่ายกว่าเดิมมาก
กล้องหลัก Super Sensing Wide Camera สามารถถ่ายภาพได้อย่างคมชัดด้วย Full Pixel Octa PD AutoFocus ช่วยปรับปรุงคุณภาพของรูปถ่ายให้สูงขึ้น และยังมีฟีเจอร์แก้ไขความบิดเบี้ยวช่วยจับภาพใบหน้า ร่างกาย และแขนขา ทำให้เลนส์มุมกว้างถ่ายได้สวยสมจริงกว่าเดิม
Super Sensing Wide Camera รองรับการถ่ายวิดีโอในสัดส่วน 3:2 พร้อมโหมด Steady Shot สำหรับถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงได้แบบแม่นยำ คมชัด ไม่สั่นแม้เคลื่อนไหว มีเทคโนโลยีประมวลผลภาพที่เพิ่มช่วงไดนามิกของภาพวิดีโอให้กว้างขึ้น เรียกว่า XD Fusion HDR Engine สามารถให้ค่าความสว่างที่สมดุล ถึงแม้จะถ่ายภาพในที่ที่มีค่าความต่างของแสงสูง
HUAWEI Mate 40 Pro รองรับการถ่ายวิดีโอพร้อมกันทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง พร้อมแสดงผลแบบ Dual-view และยังมีฟีเจอร์ Audio Focus (การจับโฟกัสเสียง) Audio Zoom (การซูมเสียง) ให้ภาพที่สอดคล้องกับเสียงสมจริง นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี Tracking Shot และ Story Creator สามารถใส่เอฟเฟก์แบบภาพยนตร์ได้ รวมไปถึงใส่ดนตรีเป็นพื้นหลัง เพิ่มฟิลเตอร์และเอฟเฟกต์ได้อย่างง่ายดาย
สำหรับกล้อง Ultra Wide Cine Camera ช่วยให้สามารถถ่ายภาพครอบคลุมพื้นที่ได้กว้างขึ้นอีก เก็บรายละเอียดได้ชัดเจนขึ้น การถ่ายในที่แสงน้อยได้ดีขึ้น โดยมีอัลกอริทึมปรับความบิดเบี้ยวของภาพที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถถ่ายภาพมุมกว้างพิเศษได้อย่างสวยงาม
กล้องหน้า Ultra Vision Selfie Camera
กล้องหน้า Ultra Vision Selfie Camera ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 (วางคู่กับกล้อง 3D Depth Sensing Camera) สามารถถ่ายวิดีโอได้คมชัดระดับ 4K และมีตัวเลือกให้ถ่ายเซลฟี่ได้ถึง 3 ระยะ ได้แก่ แบบโคลสอัพ ระยะปกติ จนถึงมุมกว้างพิเศษ เพิ่มความหลากหลายให้การถ่ายเซลฟี่แบบสโลว์โมชั่นด้วยกล้องหน้า โดยทำให้ผู้ใช้สามารถเพิ่มเอฟเฟกต์พิเศษได้ขณะบันทึกการเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว
ตัวอย่างภาพถ่าย
ชิปประมวลผล Kirin 9000 ระดับ 5 นาโนเมตร ใช้งาน 5G ได้ตั้งแต่แกะกล่อง
HUAWEI Mate 40 Pro เป็นสมาร์ทโฟนที่ทำงานบนพื้นฐาน Android รุ่นแรก ที่ได้รับชิปประมวลผลระดับ 5 นาโนเมตร เรียกว่า Kirin 9000 อัดแน่นไปด้วยทรานซิสเตอร์มากกว่า 1.53 หมื่นล้านตัว ประกอบด้วยแกนประมวลผล 1-core [email protected] GHz + 3-core [email protected] GHz + 4-core [email protected] GHz)พร้อมจีพียู 24-core Mali-G78 และ NPU (Neural-network Processing Unit) Dual Big Core + Tiny Core รวมถึงยังมีชิปโมเด็ม 5G ในตัวสามารถใช้งาน 5G กับค่ายมือถือในประเทศไทยได้ตั้งแต่แกะกล่อง
จีพียู 24-Core Mali-G78 ใน Mate 40 Pro เป็นจีพียูที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีมาในอุปกรณ์ของ HUAWEI ทำให้สามารถสร้างภาพกราฟฟิกระดับสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ และด้วยจอแสดงผลที่มีอัตรการรีเฟรช 90Hz และความไวต่อการตอบสนองการสัมผัส 240Hz จึงให้ประสบการณ์ในการเล่นเกมที่ลื่นไหลไม่สะดุด อีกทั้งยังมีลำโพงคู่ให้เสียงสเตอริโอแบบซูเปอร์เบส ช่วยให้การเล่นเกมและรับชมความบันเทิงมีความสมบูรณ์แบบ
แบตเตอรี่
HUAWEI Mate 40 Pro มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 4400mAh รองรับชาร์จเร็ว 66W HUAWEI SuperCharge สำหรับการใช้แบบใช้สาย และรองรับชาร์จเร็วแบบไร้สาย 50W Wireless HUAWEI SuperCharge
รวมถึงยังคงมีฟีเจอร์ Wireless Reverse Charging ในการชาร์จแบตเตอรี่แบบไร้สายให้กับอุปกรณ์อื่นที่รองรับอีกด้วยไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทวอช หรือหูฟังไร้สายเป็นต้น
ระบบปฏิบัติการ EMUI 11
HUAWEI Mate 40 Pro ทำงานบนพื้นฐาน Android 10 สวมทับด้วย EMUI 11 ที่ใส่ใจในด้านความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย ด้วยระบบ Trusted Execution Environment ที่มีความปลอดภัยสูงในระดับ CC EAL5+ ซึ่งถือว่าเป็นระดับสูงที่สุดของซอฟท์แวร์ไมโครเคอร์เนลเพื่อความปลอดภัยสำหรับการใช้งานเชิงพาณิชย์
อีกทั้งยังมาพร้อมฟีเจอร์รักษาความเป็นส่วนตัวใหม่ๆ เมื่อส่งรูป ผู้ใช้สามารถปกปิดข้อมูลส่วนตัวที่ละเอียดอ่อนบนไฟล์ อย่างเช่น สถานที่ เวลา และรายละเอียดของเครื่อง ก่อนที่จะส่งให้ผู้อื่นได้ และยังมาพร้อมระบบนิเวศ HMS (Huawei Mobile Services) ที่มีผู้ใช้งานมากกว่า 700 ล้านรายทั่วโลก
ฟีเจอร์ใหม่ที่มาพร้อม EMUI 11
- ฟีเจอร์ MeeTime เทคโนโลยีวิดีโอคอลคุณภาพสูง
- การแชร์หลายหน้าจอพร้อมกัน Multi-screen Collaboration ทำให้ผู้ใช้สามารถทำงานบนหลายอุปกรณ์ได้พร้อมกันอย่างง่ายดาย
- วิดเจ็ต Petal Search ที่ช่วยให้การเสิร์ชหาข้อมูล รวมถึงแอปพลิเคชันต่างๆ ทำได้อย่างสะดวก นอกเหนือจากการดาวน์โหลดผ่าน HUAWEI AppGallery
- Petal Maps เครื่องมือบอกทิศทางที่เป็นทางเลือกใหม่ล่าสุดจาก HUAWEI
- HUAWEI Docs บริการด้านงานเอกสารที่รวมกันอยู่บนแหล่งเดียวอย่างมีประสิทธิภาพ
- Smart Gesture Control การควบคุมท่าทางอัจฉริยะแบบใหม่ โดยไม่ต้องสัมผัสสมาร์ทโฟน และเพิ่มสะดวกยิ่งขึ้นด้วย Eyes on Display ที่สามารถรับสายได้ด้วยการใช้สายตา
สรุป
HUAWEI Mate 40 Pro เพียบพร้อมไปด้วยคุณสมบัติทุกอย่างที่สมาร์ทโฟนระดับเรือธงควรจะมี โดยมีจุดเด่นที่ระบบกล้องหลัง 3 ตัว Ultra Vision Cine Camera ที่ได้รับการพัฒนาร่วมกับ Leica และสามารถถ่ายภาพออกมามีคุณภาพมากกว่ารุ่นก่อน รวมไปถึงสมาร์ทโฟนคู่แข่งในระดับเดียวกัน เรียกได้ว่าถ้าชอบการถ่ายภาพด้วยสมาร์ทโฟน Mate 40 Pro จะไม่ทำให้ผิดหวังอย่างแน่นอน
HUAWEI Mate 40 Pro ยังเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกในระบบปฏิบัติการ Android ที่มาพร้อมชิปประมวลผลระดับ 5 นาโนเมตร จึงไม่ต้องสงสัยในความแรงของประสิทธิภาพ และแน่นอนว่ามีชิปโมเด็ม 5G มาให้ในตัว ให้ความแรงทั้งการทำงานและการเชื่อมต่อ อย่างไรก็ตาม Mate 40 Pro ยังคงถูกจำกัดการใช้งานแอพพลิเคชั่นและบริการของ Google ในทางเทคนิค ซึ่งอาจทำให้การใช้งานไม่สะดวกเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ทำให้ HUAWEI มีแรงผลักดัน HMS ระบบนิเวศของตัวเองให้เติบโตได้รวดเร็วขึ้น
ราคา โปรโมชั่นและการวางจำหน่าย
HUAWEI Mate 40 Pro 5G วางจำหน่ายแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยมีให้เลือก 2 สีคือ Black และ Mystic Silver มาพร้อมหน่วยความจำ ROM 256 GB + RAM 8 GB ในราคา 34,990 บาท
พิเศษสุดสำหรับผู้ที่ซื้อระหว่างวันนี้ – 31 ธันวาคม 2563 ผ่านทางหน้าร้าน HUAWEI Experience Store ทุกสาขา และเว็บไซต์ HUAWEI Online Store โฉมใหม่ รวมถึงร้านค้าและตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ รับฟรีทันทีของสมนาคุณมูลค่ารวม 7,970 บาท ประกอบด้วย ปากกา HUAWEI M-Pen 2, เคสไฟวงแหวน HUAWEI Ring Light Case และแท่นชาร์จเร็วไร้สาย HUAWEI SuperChargeTM Wireless Charger Stand พร้อมบริการสุดเอ็กซ์คลูซีฟจากหัวเว่ยมูลค่า 1,619 บาท อันได้แก่ บริการซ่อมบำรุงถึงบ้าน (Door to Door service), บริการบำรุงรักษาเครื่อง 2 ครั้ง ภายในระยะเวลา 1 ปี, HUAWEI CLOUD STORAGE 5GB ตลอดชีพ + 50GB ให้ใช้ภายในระยะเวลา 1 ปี รวมถึงฟรีค่าใช้บริการ HUAWEI VDO 1 เดือน และเช่าหนังฟรี 5 เรื่องใน HUAWEI Movie Pass