Apple พร้อมวางจำหน่าย iPhone 12 mini, iPhone 12, iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max อย่างทางการแล้วในหลายประเทศ และกำลังจะเปิดให้รับจองในประเทศไทยในวันที่ 20 พฤศจิกายนนี้ โดยเน้นปรับปรุงประสิทธิภาพจากรุ่นก่อน แต่ก็มีคุณสมบัติใหม่เพิ่มเข้ามาด้วยเช่นกัน ส่วนจะมีอะไรน่าสนใจบ้าง เราได้สรุปมาให้แล้ว 6 อย่าง
LiDAR ช่วยถ่ายภาพในโหมดกลางคืนได้ดีขึ้น
หลังจาก Apple ติดตั้ง LiDAR Scanner มากับ iPad Pro 2020 ก็ได้นำมาใช้กับ iPhone รุ่นใหม่ในปีนี้ด้วย แต่พบได้เฉพาะ iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max
LiDAR Scanner ใน iPad Pro ให้ความสำคัญด้านประสบการณ์ความจริงเสริม (AR) แต่ LiDAR Scanner ใน iPhone 12 Pro ยังถูกพัฒนาให้ช่วยเสริมการทำงานของกล้องให้ดียิ่งขึ้น อย่างระบบออโต้โฟกัสในสภาวะแสงน้อยที่เร็วขึ้น และรองรับการถ่ายภาพบุคคลในโหมดกลางคืนเป็นครั้งแรก
LiDAR Scanner ใน iPhone 12 Pro สามารถวัดระยะทางของแสง และใช้ข้อมูลความลึกระดับพิกเซลของฉากนั้น โดยเทคโนโลยีนี้สามารถมอบประสบการณ์ AR ที่สมจริงยิ่งขึ้นได้เร็วยิ่งกว่าเดิม และช่วยให้ออโต้โฟกัสทำงานในสภาวะแสงน้อยได้ดีขึ้นถึง 6 เท่า จึงมีความแม่นยำยิ่งขึ้น และยังลดระยะเวลาที่ใช้ในการบันทึกภาพและวิดีโอด้วย
MagSafe ช่วยให้ชาร์จได้ง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
Apple ทำให้ iPhone รองรับการชาร์จไร้สายในปี 2017 ซึ่งถือว่าช้ามากเมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟน Android บางรุ่นเป็นเวลาอย่างน้อยห้าปี จนกลายเป็นฟีเจอร์ที่ไม่ใช่จุดเด่นอะไร แต่ Apple ยังคงให้ความสำคัญ และพยายามทำให้เหนือกว่าอย่างแตกต่าง
ในโอกาสเปิดตัว iPhone 12 ทั้ง 4 รุ่น Apple ได้แนะนำที่ชาร์จไร้สาย MagSafe ที่ออกแบบมาให้ยึดติดกับด้านหลัง iPhone ด้วยแม่เหล็ก ทำให้ iPhone 12 สามารถวางอยู่บนที่ชาร์จ MagSafe ในตำแหน่งที่ถูกต้องเหมาะสม
ที่ชาร์จ MagSafe สามารถชาร์จแบตเตอรี่ไร้สายให้กับ iPhone 12 ได้สูงสุดถึง 15W อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถชาร์จ iPhone รุ่นก่อนหน้านี้ได้อีกด้วย รวมถึงอุปกร์อื่นที่รองรับ Qi แต่ไม่สามารถให้ประสิทธิภาพระดับ 15W เหมือนกับ iPhone 12
นอกจากที่ชาร์จ MagSafe ยังมีอุปกรณ์เสริม MagSafe เปิดตัวพร้อมกันด้วย และจะเพิ่มรุ่นใหม่ๆ ในอนาคตอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นเคสใหม่ทั้งแบบซิลิโคน แบบหนัง และแบบใส ซึ่งติดเข้ากับด้านหลังของ iPhone ได้อย่างง่ายดาย พร้อมด้วยเคสหนังแบบกระเป๋าสตางค์
ถ่ายวิดีโอ HDR ในแบบ Dolby Vision
iPhone 12 ทั้ง 4 รุ่น รองรับการบันทึกวิดีโอ Dolby Vision HDR เป็นครั้งแรก ด้วยการบันทึกแบบ HDR สูงสุด 60 เฟรมต่อวินาที (เฉพาะรุ่น Pro ส่วนรุ่น iPhone 12 สูงสุด 30 เฟรมต่อวินาที) พร้อมด้วยระบบป้องกันภาพสั่นไหวสำหรับวิดีโอที่ดียิ่งขึ้น และสามารถปรับโทนสีแบบ Dolby Vision แบบสดๆ อย่างต่อเนื่องขณะตัดต่อ
ส่วน Dolby Vision นั้นก็ใช้ประโยชน์จากจอภาพ Super Retina XDR เพื่อถ่ายทอดคอนทราสต์ในระดับที่น่าทึ่ง ทั้งในขณะบันทึกและเล่นวิดีโอ และผู้ใช้ยังสามารถแชร์วิดีโอด้วย AirPlay ไปยังอุปกรณ์ภายนอกได้สูงสุดถึงระดับ 4K ในแบบ Dolby Vision
ถ่ายภาพในรูปแบบ ProRAW
Apple อนุญาตให้เจ้าของ iPhone ถ่ายภาพในรูปแบบ RAW ตั้งแต่ iOS 10 เปิดตัวในปี 2016 แต่ผู้ใช้งานต้องเลือกระหว่างภาพถ่ายแบบดิบๆ ที่ไร้การปรุงแต่ง กับ ใช้ประโยชน์จากคุณสมบัติการถ่ายภาพขั้นสูงของ Apple
แต่สำหรับ ProRAW ที่อยู่ใน iPhone 12 Pro กับ iPhone 12 Pro Max ผู้ใช้งานจะได้รับประโยชน์จากทั้ง 2 อย่าง คือ ภาพดิบ และ ห่อหุ้มด้วด้วยข้อมูลการถ่ายภาพขั้นสูงของ Apple เพื่อนภาพถ่ายในรูปแบบ ProRAW มาแก้ไขในภายหลัง ผู้ใช้งานสามารถเลือกได้ว่าจะใช้ข้อมูลบางส่วนหรือทั้งหมดนี้กับภาพ RAW แบบพิกเซลต่อพิกเซล เพื่อให้ได้รูปภาพที่ดีที่สุด
โหมดประหยัดพลังงานเมื่อใช้ 5G
นอกจากคุณสมบัติการชาร์จไร้สาย เทคโนโลยี 5G ก็เป็นอีกอย่างที่ Apple มาช้ากว่าคู่แข่ง อต่เมื่อรองรับทั้งทีก็ต้องมีอะไรที่เหนือกว่า นั่นทำให้ iPhone 12 ทั้ง 4 รุ่น มาพร้อม Smart Data Mode ที่ช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่อย่างชาญฉลาด โดยการประเมินความจำเป็นในการเชื่อมต่อ 5G และปรับการใช้งานข้อมูล ความเร็ว และพลังงานให้สมดุลในแบบเรียลไทม์
ทนทานจากการตกมากขึ้น
iPhone 12 mini, iPhone 12, iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max มาพร้อมกระจกด้านหน้าแบบ Ceramic Shield ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับจอแสดงผล สามารถทนต่อการตกกระแทกได้ดีขึ้น 4 เท่า เมื่อเทียบกับ iPhone รุ่นก่อน
Ceramic Shield เกิดจากการนำผลึกเซรามิกระดับนาโน ซึ่งแข็งแกร่งกว่าโลหะส่วนใหญ่ไปผสมลงในกระจก โดยคิดค้นสูตรเฉพาะตัวขึ้นมาในการควบคุมชนิดของผลึกและระดับความเป็นผลึกของเซรามิก เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งของเซรามิกจนถึงขีดสุด ในขณะที่ยังคงความใสเอาไว้ได้ด้วย ทำให้ Ceramic Shield เหมาะที่จะนำมาทำเป็นจอภาพอย่างไร้ที่ติ ขณะเดียวกัน ก็ยังเป็นครั้งแรกในสมาร์ทโฟนกับความแข็งแกร่งที่มากกว่ากระจกบนสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ เท่าที่เคยมีมา
ที่มา – iDropNews
https://www.flashfly.net/wp/322013