ในช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมา iPhone รุ่นพรีเมียม จะมีความแตกต่างที่อายุการใช้งานแบตเตอรี่ และ ขนาดจอแสดงผล เท่านั้น แต่สำหรับ iPhone 12 Pro กับ iPhone 12 Pro Max มีความแตกต่างมากยิ่งขึ้น ส่วนจะมีอะไรที่ไม่เหมือนกันบ้าง เราได้ทำการเปรียบเทียบมาให้แล้ว เพื่อช่วยให้การตัดสินใจเลือกซื้อนั้นง่ายขึ้น
ก่อนอื่นมาดูที่ความเหมือนกันก่อน iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max ใช้ดีไซน์เดียวกัน สีสันและวัสดุเหมือนกัน แตกต่างที่ขนาด ด้านประสิทธิภาพก็ไม่แตกต่างกัน ใช้ชิป A14 Bionic รุ่นเดียวกัน ความจำ RAM 6GB เท่ากัน ตัวเลือกความจุหมือนกัน (128GB, 256GB,512GB) และรองรับ 5G เช่นเดียวกัน
ดีไซน์
- iPhone 12 Pro ขนาด 146.7 x 71.5 x 7.4 มิลลิเมตร น้ำหนัก 187 กรัม ป้องกันน้ำ IP68
- iPhone 12 Pro Max ขนาด 160.8 x 78.1 x 7.4 มิลลิเมตร น้ำหนัก 226 กรัม ป้องกันน้ำ IP68
iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max ได้รับวัสดุ สีสัน และ ดีไซน์ แบบเดียวกัน ผลิตด้วยสแตนเลสสตีล เกรดเดียวกับที่ใช้ทำเครื่องมือศัลยกรรม ด้านหน้าใช้กระจกแบบ Ceramic Shield ทนต่อการตกกระแทกได้ดีขึ้น 4 เท่า และได่รับมาตรฐานป้องกันน้ำในระดับเดียวกัน ทนน้ำถึงระดับความลึก 6 เมตร ภายในระยะเวลาสูงสุด 30 นาที
ในเรื่องของดีไซน์ iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max จึงมีความแตกต่างกันที่ขนาดเท่านั้น iPhone 12 Pro Max ขนาดใหญ่กว่า เพราะใช้จอแสดงผลใหญ่กว่า แต่ก็ทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นไปที่ 226 กรัม ชัดเจนว่า iPhone 12 Pro สามารถพกพาเป็นเวลานานได้อย่างสะดวกสบายกว่า ด้วยน้ำหนักเบากว่า ขนาดเล็กกว่า
จอแสดงผล
- iPhone 12 Pro ใช้จอแสดงผล Super Retina XDR (OLED) ความละเอียด 2532 x 1170 พิกเซล ขนาด 6.1 นิ้ว ความหนาแน่นพิกเซล 460 ppi จอภาพ HDR ขอบเขตสีกว้าง (P3) ความสว่างสูงสุด 800 นิต (ทั่วไป) หรือ 1,200 นิต (HDR) กระจกด้านหน้าแบบ Ceramic Shield
- iPhone 12 Pro Max ใช้จอแสดงผล Super Retina XDR (OLED) ความละเอียด 2778 x 1284 พิกเซล ขนาด 6.7 นิ้ว ความหนาแน่นพิกเซล 458 ppi จอภาพ HDR ขอบเขตสีกว้าง (P3) ความสว่างสูงสุด 800 นิต (ทั่วไป) หรือ 1,200 นิต (HDR) กระจกด้านหน้าแบบ Ceramic Shield
iPhone 12 Pro Max ถือเป็น iPhone ที่มีขนาดหน้าจอใหญ่ที่สุดของ Apple โดยเพิ่มขึ้น 0.2 นิ้ว เมื่อเทียบกับ iPhone 11 Pro Max ทางด้าน iPhone 12 Pro ก็มีขนาดหน้าจอใหญ่ขึ้น 0.3 นิ้ว เมื่อเทียบกับ iPhone 11 Pro ซึ่งหมายความว่า ไม่ว่าจะเลือก iPhone 12 Pro หรือ iPhone 12 Pro Max ก็จะได้ iPhone ที่มีขนาดหน้าจอใหญ่ขึ้น และทั้งคู่ยังใช้กระจกด้านหน้าแบบ Ceramic Shield ทนต่อการตกกระแทกได้ดีขึ้น 4 เท่า เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน
กล้อง
- iPhone 12 Pro มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัว ประกอบด้วย กล้องหลัก 12 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด f/1.6 + กล้องอัลตร้าไวด์ 12 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด f/2.4 + กล้องเทเลโฟโต้ 12 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด f/2.0 พร้อมด้วย LiDAR Scanner (3D ToF) รองรับการถ่ายวิดีโอ HDR ในแบบ Dolby Vision กล้องหน้า TrueDepth 12 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด f/2.2 และ รองรับการถ่ายวิดีโอ HDR ในแบบ Dolby Vision
- iPhone 12 Pro Max มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัว ประกอบด้วย กล้องหลัก 12 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด f/1.6 + กล้องอัลตร้าไวด์ 12 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด f/2.4 + กล้องเทเลโฟโต้ 12 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด f/2.2 พร้อมด้วย LiDAR Scanner (3D ToF) รองรับการถ่ายวิดีโอ HDR ในแบบ Dolby Vision กล้องหน้า TrueDepth 12 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด f/2.2 และ รองรับการถ่ายวิดีโอ HDR ในแบบ Dolby Vision
ดูเหมือน iPhone 12 Pro กับ iPhone 12 Pro Max จะมีระบบกล้องแบบเดียวกัน แต่ถ้าใครต้องการ iPhone ที่มีประสิทธิภาพกล้องสูงที่สุด iPhone 12 Pro Max คือคำตอบ เนื่องจากได้รับเซ็นเซอร์กล้องที่ใหญ่ขึ้น 47% และมีขนาดพิกเซลที่ใหญ่ขึ้น (1.7 ไมครอน) ทำให้ iPhone 12 Pro Max สามารถถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดีขึ้น และให้ช่วงไดนามิกที่ดีขึ้น นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับระบบป้องกันการสั่นไหวของเซ็นเซอร์ที่เหนือกว่า ซึ่ง Apple อ้างว่าสามารถหยุดแสงได้มากถป็นพิเศษในโหมดมือถือ และยังมีระดับการซูมที่สูงขึ้นเล็กน้อยที่ 2.5 เท่า เหมาะสำหรับการถ่ายภาพจากกล้องเทเลโฟโต้
อายุการใช้งานแบตเตอรี่
- iPhone 12 Pro มีความจุแบตเตอรี่ 2,815 mAh ให้อายุการใช้งานแบตเตอรี่เท่ากัน สามารถเล่นวิดีโอได้นานสูงสุด 17 ชั่วโมง ฟังเพลงนานสูงสุด 65 ชั่วโมง รองรับชาร์จเร็ว 18W (ชาร์จได้สูงสุด 50% ใน 30 นาที) และชาร์จไร้สายได้สูงสุด 15W ด้วยที่ชาร์จ MagSafe
- iPhone 12 Pro Max มีความจุแบตเตอรี่ 3,687 mAh ให้อายุการใช้งานแบตเตอรี่ดีที่สุด สามารถเล่นวิดีโอได้นานสูงสุด 20 ชั่วโมง ฟังเพลงนานสูงสุด 80 ชั่วโมง รองรับชาร์จเร็ว 18W (ชาร์จได้สูงสุด 50% ใน 30 นาที) และชาร์จไร้สายได้สูงสุด 15W ด้วยที่ชาร์จ MagSafe
ด้วยขนาดที่ใหญ่กว่า ทำให้ iPhone 12 Pro Max มีขนาดแบตเตอรี่ใหญ่ขึ้นตามไปด้วย ส่งผลให้อายุการใช้งานแบตเตอรี่ของ iPhone 12 Pro Max อยู่ได้นานกว่า iPhone 12 Pro ส่วนเทคโนโลยีการชาร์จของทั้งคู่ ไม่ได้มีความแตกต่างกัน
ราคา
- iPhone 12 Pro ราคาเริ่มต้น 36,900 บาท
- iPhone 12 Pro Max ราคาเริ่มต้น 39,900 บาท
iPhone 12 Pro มีให้เลือก 3 รุ่น ได้แก่ 128GB ราคา 36,900 บาท, 256GB ราคา 40,900 บาท และ 512GB ราคา 48,900 บาท มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ กราไฟต์, เงิน, ทอง และ แปซิฟิกบลู
iPhone 12 Pro Max มีให้เลือก 3 รุ่น เช่นเดียวกัน ได้แก่ 128GB ราคา 39,900 บาท, 256GB ราคา 43,900 บาท และ 512GB ราคา 51,900 บาท มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ กราไฟต์, เงิน, ทอง และ แปซิฟิกบลู
สรุป
ไม่ว่าจะเลือกรุ่นไหน iPhone 12 Pro Max จะมีราคาสูงกว่า 3,000 บาท แต่ก็แลกมาด้วยขนาดหน้าจอที่ใหญ่กว่า แบตเตอรี่ให้อายุการใช้งานยาวนานขึ้น ได้รับกล้องหลักและกล้องเทเลโฟโต้ที่มีประสิทธิภาพขึ้นอีกเล็กน้อย แต่ถ้าคิดว่าคุณสมบัติเหล่านี้ อาจไม่มีความจำเป็น ก็สามารถนำส่วนต่าง ไปซื้ออุปกรณ์เสริมอย่างเคสหรืออุปกรณ์ชาร์จ ก็จะช่วยประหยัดเงินได้พอสมควร