OnePlus สร้างนิยามใหม่ ‘Lite Flagship’ ด้วยสมาร์ทโฟนที่เหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่ OnePlus Nord (วันพลัส หนอด) โดยได้ทำการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยเรียบร้อยแล้วในราคาเริ่มต้นเพียง 14,990 บาทเท่านั้น โดยทีมงาน @flashfly เคยนำเสนอบทความ แกะกล่อง และ พรีวิว ให้ได้อ่านไปแล้ว ก่อนหน้านี้ และบทความนี้จะนำเสนอรีวิวอย่างเต็มรูปแบบ
ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับที่มาของชื่อรุ่นกันก่อน OnePlus Nord มีที่มาจากฝั่งยุโรป หมายถึง ‘ทิศเหนือ’ แต่ OnePlus นำมาตีความใหม่ให้เป็น ‘เข็มทิศ’ ที่จะพาผู้ใช้งานมุ่งไปข้างหน้า ด้วยสเปกและประสิทธิภาพระดับเรือธงของ OnePlus Nord ที่มีความโดดเด่นตั้งแต่ดีไซน์ การใช้งานรวดเร็ว กล้องคุณภาพสูง และราคาที่จับต้องได้ง่าย
สเปกที่สำคัญของ OnePlus Nord
- – จอแสดงผล Fluid AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว
- – ระบบปฏิบัติการ OxygenOS บนพื้นฐาน Android 10
- – ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 765G
- – ความจำ RAM 12GB จับคู่กับ ROM 256GB (รุ่นสูงสุด)
- – กล้องหลัง 48 + 8 + 5 +2 ล้านพิกเซล
- – กล้องหน้า 32 + 8 ล้านพิกเซล
- – การเชื่อมต่อ 5G (ยังไม่รองรับในไทย), Wi-Fi 5, Bluetooth 5.1, NFC, USB-C
- – ระบบนำทาง GPS (Dual Band), GLONASS, Galileo (Dual Band), Beidou, NavIC, A-GPS
- – ระบบยืนยันตัวตน In-Display Fingerprint Sensor, Face Unlock
- – แบตเตอรี่ 4115mAh รองรับชาร์จเร็ว Warp Charge 30T
- – ขนาดบอดี้ 158.3 x 73.3 x 8.2 มิลลิเมตร, น้ำหนัก 184 กรัม
ดีไซน์มาตรฐานเรือธง
OnePlus เป็นแบรนด์ที่ผลิตสมาร์ทโฟนระดับเรือธงมาตั้งแต่แรกเริ่ม ถึงแม้ OnePlus Nord จะมาในคอนเซ็ปต์ Lite Flagship แต่เรื่องดีไซน์ก็ยังคงรักษามาตรฐานของเรือธง โดยเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพสูงเน้นผิวสัมผัสที่เรียบหรูในสไตล์ Metallic บนพื้นผิวแบบ Matte AG Glass
ดีไซน์ด้านหน้าก็สวยงามทันสมัย โดยเฉพาะจอแสดงผลแบบ Dual Punch Hole Display ที่มีการเจาะหลุมเป็นรูปทรงแคปซูล
สำหรับติดตั้งกล้องคู่เซลฟี่ (32 + 8 ล้านพิกเซล) ลงบนจอแสดงผลแบบ Fluid AMOLED Display ที่ให้อัตราการรีเฟรช 90Hz และป้องกันรอยด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 5 แถมติดฟิล์มกันรอยมาให้แล้วจากโรงงาน
ด้านหลังมาพร้อมระบบกล้อง 4 ตัว 48MP AI Quad Camera จัดวางในแนวตั้ง และติดแฟลช Dual LED ไว้นอกกรอบ ตรงกลางเป็นโลโก้ OnePlus และยังมีชื่อ OnePlus ติดอยู่บริเวณด้านล่าง
ขอบด้านข้างมาพร้อมปุ่ม Alert Slider ที่เป็นเอกลักษณ์ของ OnePlus สำหรับตั้งค่าการเตือนสายเรียกเข้าระหว่างเงียบ, สั่น และ เปิดเสียง ถัดลงมาเป็นปุ่มเพาเวอร์
สำหรับปุ่มปรับระดับเสียงติดตั้งแยกไว้อีกข้าง
ด้านบนมีไมโครโฟนตัวที่ 2 ช่วยกรองเสียงรบกวนรอบข้าง
ส่วนด้านล่างประกอบด้วยถาดใส่ซิมการ์ดแบบ Dual nano-SIM, ไมโครโฟนตัวหลัก, พอร์ต USB Type-C และ ตะแกรงลำโพง 2 ช่อง
OnePlus Nord ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันตามมาตรฐานเรือธงทุกขั้นตอน โดยใช้วัสดุคุณภาพ ผ่านการทดสอบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสภาพอากาศที่รุนแรง ป้องกันเหงื่อ และละอองน้ำ เรียกได้ว่าขั้นตอนการผลิตมีคุณภาพตามมาตรฐานของอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนชั้นนำ
หน้าจอคมชัดอัตราการรีเฟรช 90Hz
OnePlus Nord มาพร้อมจอแสดงผล Fluid AMOLED Display ความละเอียด 1080 x 2400 พิกเซล ขนาด 6.44 นิ้ว ความหนาแน่นพิกเซล 408 ppi อัตราส่วนภาพ 20:9 สนับสนุน sRGB, Display P3 และ ให้อัตราการรีเฟรชหน้าจอ 90Hz จึงตอบสนองการสัมผัสได้รวดเร็ว และราบรื่นกว่าสมาร์ทโฟนทั่วไป ที่ให้อัตราการรีเฟรช 60Hz
จอแสดงผลของ OnePlus Nord ยังรองรับโหมด Reading ที่เหมาะสำหรับการอ่านข่าว หรือ บทความ มีโหมด Night สำหรับใช้งานในเวลากลางคืน และสามารถปรับความสว่างได้สุงสุดถึง 2,048 ระดับ เพื่อความสบายของดวงตา เรียกได้ว่าให้สีสันที่คมชัดสดใส แต่ก็ไม่ลืมเรื่องการถนอมสายตา
OnePlus Nord ยังติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ใต้จอแสดงผล (In-Display Fingerprint Sensor) และปกป้องด้านหน้าด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 5
กล้องคู่หน้ารุ่นแรกจาก OnePlus
OnePlus Nord วางกล้องคู่หน้าไว้ใต้หน้าจอ บริเวณมุมบนขวาของจอแสดงผล ประกอบด้วย กล้องหลัก 32 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX616 ขนาดพิกเซล 0.8 ไมครอน รูรับแสง f/2.45 วางคู่กับกล้อง Ultra-Wild Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.45 ให้มุมมองกว้าง 105 องศา
กล้องหน้าของ OnePlus Nord มีจุดเด่นที่ติดตั้งระบบป้องกันภาพสั่นไหวมาให้ด้วย ช่วยให้ภาพถ่ายคมชัด ลดภาพเบลอไม่บิดเบี้ยว และยังมีระบบอัจฉริยะ Super Clear Algorithm สามารถตรวจจับใบหน้าของบุคคลที่เล็กที่สุดหรือบุคคลที่อยู่ด้านหลัง ทำให้ภาพถ่ายเซลฟี่กับกลุ่มเพื่อนออกมาคมชัดทุกใบหน้า
ส่วนการถ่ายวิดีโอของกล้องหน้า ก็รองรับถึงความละเอียด 4K ที่ 60 เฟรมต่อวินาที สมกับเป็นกล้องระดับเรือธง อีกฟีจอร์ที่ขาดไม่ได้ก็คือ Night Scape ช่วยให้ OnePlus Nord ถ่ายภาพเซลฟี่ในเวลากลางคืนหรือในที่แสงน้อยให้ออกมาสว่างคมชัดอย่างธรรมชาติ
กล้องหลัง 4 ตัว 48 ล้านพิกเซล
เรือธง OnePlus 8 มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัว แต่สำหรับ OnePlus Nord ให้มาถึง 4 ตัว วางเรียงซ้อนกันเป็นแนวตั้งอยู่ในกรอบรูปทรงแคปซูล และติดแฟลช Dual LED ไว้ข้างกัน โดยกล้องทั้ง 4 ตัว มีสเปกแตกต่างกันดังนี้
- กล้องหลัก Main Camera ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX586 ขนาดพิกเซล 0.8 ไมครอน รูรับแสง f/1.75 มีระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS และ EIS ซูมแบบดิจิตอลได้ไกลสุด 10 เท่า
- กล้อง Ultra Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.25 ช่วยเก็บภาพในมุมมองกว้าง 119 องศา
- กล้อง Depth ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 ช่วยจับระยะชัดลึก ทำให้ภาพถ่ายออกมามีมิติมากขึ้น
- กล้อง Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 สำหรับถ่ายภาพในระยะใกล้วัตถุ เพียง 4 เซนติเมตร
แน่นอนว่ามีกล้อง Macro ติดตั้งมาให้ ก็ต้องมีโหมด Super Macro ไว้ถ่ายภาพในระยะใกล้ รวมถึงโหมด Portrait ที่อาศัยกล้อง Depth ช่วยแยกบุคคลออกจากฉากหลัง นอกจากนี้ยังมีโหมด UltraShot HDR, Panorama, Pro, AI Scene Detection สามารถถ่ายภาพในรูปแบบไฟล์ RAW และมีฟิลเตอร์ให้เลือกหลายแบบ
กล้องหลังของ OnePlus Nord ยังสามารถถ่ายวิดีโอในความละเอียดสูงสุด 4K ด้วยอัตรา 30 เฟรมต่อวินาที ทั้งกล้อง Main และ Ultra Wide Angle มีโหมด Super Slow Motion 240 เฟรมต่อวินาที ที่ความละเอียด Full HD 1080p และโหมด Time-Lapse รองรับความละเอียด 4K และ Full HD 1080p ด้วยอัตรา 30 เฟรมต่อวินาที
ระบบกล้องหลังมาพร้อมโหมด Night Scape สำหรับถ่ายภาพในเวลากลางคืนหรือในที่แสงน้อย และใช้ได้ทั้งกล้อง Main และ Ultra Wide Angle
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้า
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลัง
สเปกแรง Snapdragon 765G แรม 12GB
OnePlus Nord ใช้ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 765G ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี 7 นาโนเมตร บนสถาปัตยกรรม 64-bit ประกอบด้วยซีพียู Kryo 475 ความเร็วสูงสุด 2.4GHz จีพียู Adreno 620 เร็วขึ้น 10% เมื่อเทียบกับจีพียูของ Snapdragon 765 พร้อมด้วย Artificial Intelligence Engine รุ่นที่ 5 และรองรับ Snapdragon Elite Gaming ช่วยปรับปรุงกราฟิกของเกมให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 765G ยังมาพร้อมชิปโมเด็ม 5G หมายความว่า OnePlus Nord พร้อมรองรับเครือข่ายมาตรฐานใหม่ล่าสุด โดยสนับสนุนคลื่นความถี่ 5G ในย่าน 700MHz และ 3,500MHz ซึ่งคาดว่าจะสามารถใช้งานในประเทศไทยได้ในช่วงปลายปี 2563 หรือต้นปี 2564 แต่สำหรับ 4G LTE พร้อมใช้งานทันที
ด้านความจำในรุ่นสูงสุด มาพร้อม RAM 12GB แบบ LPDDR4X จับคู่กับ ROM 256GB แบบ UFS 2.1
ระบบปฏิบัติการ OxygenOS เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด
OnePlus Nord ทำงานบนพื้นฐาน Android 10 ครอบทับด้วย OxygenOS ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการที่มีความเสถียร ตอบสนองการใช้งานได้อย่างลื่นไหล และให้ประสบการณ์เดียวกับเรือธงรุ่นพี่ของ OnePlus ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้
จุดเด่นของ OxygenOS คือได้รับการอัพเดทเวอร์ชั่นใหม่อยู่เสมอ เนื่องจาก OnePlus เป็นแบรนด์ที่เน้นผลิตแต่สมาร์ทโฟนระดับเรือธง และทำออกมาปีละไม่กี่รุ่น การดูแลด้านซอฟต์แวร์และความปลอดภัยต่างๆ จึงทำได้อย่างรวดเร็ว และได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับประสิทธิภาพที่ดีที่สุด
โดยทาง OnePlus ยืนยันว่า OnePlus Nord จะได้สามารถอัพเกรด Android ได้ 2 เวอร์ชั่นและ OxygenOS อีก 3 เวอร์ชั่น มั่นใจได้ว่าใช้งานได้ยาวๆไม่มีลอยแพ
แบตเตอรี่ 4115mAh พร้อม Warp Charge 30T
OnePlus Nord มีความจุแบตเตอรี่ 4115mAh มาพร้อมเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 30W (5V/6A) ที่เรียกว่า Warp Charge 30T ใช้เวลาเพียง 30 นาที สำหรับการชาร์จแบตเตอรี่ 0 – 70% โดยแถมอุปกรณ์ชาร์จเร็วมาให้ในกล่อง รวมถึงสายชาร์จคุณภาพสูง เส้นสีแดงโดดเด่น และนอกจากจะเน้นที่การชาร์จเร็วแล้ว OnePlus ยังใส่เทคโนโลยีการชาร์จที่ชาญฉลาด เพื่อช่วยให้สมาร์ทโฟนเย็นลงในระหว่างถูกใช้งานอย่างหนัก
สรุป
ถ้าว่ากันตามตรง OnePlus Nord มีสิ่งเดียวที่ขาดไปเมื่อเทียบกับ OnePlus 8 series ที่เป็นเรือธงรุ่นพี่ นั่นก็คือชิปประมวลผลที่ดีที่สุดของ Qualcomm ส่วนสาเหตุที่ OnePlus Nord เลือกใช้ Snapdragon 765G ก็ชัดเจนว่าเป็นเหตุผลของต้นทุน เพื่อทำให้ OnePlus Nord มีราคาถูกลง สามารถเข้าถึงได้ง่าย แต่ที่สำคัญ ชิปประมวลผล Snapdragon 765G ก็เพียงพอแล้วที่จะตอบสนองการเล่นเกม และยังชดเชยด้วยการให้ความจำ RAM สูงถึง 12GB พร้อมด้วย ROM 256GB
ส่วนคุณสมบัติในด้านอื่นนั้น OnePlus Nord จัดมาให้ตามมาตรฐานเรือธง ทั้งการผลิตที่มีคุณภาพ จอแสดงผล Fluid AMOLED ขนาดใหญ่ 6.44 นิ้ว ให้อัตราการรีเฟรช 90Hz กล้องคมชัดทั้งกล้องคู่เซลฟี่ กล้องหลัง 4 ตัว และรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 30W
ทั้งหมดนี้ทำให้ OnePlus Nord กลายเป็นสมาร์ทโฟนมาตรฐานใหม่ Lite Flagship ที่สะท้อนให้เห็นถึงสเปกที่มีประสิทธิภาพเทียบเท่าเรือธง รองรับการใช้งานโดยรวมได้อย่างลื่นไหล ไม่ว่าจะดูหนัง ฟังเพลง ท่องโลกไซเบอร์ อัพเดทโซเชี่ยล ถ่ายภาพหรือวิดีโอ ไปจนถึงการเล่นเกมหนักๆ และเหนือสิ่งอื่นใด คือความพยายามทำให้ OnePlus Nord มีราคาที่จับต้องได้ เพื่อให้ทุกคนเข้าถึงได้ง่ายที่สุด
ทั้งนี้ OnePlus Nord ผลิตออกมา 2 สี โดยแต่ละสีได้รับแรงบันดาลใจมาจากธรรมชาติ ได้แก่ สีฟ้าหินอ่อน Blue Marble ที่โดดเด่นสะดุดตา และสีเทา Gray Onyx ให้สีสันนวลตา บ่งบอกถึงความเรียบหรูและสง่างาม เปิดราคาเริ่มต้นเพียง 14,990 บาทในรุ่นแรม 8GB ความจุ 128GB และ 17,990 บาทในรุ่นแรม 12GB ความจุ 256GB
โดย OnePlus Nord จะเริ่มเปิดให้สั่งจองล่วงหน้า ตั้งแต่วันที่ 21 – 27 สิงหาคม 2563 พร้อมรับของสมนาคุณจาก OnePlus ทั้ง OnePlus Nord E-VIP CARD ประกันหน้าจอแตก 1 ครั้งนาน 1 ปี และกระเป๋า OnePlus สุดเท่ พร้อมโปรโมชั่นพิเศษจากช่องต่าง ๆ มูลค่ารวม 10,990 บาท
เริ่มด้วยความพิเศษในครั้งนี้ที่ทาง OnePlus ขยายช่องทางการวางจำหน่าย เพื่อผู้ที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์การใช้งานสมาร์ทโฟน OnePlus ครอบคลุมมากยิ่งขึ้นในรุ่นใหม่ล่าสุด OnePlus Nord
เริ่มต้นด้วยช่องทางผู้ให้บริการเครือข่ายที่มาครบทุกค่ายทั้ง AIS, DTAC และ Truemove H พร้อมมอบข้อเสนอสุดพิเศษในช่วงสั่งจองล่วงหน้า OnePlus Nord ราคาเริ่มต้นที่ 7,990 บาท พิเศษเฉพาะช่วง Pre-order เท่านั้น
ต่อด้วยช่องทางการจัดจำหน่ายออนไลน์ ที่พร้อมเปิดสั่งจองและวางจำหน่ายพร้อมกันทุกช่องทางไม่ว่าจะเป็น JD Central, LAZADA, Shopee และ Thisshop มอบดีลโปรโมชันเปิดจองล่วงหน้าพร้อมของแถมอีกมากมายรายละเพิ่มเติมของแต่ละช่องทาง >>> http://onlineoneplus.com/
และขยายช่องทางการจัดจำหน่าย ช่องทางหน้าร้านที่พร้อมยกทัพของแถมสุดพิเศษอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Banana, CSC, IT City, Jaymart และ TGFone สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมดูได้ที่ >>> https://www.facebook.com/oneplusthailand/