กลุ่มทรูผู้นำดิจิทัลไลฟ์สไตล์ครบวงจร พร้อมนำเทคโนโลยีอัจฉริยะ True5G พลิกโฉมไทยสู่ประเทศอัจฉริยะที่ยั่งยืนชูความพร้อมให้ชาวไทยใช้ชีวิตอัจฉริยะแบบทรู 5G ได้จริงแล้ว #ComeTruewithTrue5G ทั้งกลุ่มภาคธุรกิจที่ได้ใช้งานทรู 5G แล้วจริงในการปรับสู่วิถีใหม่ของเมืองอัจฉริยะอาทิวงการแพทย์การศึกษาธุรกิจค้าปลีกและอุตสาหกรรมต่างๆ รวมทั้งชาวไทยที่กำลังก้าวสู่วิถีชีวิตใหม่หลังสถานการณ์โควิด-19 สามารถใช้งานทรู 5G เพื่อก้าวสู่ชีวิตอัจฉริยะ ได้อย่างแท้จริงด้วยจุดเด่นของกลุ่มทรูที่ครบสุดทั้งเครือข่ายอัจฉริยะTrue 5G ที่ครบ 7 ย่านความถี่มากสุดในไทยครอบคลุมทั้ง 77 จังหวัดทั่วไทยโดดเด่นด้วยพันธมิตรชั้นนำทั้งในประเทศและระดับโลก โดยเฉพาะไชน่าโมบายล์ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ใหญ่ที่สุดในโลกทั้งในด้านจำนวนฐานลูกค้าและความเป็นผู้นำ 5G รวมทั้งความเป็นผู้นำดิจิทัลเทคโนโลยีและโซลูชันของกลุ่มทรูที่มีระบบนิเวศด้านดิจิทัลครบวงจรรายเดียวในไทย พร้อมแล้วที่จะให้ใช้บริการทรู 5Gได้จริงทั่วไทย โดยจัดเต็มทั้งอุปกรณ์อัจฉริยะ(Touch the Beyond) ที่นอกเหนือจากสมาร์ทโฟน 5G หลากหลายแบรนด์ ราคาพิเศษ ยังมีแว่น True 5GVR4K และ True 5G VR Headset อุปกรณ์และแกดเจ็ต IoTต่างๆ ที่พร้อมเติมเต็มประสบการณ์อัจฉริยะ(See the Unseen) อย่างสมบูรณ์แบบทั้งคอนเทนต์บันเทิงการศึกษาท่องเที่ยวสิทธิพิเศษดีลใหม่ๆในรูปแบบ VR และ AR ที่แตกต่างและว้าวกว่าเดิมตามสไตล์ทรู 5G ด้วยความเร็วอัจฉริยะ (Ride the Ultra Speed) ที่ให้ลูกค้าทรูมูฟเอชทุกแพ็กเกจทั้ง รายเดือนและเติมเงิน ใช้ชีวิตอัจฉริยะแบบ True5G ฟรีจนถึงสิ้นปี ไม่ต้องเปลี่ยนซิมเพราทุกซิม รองรับ 5G เพียงมีสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์5G พร้อมเปิดตัวฮีโร่คนใหม่ ‘ไบร์ท–วชิรวิชญ์ชีวอารี’ ที่เข้ามาเสริมทัพ ‘เฌอปรางอารีย์กุล’ และ ‘ไอซ์–พาริสอินทรโกมาลย์สุต’ กับคอนเซ็ปต์ภาพยนตร์โฆษณา :THE INVITATION TO THE INTELLIGENT 5G WORLD ที่จะร่วมเชิญชวนคนไทยสัมผัสโลกอัจฉริยะของทรู 5G Come True with True5G ที่ทุกอย่างไม่ใช่แค่ภาพความฝันอีกต่อไปแต่วันนี้ทรูได้ทำให้เกิดขึ้นจริงแล้ว
นายอาณัติเมฆไพบูลย์วัฒนากรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บมจ. ทรูคอร์ปอเรชั่นกล่าวว่า “ปัจจุบันทุกประเทศทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย กำลังเผชิญความท้าทายอย่างที่เราไม่คาดคิดมาก่อน สถานการณ์โควิดที่ผ่านมา ทำให้เราได้เรียนรู้ ปรับตัว นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในหลายๆอย่าง ที่เป็นวิถีชีวิตใหม่ ขณะเดียวกัน ความท้าทายก็ได้สร้างโอกาสใหม่ๆให้กับประเทศไทย ช่วงวิกฤตที่ผ่านมา เทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นมาต้องสะดวกสบาย เพิ่มความปลอดภัยในสุขภาพและการใช้ชีวิต และสามารถเชื่อมโยงทุกสิ่งเข้าด้วยกัน ผู้คน งาน และสังคมรอบข้าง รวมถึงการเชื่อมโยงอุปกรณ์ต่างๆเข้าด้วยกันเกิดเป็นเทรนด์ใหม่ทั้ง Connected Home อุปกรณ์ต่างๆ ในบ้านจะได้รับการเชื่อมโยงให้ผู้อยู่อาศัยในบ้านได้รับความสะดวกสบายและความปลอดภัยที่มากขึ้น เชื่อมโยงเข้าสู่คอนเทนต์และสิ่งบันเทิงต่างๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของแต่ละคน Connected Work การทำงานจะเป็น mobility ไม่ยึดติดกับสถานที่ทำงานเพียงอย่างเดียว เทคโนโลยีจะเชื่อมโยงการทำงานร่วมกันของคนในองค์กร ได้ทุกที่ทุกเวลา Connected City การดำเนินชีวิตจะเริ่มเปลี่ยนไปสู่สังคมดิจิทัล เทคโนโลยีจะทำการเชื่อมโยงทุกสิ่งในสังคมเข้าด้วยกัน เช่น online shopping, mobile banking, eDelivery การเชื่อมโยงระบบขนส่งและการขับขี่ eLearning และการเชื่อมโยงเข้าสู่สังคมดิจิทัลอย่างแท้จริง กลายเป็น Smart City ซึ่งจำเป็นต้องมีโครงข่ายโทรคมนาคมที่มีประสิทธิภาพและครอบคลุม ขณะเดียวกัน ก็ต้องมีความสามารถในการเชื่อมต่อด้านดิจิทัล สื่อสารได้อย่างไร้พรมแดน มีบริการทางด้านดิจิทัลที่มีความพร้อมเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ อาทิ True ID ดิจิทัลแพลตฟอร์มที่เป็นศูนย์รวมความบันเทิงและไลฟ์สไตล์ คอนเทนต์ ช้อปปิ้งซื้อสินค้าออนไลน์ สิทธิพิเศษต่างๆสำหรับลูกค้าทรู รวมทั้งโทร แชท วิดีโอคอลล์ ผ่านแอปTrueMoney Wallet แอปพลิเคชันกระเป๋าเงินออนไลน์ ใช้ชำระแทนเงินสดได้ เพื่อเข้าสู่สังคมไร้เงินสด (Cashless Society)TRUE VIRTUAL WORLD ศูนย์รวมโซลูชันดิจิทัลที่ครบวงจร มีความปลอดภัยสูง ตอบโจทย์ทุกความต้องการขององค์กรธุรกิจ ภาคการศึกษา และไลฟ์สไตล์”
“การมาของเทคโนโลยี 5G ในประเทศไทย จึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมอย่างมาก เพราะ 5G จะเข้ามาเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนสังคมและเร่งปูทางประเทศของเราให้เข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ เปิดโอกาสให้ประเทศพร้อมแข่งขันในระดับโลก ซึ่งกลุ่มทรู มั่นใจว่าด้วยอัจฉริยะภาพของTrue 5G ที่ได้เข้าไปมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนวิถีชีวิตใหม่ให้กับหลากหลายอุตสาหกรรมในช่วงที่ผ่านมา รวมทั้งความเหนือกว่าของ ทรู 5G อันเนื่องมาจากความแข็งแกร่งที่แตกต่างของกลุ่มทรู ทั้งที่เป็นโอเปอเรเตอร์รายเดียวที่มีคลื่นครบสุดถึง 7 ย่านความถี่ โดยมีคลื่นย่านความถี่ต่ำที่หลากหลายมากที่สุดและมีแบนด์วิธมากที่สุดอีกทั้งเป็นหนึ่งในสองโอเปอเรเตอร์ทีมีคลื่น 2600 MHz ที่เป็นคลื่นหลักในการให้บริการ 5G ผสานกับจุดเด่นในเรื่องความครบครัน ของพันธมิตรชั้นนำทั้งในประเทศและระดับโลกอย่างไชน่าโมบายล์ ตลอดจนความเป็นผู้นำด้านดิจิทัลเทคโนโลยีของกลุ่มทรูที่ครบวงจรรายเดียวในประเทศ ที่มีโซลูชันและเทคโนโลยีอัจฉริยะ ทั้ง AI, Robotics, Deep Data Analytics และ Smart IoT ทำให้มั่นใจได้ว่า ทรู5G พร้อมแล้วที่จะพลิกโฉมไทย สู่ประเทศอัจฉริยะที่ยั่งยืน ” นายอาณัติกล่าวสรุป
นายคนึงเดช ไตรรัตนอุปถัมภ์ ผู้อำนวยการด้านปฏิบัติการโครงข่ายบมจ. ทรูคอร์ปอเรชั่นกล่าวว่า “กลุ่มทรูมีการลงทุนด้านเครือข่ายอย่างมีกลยุทธ์ เพื่อขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นสมาร์ทซิตี้ โดยได้ทดสอบบริการทรู 5G มาตั้งแต่ปี 2559 ซึ่งมีไชน่าโมบายล์พันธมิตรชั้นนำระดับโลก ได้ทำงานร่วมกับทีมเน็ตเวิร์คมาอย่างต่อเนื่อง สำหรับคลื่น 2600MHz และ 26GHz ที่ล่าสุดทรูได้ประมูลเพิ่มเติมมาได้นั้น ทำให้กลุ่มทรูเป็นโอเปอเรเตอร์รายเดียวในไทยที่ให้บริการด้วยคลื่นที่ครบสุดถึง 7 ย่านความถี่มากสุดในไทย โดยขณะนี้คลื่น Mid Band คือ 2600 MHz ซึ่งเป็นความถี่หลักในการให้บริการ 5G ที่แท้จริงพร้อมแล้วที่จะให้บริการทั่วไทย ครบทุกจังหวัด อีกทั้งด้วยเทคโนโลยี Massive MIMO ที่ทำให้ความสามารถรองรับความจุได้มากกว่าเดิม หลายเท่า ซึ่งทรูได้นำเข้ามาทดลองทดสอบจริงเป็นรายแรกของประเทศไทยตั้งแต่ปี 2560 โดยสามารถให้บริการแบบผสมผสานร่วมกับคลื่นเดิมบนสถานีฐานอย่างกลมกลืน ซึ่งไม่เพียงแต่ขยายบริการ 5G แต่จะทำให้ประสบการณ์การใช้งาน 4G ของลูกค้าปัจจุบันดีขึ้นอีกด้วย ขณะที่คลื่น Low Band หรือย่านความถี่ต่ำที่กลุ่มทรูมีหลากหลายมากที่สุดและมีแบนด์วิธมากที่สุด ทั้งคลื่น 700 MHz, 850 MHz และ900 MHzใช้เพื่อเติมเต็มและเสริมกับ Mid Band โดยใช้จุดเด่นของ low band ขยายพื้นที่ครอบคลุมที่กว้างไกลสามารถใช้งาน 5G ได้ทะลุผ่านเข้าไปในอาคาร ห้างสรรพสินค้า บ้านชั้น 2 ห้องทำงาน หรือแม้แต่ห้องนอนทำให้ไม่พลาดทุกการสื่อสาร ระยะทางจึงไม่ใช่ข้อจำกัดอีกต่อไป และ High BandmmWave26 GHz ได้นำมาให้บริการเพื่อตอบโจทย์ธุรกิจที่ต้องการความเร็วสูง ใช้ในพื้นที่ที่มีความต้องการโดยเฉพาะ เช่น ในอุตสาหกรรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลทั้งด้านคุณภาพ ต้นทุน และเวลา ทั้งนี้ทุกคลื่นความถี่ที่นำมาให้บริการ 5G ยังสามารถต่อเข้ากับโครงข่ายอัจฉริยะ (Network Slicing) เพื่อมอบบริการและคุณภาพสัญญาณสุดพิเศษ ยิ่งไปกว่านั้น ทรูได้เสริมประสิทธิภาพเครือข่าย 5G ด้วยเทคโนโลยี Dynamic Spectrum Sharing หมายถึงความสามารถในการให้บริการเทคโนโลยี 4G & 5G ในสถานีฐานเดียวกัน ทำให้การขยายโครงข่าย 5G ช่วยให้คุณภาพการให้บริการ 4G ดีขึ้นด้วย ซึ่งเป็นความตั้งใจของกลุ่มทรูที่จะสร้างโครงข่ายครบทุกคลื่นความถี่ ด้วยเทคโนโลยี World Class เพื่อมอบบริการที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าทรูทุกกลุ่ม รวมถึงยังได้รับการันตีจากสถาบันทดสอบคุณภาพระดับโลกอย่าง nPerf ให้เป็น“เครือข่ายยอดเยี่ยม/ที่ดีที่สุดในประเทศไทยต่อเนื่อง 4 ปีซ้อน ตั้งแต่ปี 2559-2562 รวมถึง ไตรมาส 1 ปี 2563 ด้วย น่าจะทำให้ลูกค้าไว้วางใจ และเลือกทรูเพื่อตอบโจทย์ในทุกไลฟ์สไตล์ ปัจจุบันได้มีการขยายเครือข่ายทรู 5G ครอบคลุมแล้ว 77 จังหวัดทั่วทุกภาคของประเทศไทย ซึ่งจะเสริมกับเครือข่าย 4G ที่มีอยู่โดยจะเน้นพื้นที่ยุทธศาสตร์ที่เชื่อว่าจะได้ประโยชน์เต็มที่จากเครือข่ายอัจฉริยะทรู 5G ทั้งโรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า สถานศึกษา มหาวิทยาลัย โรงงาน แหล่งท่องเที่ยว และสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินทั้ง 22 สถานี”
นายพิรุณไพรีพ่ายฤทธิ์หัวหน้าคณะทำงานและกรรมการยุทธศาสตร์ 5G บมจ. ทรูคอร์ปอเรชั่นกล่าวว่า
“เทคโนโลยี 5G เริ่มเข้ามามีบทบาทสำคัญอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา และเป็นตัวเร่งให้ประเทศไทยเห็นความสำคัญ
ในการนำนวัตกรรมเข้ามาปรับใช้ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในองค์กร และสร้างศักยภาพใหม่ของประเทศ เพื่อเข้าสู่ ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งความแตกต่างของยุค 5G คือการทำงานที่ต้องมีพันธมิตรในหลายระดับ เพื่อสร้าง อีโคซิสเต็มส์ พัฒนา Use Case ต่างๆ รวมถึงการให้ประชาชนสามารถเข้าถึงเทคโนโลยี 5G ได้ง่าย ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันให้เกิดประโยชน์สูงสุด และสามารถนำอัจฉริยภาพของทรู5G มาสร้างประโยชน์ให้ใช้งานได้จริง ทั้งเรื่องความเร็วที่มากขึ้น รองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆได้มากขึ้น และความหน่วงต่ำ ที่ทำให้เกิดการรับส่งข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ แม่นยำ การเกิดนวัตกรรมต่างๆ ทั้ง VR และ AR ตลอดจนการนำบิ๊กดาต้ามาทำให้ธุรกิจ พร้อมปรับสู่วิถีใหม่ของเมืองอัจฉริยะ (Empower the World) ทั้งวงการแพทย์ การศึกษา ธุรกิจค้าปลีก และอุตสาหกรรมต่างๆ ทั้งพลังงาน ตลอดจนด้านสิ่งแวดล้อม อีกทั้งการทำให้คนไทยเข้าถึงเทคโนโลยี 5G ได้ง่ายขึ้นเพื่อตอบโจทย์วิถีชีวิตใหม่ และร่วมขับเคลื่อนประเทศไทยในวิถีใหม่ วันนี้ ทรู 5G พร้อมแล้วที่จะพาชาวไทยก้าวสู่“ชีวิตอัจฉริยะ”ที่เป็นจริงแล้ว โดยจัดเตรียมทั้งอุปกรณ์อัจฉริยะ(Touch the Beyond) ที่นอกเหนือจากสมาร์ทโฟน 5G หลากหลายแบรนด์ราคาพิเศษรวมมากกว่า 30 รุ่นแล้ว ยังมีแว่นTrue 5G VR4K และTrue 5GVRHeadset อุปกรณ์และแกดเจ็ต IoTต่างๆ ที่พร้อมเติมเต็มประสบการณ์อัจฉริยะ (See the Unseen) อย่างสมบูรณ์แบบด้วยเทคโนโลยี VR ที่เป็นครั้งแรกที่ให้ประสบการณ์ใหม่ทั้งบนมือถือผ่าน True 5G VR และTrueID Apps, บนแว่น True 5G VR Headset และบนแว่นTrue 5G VR 4K พร้อมทั้งคอนเทนต์บันเทิง-DancingwithIceParis, ShowMetheMoney, บ้านผี 360ท่องเที่ยว–ที่จะสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวแบบ See the Unseen จาก ทุกมุมโลกที่แตกต่าง และAmazing Thailand โปรโมทความงดงามของการท่องเที่ยวในประเทศไทย รวมถึง Contentอื่นๆ ทั้งด้านการศึกษาและเกมส์ นอกจากนี้ True ยังได้เปิดตัว True 5G AR Apps ซึ่งจะเป็นครั้งแรกในไทยที่นำ AR มาสร้างประสบการณ์ใหม่ของโลก Contents และ Commerce โดยในช่วงแรกจะให้ลูกค้าทรูแลกสิทธิประโยชน์ต่างๆ ผ่านแอป True5G AR ซึ่งพร้อมให้ลูกค้าทรูมูฟ เอช ทุกแพ็กเกจทั้งรายเดือนและเติมเงินสัมผัส ความเร็วอัจฉริยะ(Ride the Ultra Speed) แบบ True5G ฟรี จนถึงสิ้นปี ไม่ต้องเปลี่ยนซิม เพราะทุกซิมรองรับ 5G เพียงมีสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์5G ซึ่งมั่นใจว่าจะเปิดประสบการณ์ใหม่ของชีวิตอัจฉริยะให้ลูกค้าประทับใจและ ใช้งานได้จริงทั่วไทย ”
นายโอลิเวอร์กิตติพงษ์วีระเตชะหัวหน้าคณะผู้บริหารด้านแบรนด์และการสื่อสารบมจ. ทรูคอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “ด้วยปณิธานของทรู 5G ที่มุ่งมั่นพัฒนาเครือข่ายที่ไม่ใช่แค่สัญญาณมือถือ แต่มีทั้งเทคโนโลยีนวัตกรรม และแพลตฟอร์มอัจฉริยะ ที่ทรูมุ่งมั่นพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อเป็น complete digital lifestyle ecosystem เปลี่ยนประเทศ และสร้างโลกใหม่แห่งชีวิตอัจฉริยะที่ยั่งยืน เพื่อยกระดับให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นเมืองอัจฉริยะ ที่ทุกอย่างไม่ใช่แค่ภาพความฝันอีกต่อไป แต่วันนี้ทรูทำให้เกิดขึ้นจริง พร้อมให้คนไทยได้สัมผัสประสบการณ์ของชีวิตอัจฉริยะ come True with TRUE5G ผ่านคอนเซ็ปท์ภาพยนตร์โฆษณา :THE INVITATION TO THE INTELLIGENT 5G WORLD เชิญชวนให้คนไทยสัมผัสโลกอัจฉริยะของทรู 5G กับชีวิตอัจฉริยะของพรีเซ็นเตอร์ ทั้ง 3 คน ‘เฌอปรางอารีย์กุล’ ตัวแทนของความรู้ไม่รู้จบ (Infinite Knowledge #ComeTRUE) ‘ไอซ์–พาริสอินทรโกมาลย์สุต’ แรงบันดาลใจแบบไร้ขอบเขต (Limitless Inspiration #ComeTRUE) และ‘ไบร์ท–วชิรวิชญ์ชีวอารี’ กับการค้นพบประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ทุกอย่างเป็นจริงได้ (New Discovery #ComeTRUE) บนทรู 5G เครือข่ายอัจฉริยะ เล่าเรื่องผ่านการสัมผัสความล้ำของเทคโนโลยีและนวัตกรรมผ่านอุปกรณ์อัจฉริยะทั้ง smart phone, tablet, VR headset, IoT gadget, smart home ต่างๆบนเครือข่ายอัจฉริยะทรู 5G ประสบการณ์อัจฉริยะผ่านคอนเทนต์กับประสบการณ์เสมือนจริงแบบ 360 องศาที่ไม่เคยมีมาก่อนทั้ง VR, AR ผ่านทาง True ID และแพลตฟอร์มอีกมากมายที่กำลังจะเกิดขึ้น ความเร็วอัจฉริยะกับความเร็วแรงของทรู 5G ที่เร็วแรงขึ้นกว่า 20 เท่า และเมืองอัจฉริยะทั้ง World of Health & Wellness, World of Education, World of Security, World of Entertainment, World of Agriculture and Environment ที่ความอัจฉริยะของเครือข่ายทรู 5G กำลังจะทำให้ไทยก้าวสู่โลกใหม่ต้นแบบแห่งเมืองอัจฉริยะ สำหรับแคมเปญสื่อสารชุดนี้จะเริ่มเผยแพร่ผ่านสื่อโทรทัศน์ สื่อออนไลน์และ YouTube ตั้งแต่วันที่ 28 สิงหาคม 2563 เป็นต้นไป”
#ComeTRUEwithTRUE5G #อัจฉริยภาพสู่โลกใหม่ที่ยั่งยืนของเรา