realme เปิดตัวสมาร์ทโฟน realme X50 5G ในประเทศไทยอย่างทางการแล้ว เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ซึ่งทีมงาน @flashfly เคยนำเสนอบทความแกะกล่องพรีวิวให้ได้อ่านไปแล้วก่อนหน้านี้ โดยมาพร้อมสโลแกน “บุกเบิกพลังแห่ง 5G” และมีราคาเปิดตัวเพียง 12,990 บาท ถือเป็นสมาร์ทโฟน 5G ที่เข้าถึงได้ไม่ยาก ส่วนจะมีคุณสมบัติอะไรที่น่าสนใจบ้าง? ทีมงาน @flashfly พร้อมแล้วที่จะพาไปทำความรู้จักกับ realme X50 5G ให้มากยิ่งขึ้น
สเปกหลักของ realme X50 5G
- รองรับเครือข่าย 5G, 4G, 3G, 2G
- จอแสดงผล FHD+ ขนาด 6.57 นิ้ว อัตราการรีเฟรช 120Hz
- ทำงานบนพื้นฐาน Android 10 สวมทับด้วย realme UI
- ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 765G
- ระบบระบายความร้อน Liquid Cooling System 3.0
- ความจำ RAM 8GB จับคู่กับ ROM 128GB
- กล้องหลัง 4 ตัว 48MP AI Quad Camera
- กล้องคู่หน้า In-Display Dual Selfie Camera
- ระบบเสียง Super Linear Speaker, Dolby Atmos, Hi-Res Audio
- ไมโครโฟนคู่ ช่วยตัดเสียงรบกวน
- การเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac (2.4/5GHz), Bluetooth 5.1, NFC, USB Type-C
- ระบบนำทาง GPS, GLONASS, BEIDOU, GALILEO, QZSS
- เซ็นเซอร์ Magnetic induction sensor, Light sensor, Proximity sensor, Gyro-meter, Acceleration sensor
- แบตเตอรี่ 4200mAh รองรับชาร์จเร็ว 30W Dart Charge
- ขนาดบอดี้ 163.8 x 75.8 x 8.9 มิลลิเมตร น้ำหนัก 202 กรัม
ดีไซน์พรีเมี่ยม
realme X50 5G ได้รับการออกแบบมาอย่างสวยงามพรีเมี่ยม ด้วยเทคโนโลยีใหม่ที่เรียกว่า Optical Plating ใช้เครื่องพิมพ์ลายโลหะที่ล้ำสมัย สลักลวดลายขนาดเล็กลงที่ด้านหลัง จนทำให้เกิดเอฟเฟกต์เส้นแสงโค้งมน เมื่อมีแสงมาตกกระทบลงบนพื้นผิว และยังใช้วัสดุกระจกโค้งมนแบบ 3 มิติ เสริมให้พื้นผิวของด้านหลัง สะท้อนสีออกมาอย่างสวยงามเปล่งประกาย และให้สัมผัสนุ่มลื่น โดยที่ยังจับถนัดมือ
ด้านหลังของ realme X50 5G ผลิตออกมาให้เลือก 2 สี ได้แก่ สี Jungle Green ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากความเขียวชอุ่มของป่ามหัศจรรย์ ที่เต็มไปด้วยความลึกลับและสรรพชีวิต และสี Ice Silver ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากธารน้ำแข็งและความเปล่งประกายของบรรยากาศแห่งดินแดนขั้วโลกเหนือ
ด้านหน้าทันสมัยด้วยจอแสดงผลแบบ Dual Punch-hole Display ซึ่งถูกเจาะหลุมเป็นรูปทรงแคปซูล สำหรับวางกล้องคู่หน้า และยังได้รับการป้องกันด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 5 พร้อมติดฟิล์มกันรอยมาให้แล้วจากโรงงาน
เหนือจอแสดงผลมีการติดตั้งลำโพงสนทนาไว้จนสุดขอบด้านบน
ด้านหลังมาพร้อมกล้อง 4 ตัว วางซ้อนกันในแนวตั้ง ติดตั้งแฟลชไว้นอกกรอบ ขณะที่โลโก้ realme ก็ถูกพิมพ์ไว้ในแนวตั้ง หมายความว่า realme X50 5G ได้รับการออกแบบมาให้ใช้งานในแนวนอนมากกว่าแนวตั้ง ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายรูป เล่นเกม และ ดูหนัง
ขอบด้านข้างโค้งมน มีความบาง 8.9 มิลลิเมตร ติดตั้งปุ่มเพาเวอร์ไว้ทางขวามือ และมีการซ่อนเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ที่ปุ่มเพาเวอร์ด้วย
อีกข้างหนึ่งเป็นปุ่มเพิ่มเสียง และปุ่มลดเสียง
ด้านบนมีไมโครโฟนตัวที่ 2 ช่วยลดเสียงรบกวนรอบข้าง
ด้านล่างจะพบกับตะแกรงลำโพง, ช่องเชื่อมต่อ USB Type-C, รูไมโครโฟน และ ถาดใส่ซิมการ์ด รองรับ 2 ซิมการ์ด ขนาดนาโน
ใช้งาน 5G ได้ตั้งแต่แกะกล่อง
โลกกำลังเข้าสู่การเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีการสื่อสารจากยุค 4G ไปเป็น 5G ซึ่งปัจจุบันมีเพียงไม่กี่ประเทศเท่านั้น ที่พร้อมให้บริการ 5G ในเชิงพาณิชย์ และโชคดีที่ประเทศไทยพร้อมให้บริการแล้ว ถึงแม้จะยังไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศเหมือน 4G แต่ก็ถือเป็นการเริ่มต้นที่รวดเร็ว เพราะในอนาคตอันใกล้นี้ 5G จะถูกนำมาใช้งานอย่างกว้างขวางเหมือนกับที่เราใช้ 4G ในปัจจุบันนี้
realme X50 5G เป็นสมาร์ทโฟนเพียงไม่กี่รุ่นในตลาดที่มีราคาหมื่นต้นๆ แต่สนับสนุนเทคโนโลยี 5G โดยรองรับ 12 คลื่นความถี่ 5G ทั่วโลก (n1, n3, n5, n7, n8, n20, n28, n38, n40, n41, n77, n78)
ถึงแม้ 5G ยังไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศไทยและทั่วโลก แต่ realme X50 5G ก็รองรับฟีเจอร์ Smart 5G สามารถสลับการเชื่อมต่อระหว่าง 4G และ 5G โดยอัตโนมัติ ช่วยใประหยัดพลังงานยิ่งขึ้น และลดการใช้พลังงานลง 30% และยังรองรับการเชื่อมต่อ Dual Channel Acceleration (Data และ Wi-Fi) สลับการเชื่อมต่อระหว่างอินเทอร์เน็ตบนเครือข่ายมือถือ และ Wi-Fi โดยอัตโนมัติ เพื่อการเชื่อมต่ออย่างเสถียร
สำหรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi ก็สนับสนุน Dual Wi-Fi Acceleration สามารถเชื่อมต่อกับ Wi-Fi 2.4GHz กับ 5GHz ในเวลาเดียวกันได้ เพื่อการเชื่อมต่อที่มีเสถียรภาพมากขึ้น ทั้งนี้ ในทางทฤษฎีเทคโนโลยี 5G จะให้ความเร็วสูงสุด 2.6Gbps เร็วขึ้น 10 เท่า เมื่อเทียบกับ 4G
จอแสดงผล Ultra Smooth 120Hz
realme X50 5G มาพร้อมจอแสดงผล 2400 x 1080 พิกเซล ขนาด 6.57 นิ้ว ให้อัตราการรีเฟรชหน้าจอถึง 120Hz สูงกว่าสมาร์ทโฟนทั่วไป 2 เท่า (สมาร์ทโฟนทั่วไปจะให้อัตราการรีเฟรช 60Hz) จึงตอบสนองการสัมผัสได้อย่างรวดเร็ว เหมาะสำหรับการเล่นเกมอย่างจริงจัง โดยมีอัตราส่วนภาพ 20:9 และอัตราส่วนหน้าจอต่อบอดี้ 90.4%
จอแสดงผลของ realme X50 5G ยังสามารถปรับโหมดสีหน้าจอได้ 2 โหมด คือ Vivid และ Gentle ให้ความสว่างได้สูงสุด 480 นิต และสนับสนุนเทคโนโลยี OSIE ช่วยเพิ่มสีสันของหน้าจอให้สดใสและเพิ่มความคมชัดของภาพ ทำให้การดูวิดีโอสั้นบนแพลตฟอร์มโซเชี่ยลต่างๆ คมชัดมากขึ้น
กล้องคู่หน้า In-Display Dual Selfie Camera
สาเหตุที่ทำให้จอแสดงผลของ realme X50 5G ถูกเจาะหลุมเป็นรูปทรงแคปซูล ก็เนื่องมาจากมีการติดตั้งกล้องหน้า 2 ตัว ไว้ใต้จอแสดงผล แทนการซ่อนไว้ในรอยบากรูปทรงหยดน้ำ ซึ่งดีไซน์หน้าจอแบบ Dual Punch-hole Display กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบันนี้
กล้องคู่หน้าของ realme X50 5G ประกอบด้วย
- กล้องหลัก 16 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX471 รูรับแสง f/2.0 มุมมองกว้าง 79.3 องศา
- กล้องรอง 2 ล้านพิกเซล สำหรับถ่ายภาพบุคคล รูรับแสง f/2.4
กล้องหน้ามาพร้อมโหมด Nightscape Selfie สำหรับถ่ายภาพเซลฟี่ในเวลากลางคืนหรือในที่แสงน้อย รองรับโหมด HDR ให้ภาพสวยคมชัด โดยเฉพาะในบริเวณที่มีสภาพแสงแตกต่างกัน หรือถ่ายเซลฟี่ในที่ย้อนแสง และแน่นอนว่ามีเลนส์ถ่ายภาพบุคคลมาให้ ก็ต้องรองรับโหมด Portrait ที่ให้เอฟเฟกต์ Bokeh หรือละลายฉากหลังได้อย่างสวยงาม
เอฟเฟกต์ Bokeh ในกล้องหน้าของ realme X50 5G ยังสามารถใช้ได้กับการถ่ายวิดีโอด้วย และยังมีโหมดถ่ายวิดีโอแบบ Slo-mo Selfie ความละเอียด Full HD 1080p ที่อัตรา 120 เฟรมต่อวินาที นอกจากนี้ กล้องหน้ายังมีโหมด AI Beauty, Panorama, Time Lapse และมีฟิลเตอร์ให้เลือกใช้หลายแบบ
กล้องหลัง 48MP AI Quad Camera
realme X50 5G มาพร้อมกล้องหลัง 4 ตัว จัดเรียงในแนวตั้ง ติดตั้งแฟลชไว้นอกกรอบ ใกล้กันมีข้อความ AI Quad Camera ถูกพิมพ์ไว้ในแนวตั้ง โดยกล้องทั้ง 4 ตัว มีคุณสมบัติแตกต่างกันดังนี้
- กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8
- กล้องอัลตร้าไวด์ 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.3 ช่วยจับภาพในมุมมองกว้าง 119 องศา
- กล้องมาโคร 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 รองรับการถ่ายภาพใกล้วัตถุ ระยะโฟกัส 4 เซนติเมตร
- กล้องถ่ายภาพบุคคล 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 มาพร้อมฟิลเตอร์สีขาว-ดำ
กล้องหลังยังถ่ายภาพในโหมด Portrait, Ultra Macro และ Ultra-wide ได้อย่างโดดเด่น เพราะมีกล้องช่วยถ่ายภาพในแต่ละโหมดโดยตรง และยังมีโหมด AI Beauty, Chroma Boost, HDR, Panorama, Time Lapse, Pro และมีฟิลเตอร์ให้เลือกใช้หลายแบบ
กล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 สามารถซูมได้สูงสุด 10 เท่า
กล้องหลังมีไฮไลท์ที่ Ultra Nightscape Mode หรือโหมดถ่ายภาพในที่มืดสนิท มีความสว่างน้อยกว่า 1 ลักซ์ แต่สามารถเก็บภาพได้สว่าง และมองเห็นรายละเอียดอย่างชัดเจน และเมื่อใช้ขาตั้งกล้องช่วยจับ realme X50 5G ก็สามารถเปิดรับแสงได้นานถึง 50 วินาที จึงสามารถเก็บภาพวิวทิวทัศน์ยามค่ำคืนได้อย่างสวยงาม
กล้องหลังของ realme X50 5G สามารถถ่ายวิดีโอในความละเอียดสูงสุด 4K ที่อัตรา 30 เฟรมต่อวินาที รองรับเอฟเฟกต์ Bokeh หรือละลายฉากหลังเหมือนถ่ายภาพนิ่ง ที่สำคัญก็คือ มีเทคโนโลยีลดภาพสั่นไหว Ultra Steady และ Ultra Steady Max เมื่อถ่ายวิดีโอด้วยกล้องอัลตร้าไวด์
นอกจากนี้ ยังสามารถถ่ายวิดีโอแบบ Slo-mo ด้วยความละเอียด Full HD 1080p ที่อัตรา 120 เฟรมต่อวินาที และ HD 720p ที่อัตรา 240 เฟรมต่อวินาที
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้า
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลัง
สเปคแรงเอาใจคอเกม
realme X50 5G ใช้ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 765G ผลิตด้วยเทคโนโลยี 7 นาโนเมตร บนสถาปัตยกรรม 64-bit ประกอบด้วยซีพียู Kryo 475 และจีพียู Adreno 620 พร้อมด้วย Artificial Intelligence Engine รุ่นที่ 5
ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 765G ยังมีฟีเจอร์ Snapdragon Elite Gaming ช่วยให้สมาร์ทโฟนตอบสนองการเล่นเกมอย่างรวดเร็วและราบรื่น ด้วยเสียงและกราฟิกระดับโรงภาพยนตร์
ชิปประมวลผล Snapdragon 765G ได้รับการปรับปรุงซีพียูให้เร็วขึ้น 10% ปรับปรุงจีพียูให้เร็วขึ้น 40% ลดการใช้พลังงานลง 35% และมีประสิทธิภาพ AIE เพิ่มขึ้น 100% เมื่อเทียบกับชิป Snapdragon 730
realme X50 5G ยังมาพร้อมระบบระบายความร้อนด้วยของเหลว Liquid Cooling System 3.0 โดยใช้ท่อทองแดงขนาดใหญ่ 8 มิลลิเมตร แผ่นชั้น Graphite แผ่นฟอยล์ทองแดง และ ฟิล์มซิลิกอนครอบคลุมแหล่งความร้อน 100% และเพิ่มพื้นที่กระจายความร้อน 176.9% ช่วยลดความร้อนได้มากขึ้นถึง 12.5% ส่งผลให้ realme X50 5G แม้ในเล่นเกมเป็นเวลานาน
ด้านความจำ realme X50 5G มาพร้อม RAM 8GB แบบ LPDDR4x เพียงพอต่อการทำงานหลายอย่างพร้อมกันแบบไม่สะดุด จับคู่กับ ROM 128GB แบบ UFS 2.1 ที่สามารถติดตั้งเกมขนาดใหญ่ได้หลายเกม โดยไม่ต้องคอยลบเกมเก่าทิ้งไป
เต็มอิ่มทั้งภาพและเสียง
นอกจากจอแสดงผล Ultra Smooth 120Hz ที่มีขนาดใหญ่ 6.57 นิ้ว ตอบสนองการเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล realme X50 5G ยังให้ความสำคัญกับระบบเสียงด้วยลำโพง Super Linear Speaker รองรับระบบเสียง Dolby Atmos, Hi-Res Audio และได้รับไมโครโฟนคู่ช่วยตัดเสียงรบกวนรองข้าง
ชาร์จเร็ว 30W
realme X50 5G ให้ความจุแบตเตอรี่ 4200mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 30W Dart Charge ผ่านพอร์ต USB Type-C สามารถชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 100% ในเวลาเพียง 55 นาที แม้ในขณะที่เล่นเกมอย่างหนักหน่วง ก็สามารถชาร์จได้เกือบ 70% ในเวลาพียง 30 นาที และรองรับการชาร์จเร็วขณะจอแสดงผลเปิดอยู่ ให้สมาร์ทโฟนยังคงความเย็นแม้มีการใช้งานขณะชาร์จ
realme X50 5G ยังให้ความสำคัญในเรื่องความปลอดภัย ด้วยระบบป้องกันความปลอดภัยถึง 5 ชั้น ครอบคลุมตั้งแต่อุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่ สายชาร์จ และสมาร์ทโฟน
realme UI
realme X50 5G ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย realme UI ที่ได้รับการออกแบบองค์ประกอบต่างๆ ให้สวยงามและสอดคล้องกัน ไม่ว่าจะเป็น ปุ่มตั้งค่า แถบการแจ้งเตือน และ ไอคอนโดยให้ความสำคัญกับธีมที่ให้ความรู้สึกทันสมัย สีสันสดใสมีชีวิตชีวา ผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งไอคอนได้ด้วยตนเอง พัฒนาภาพเคลื่อนไหวแอนิเมชั่นให้รวดเร็วและไหลลื่นมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
การปรับแต่งไอคอนใน realme UI สามารถเลือกระหว่างสไตล์ไอคอนแบบกลมหรือแบบมน และสามาถตั้งค่ารูปร่างและขนาดของไอคอนได้ตามใจชอบ รวมถึงแอพจากภายนอกก็ได้รับการสนับสนุนอย่างสมบูรณ์อีกด้วย
ฟีเจอร์เด่นของ realme UI
Dark Mode เปลี่ยนธีมของ User Interface ให้เป็นโทนสีเข้ม เพื่อความสบายต่ และสามารถเปิด Dark Mode โดยอัตโนมัติในเวลากลางคืน ,Dual Mode Music Share โหมดแชร์ฟังเพลงสองช่องทาง สามารถเชื่อมต่อหูฟ้งไร้สายได้พร้อมกัน 2 เครื่อง เพื่อฟังเพลงหรือชมคอนเท้นต์ร่วมกัน โดยไม่รบกวนคนอื่นที่อยู่ในพื้นที่เดียวกัน
Focus Mode เป็นโหมดที่จะช่วยให้ผู้ใช้งานผ่อนคลายจากโลกภายนอก โดยระบบจะหยุดการทำงานของแอพพลิเคชันที่กำหนดไว้ชั่วคราว และเปิดโหมด DND (Do Not Disturb) เพื่อปิดการแจ้งเตือนที่รบกวนต่างๆ พร้อมเปิด Ambient Sounds เสียงดนตรีที่ฟังแล้วรู้สึกฟังสบาย
3-Finger Selected Screenshot จับภาพหน้าจอโดยการใช้ 3 นิ้วแตะค้างไว้ที่หน้าจอ และ Personal Information Protection ระบบป้องกันข้อมูลส่วนตัว ด้วยการเข้ารหัสรักษาความปลอดภัย ภาพถ่าย วิดีโอ ไฟล์เสียงรวมทั้งเอกสารและเก็บไฟล์สำคัญทั้งหมด
realme UI ยังปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานโดยรวม ช่วยให้ระยะเวลา App Booting ลงลด 25% ความลื่นไหลเพิ่มขึ้น 20% ลดความดีเลย์ระบบสัมผัส 35% ประสิทธิภาพการเล่นเกมเพิ่มขึ้น 20% ให้อายุการใช้งานแบตเตอรี่เพิ่มขึ้น 10% และลดการใช้พลังงานเมื่อเปิดสแตนด์บายข้ามคืน 35%
สรุป
realme X50 5G เป็นสมาร์ทโฟนที่มีการออกแบบและประสิทธิภาพในแบบฉบับสมาร์ทโฟนเรือธง แถมยังเหนือกว่าเรือธงในตลาดหลายรุ่นเพราะสนับสนุนเทคโนโลยี 5G แต่มีราคาที่เป็นมิตร เปิดตัวเพียง 12,990 บาท ถือว่าเป็นตัวเลขที่คุ้มค่ามากๆ เมื่อเทียบกับ realme X50 Pro 5G ที่วางจำหน่ายไปก่อนหน้านี้ ในราคา 28,990 บาท
realme X50 Pro 5G มีจุดเด่นที่จอแสดงผล 120Hz ชิปประมวลผลมีประสิทธิภาพสูงเมื่อเทียบกับคู่แข่งในราคาใกล้เคียงกัน กล้องหลัง 4 ตัว ถ่ายภาพได้คมชัดทั้งในสภาพแสงตอนกลางวันและกลางคืน อีกทั้งยังเพิ่มระบบกันสั่นให้กับการถ่ายวิดีโอ โดยให้ความจุแบตเตอรี่ 4200mAh ที่เพียงพอต่อการใช้งานตลอดทั้งวัน และยังชาร์จเร็วทันใจด้วยเทคโนโลยี 30W Dart Charge
ทั้งนี้ realme X50 5G จะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2563 เป็นต้นไป ในราคา 12,990 บาท มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Jungle Green และ Ice Silver โดยเปิดให้จับจองแล้ววันนี้ ถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2563
พิเศษ!! เป็นเจ้าของ realme X50 5G ได้ง่ายขึ้นในราคาเริ่มต้น 7,990 บาท เมื่อซื้อพร้อมสมัครใช้บริการรายเดือนกับทาง AIS, TrueMove H, Dtac และสามารถผ่อนชำระ 0% นานสูงสุด 24 เดือน กับธนาคารหรือสถาบันการเงินที่ร่วมรายการ