ที่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสยาม นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง กระทรวงคมนาคม พร้อมด้วย นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ รถไฟฟ้าบีทีเอส และ นายวสิษฐ์ วัฒนศัพท์ หัวหน้าฝ่ายงานปฏิบัติการและสนับสนุนด้านเทคนิคทั่วประเทศ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส ร่วมกันยืนยันความพร้อมในการร่วมทดสอบการใช้คลื่นความถี่โทรคมนาคมเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับผู้โดยสารรถไฟฟ้า หลังจากมีการประกาศเปิดให้บริการ 5G โดยผลการทดสอบที่ผ่านมายังไม่พบผลกระทบกับการเดินรถแต่อย่างใด
โดยนายสรพงศ์ กล่าวว่า กรมการขนส่งทางราง (ขร.) ในฐานะหน่วยงานของรัฐที่รับผิดชอบงานด้านระบบรางของประเทศ ได้ให้ความสำคัญกับประชาชนผู้ใช้บริการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนและผู้ใช้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ ระบบ 5G จึงกำหนดให้มีการประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งลงพื้นที่ทดสอบคลื่นความถี่ที่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสยาม ซึ่งเป็นการดำเนินงานภายใต้ความร่วมมือระหว่างบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (AIS) ผู้ให้บริการคลื่นความถี่ 5G และ บีทีเอส ผู้ให้บริการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน (สายสีเขียว) เพื่อตรวจสอบปัญหา และอุปสรรคที่อาจเกิดขึ้น พร้อมหาวิธีป้องกันการเกิดผลกระทบ เพื่อให้เกิดความมั่นใจในเสถียรภาพของระบบการเดินรถไฟฟ้า ซึ่งผลการทดสอบในเบื้องต้นยังไม่พบผลกระทบแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม กรมการขนส่งทางรางได้ขอให้ ทั้งสองหน่วยงาน ดำเนินการทดสอบผลกระทบอย่างต่อเนื่อง และให้บีทีเอส ดำเนินการติดตั้งอุปกรณ์กรองคลื่นรบกวนตลอดแนวเส้นทางรถไฟฟ้าให้ครบภายใน 5 เดือน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
ด้านนายสุรพงษ์ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาบีทีเอสได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาโดยตลอด โดยได้มีการศึกษาและป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดการรบกวนกัน ระหว่างคลื่นความถี่ที่ใช้ในระบบโทรคมนาคมกับคลื่นที่
ใช้ในการเดินรถไฟฟ้า โดยได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมื่อ กสทช.ประกาศแผนในการนำ คลื่นความถี่ 2500 – 2600 MHz มาประมูลเพื่อใช้ในกิจการ 5G บีทีเอสจึงได้เข้าหารือรายละเอียดกับทาง กสทช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะ กรุงเทพมหานคร และกรมการขนส่งทางราง เพื่อเตรียมการป้องกัน ไม่ให้เกิดผลกระทบกับการเดินรถ รวมทั้งได้มีการประสานอย่างใกล้ชิดกับทางผู้ผลิตและติดตั้งระบบอาณัติสัญญานการเดินรถของบีทีเอสเอง และทางเอไอเอสผู้ให้บริการโทรคมนาคม ที่ชนะการประมูลคลื่น 2500 – 2600 MHz ซึ่งเป็นคลื่นที่อยู่ใกล้ชิดกับ คลื่นวิทยุ 2400 – 2500 MHz ที่ระบบอาณัติสัญญาณของรถไฟฟ้าบีทีเอสใช้อยู่ “ได้มีการทำงานร่วมกับเอไอเอสอย่างใกล้ชิด เพื่อทดสอบและป้องกันปัญหาเรื่องคลื่นรบกวน โดยได้มีมาตรการร่วมกัน เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับการเดินรถ แม้ว่าการทดสอบเบื้องต้นจะไม่พบปัญหาใด ๆ แต่เราจะยังคงร่วมมือกันเดินหน้าทดสอบอย่างต่อเนื่อง ในทุกช่วงเวลา และทุกเส้นทางเพื่อให้เกิดความมั่นใจต่อผู้ใช้บริการของทั้ง 2 องค์กร ขณะที่บีทีเอสเองก็ได้ลงทุนติดตั้งระบบป้องกันตัวกรองคลื่น ในกรณีที่พบการรบกวนแฝงจากคลื่นความถี่ต่าง ๆ เพื่อให้การเดินรถไม่เกิดปัญหาในระยะยาว”
ขณะที่นายวสิษฐ์ กล่าวว่า เอไอเอสให้ความสำคัญกับการป้องกันผลกระทบจากคลื่นความถี่มาโดยตลอด และทำงานร่วมกับพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกับบีทีเอสซึ่งเป็นระบบขนส่งมวลชนที่สำคัญของคนเมือง เอไอเอสได้ร่วมมือกันทดลอง ทดสอบมาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2562ก่อนเปิดประมูลและเข้มข้นยิ่งขึ้นหลังจากประมูลเรียบร้อย ในทุกเส้นทางรถไฟฟ้า ซึ่งอยู่ในพื้นที่ขยายเครือข่ายทั้ง 4G / 5G โดยการทดสอบในเบื้องต้นยังไม่พบผลกระทบแต่อย่างไรก็ตามเราจะยังคงเดินหน้าทดสอบอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มความอุ่นใจให้ผู้โดยสารและสร้างความเชื่อมั่นว่า ประชาชนจะได้ใช้งานระบบสื่อสารและระบบโดยสารที่ดีที่สุด อย่างแน่นอน”
ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางราง ขอขอบคุณ กสทช. บีทีเอส และ เอไอเอส ในการสนับสนุนและร่วมมือในการแก้ไขปัญหาที่อาจส่งผลกระทบต่อระบบการเดินรถไฟฟ้า เพื่อให้ประชาชนได้รับความปลอดภัย และใช้งานทั้งระบบการสื่อสารและระบบโดยสารรถไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด