มาแล้วรีวิวฉบับเต็มของ realme C3 ที่หลายคนรอคอย โดยหลังจากที่ทีมงานได้ทำการแกะกล่องและพรีวิวตัวเครื่องไปก่อนหน้าและทาง realme ประเทศไทยได้ประกาศราคาออกมาเพียง 3,999 บาทเท่านั้น จึงทำให้ realme C3 เป็นสมาร์ทโฟนราคาสุดคุ้มที่หลายคนอยากจับจองเป็นเจ้าของอย่างแน่นอน วันนี้เราจะมาทำความรู้จักรุ่นกันแบบเจาะลึกทุกฟีเจอร์การใช้งานตามมาดูกันได้เลย
realme C series เป็นสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้นที่ให้ความคุ้มค่ามากกว่าคู่แข่งในระดับเดียวกัน จนทำให้มีผู้ใช้งาน C series มากถึง 10.2 ล้านคนทั่วโลก และตอนนี้ก็ได้พัฒนามาถึงรุ่นที่ 3 แล้วกับ realme C3 โดยถูกออกแบบมาภายใต้สโลแกน “3 เลนส์ เกมแรง” ซึ่งหมายถึงระบบกล้องหลัง 3 ตัว กับชิปประมวลผล Helio G70 อีกทั้งยังยกระดับสเปกโดยรวมและประสบการณ์ในการใช้งานให้ดียิ่งขึ้นไปอีกขั้น
realme C3 มาพร้อมจอแสดงผล HD+ (720 x 1600 พิกเซล) ขนาด 6.5 นิ้ว ให้อัตราส่วนภาพ 20:9 อัตราส่วนหน้าจอต่อบอดี้ 89.8% ป้องกันรอยด้วยกระจก Gorilla Glass 3 และได้รับการออกแบบมาให้ช่วยลดอาการเมื่อยล้าของดวงตา
ขอบบนมีรอยบากแบบหยดน้ำที่เล็กกว่ารุ่นก่อนถึง 30.9% สำหรับวางกล้องเซลฟี่ 5 ล้านพิกเซล เหนือขึ้นไปเป็นช่องลำโพงสำหรับสนทนา วางอยู่สุดขอบบน
ด้านหลังใช้ดีไซน์ Sunrise ที่ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากแสงแรกของดวงอาทิตย์ โดยมีเอฟเฟกต์แผ่กระจายออกมาจากตำแหน่งกล้องหลัง เหมือนแสงสว่างของดวงอาทิตย์ และผ่านกระบวนผลิตที่ผสมผสานระหว่างการขัดมัน, แกะสลักเรเดียม และเทคโนโลยีการพ่นทราย ช่วยให้พื้นผิวด้านหลังมีคุณสมบัติป้องกันรอยนิ้วมือ ป้องกันรอยขีดข่วน และช่วยให้จับถือได้อย่างถนัด
realme C3 ติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ที่ด้านหลัง สามารถสแกนลายนิ้วมือเพื่อปลดล็อคได้อย่างรวดเร็วในเวลาเพียง 0.27 วินาที และยังรองรับฟีเจอร์ปลดล็อคด้วยการสแกนใบหน้า
ขอบด้านข้างมีความบาง 8.95 มิลลิเมตร ติดตั้งปุ่มเพาเวอร์ไว้ทางขวามือ
อีกข้างมีถาดใส่การ์ดแบบ 3 ช่อง รองรับซิมการ์ด 2 ช่อง (นาโนซิม) และการ์ด MicroSD อีก 1 ช่อง (สูงสุด 256GB) ถัดลงมาเป็นปุ่มปรับระดับเสียง
ด้านล่างมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร, ไมโครโฟน, พอร์ต Micro USB และตะแกรงลำโพง
ถึงแม้จะเป็นสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้น แต่ realme C3 ก็ได้รับการออกแบบและผลิตอย่างมีคุณภาพ สามารถป้องกันละอองน้ำได้ และได้รับการทดสอบ Drop Test ถึง 10,000 ครั้ง ทดสอบการเสียบช่องชาร์จแบตเตอรี่ 10,000 ครั้ง และทดสอบปุ่มกด 100,000 ครั้ง จึงทนทานต่อการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน
อีกจุดเด่นของ realme C3 คือระบบกล้องหลัง 3 เลนส์ ประกอบด้วย เลนส์หลัก 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง F1.8 ถือว่ามีขนาดใหญ่เหมาะสำหรับการถ่ายภาพในที่แสงน้อย ขนาดพิกเซล 1.25 ไมครอน ซูมได้ 4 เท่า
1x 2x 4x
จับโฟกัสได้อย่างรวดเร็วด้วยระบบ PDAF มาพร้อมเลนส์ถ่ายภาพบุคคล 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง F2.4 และเลนส์มาโคร 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง F2.4 สำหรับถ่ายภาพใกล้วัตถุในระยะเพียง 4 เซนติเมตร
กล้องหลังของ realme C3 รองรับ Chroma Boost ช่วยปรับภาพถ่ายให้มีสีสันสดใสและสว่างมากขึ้น, โหมดถ่ายภาพ HDR สำหรับถ่ายภาพที่มีทั้งส่วนมืดและสว่างในเฟรมเดียวกัน เพื่อให้รายละเอียดที่ชัดเจนทั้งในส่วนมืดและสว่าง
Chroma Boost OFF Chroma Boost ON
แน่นอนว่ามีเลนส์ถ่ายภาพบุคคล ก็ต้องรองรับโหมด Portrait สำหรับถ่ายภาพหน้าชัดหลังละลาย นอกจากนี้ ยังถ่ายวีดีโอได้สูงสุด Full HD 1080p และโหมด Slow Motion 120 เฟรมต่อวินาที
สำหรับโหมดถ่ายภาพหรือถ่ายภาพเคลื่อนไหวแบบอื่นๆก็มีมาให้ใช้งานครบดังนี้ TIME-LAPSE ,Ultra Macro ,Slo-Mo ,Pano และโหมด Expert หรือโหมดโปรในการปรับแต่งค่าต่างๆด้วยตนเอง
realme C3 ซ่อนกล้องเซลฟี่ไว้ในรอยบากแบบหยดน้ำ ที่มีขนาดเล็กกว่ารุ่นก่อนถึง 30.9% โดยใช้กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล รูรับแสง F2.4 ขนาดพิกเซล 1.12 ไมครอน มาพร้อมโหมด AI Beauty ช่วยปรับใบหน้าให้ดูดีขึ้นอย่างธรรมชาติ, HDR สำหรับถ่ายเซลฟี่ได้ทุกสภาพแสง, Panoselfie ถ่ายเซลฟี่มุมกว้าง เพราะสำหรับเก็บภาพฉากหลังด้วย และยังมีโหมด AI Portrait สำหรับถ่ายภาพหน้าชัดหลังละลาย
ตัวอย่างภาพถ่าย realme C3
realme C3 เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่มาพร้อม realme UI งานบนพื้นฐาน Android 10 โดยออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น
ด้วยส่วนประกอบที่สำคัญ 4 อย่าง ได้แก่ ระบบสี ไอคอน พื้นหลัง และภาพเคลื่อนไหว อีกทั้งยังมี Dark Mode ที่สามารถเปิดใช้งานอัตโนมัติในเวลากลางคืน
ระบบสีของ realme UI ให้สีสันที่สดใส แสดงถึงความมีชีวิตชีวา รวมถึงยังมี Wallpaper ใหม่อีก 7 แบบมีสีสันเข้ากับธีมและไอคอนใหม่ของ realme UI อีกด้วย
ไอคอนปรับแต่งได้ ตามความต้องการของผู้ใช้งาน ทั้งรูปทรง, ขนาด และ งรูปแบบกราฟิกภายในของไอคอน การแสดงภาพเคลื่อนไหวใช้ระบบ Quantum Animation Engine ช่วยให้ realme UI แสดงแอนิเมชั่นที่รวดเร็วและลื่นไหลมากขึ้น
realme UI ยังมาพร้อมคุณสมบัติใหม่อย่าง โหมดโฟกัส, โหมดแชร์ฟังเพลงสองช่องทาง, ฟีเจอร์จับภาพหน้าจอ และ โหมดปกป้องข้อมูลส่วนตัว โหมดโฟกัส ช่วยให้ผู้ใช้งานผ่อนคลายเครียด และออกจากความวุ่นวายของโลกภายนอก เมื่อเปิดโหมดโฟกัส ระบบจะเปิดเพลงฟังสบายๆ ช่วยคลายเครียด พร้อมเปิดโหมดห้ามรบกวน หรือ DO Not Disturb โดยอัตโนมัติ เพื่อปิดการแจ้งเตือนต่างๆ ไม่ให้รบกวนในช่วงที่อย่างพักผ่อน
โหมดแชร์ฟังเพลงสองช่องทาง สนับสนุนการเชื่อมต่อหูฟังไร้สายและแบบมีสายได้พร้อมกันสองคู่ ช่วยให้ผู้ใช้งาน 2 คน ดูหนังหรือฟังเพลงได้จากสมาร์ทโฟนเครื่องเดียวกัน
โหมดจับภาพหน้าจอเฉพาะส่วน ใช้สามนิ้วรูดลงบนหน้าจอเพื่อจับภาพ และสามารถเลือกจับภาพหน้าจอบางส่วนได้โดยไม่ต้องครอปตัดภาพให้วุ่นวายอีกต่อไป โหมดปกป้องข้อมูลส่วนตัว ช่วยป้องกันไม่ให้บุคคลอื่นเข้าถึงข้อมูลและแอพพลิเคชั่นส่วนตัวได้
realme UI ยังถูกออกแบบมาเพื่อให้สมาร์ทโฟนตอบสนองการใช้งานได้รวดเร็วขึ้น ด้วยการลดความหน่วงเมื่อสัมผัสหน้าจอ 35% ลดเวลาโหลดแอพ 25% ให้การใช้งานลื่นไหลขึ้น 25% ลดการใช้พลังงานเมื่อเปิดสแตนด์บายข้ามคืน 35% จึงช่วยให้ประหยัดพลังงานมากขึ้น และเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกมอีก 20%
realme C3 เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกในประเทศไทย ที่ใช้ชิปประมวลผล MediaTek Helio G70 Octa Core 2GHz ผลิตด้วยเทคโนโลยี 12 นาโนเมตร ถือเป็นชิปที่แรงและเร็วที่สุด เมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นในราคาใกล้เคียงกัน
เล่นเกมได้ลื่นไหลยิ่งขึ้นด้วย realme Game Space ที่จะช่วยในการรีดประสิทธิภาพทั้งหมดในตัวเครื่องมาไว้สำหรับเล่นเกมโดยเฉพาะ แบ่งเป็น 3 โหมดคือ Competition Mode,Balanced Mode และ Low Power Mode ซึ่งเมื่อเลือกใช้งานแล้วตัวแบตเตอรี่จะบอกด้วยว่าตัวเครื่องใช้งานต่อได้กี่ชั่วโมง รวมถึงยังเลือกปิดการแจ้งเตือนและสายเรียกเข้าขณะเล่นเกมได้ รวมถึงยังสามารถล็อกแสงหน้าจอไม่ปรับอัตโนมัติขณะเล่นเกมได้เช่นเดียว
realme C3 เป็นสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้น ที่สามารถเล่นเกมได้น่าประทับใจ ด้วยชิปประมวลผล MediaTek Helio G70 ที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองการเล่นเกมได้ดีขึ้น มาพร้อมจีพียู ARM Mali-G52 สนับสนุนเทคโนโลยี MediaTek Gaming ช่วยลดความหน่วงของการเชื่อมต่อเครือข่าย และรองรับการเชื่อมต่อแบบ Dual Wi-Fi เพื่อการเชื่อมต่อที่เร็วที่สุด นั่นหมายถึงการเล่นเกมออนไลน์จะมีความเสถียรมากขึ้น
ชิปประมวลผล MediaTek Helio G70 ยังมาพร้อม Display Latency Optimization ช่วยให้จอแสดงผลตอบสนองต่อการสัมผัสได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ และลื่นไหลยิ่งขึ้น อีกทั้งยังรองรับเทคโนโลยี Premium Picture Quality ช่วยให้หน้าจอแสดงภาพด้วยสีสันที่คมชัดสมจริง สว่างขึ้น เหมาะสำหรับการรับชมวีดีโอและเล่นเกม
ด้านความจำให้มาไม่น้อย RAM 3GB จับคู่กับ ROM 32GB และรองรับการ์ด MicroSD สูงสุด 256GB ข่าวดีก็คือ realme จะแถมการ์ด MicroSD ขนาด 32GB ให้ฟรี!! แต่ของแถมมีจำนวนจำกัด เพราะฉะนั้นต้องรีบไปซื้อตั้งแต่ช่วงแรกของการวางจำหน่าย
realme C3 มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,000mAh ที่สามารถสแตนด์บายได้นาน 727.7 ชั่วโมง หรือ 1 เดือน ใช้โทรได้นานสูงสุด 43.9 ชั่วโมง ใช้งานระบบนำทาง 25.6 ชั่วโมง เล่นเกม PUBG Mobile นานสูงสุด 10.6 ชั่วโมง ฟังเพลงออนไลน์ 19.4 ชั่วโมง หรือ ดูหนังออนไลน์ 20.8 ชั่วโมง
อีกทั้งยังสามารถใช้งานเป็น Power Bank ชาร์จแบตเตอรี่ให้กับสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์เครื่องอื่นได้ ผ่านสาย USB OTG
ถึงแม้ realme C3 จะเป็นสมาร์ทโฟนในระดับเริ่มต้น แต่ realme ก็ให้ความสำคัญในการพัฒนาและผลิต เพราะนี่คือสมาร์ทโฟนที่คนส่วนใหญ่สามารถเข้าถึงได้ง่าย และพวกเขาจะได้ใช้สมาร์ทโฟนที่มีคุณภาพตั้งแต่งานประกอบ ไปจนถึงประสิทธิภาพที่เพียงพอต่อการใช้งานรอบด้าน
จอแสดงผลขนาดใหญ่ กล้องดิจิตอลที่รองรับการถ่ายบุคคล ถ่ายภาพใกล้วัตถุ ชิปประมวลผลที่ออกแบบมาให้เล่นเกมได้ และแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ไม่ต้องชาร์จบ่อย
realme C3 เปิดตัวเพียง 3,999 บาท มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีแดง Blazing Red ได้แรงบันดาลใจมาจากลาวาที่ร้อนระอุ และสีฟ้า Frozen Blue ได้แรงบันดาลใจมาจากธารน้ำแข็งที่เย็นยะเยือก
ส่วนช่องทางออฟไลน์ realme C3 จะเริ่มวางจำหน่ายผ่าน realme Brand Shop และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
พิเศษ!! สำหรับลูกค้า dtac เป็นเจ้าของ realme C3 ได้ในราคาเริ่มต้นเพียง 1,599 บาท ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2563 และสำหรับลูกค้า AIS กับ Truemove H สามารถเป็นเจ้าของ realme C3 ในราคาเริ่มต้นเพียง 1,499 บาท ในวันที่ 3 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป
