Apple ปล่อย iOS 13 ออกมาให้เจ้าของ iPhone ได้อัพเดทมาพักใหญ่แล้ว แต่หลายคนอาจยังไม่ทราบมาก่อนว่ายังมีบางฟีเจอร์ที่ถูกซ่อนไว้ และยังมีฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยใช้งานมาก่อน ซึ่งเว็บไซต์ iDropNews ได้สรุปมาให้ทั้งหมด 12 ฟีเจอร์
1. ตั้งค่า Wi-Fi หรือ Bluetooth อย่างรวดเร็ว
การตั้งค่า Wi-Fi หรือ Bluetooth ในอดีต ต้องสัมผัสหน้าจอหลายครั้งเพื่อเข้าไปที่แอพ Settings แต่ใน iOS 13 สามารถตั้งค่าได้ง่ายๆ จาก Control Center เพียงแตะค้างไว้ที่ไอคอน Wi-Fi หรือ Bluetooth ก็จะสามารถสลับใช้เครือข่าย Wi-Fi หรือปิดการเชื่อมต่ออุปกรณ์ Bluetooth ได้ทันที
2. พิมพ์ข้อความด้วยวิธี Swiping
แผงคีย์บอร์ดบนหน้าจอของ iOS 13 รองรับการพิมพ์ข้อความแบบ Swiping ด้วยการใช้ปลายนิ้วลากผ่านตัวอักษรที่ต้องการพิมพ์ ช่วยให้การพิมพ์ข้อความทำได้รวดเร็วขึ้น เพราะไม่ต้องเสียเวลายกนิ้วเพิ่มกดปุ่มทีละตัวอักษร
3. Sign In with Apple
วิธีการใหม่ในการลงชื่อเข้าใช้ในแอพและเว็บไซต์อย่างเป็นส่วนตัว ง่ายดาย และรวดเร็วยิ่งกว่าที่เคย เพียงแค่ใช้ Apple ID ช่วยปกป้องความเป็นส่วนตัว และความปลอดภัยให้ผู้ใช้โดยไม่เก็บข้อมูลลูกค้าหรือกิจกรรมในแอพ
4. เพิ่มอายุการใช้งานแบตเตอรี่
นอกจากโหมด Low Power แล้ว Apple ยังเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้แบตเตอรี่ของ iPhone ใช้งานได้นานขึ้น เรียกว่า Optimized Battery Charging อาศัยการวิเคราะห์พฤติกรรมการชาร์จแบตเตอรี่ของผู้ใช้งาน เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการชาร์จแบตเตอรี่ให้เหมาะสม ซึ่งจะช่วยชะลออัตราการเสื่อมสภาพของแบตเตอรี่
5. ค้นหาอุปกรณ์แม้ออฟไลน์
iOS ได้รวมฟีเจอร์ Find My iPhone กับ Find My Friends ให้เป็นหนึ่งเดียว เรียกว่าแอพ Find My และยังเพิ่มความฉลาดให้สามารถค้นหาอุปกรณ์ได้ แม้ว่าอุปกรณ์ที่ทำหายหรือถูกขโมยจะอยู่ในสถานะออฟไลน์ ไม่ได้เชื่อมต่อกับ Wi-Fi หรือ Cellular
6. ปรับปรุง Apple Maps
แอพแผนที่นำทางของ Apple ได้รับการปรับปรุงครั้งใหญ่ โดยมีจุดเด่นที่ฟีเจอร์ Look Around แสดงภาพ 3 มิติ คล้ายกับ Street View ของ Google และยังมีฟีเจอร์ Collections ช่วยให้ผู้ใช้งานแชร์ ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว หรือแหล่งช้อปปิ้ง ที่ชื่นชอบกับเพื่อนๆ และยังมีฟีเจอร์ Favorites สำหรับการนำทางไปยังจุดหมายปลายทางที่ไปบ่อย
7. เชื่อมต่อกับไดร์ฟภายนอก
แอพ Files ใน iOS 13 ได้รับการปรับปรุงให้สนับสนุนอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลภายนอกอย่างการ์ด SD และแฟลชไดร์ฟ USB และถ้าต้องการรับส่งโฟลเดอร์ขนาดใหญ่ ก็ยังสามารถบีบอัดหรือแตกไฟลืได้อีกด้วย
8. สลับโหมด Light และ Dark
อย่างที่ทราบกันดีว่า iOS 13 มาพร้อม Dark Mode ที่จะเปลี่ยน User Interface ให้เป็นธีมสีเข้ม เหมาะสำหรับใช้งานในที่แสงน้อย และยังสามารถเปิด Dark Mode หรือสลับกลับไปใช้ Light Mode ได้อย่างรวดเร็วผ่านทาง Control Center
9. แก้ไขข้อความได้ง่ายขึ้น
iOS 13 มาพร้อมคำสั่งท่าทางใหม่ ที่ช่วยให้การพิมพ์และแก้ไขข้อความสะดวกขึ้น ไม่ว่าจะ Cut, Copy, Paste, Undo และ Redo โดยมีวิธีการใช้งานง่ายๆ ดังต่อไปนี้
Cut – ใช้ 3 นิ้ว จีบหน้าจอ
Copy – ใช้ 3 นิ้วจีบหน้าจอ 2 ครั้ง
Paste – ใช้ 3 นิ้ว แตะบนหน้าจอแล้วถ่างออก
Undo – แตะหน้าจอ 3 นิ้ว แล้วลากไปทางซ้าย หรือ เคาะหน้าจอ 2 ครั้ง ด้วย 3 นิ้ว
Redo – แตะหน้าจอ 3 นิ้ว แล้วลากไปทางขวา
10. ปรับปรุงแอพ Reminders
แอพเตือนความจำ หรือ Reminders ได้รับการปรับปรุงใหม่ มาพร้อมความสามารถอันชาญฉลาดในการสร้างและแก้ไขรายการแจ้งเตือน รวมถึงการจัดระเบียบและติดตามรายการแจ้งเตือนได้หลากหลายวิธียิ่งขึ้น
แถบเครื่องมือด่วนช่วยให้ผู้ใช้เพิ่มเวลา วันที่ สถานที่ และธงได้ง่ายขึ้น หรือจะเพิ่มเอกสารแนบก็ได้
นอกจากนี้ยังใช้งานร่วมกับแอพข้อความได้ดียิ่งขึ้น ผู้ใช้จะสามารถแท็กคนอื่นในการเตือนความจำได้อย่างง่ายดาย และรายการจะแสดงขึ้นมาเมื่อผู้ใช้ส่งข้อความหาผู้ที่อยู่ในแท็ก
11. เชื่อมต่อกับเม้าส์
iOS 13 และ iPadOS 13 สนับสนุนการเชื่อมต่อกับเม้าส์ ถึงแม้รูปแบบการใช้งานจะมีความแตกต่างไปจากคอมพิวเตอร์หรือแล็ปท็อป แต่ก็ยังใช้ประโยชน์ได้ โดยเฉพาะการทำงานร่วมกับ iPad จะให้ประสบการณ์ใกล้เคียงแล็ปท็อปมากขึ้น
สามารถเข้าถึงการเชื่อมต่อเม้าส์ได้ที่ Settings > Accessibility > AssistiveTouch
12. ดูและตกแต่งรูปภาพได้ดีขึ้น
แอพ Photos ใน iOS 13 เป็นหนึ่งในการปรับปรุงครั้งสำคัญ สามารถปรับแต่งรูปภาพได้หลากหลายและง่ายดายกว่าเดิมด้วยเครื่องมือใหม่ที่ใช้งานง่าย แถมยังดูผลงานได้ในพริบตา และเครื่องมือการปรับแต่งรูปภาพส่วนใหญ่สามารถใช้ตัดต่อวิดีโอได้แล้ว
แอพ Photosใช้การเรียนรู้ของระบบที่มาพร้อมเครื่องในการปรับแต่งคลังรูปภาพทั้งคลังให้ไฮไลท์รูปภาพที่ดีที่สุด ซ่อนสิ่งรบกวนและรูปภาพที่ซ้ำกันโดยอัตโนมัติเพื่อแสดงเหตุการณ์สำคัญของวันก่อนหน้า เดือนที่แล้ว หรือปีที่แล้ว รูปภาพและวิดีโอได้รับการจัดระเบียบอย่างชาญฉลาด อีกทั้งยังมีการเล่นวิดีโอแบบอัตโนมัติที่จะปลุกให้คลังรูปภาพมีชีวิตขึ้นมาอีกด้วย
นอกจากนี้ ยังสามารถปรับแต่งการจัดแสงภาพถ่ายบุคคลลงในแอพกล้องได้ โดยสามารถเลื่อนแสงให้เข้าใกล้ตัวแบบมากขึ้นได้แบบเสมือนจริงซึ่งจะช่วยให้ดวงตาดูคมชัดและใบหน้าของตัวแบบดูสว่างและเรียบเนียน หรือเลื่อนแสงให้ห่างออกไปเพื่อสร้างลุคที่ดูนุ่มนวล ไร้ที่ติ เอฟเฟ็กต์ High-Key Mono ใหม่ช่วยสร้างลุคที่ดูสวยงามในเฉดสีที่ใกล้เคียงกันสำหรับรูปภาพในโหมดภาพถ่ายบุคคล
ที่มา – iDropNews
https://www.flashfly.net/wp/282206