iPhone รุ่นใหม่ในปีนี้ มาพร้อมฟีเจอร์กล้อง Night Mode เพื่อให้ผู้ใช้งานถ่ายภาพในที่แสงน้อยหรือในเวลากลางคืนได้ดีกว่า iPhone ทุกรุ่นที่ผ่านมา โดยรองรับทั้ง iPhone 11, iPhone 11 Pro และ iPhone 11 Pro Max แต่ก่อนที่เราจะไปเรียนรู้กันว่า Night Mode ใช้งานอย่างไร ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า Night Mode ก็มีข้อจำกัดด้วยเช่นกัน
ข้อจำกัดของ Night Mode
กล้อง Ultra Wide และกล้อง TrueDepth ของ iPhone 11, iPhone 11 Pro และ iPhone 11 Pro Max ไม่รองรับการถ่ายภาพ Night Mode นั่นหมายถึง iPhone 11 ถ่ายภาพ Night Mode ได้เฉพาะกล้องหลัก ส่วน iPhone 11 Pro และ iPhone 11 Pro Max ใช้ได้ทั้งกล้องหลักและกล้อง Telephoto
Night Mode ไม่มีเมนูในแอพกล้อง นั่นหมายถึง ผู้ใช้งานไม่สามารถตั้งค่าให้เปิดหรือปิด Night Mode ได้ด้วยตัวเอง
Night Mode จะทำงานเองโดยอัตโนมัติ เมื่อเจ้าของ iPhone ถ่ายภาพในบริเวณที่มีแสงสว่างน้อยกว่า 10 ลักซ์
ไม่แนะนำให้ถ่ายภาพวัตถุที่กำลังเคลื่อนที่ด้วย Night Mode
เมื่อวาง iPhone ไว้บนขาตั้ง Night Mode จะสามารถเปิดรับแสงได้นาน 10 วินาที ซึ่งช่วยให้ภาพถ่ายทีคุณภาพมากขึ้น
วิธีใช้งาน Night Mode
อย่างที่กล่าวไปข้างต้น Night Mode จะเปิดใช้งานโดยอัตโนมัติ เมื่ออยู่ในบริเวณที่มีแสงสว่างน้อยกว่า 10 ลักซ์ แต่จะรู้ได้อย่างไรว่า Night Mode เปิดทำงานหรือยัง?
เข้าไปที่แอพกล้องพื้นฐานของ iOS แล้วสังเกตที่ไอคอนดวงจันทร์ตรงมุมบนซ้าย
ถ้าหากไอคอนดวงจันทร์เป็นสีเหลือง แสดงว่า Night Mode พร้อมใช้งานแล้ว และจะมีตัวเลข 1s ถึง 10s แสดงผลขึ้นมาด้วย ซึ่งเป็นระยะเวลา (วินาที) ที่กล้องเปิดรับแสง
กรณีที่ไอคอนดวงจันทร์เป็นสีเทา แสดงว่ามีโหมดกลางคืน แต่ไม่เปิดใช้งาน
ถ้าพบไอคอนดวงจันทร์เป็นสีเหลือง สามารถแตะปุ่มชัตเตอร์เพื่อถ่ายภาพได้ทันที โปรดจำไว้ว่า Night Mode จะใช้เวลาในการจับภาพนานกว่าโหมดถ่ายภาพทั่วไป ขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการเปิดรับแสง 1 ถึง 10 วินาที ดังนั้น ควรถือ iPhone ให้นิ่ง หรือใช้ขาตั้งช่วย
เพื่อให้ Night Mode มีประสิทธิภาพมากขึ้น ผู้ใช้งานสามารถตั้งค่าให้เปิดรับแสงได้นานสูงสุด 30 วินาที ด้วยการแตะที่ไอคอนดวงจันทร์ แล้วลากแถบตัวเลขเหนือปุ่มชัตเตอร์ เพื่อกำหนดระยะเวลาเปิดรับแสงที่ต้องการ (กรณีที่ต้องการเปิดรับแสงนานกว่าค่าอัตโนมัติ ควรวาง iPhone ไว้บนขาตั้ง)
ที่มา – iPhoneHacks
https://www.flashfly.net/wp/270256