สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า การใช้สมาร์ทโฟนและโน้ตบุ๊คอาจเป็นสาเหตุให้กล้ามเนื้อและผิวหน้าสูญเสียความยืดหยุ่น เพราะผู้คนใช้เวลาก้มหน้าก้มตาเล่นสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์พกพาเพิ่มมากขึ้ โดยผู้เชี่ยวชาญด้านความงาม เรียกปรากฎการณ์นี้ว่า “สมาร์ทโฟน เฟซ”นั้น คาดว่า แนวโน้มดังกล่าวอาจจะไปกระตุ้นให้ผู้คนหันไปทำทรีทเมนต์กระชับใบหน้า และเสริมคาง ที่มีค่าใช้จ่ายสูงถึง 214,500 บาทกันมากขึ้น
สถิติจากสมาคมศัลยแพทย์พลาสติกในสหรัฐ พบว่า “การเสริมคาง” เป็นเทรนด์ศัลยกรรมเพื่อความงามที่มีอัตราการเติบโตเร็วที่สุดเป็นประวัติการณ์ ปีที่แล้วทิ้งห่างการเสริมหน้าอก การฉีดโบท็อกซ์และดูดไขมันแบบไม่เห็นฝุ่น
ขณะที่ ศัลยแพทย์หัวแถวหลายคน เชื่อว่า เทคโนโลยีเป็นต้นเหตุของเทรนด์ดังกล่าว เพราะท่านั่งที่ไม่ดีจะทำให้แก้มหย่อนคล้อย คาง 2 ชั้น และเกิด”เส้นหุ่นเชิด” หรือรอยย่นจากมุมปากถึงคาง “หากคุณก้มหน้าก้มตาดูหน้าจอไอโฟนหรือโน้ตบุ๊คหลายชั่วโมงติดต่อกัน กล้ามเนื้อคอจะย่น และแรงโน้มถ่วงจะดึงบริเวณแก้มลง” ดอกเตอร์เมอร์วิน แพตเตอร์สัน จากวูดฟอร์ม เมดิคอล กรุ๊ป อธิบาย
รายงานการสื่อสารทางการตลาดปี 2554 ของออฟคอม ระบุว่า ปีที่แล้วผู้ใหญ่ใช้มือถือ 91% คิดเป็นสมาร์ทโฟน 27% ขณะที่รายงานของเฮลธ์ แอนด์ เซฟตี้ คาดว่า ในปี 2558 พนักงานราว 70-80% จะใช้โน้ตบุ๊คทำงานจากบ้าน
ที่มา – bangkokbiznews