รOPPO ส่งสมาร์ทโฟน K3 เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยแล้ว มาพร้อมสโลแกน “สเปคแรง สแกนหน้าจอล้ำ” แรงด้วยชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 710 ความจำ RAM 8GB จับคู่กับ ROM 128GB และรองรับฟีเจอร์ปลดล็อคสมาร์ทโฟน ด้วยการสแกนลายนิ้วมือบนจอแสดงผล ซึ่งกำลังเป็นรุ่นที่ถูกถามถึงมากที่สุดในเวลานี้ ตามมาดูกันเลยว่าจะมีอะไรที่น่าสนใจบ้าง
มาเริ่มกันที่ตัวกล่องของ OPPO K3 นั้นออกแบบมาแนวเดียวกับ OPPO Reno Series ที่วางจำหน่ายไปก่อนหน้า จะเป็นทรงยาวด้านบนมีชื่อรุ่น K3 และมีโลโก้ OPPO แบบใหม่อยู่ด้านล่าง ที่ตัวกล่องยังมีลวดลายสวยงามที่ดูแล้ว OPPO มีความใส่ใจในการออกแบบอย่างมาก
สำหรับสีที่ทีมงานนำมาทดสอบใช้งานนั้นเป็นสีเขียวเข้มที่ชื่อว่า Jade Black โดยด้านหลังระบุชัดเจนว่าเป็นรุ่นแรม 8GB และความจุ 128GB ถือได้ว่าเป็นสมาร์ทโฟนอีกรุ่นของ OPPO ที่ทำสเปกและราคาออกมาได้ดีมากในตอนนี้
สำหรับอุปกรณ์ต่างๆภายในกล่องจะมีตัวเครื่อง OPPO K3 เคสใส คู่มือการใช้งานเบื้องต้น เอกสารการรับประกัน สายชาร์จแบบ USB-C และ อุปกรณ์ชาร์จแบบพกพารองรับ VOOC 3.0 สุดท้ายกับเข็มจิ้มถาดใส่ซิม โดยในรุ่นนี้จะไม่มีชุดหูฟัง 3.5 มม. แถมมาให้ด้วย แต่ด้วยราคาและสเปกแบบนี้ก็ถือได้ว่าคุ้มมากๆแล้ว
การออกแบบของ OPPO K3 ให้ความโดดเด่นตั้งแต่ด้านหน้า ด้วยจอแสดงผล AMOLED แบบ Panoramic Screen ที่มีขอบจอบางเฉียบ ไร้รายบาก ความละเอียด 1080 x 2340 พิกเซล ขนาดใหญ่ 6.5 นิ้ว ให้ขอบเขตสีกว้าง 91% NTSC อัตราส่วนภาพ 19.5:9 สัดส่วนหน้าจอต่อบอดี้ 91.1% และป้องกันรอยด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 5
จอแสดงผลของ OPPO K3 ยังรองรับฟีเจอร์สแกนลายนิ้วมือเพื่อปลดล็อค ด้วยการติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ใต้จอแสดงผล พร้อมนำเทคโนโลยี AI มาช่วยจดจำลายนิ้วมือ เพื่อให้มีความแม่นยำและรวดเร็วขึ้น โดยมีความเร็วในการปลดล็อคเพิ่มขึ้น 28.5% และมีอัตราความสำเร็จในการปลดล็อคเพิ่มขึ้น 10%
เบื้องหลังที่ทำให้จอแสดงผลของ OPPO K3 ไร้รอยบาก ก็คือระบบกล้องหน้าแบบป๊อปอัพหรือที่เรียกว่า Rising Camera โดยซ่อนกล้องไว้ที่ด้านบน ติดตั้งอยู่ในตำแหน่งกึ่งกลางพอดี เพื่อให้ได้ภาพถ่ายเซลฟี่ที่เป็นธรรมชาติ ได้รับแรงบันดาลใจมาจากขวดน้ำหอม สามารถสไลด์ขึ้น-ลงในระยะเวลาเพียง 0.74 วินาที ผ่านการทดสอบมากกว่า 200,000 ครั้ง และมีระบบตรวจจับการตก โดยกล้อง Rising Camera จะเลื่อนเก็บอัตโนมัติเมื่อสมาร์ทโฟนหล่น
ด้านหลังใช้ดีไซน์แบบ 3D ไร้รอยต่อ ครอบทับด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 5 ติดตั้งกล้องคู่หลัง แฟลช และโลโก้ OPPO ไว้ตรงกึ่งกลางทำให้ดูสมดุล ส่วนสีสันของบอดี้มีให้เลือก 2 เฉดสี ได้แก่ Jade Black ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสีของน้ำทะเลลึก ให้ความรู้สึกลึกลับน่าค้นหา และสี Pearl White ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสีสันของดวงอาทิตย์ที่กำลังจะโผล่พ้นขอบฟ้า ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ความมืดกำลังจะแปรเปลี่ยนเป็นโทนสีทองของแสงจากพระอาทิตย์ยามเช้า
ขอบด้านข้างมีความบาง 9.4 มิลลิเมตร ติดตั้งปุ่มเพิ่มและปุ่มลดระดับเสียงไว้ทางขวาของจอแสดงผล
อีกข้างมีถาดใส่ซิมการ์ด 2 ช่อง หรือรองรับ 2 ซิมการ์ด Dual Nano SIM (ไม่มีช่องใส่การ์ด microSD) ถัดลงมาเป็นปุ่มเพาเวอร์
ด้านล่างประกอบไปด้วย ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร, ไมโครโฟน, พอร์ต USB Type-C และ ลำโพง
ส่วนด้านบนนอกจากจะติดตั้งกล้อง Rising Camera ไว้ตรงกึ่งกลางแล้ว ตรงมุมยังมีไมโครโฟนตัวที่สองติดตั้งมาให้อีกด้วย ช่วยลดเสียงรบกวนรอบข้าง
OPPO K3 มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 3,765mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว VOOC Flash Charge 3.0 ผ่านพอร์ต USB Type-C โดยใช้อัลกอริทึม VFC fast-charging เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ ความเสถียร และ ความรวดเร็วในการชาร์จ จึงชาร์จเร็วกว่าเดิม 25% แถมยังปลอดภัย ด้วยระบบป้องกัน 5 ชั้น ใช้แรงดันต่ำในระหว่างชาร์จ และชาร์จด้วยอุณหภูมิที่ต่ำกว่าเทคโนโลยีชาร์จเร็วทั่วไป เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความร้อนสูงจนเกินไป สามารถใช้งานสมาร์ทโฟนพร้อมกับชาร์จแบตเตอรี่ไปด้วยได้อย่างสบายใจ
OPPO เลือกใช้ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 710 สำหรับติดตั้งลงในสมาร์ทโฟน K3 ซึ่งผลิตด้วยเทคโนโลยี 10 นาโนเมตร 8 แกนประมวลผล (2.2GHz Dual Core + 1.7GHz Hexa Core) มาพร้อม จีพียู Adreno 616 และ Artificial Intelligence Engine ตอบสนองการใช้งานด้าน AI อีกทั้งยังมีระบบระบายความร้อน 5 ขั้นตอน สามารถลดอุณหภูมิได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เล่นเกมได้ยาวนานขึ้น จากการทดสอบด้วย AnTutu Benchmark ได้คะแนนเป็นที่น่าพอใจ
จุใจกับความจำ RAM 8GB แบบ LPDDR4x Dual Channel และความจำ ROM 128GB มาตรฐาน UFS 2.1 ให้ทั้งความเร็วและยังใช้พลังงานต่ำ มีอัตราการอ่านต่อเนื่องเพิ่มขึ้น 63.66% และอัตราการอ่านแบบสุ่มเพิ่มขึ้น 26.64% เมื่อเทียบกับรุ่น K1
นอกจากใช้ชิป Snapdragon 710 พร้อมความจำ RAM 8GB สมาร์ทโฟน OPPO K3 ยังมาพร้อมเทคโนโลยี Hyper Boost 2.0 ซึ่งประกอบด้วย System Boost 2.0 ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบโดยรวม ไม่ว่าจะเป็นการนำทาง การใช้เบราว์เซอร์ เล่นเพลง และ Game Boost 2.0 ช่วยปรับปรุงระบบให้เล่นเกมได้ลื่นไหลและสนุกยิ่งขึ้น
Game Boost 2.0 ประกอบไปด้วยเทคโนโลยี Frame Boost สำหรับตรวจสอบทรัพยากรแบบเรียลไทม์ เพื่อจัดการระบบในแต่ละเฟรม จึงสามารถคาดการณ์ความล่าช้าที่อาจเกิดขึ้นได้ และจัดสรรทรัพยากรให้ตอบสนองการทำงานได้อย่างราบรื่นและรวดเร็ว ขณะที่ Touch Boost ช่วยให้ OPPO K3 ตอบสนองการสัมผัสได้เร็วขึ้น
OPPO K3 ยังมี Game Space สำหรับจัดระเบียบเกมได้อย่างง่ายดาย พร้อมการตั้งค่าระบบให้เหมาะกับการเล่นเกมในรูปแบบต่างๆ และยังมี Gaming Assistant ที่ช่วยในเรื่องประสบการณ์การเล่นเกม สามารถปิดการแจ้งเตือนในระหว่างเล่นเกมได้ แต่ถ้าไม่ได้ปิด แถบแจ้งเตือนก็ถูกออกแบบมาให้โปร่งแสง แสดงผลในเวลาสั้นๆ เพื่อไม่ให้รบกวนการเล่นเกม สามารถเปิดระบบ Multi-tasking เพื่อเล่นเกมพร้อมกับใช้งานแอพพลิเคชั่นอื่นได้ รวมไปถึงฟีเจอร์จับภาพหน้าจอทั้งภาพนิ่งและวีดีโอ
ไม่ใช่เพียงกราฟิกที่ OPPO ให้ความสำคัญ แต่ด้านเสียงก็ใส่ใจเช่นกัน OPPO K3 มาพร้อมระบบเสียง Dolby Atmos ให้คุณภาพเสียงที่ทรงพลังและสมจริง เพื่อมอบประสบการณ์ความบันเทิงอย่างเต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม ก็ให้เสียงที่คมชัด และเก็บได้ทุกรายละเอียด
OPPO K3 ทำงานบนพื้นฐาน Android 9 Pie สวมทับด้วย ColorOS 6.0 ซึ่งออกแบบมาสำหรับสมาร์ทโฟนที่ใช้ดีไซน์แบบ Full Screen โดยเฉพาะ เน้นควบคุม User Interface ด้วยคำสั่งนิ้ว ออกแบบธีมใหม่ให้เรียบง่าย แต่สวยงามด้วยการไล่ระดับสี ไอคอนแอพได้รับการออกแบบใหม่ วอลล์เปเปอร์ชุดใหม่ รูปแบบตัวอักษรใหม่ที่อ่านง่ายสบายตาขึ้น และเอฟเฟกต์ภาพเคลื่อนไหวของ User Interface ที่ให้ทั้งความสวยงามและลื่นไหล
กล้องเซลฟี่ Rising Camera ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง F2.0 จะสไลด์ขึ้นอัตโนมัติ พร้อมแสดงเอฟเฟกต์แสงวิ่งขึ้นไปตามขอบจอแสดงผล เมื่อมีการสลับมาใช้กล้องหน้า โดยมาพร้อมเทคโนโลยี AI Beautification และยังรองรับฟีเจอร์ Facial Unlock สามารถสแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อคได้ ถึงแม้เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ฝังไว้ใต้จอแสดงผล จะทำงานได้อย่างรวดเร็วก็ตาม
กล้องคู่หลัง 16 + 2 ล้านพิกเซล กล้องหลักใช้รูรับแสง F1.7 กล้องรอง F2.0 ทำหน้าที่จับระยะชัดลึก นั่นหมายถึงมีโหมด Portrait อย่างแน่นอน แต่ไฮไลท์อยู่ที่ Ultra Night Mode 2.0 สามารถถ่ายภาพในเวลากลางคืน หรือในที่แสงน้อยได้อย่างคมชัดแบบไม่น่าเชื่อ ไม่ว่าจะถ่ายภาพบุคคล วัตถุ อาคาร สถานที่ โดยเฉพาะภาพถ่ายบุคคล จะถูกประมวลผลแยกจากฉากหลัง ทำให้สีผิวมีชีวิตชีวา และได้ภาพที่คมชัดขึ้น
กลังหลังมีโหมด Dazzle Color Mode 2.0 ที่ใช้ AI มาช่วยเติมสีสันและความสว่างสดใส ไม่ว่าจะถ่ายภาพในที่แสงน้อยให้มีชีวิตชีวาขึ้น ภาพย้อนแสงมีรายละเอียดเด่นชัด ภาพพระอาทิตย์ตกก็มีสีสันสมจริง สำหรับการถ่ายวีดีโอ กล้องหลังรองรับความละเอียดสูงสุด 4K ส่วนกล้องหน้าสามารถบันทึกวีดีโอในความละเอียดสูงสุดที่ Full HD 1080p
สรุปแล้ว OPPO K3 เป็นสมาร์ทโฟนที่มีดีไซน์สวยงามพรีเมี่ยม อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีทั้งกล้องเซลฟี่ Rising Camera สแกนนิ้วบนจอ ชาร์จเร็ว VOOC Flash Charge 3.0 เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนระดับกลาง ถ่ายรูปสวยทั้งกลางวันและกลางคืน จอใหญ่ เล่นเกมได้ และถ้าจะใช้อินเตอร์เน็ตจาก Wi-Fi ก็รองรับทั้งคลื่น 2.4 และ 5GHz โดยมีประสิทธิภาพที่คุ้มกับค่าตัวเพียง 9,990 บาท
สาเหตุที่ OPPO K3 ทำราคาได้น่าสนใจ เนื่องมาจากเน้นวางจำหน่ายผ่านระบบออนไลน์ สามารถสั่งซื้อได้จากเว็บไซต์ทางการของ OPPO หรือร้านค้าออนไลน์ Lazada, Shopee และ JD Central
DTAC >> https://bit.ly/2MQZpRx
Lazada >> https://bit.ly/2KpWaPe
Shopee >> https://bit.ly/31wvwtD
JD Central >> https://bit.ly/2MRGG8j