เรียกได้ว่าสิ้นสุดการรอคอยกันไปอีกรุ่นกับสมาร์ทโฟนที่แฟนๆทั่วโลกให้ความสนใจมากรุ่นหนึ่งจาก Samsung นั่นก็คือ Galaxy Note ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีทุกครั้งที่มีการเปิดตัวรุ่นใหม่ในทุกๆปี โดยในปีนี้ก็มาถึงรุ่น 10 แล้วเช่นเดียวกับซีรีย์ Galaxy S ที่เปิดตัวออกมาพร้อมกันถึง 3 รุ่นได้แก่ Galaxy S10,Galaxy S10+ และรุ่นราคาประหยัด Galaxy S10e
โดยในครั้งนี้ Samsung ก็ไม่ทำให้แฟนๆ Galaxy Note ผิดหวังจัดเต็มกับนวัตกรรมใหม่ๆและเทคโนยีแบบอัดแน่นสุดๆ แถมยังขยายกลุ่มผู้ใช้งานอีก ด้วยการเปิดตัวออกมาพร้อมกันถึง 2 ขนาดหน้าจอออกมาเป็นครั้งแรกกับ Galaxy Note 10 หน้าจอ 6.3 นิ้วและ Galaxy Note 10+ หน้าจอ 6.8 นิ้ว
ซึ่งตอนนี้ทั้ง 2 รุ่นตัวเป็นๆก็มาอยู่ในมือถือของทีมงาน @flashfly เรียบร้อยแล้วมาดูกันว่ามีอะไรที่น่าสนใจกันบ้างนอกจากจะมีขนาดหน้าจอแตกต่างกันแล้ว รวมถึงมีดีไซน์สวยงามและพรีเมี่ยมแบบสุดๆที่มองเห็นสะดุดตาเป็นอย่างแรก
เป็นที่ทราบกันว่ากลุ่มเป้าหมายของผู้ใช้งาน Galaxy Note ที่ทาง Samsung วางไว้คือกลุ่มคนทำงานแบบ Work Flow ที่มีไลฟ์สไตล์แตกต่างจากกลุ่มพนักงานออฟฟิสทั่วไปที่ต้องอยู่ติดโต๊ะทำงานตลอดเวลา สามารถทำงานพร้อมกับไปเที่ยวซึ่ง Galaxy Note 10 จะมาช่วยทำการทำงานในลักษณะนี้ได้ดียิ่งขึ้น เป็นที่ทราบกันว่า Galaxy Note นั้นขึ้นชื่อเรื่องหน้าจอขนาดใหญ่เหมาะแก่หารทำงาน รวมถึงการขีดเขียนและจดบันทึกต่างๆ แต่สิ่งนี้ก็ยังเป็นข้อด้อย มีผลสำรวจออกมาว่าผู้ใช้สมาร์ทโฟนกว่า 24% ไม่เลือกซื้อ Galaxy Note เพราะว่ามีขนาดใหญ่เกินไป ในปีนี้ Samsung เลยเปิดตัวออกมา 2 ขนาดหน้าจอเลย
Galaxy Note 10 นั้นมีหน้าจอ 6.3 นิ้วขนาดตัวเครื่องเท่ากับ Galaxy S10 พกพาสะดวกกว่าส่วน Galaxy Note 10+ นั้นมีหน้าจอใหญ่ถึง 6.8 นิ้ว ขณะที่ขนาดตัวเครื่องนั้นเท่ากับ Galaxy Note9 และ Galaxy S10+
Samsung ได้ทำการขยายขนาดหน้าจอตัวเครื่องไปจนสุดขอบจอและย้ายตำแหน่งกล้องเซลฟี่มาไว้ตรงกลางในหน้าจอ นอกจากจะดูสมมาตรแล้วยังช่วยให้ถ่ายรูปเซลฟี่ได้สวยยิ่งขึ้น สายตามองตรงไปที่กล้องอย่างแน่นอน
หน้าจอกว้างสุดขอบนี้มีชื่อเรียกว่า Cenamatic Infinity Display หน้าจอสีสดใสเป็นแบบ Dynamic AMOLED เร่งแสงเพิ่มความสว่างได้ถึง 1200 nits และยังสามารถตัดแสงสีฟ้าได้อีกด้วย โดย Galaxy Note 10 และ Galaxy Note 10+ ใช้สแกนนิ้วแบบ Ultra Sonic ปรับปรุงใหม่ สแกนได้ง่ายกว่าเดิม
สำหรับปุ่มกดด้านข้างนั้นจะเหลือแค่ฝั่งซ้ายมือเพียงฝั่งข้างเดียว ซึ่งจะมีปุ่มเพิ่ม ลดเสียง และตัดปุ่ม Bixby ออกและใส่ปุ่ม Power เข้าไปแทน ซึ่งสามารถตั้งค่าเรียกใช้งาน Bixby ได้อีกด้วย ที่ด้านล่าง Samsung ได้ตัดช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม ออกไปอย่างเป็นทางการแล้ว เพื่อให้ได้ดีไซน์สวยงามและตัวเครื่องมีพื้นที่เหลือสามารถใส่แบตได้เพิ่ม 100mAh รวมถึง Hipstic Feedback ไว้ในตัวเครื่องได้อย่างแนบเนียน
ทางด้านสเปกนั้นจัดเต็มแบบไม่เกรงใจใครมาพร้อมกับชิปเซ็ต Exynos 825 รุ่นใหม่ล่าสุดเป็นชิประดับ 7 นาโนเมตร ที่ผลิตขึ้นด้วยเทคโนโลยี EUV จึงมีประสิทธิภาพดีกว่าชิป Exynos 9820 ซึ่งเป็นชิประดับ 8 นาโนเมตร ที่ Samsung ใช้กับ Galaxy S10 series ไปก่อนหน้า ซึ่งทำงานได้เร็วขึ้น 18%
โดย Galaxy Note 10+ รุ่นใหญ่ใส่แรมมาถึง 12GB ความจุ 256GB รองรับ MicroSD สูงสุด 1TB แบตเตอรี่ขนาด 4300mAh รองรับการชาร์จสูงสุด 45W สามารถชาร์จแบตเตอรี่ 0-100% ได้ภายใน 65 นาทีแต่ในชุดจำหน่ายจะให้อแดปเตอร์ 25W มาเท่านั้นอยากชาร์จเร็วกว่าเดิมต้องซื้อเพิ่ม นอกจากนี้ยังรองรับการชาร์จด่วนแบบไร้สายที่ความเร็ว 15W
สำหรับรุ่นเล็ก Galaxy Note 10 มาพร้อมแรม 8GB ความจุ 256GB เพิ่มเมมไม่ได้ แบตเตอรี่ความจุ 3500 mAh ที่ความเร็ว 25W และ 12W เมื่อชาร์จแบบไร้สาย
S Pen ปากกาอัจฉริยะไปอีกขั้น มีไจโรเซ็นเซอร์ 6 แกน
ขึ้นชื่อว่า Galaxy Note ก็ต้องมีปากกา S Pen เป็นของคู่กันโดยในครั้งนี้ได้ถูกพัฒนาขึ้นไปอีกขั้นด้วยการใส่ไจโรเซ็นเซอร์เข้าไปถึง 6 แกน ทำปากกา S Pen ธรรมดากลายเป็นไม้กายสิทธิ์ได้ในพริบตาที่ดึงออกมาจากตัวเครื่อง สามารถใช้คำสั่งท่าทางหรือ Air Command ได้ ตั้งแต่การตวัด S Pen ไปทางซ้าย ขวาในการเปลี่ยนโหมดกล้อง หรือเปลี่ยนเพลงได้ หรือตวัดขึ้นบน ลงล่างในการสลับโหมดกล้องหน้าหลัง แถมยังสามารถหมุนควงไปทางซ้ายหรือขวา เพื่อซูมเข้า เพื่อซูมกล้องเข้าออกได้ตามใจอีกด้วย
และสำหรับการเล่นเกมนั้นปากกา S Pen ของ Galaxy Note 10 ก็สามารถใช้งานได้ไม่ต่างจากจอยเกมเครื่อง Nintendo Wii เลยทีเดียว อย่างเกม Harry Potter เราก็จะสามารถใช้ S Pen แทนไม้กายสิทธิ์ได้อีกด้วย
สำหรับฟีเจอร์ใหม่ของการจดบน Galaxy Note นั้นก็สามารถแปลงลายมือที่อ่านยากๆให้เป็นตัวอักษรได้ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษได้อย่างไม่น่าเชื่อ แถมยังแปลงได้พร้อมกันทีละมากๆอีกด้วย แปลงเสร็จก็สามารถแชร์เป็นไฟล์ .Doc ได้เลย สะดวกอย่างมาก
การแคปหน้าจอก็สามารถย่อขนาดหน้าจอ และเขียนต่อได้ทันทีเลยไม่ต้องเสียเวลาแคปหน้าจอยาวๆหลายหน้า นอกจากนี้ที่หน้าจอ Screen off memo สามารถเปลี่ยนสีหมึกที่จดได้ 5 สีตามใจชอบ ไม่จำเป็นต้องเลือกสีหมึกตามสีเครื่องอีกแล้ว แถมขณะที่เขียนยังมีเสียงปากกาจริงๆ ถึง 6 แบบอาทิ ดินสอ ปากกาคอแร้ง เสียงจะเปลี่ยนไปตามหัวปากาที่เลือก ซึ่งให้ความรู้สึกเขียนปากกาบนกระดาษจริงๆ
ฟีเจอร์ใหม่ AR Noodel ที่น่าสนใจเป็นพิเศษคือการใช้ปากา S Pen วาด AR ไปบนใบหน้าเพื่อนตัว AR ก็จะติดตามไปทุกที่ แถมยังจำได้ว่า AR นี้เป็นใบหน้าของใครอีกด้วย ซึ่งเราสามารถเซฟออกมาเป็นคลิปวิดีโอแชร์อวดเพื่อนได้อีกด้วย รวมถึงยังสร้าง Live Message เขียนบนวิดีโอได้ 15 วินาที หรือกดอัดหน้าจอและเปิดกล้องหน้าไปด้วยได้ สามารถปิดหรือเปิด ไมค์ได้ รองรับ Full HD
Samsung Dex ต่อคอมได้ สามารถใช้งานโทรได้ปกติ รองรับเม้าส์และคีย์บอร์ด ที่เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์อยู่ สามารถโอนถ่ายไฟล์ลงคอม ได้ทันที หรือจะก็อปปี้ไฟล์จากคอมไปยังมือถือได้อีกด้วย. รองรับทั้ง Windows 10 ,7 ส่วนเครื่อง Mac ก็รองรับ Mac OS เวอร์ชั่น 10.13 และ 10.14 ขึ้นไป การเชื่อมต่อ Dex แบบไร้สายก็สามารถทำได้ด้วย Link to Windows ซิงค์ข้อมูลผ่านคลาว์แบบชั่วคราว ในการส่งรุปถ่ายจากมือถือ ไปยังคอมได้ทันที ถ้าอยู่ใน Wifi เดียวกันสามารถ มิลเลอร์หน้าจอได้
กล้องดิจิตอลที่ดีที่สุดของ Samsung
Galaxy Note 10+ มาพร้อมกล้องหลัง 4 ตัว ส่วน Galaxy Note 10 มีกล้องหลัง 3 ตัว ประกอบด้วย กล้องมุมกว้างพิเศษ 123 องศา ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง F2.2 กล้องหลัก 12 ล้านพิกเซล รูรับแสงปรับได้ระหว่าง F1.5 / F2.4 กล้องเทเลโฟโต้ 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง F2.1 ออปติคอลซูม 2 เท่า อย่างไรก็ตาม Galaxy Note 10+ จะได้เซ็นเซอร์กล้อง 3 มิติ ToF (Time of Flight) มาช่วยจับระยะชัดลึกให้แม่นยำมากขึ้น และสแกนวัตุแบบ 3 มิติได้
- กล้อง Ultrawide มุมกว้างพิเศษ 123 องศา ความละเอียด 16MP f2.2
- กล้องหลักความละเอียด 12MP f1.5 / f2.2 มุมกว้าง 77 องศา
- กล้อง Telephoto ความละเอียด 12MP f2.1 Optical Zoom 2x
- กล้อง ToF (Time of Flight )
สำหรับกล้องเซลฟี่ของทั้ง 2 รุ่น มีความละเอียดเท่ากัน 10 ล้านพิกเซล รูรับแสง F2.2 มาพร้อมโหมด Scene Optimizer ช่วยระบุฉากหรือวัตถุเพื่อปรับค่ากล้องให้อัตโนมัติ รองรับ 30 รูปแบบ, Shot Suggestions ผู้ช่วยอัจฉริยะ คอยให้คำแนะนำองค์ประกอบของการถ่ายภาพ ให้ได้ภาพที่สวยงามที่สุดเหมือนเป็นช่างภาพมืออาชีพ, Night Mode หรือโหมดถ่ายภาพในเวลากลางคือ และโหมดถ่ายภาพ Instagram
วิดีโอ
Galaxy Note 10 series ถ่ายวีดีโอได้อย่างคมชัด ด้วยฟีเจอร์กันสั่น Super Steady และสามารถใช้พร้อมกับ Optical Zoom ได้ มีฟีเจอร์ Audio Zoom ช่วยเก็บเสียงจากสิ่งที่กำลังซูมให้ดังมากขึ้น ด้วยความช่วยเหลือจากไมโครโฟน ที่ติดตั้งมาให้ถึง 3 ตัว
Galaxy Note 10 series ยังรองรับฟีเจอร์ Live Focus ในการถ่ายวีดีโอได้ด้วย ช่วยละลายฉากหลัง และดูดสีฉากหลังได้ สามารถตัดต่อวีดีโออย่างมืออาชีพได้โดยไม่ต้องติดตั้งแอพพลิเคชั่นใดๆเพิ่ม ต่างจากเดิมที่ทำได้เพียงตัดบางส่วนของคลิปเท่านั้น
สำหรับกล้องเซลฟี่ของทั้ง 2 รุ่น มีความละเอียดเท่ากัน 10 ล้านพิกเซล รูรับแสง F2.2 และมี Night Mode โหมดถ่ายภาพกลางคืนให้อีกด้วย
Samsung Dex
Samsung Dex สำหรับ Galaxy Note 10 series สนับสนุนการเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ ในขณะที่ยังสามารถใช้ฟีเจอร์การโทรได้ปกติ รองรับเม้าส์และคีย์บอร์ดที่เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์อยู่ สามารถโอนถ่ายไฟล์ลงคอมพิวเตอร์ได้ทันที และสามารถถ่ายโอนไฟล์จากคอมพิวเตอร์ลงในสมาร์ทโฟนได้เช่นกัน โดยรองรับคอมพิวเตอร์ที่ทำงานบน Windows 10 หรือ Windows 7 รวมถึง Mac OS เวอร์ชั่น 10.13 หรือ 10.14 ขึ้นไป
หรือจะเชื่อมต่อ Dex ในรูปแบบไร้สายก็ทำได้เช่นกัน ด้วย Link to Windows สำหรับซิงค์ข้อมูลผ่านคลาว์แบบชั่วคราว สามารถส่งภาพถ่ายไปยังคอมพิวเตอร์ได้ทันที และถ้าอยู่ในเครือข่าย Wi-Fi เดียวกัน ก็สามารถสะท้อนหรือมิลเลอร์หน้าจอได้เลย
เกม
Samsung ยังเป็นพาร์ทเนอร์กับผู้ผลิตเกมต่างๆ อย่างเกม Harry Potter: Wizards Unite สามารถใช้ S Pen ร่ายคาถาแทนไม้กายสิทธิ์ได้ สามารถเล่นเกม Candy Crush บนอากาศได้ด้วย AR และยังเป็นพาร์ทเนอร์กับเกม Call of Duty: Mobile
ราคาและการวางจำหน่าย
Samsung เปิดราคา Galaxy Note 10 ในประเทศไทยอยู่ที่ 32,900 บาท เป็นรุ่นแรม 8GB ความจุ 256GB มี 3 สีให้เลือกคือ Aura Glow ,Aura Black และ Aura Pink ส่วน Galaxy Note 10+ นั้นจะเป็นรุ่นแรม 12GB ความจุ 256GB ราคา 37,900 บาท และ 40,900 บาทในรุ่นความจุ 512GB มี 3 สีให้เลือกคือ Aura Glow ,Aura Black และ Aura White นอกจากนี้ยังมีโปรโมชั่นกับค่ายมือถือราคาเริ่มต้นแค่ 15,900 บาทอีกด้วย
Galaxy Note 10 และ Galaxy Note 10+ เปิดจองตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 23 สิงหาคม 2562 ใครที่จอง Galaxy Note 10+ ความจุ 256GB จะได้เพิ่มความจุเป็น 512GB และถ้าใครจอง Galaxy Note 10 จะได้หูฟัง Galaxy Buds มูลค่า 4,990 บาท
รวมโปรโมชั่น Samsung Galaxy Note 10 และ Note 10+ จาก AIS, Dtac, TrueMove H เริ่มต้นเพียง 15,900 บาท
สรุปสเปก Galaxy Note 10+
- หน้าจอ 6.8 นิ้ว ความละเอียด WQHD+
- กล้อง Ultrawide มุมกว้างพิเศษ 123 องศา ความละเอียด 16MP f2.2
- กล้องหลักความละเอียด 12MP f1.5 / f2.2 มุมกว้าง 77 องศา
- กล้อง Tele ความละเอียด 12MP f2.1 Optical Zoom 2x
- กล้อง ToF
- กล้องหน้าความละเอียด 10MP f2.2
- SIM HyBrid
- RAM 12GB
- ROM 256/512GB รุ่น 5G ความจุ 1TB ไม่เข้าไทย
- Battery 4300mAh
- Microphone 3 ตัวอยู่ตำแหน่ง บน ล่าง และด้านหลัง
- หนัก 198 กรัม
- สี Aura Glow ,Aura Black ,Aura White
สรุปสเปก Galaxy Note 10
- หน้าจอ 6.3 นิ้ว ความละเอียด FHD+
- กล้อง Ultrawide มุมกว้างพิเศษ 123 องศา ความละเอียด 16MP f2.2
- กล้องหลักความละเอียด 12MP f1.5 / f2.2 มุมกว้าง 77 องศา
- กล้อง Tele ความละเอียด 12MP f2.1 Optical Zoom 2x
- กล้องหน้าความละเอียด 10MP f2.2
- Dual LTE
- RAM 8GB
- ROM 256GB เพิ่มเมมไม่ได้
- Battery 3500mAh
- Microphone 3 ตัวอยู่ตำแหน่ง บน ล่าง และด้านหลัง
- หนัก 168 กรัม
- สี Aura Glow ,Aura Black ,Aura Pink
บทความโดย – www.flashfly.net