ช่วงต้นปีที่ผ่านมา Samsung เปิดตัวสมาร์ทโฟน Galaxy A series รุ่นใหม่ พร้อมกันหลายรุ่น ตั้งแต่ A10 ไล่ขึ้นไปจนถึง A80 ที่น่าสนใจก็คือ ในอดีตที่ผ่านมา Galaxy A series เป็นสมาร์ทโฟนระดับกลางที่วางจำหน่ายในราคาหลักหมื่น แต่ปีนี้ Samsung ได้กดราคาลงมาอยู่ในหลักพัน เพื่อให้ทุกคนเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะ A10 กับ A20 ที่เรานำมาพรีวิวในวันนี้ จะทำให้ทุกคนลืมไปเลยว่า Samsung เคยมีสมาร์ทโฟนราคาประหยัด Galaxy J series
Galaxy A10 และ Galaxy A20 เป็นน้องเล็กสุดในกลุ่ม A series ของปี 2019 และดูเหมือนทั้งคู่จะได้รับการออกแบบมาคล้ายกัน แต่ความจริงมีรายละเอียดแตกต่างกันพอสมควร เริ่มจากสิ่งที่เหมือนกันก่อน นั่นก็คือจอแสดงผล
Galaxy A10 และ Galaxy A20 มาพร้อมจอแสดงผลแบบ Infinity-V ที่มีรอยบากรูปตัววี อยู่ที่ด้านบน สำหรับติดตั้งกล้องเซลฟี่ และเหนือขึ้นไปมีลำโพงหูฟัง โดยมีพื้นที่ขอบจอรอบด้านบางเฉียบ
Galaxy A10 ใช้จอแสดงผล TFT ความละเอียด 720 x 1520 พิกเซล ขนาด 6.2 นิ้ว ขณะที่ Galaxy A20 ใช้จอแสดงผล Super AMOLED ความละเอียด 720 x 1560 พิกเซล ขนาด 6.4 นิ้ว ในการรับชมคอนเท้นต์ภายในอาคาร
อาจไม่เห็นถึงความแตกต่างระหว่างการแสดงภาพของสมาร์ทโฟนทั้ง 2 รุ่น แต่ Galaxy A20 จะให้ประสบการณ์ในการรับชมภาพที่ดีกว่า เมื่อใช้งานในที่กลางแจ้ง
มุมมองด้านหลังช่วยให้เราเห็นความแตกต่างระหว่าง Galaxy A10 และ Galaxy A20 ได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะบริเวณมุมบนซ้ายมือ Galaxy A10 มาพร้อมกล้องหลังเลนส์เดียว วางคู่กับแฟลชภายในกรอบเดียวกัน ส่วน Galaxy A20 ได้รับกล้องคู่หลัง และติดตั้งแฟลชแยกไว้นอกกรอบ
Galaxy A20 ติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือมาให้ด้วย ซึ่งไม่พบใน Galaxy A10 แต่ทั้ง 2 รุ่น รองรับระบบจดจำใบหน้า สามารถปลดล็อคสมาร์ทโฟนด้วยการสแกนใบหน้าได้เช่นเดียวกัน
Galaxy A10 ติดตั้งลำโพงไว้ที่มุมล่างซ้ายของด้านหลัง ขณะที่ Galaxy A20 ติดตั้งไว้ที่ด้านล่าง และนั่นทำให้การออกแบบด้านล่างของทั้งคู่ มีความแตกต่างกันด้วย
ด้านล่างของ Galaxy A10 มีช่องต่อหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร, พอร์ต Micro USB, และไมโครโฟน (ไม่มีลำโพง เพราะติดตั้งอยู่ที่ด้านหลัง)
สำหรับด้านล่างของ Galaxy A20 มีช่องต่อหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร, พอร์ต USB Type-C, ไมโครโฟน และ ลำโพง
ขอบด้านข้างของทั้ง 2 รุ่น ใช้ดีไซน์เดียวกัน และมีความบางใกล้เคียงกันมาก วัดได้ประมาณ 8 มิลลิเมตร มาพร้อมปุ่มปรับระดับเสียง วางอยู่เหนือปุ่มเพาเวอร์
อีกข้างหนึ่งมีถาดใส่การ์ดแบบ Triple Slot อยู่ที่ขอบด้านข้าง สามารถวางซิมการ์ดแบบนาโนได้พร้อมกัน 2 ช่อง และยังใส่การ์ด MicroSD เพิ่มได้อีก 1 ช่อง
กล้องเซลฟี่ของทั้งคู่ ซ่อนอยู่ในรอยบากรูปตัววี โดยมีความละเอียดแตกต่างกัน Galaxy A10 มีความละเอียด 5 ล้านพิกเซล Galaxy A20 มีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล แต่ทั้งคู่สามารถถ่ายวีดีโอในความละเอียดเท่ากันที่ Full HD และรองรับฟีเจอร์สแกนใบหน้า เพื่อปลดล็อคได้เช่นเดียวกัน
สำหรับกล้องหลัง Galaxy A10 ได้รับกล้องเลนส์เดียว 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง F1.9 ส่วน Galaxy A20 ได้รับกล้องคู่ ตัวหลัก 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง F1.9 เหมือนกับรุ่นน้อง แต่มาพร้อมกล้องมุมกว้างพิเศษ 5 ล้านพิกเซล รูรับแสง F2.2 และสามารถบันทึกวีดีโอในความละเอียด Full HD เท่ากันทั้ง 2 รุ่น
ด้วยกล้องหลักของ Galaxy A10 และ Galaxy A20 ใช้สเปกเดียวกัน นั่นหมายถึง การถ่ายภาพทั่วไปของทั้งคู่ จะให้คุณภาพในระดับเดียวกัน
แต่ Galaxy A20 มาพร้อมกล้องมุมกว้างพิเศษ Ultra Wide Angle จึงรองรับการภาพในมุมมองที่กว้าง 123 องศา
Galaxy A10 และ Galaxy A20 มาพร้อมชิปประมวลผลรุ่นเดียวกัน Exynos 7884 Octa Core 1.6GHz + 1.35GHz ความจุ ROM เท่ากัน 32GB สนับสนุนการ์ด MicroSD สูงสุด 512GB
ส่วนความจำ RAM แตกต่างกันเล็กน้อย Galaxy A20 มาพร้อม RAM 3GB และ Galaxy A10 ได้รับ RAM 2GB อย่างไรก็ตาม ทั้งคู่ตอบสนองการเล่นเกมได้ในระดับเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นเกม ROV ที่เล่นได้ถึง 61fps หรือ PUBG Mobile
เมื่อมาถึงแบตเตอรี่ Galaxy A20 ดูจะได้เปรียบอยู่เยอะพอสมควร เพราะมีความจุถึง 4000mAh และยังรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 15W ผ่านพอร์ต USB Type-C ขณะที่ Galaxy A10 มีความจุ 3400mAh และขาดเทคโนโลยีชาร์จเร็ว ชัดเจนว่า Galaxy A20 ให้อายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า และควรจะชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 100% ได้รวดเร็วกว่า
Samsung วางจำหน่ายสมาร์ทโฟน Galaxy A10 และ Galaxy A20 ในประเทศไทยแล้ว ด้วยราคาเริ่มต้น 3,990 บาท เราจะได้สมาร์ทโฟนที่คุ้มค่ารุ่นหนึ่งของ Samsung
ไม่ว่าจะนำไปใช้ดูคอนเท้นต์วีดีโอ เล่นโซเชี่ยล ท่องเว็บ หรือ ถ่ายรูป แต่ถ้าต้องการเทคโนโลยีที่ดีขึ้นอีกระดับจาก Galaxy A20 อย่างการชาร์จเร็ว กล้องมุมกว้างพิเศษ และความจำ RAM ที่เพิ่มขึ้น ในราคา 5,490 บาท ก็ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า