สมาร์ทโฟนเรือธงที่ได้รับการพูดถึงมากที่สุดมากที่สุดในเวลานี้ คงหนีไม่พ้น OnePlus 7 Pro หลังจากเปิดตัวในกรุงลอนดอน เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมา ก็เริ่มเดินหน้าทำตลาดทันทีในหลายประเทศทั่วโลก รวมทั้งในประเทศไทยก็ไม่ปล่อยให้รอนาน
เพราะล่าสุดก็ได้ประกาศเปิดตัวและวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งวันนี้ทีมงาน @flashfly ก็ได้ตัวเครื่อง OnePlus 7 Pro สีดำ Mirror Gray ความจุ 256GB มาทดสอบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตามมาดูการแกะกล่องกันได้เลย
ตัวกล่องของ OnePlus 7 Pro นั่นตัวธีมเป็นสีขาวตัดกับสีแดง สวยงาม ตรงกลางด้านบนจะมีโลโก้สี่เหลี่ยมสีแดงของ OnePlus ส่วนตรงกลางจะมีชื่อรุ่นเขียนไว้ว่า 7 Pro ด้านข้างก็จะมีชื่อรุ่นเขียนว่า OnePlus 7 Pro อีกด้านจะเป็นสโลว์แกน Go Beyond Speed
พลิกมาดูที่ด้านหลังจะเป็นว่ากล่องใส่ตัวเครื่องและอุปกรณ์ต่างๆเป็นสีแดงจะระบุว่าตัวเครื่องสีอะไร แรมและความจุเท่าไร
เปิดกล่องออกมาก็จะพบกับซองใส่เอกสารสีแดง ด้านในก็จะมีเคสใส เอกสารคู่มือการใช้งาน เข็มจิ้มถาดใส่ซิม สติกเกอร์ OnePlus
ตัวเครื่อง OnePlus 7 Pro ถูกวางอยู่ในห่อพลาสติกพร้อมคำว่า Never Settle ด้านล่างจะมีบอกว่าการใช้เซ็นเซอร์สแกนนิ้วบนหน้าจอ ต้องติดฟิล์มที่ที่เป็นพาร์ทเนอร์ทางการของ OnePlus เท่านั้น ไม่งั้นอาจจะไม่สมามารถใช้งานได้
นำตัวเครื่องออกจากซองพลาสติกก็จะพบกับตัวเครื่อง OnePlus 7 Pro สุดงามหน้าจอขนาดใหญ่ มีแผ่นฟิล์มกันรอยติดมาให้เรียบร้อยแล้ว
ที่ด้านล่างสุดยังมีอุปกรณ์ที่เป็นไฮไลท์ของรุ่นอยู่อีกนั่นก็คือที่ชาร์จไว Warp Charge 30 และสาย USB-C สีแดงสำหรับการใช้งาน Warp Charge โดยในรุ่นนี้จะชาร์จเร็วขึ้นกว่าเดิม 34% ใช้เวลาชาร์จแค่ 20 นาที ได้แบตเตอร์เกือบ 50% แล้ว
แกะกล่องกันเสร็จเรียบร้อยแล้วมาดูรีวิวใช้งานตัวเครื่องกันต่อเลยโดย OnePlus 7 Pro ถูกเรียกว่าเป็น Super Flagship เพราะมาพร้อมคุณสมบัติที่ดีที่สุดเท่าที่เรือธงในปัจจุบันจะมีให้ได้ ผสานกับการออกแบบที่พรีเมี่ยม โดยเฉพาะจอแสดงผล Fluid AMOLED ของ OnePlus 7 Pro ถูกจัดอันดับให้อยู่ในเกรด A+ จาก DisplayMate ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการทดสอบจอแสดงผลระดับโลก
จอแสดงผลของ OnePlus 7 Pro ใช้ดีไซน์ไร้กรอบ ไร้รอยบาก มีความละเอียด 3120 x 1440 พิกเซล ขนาด 6.67 นิ้ว อัตราส่วนภาพ 19.5:9 ขอบเขตสีกว้าง P3 ครอบทับด้วยกระจก 3D Corning Gorilla Glass
มาพร้อมฟีเจอร์ Reading Mode เหมาะสำหรับการจ้องหน้าจอเป็นเวลานานเพื่ออ่านบทความหรืออีบุ๊ค และ Night Mode สำหรับใช้งานในเวลากลางคืน ช่วยถนอมดวงตาจากแสงสีฟ้า
จอแสดงผลของ OnePlus 7 Pro ยังสนับสนุน HDR 10+ แสดงสีสันที่สมจริง ให้สีที่ถูกต้องเมื่อรับชมภาพยนตร์หรือวีดีโอจากคอนเท้นต์ที่รองรับ HDR เช่นบริการจาก Netflix, YouTube, Amazon Prime Video และยังให้อัตราการรีเฟรชที่ระดับ 90Hz สูงกว่าสมาร์ทโฟนทั่วไปที่อยู่ในระดับ 60Hz หมายความว่าการแสดงภาพเคลื่อนไหวต่างๆ จะราบรื่นมากกว่าสมาร์ทโฟนทั่วไป และตอบสนองการสัมผัสได้ลื่นไหลไม่มีสะดุด
ใต้จอแสดงผล ยังติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือมาให้ด้วย สามารถสแกนนิ้วเพื่อปลดล็อคสมาร์ทโฟนในเวลาเพียง 0.21 วินาที เร็วขึ้น 38% เมื่อเทียบกับ OnePlus 6T
เบื้องหลังที่ทำให้จอแสดงผลของ OnePlus 7 Pro ไม่มีรอยบาก และมีความกว้างจนสุดขอบ เพราะไม่มีกล้องเซลฟี่อยู่ที่ด้านหน้า แต่ถูกย้ายไปซ่อนไว้ที่ด้านบน และใช้กลไกสไลด์กล้องอัตโนมัติ ซึ่งผ่านการทดสอบการสไลด์ถึง 300,000 ครั้ง หรือเทียบได้กับการถ่ายเซลฟี่วันละ 150 ครั้ง เป็นเวลานาน 5.5 ปี
กล้องเซลฟี่แบบป๊อปอัพของ OnePlus 7 Pro ยังมีระบบเก็บกล้องกลับอัตโนมัติ เมื่อพบว่าสมาร์ทโฟนกำลังตก และได้รับการออกแบบมาให้ต้านทานฝุ่นละอองหรือสิ่งสกปรกที่เกิดขึ้นได้ในแต่ละวัน
ส่วนด้านล่างจะมีลำโพง, ไมโครโฟนตัวหลัก (มีไมโครโฟนตัวที่ 2 อยู่ด้านบนด้วย), พอร์ต USB Type-C และถาดใส่ซิมการ์ด รองรับ 2 ซิม Dual nano-SIM
ขอบด้านข้างมีความบาง 8.8 มิลลิเมตร ติดตั้งปุ่มปรับระดับเสียงไว้ทางขวาของจอแสดงผล
อีกข้างหนึ่งมีปุ่มทางลัดสำหรับตั้งค่าเสียงแบบทันใจ เมื่อเลื่อนปุ่มขึ้นไปจะเป็นการปิดเสียงและระบบสั่น เลื่อนปุ่มมาตรงกลางจะเปิดเฉพาะระบบสั่น และเลื่อนลงไปจะเปิดเสียงและระบบสั่น เมื่อขยับสายตาลงไปเล็กน้อยจะเห็นปุ่มเพาเวอร์
พลิกมาดูที่ด้านหลัง จะพบกับผลงานชิ้นเอกของการออกแบบที่ลงตัว สะท้อนเฉดสีในมุมมองที่แตกต่างกันไป และมีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีเทาเงา Mirror Grey และ สีฟ้า Nebula Blue ที่มีเฉพาะรุ่นแรม 12GB
OnePlus 7 Pro ได้รับลำโพงคู่ ให้เสียงสเตอริโอ โดยติดตั้งลำโพงไว้ที่ขอบบนสุด และอีกตัวอยู่ด้านล่าง อีกทั้งยังมาพร้อมระบบเสียง Dolby Atmos ส่งมอบเสียงในคุณภาพระดับโรงภาพยนตร์ ไม่ว่าจะเป็นการรับชมวีดีโอหรือเล่นเกม นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีลดเสียงรบกวนติดตั้งมาให้ด้วย
OnePlus 7 Pro มาพร้อมแบตเตอรี่ 4000mAh ให้พลังงานยาวนานตลอดทั้งวัน และถ้าแบตเตอรี่หมด ก็สามารถเติมพลังงานกลับเข้าไปได้อย่างรวดเร็ว ด้วยเทคโนโลยีชาร์จเร็ว Warp Charge 30 (5V/6A) ชาร์จเร็วขึ้นกว่าเดิม 34% เมื่อเทียบกับ OnePlus 6T ใช้เวลาชาร์จเพียง 20 นาที จะได้รับพลังงานเกือบ 50% ซึ่งเพียงพอสำหรับพกพาไปข้างนอกแล้ว ที่สำคัญ OnePlus ยังแถมอุปกรณ์ชาร์จเร็ว Warp Charge 30 มาให้ในกล่องด้วย ไม่ต้องซื้อเพิ่ม!!
อีกหนึ่งไฮไลท์ของ OnePlus 7 Pro อยู่ที่ระบบกล้องด้านหลัง 3 ตัวแบบ Triple Camera นำโดยกล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล (Sony IMX586) รูรับแสง f/1.6 ประกอบด้วยชุดเลนส์ 7 ชิ้น
กล้องเทเลโฟโต้ 8 ล้านพิกเซล ขนาดพิกเซล 1 ไมครอน รูรับแสง f/2.4 สามารถซูมออปติคอลได้ 3 เท่า โดยที่ไม่สูญเสียรายละเอียด
กล้องมุมกว้างพิเศษ (Ultra Wide Angle) 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 เก็บภาพได้กว้างขึ้น 48% ด้วยมุมมองกว้าง 117 องศา
กล้องหลังของ OnePlus 7 Pro ได้รับเทคโนโลยีป้องกันภาพสั่นไหว OIS (Optical Image Stabilization) แบบคู่ โดยติดตั้งไว้ที่กล้องตัวหลัก และกล้องเทเลโฟโต้ รองรับระบบออโต้โฟกัสแบบ PDAF+LAF+CAF
บันทึกวีดีโอที่ระดับ 4K 60 เฟรมต่อวินาที มีโหมด Super Slow Motion ความละเอียด 1080p ที่ 240 เฟรมต่อวินาที หรือ 720p ที่ 480 เฟรมต่อวินาที
ด้วยขนาดรูรับแสง f/1.6 ของกล้องตัวหลัก ทำงานร่วมกับโหมดถ่ายภาพ Nightscape 2.0 ช่วยให้ OnePlus 7 Pro ถ่ายภาพในช่วงเวลากลางคืนได้อย่างสวยงาม และยังมีโหมดถ่ายภาพ Portrait, Panorama, HDR, Pro, Studio Lighting และ AI Scene Detection ช่วยปรับค่ากล้องอัตโนมัติตามฉากหรือวัตถุที่กำลังจะถ่าย ทำให้การถ่ายภาพเป็นเรื่องง่าย
สำหรับกล้องเซลฟี่ มีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล (Sony IMX471) ขนาดพิกเซล 1 ไมครอน รูรับแสง f/2.0 ถูกซ่อนไว้ที่ด้านบนโดยใช้กลไกสไลด์กล้องอัตโนมัติ ผ่านการทดสอบการสไลด์ถึง 300,000 ครั้ง ซึ่งเทียบได้กับการถ่ายเซลฟี่วันละ 150 ครั้ง เป็นเวลานาน 5 ปี กับอีก 6 เดือน พร้อมระบบดึงกล้องกลับอัตโนมัติ เมื่อพบว่าสมาร์ทโฟนกำลังตก จึงมั่นใจได้ในเรื่องของความแข็งแรง
กล้องหน้าของ OnePlus 7 Pro ใช้ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ EIS ใช้แสงสว่างจากจอแสดงผลแทนแฟลช รองรับโหมดถ่ายภาพ Face Retouching, HDR และบันทึกวีดีโอในระดับ 1080P ที่ 30 เฟรมต่อวินาที มีโหมด Time-Lapse (ทั้งกล้องหลัง-กล้องหน้า)
นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์ Face Unlock หรือ ปลดล็อตด้วยการสแกนใบหน้า หรือจะใช้วิธีสแกนลายนิ้วมือบนจอแสดงผลก็ตามสะดวก
OnePlus 7 Pro ทำงานบนระบบปฏิบัติการ OxygenOS ซึ่งมี Android 9 Pie อยู่เบื้องหลัง ใช้ชิปประมวลผลที่ดีที่สุดของ Qualcomm ในปี 2019 นั่นคือ Snapdragon855 เป็นชิประดับ 7 นาโนเมตร ที่มี AI Engine พร้อมจีพียู Adreno 640
ด้านความจำให้ RAM มาสูงสุด 12GB หน่วยความจำภายในแบบ UFS 3.0 สูงสุด 256GB มีความเร็วในการอ่านและเขียนข้อมูลกว่าสมาร์ทโฟนทั่วไป จึงมั่นใจได้ว่า OnePlus 7 Pro จะตอบสนองการเล่นเกมและการทำงานได้อย่างลื่นไหล เพราะนี่คือชิปประมวลผลและใช้หน่วยความจำที่ดีที่สุดแล้วในปัจจุบัน
OnePlus 7 Pro ถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองการเล่นเกมแบบขีดสุดด้วย Fnatic Mode สุดยอดโหมดเล่นเกมบน OnePlus 7 Pro ที่พัฒนาร่วมกับทีมนักกีฬาอีสปอร์ตชื่อดัง Fnatic ซึ่งเมื่อเปิดโหมดนี้แล้วจะเป็นการเล่นเกมโดยจะไม่ลดทรัพยากรเครื่องเลย เปิดใช้งานเต็มที่ทั้ง CPU,GPU และ RAM ต้องบอกเลยว่าประทับใจมากๆ แถมยังมีระบบควบคุมความร้อนในตัวเครื่องไม่ให้แบตเตอรี่ลดเร็วเกินไปอีกด้วย
ไม่เพียงแค่ใช้ชิปประมวลผลที่ดีที่สุด ยังติดตั้งระบบระบายความร้อนด้วยของเหลว 10 ชั้น เพื่อควบคุมอุณหภูมิของสมาร์ทโฟนไม่ให้ร้อนจนเกินไปเมื่อเล่นเกมเป็นเวลานาน อีกทั้งจอแสดงผลยังให้อัตราการรีเฟรชที่ระดับ 90Hz ตอบสนองกราฟิกเกมได้ดีกว่าสมาร์ทโฟนทั่วไปที่ให้อัตราการรีเฟรช 60Hz นอกจากนี้ยังมี RAM Boost ระบบจัดการข้อมูลภายใน ช่วยโหลดหรือเข้าถึงแอพและเกมต่างๆ ได้เร็วยิ่งขึ้น
สรุปแล้ว OnePlus 7 Pro ถือเป็นสมาร์ทโฟนที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง ด้วยดีไซน์ที่สวยงามพรีเมี่ยม ประสิทธิภาพสูงสมกับเป็นสมาร์ทโฟนระดับเรือธง ให้ความสมบูรณ์แบบทั้งภาพและเสียง ไม่ว่าจะเล่นเกม ดูหนัง ฟังเพลง เพราะใช้จอแสดงผลระดับ A+ จากการทดสอบของ DisplayMate ลำโพงคู่ พร้อมระบบเสียง Dolby Atmos อีกทั้งยังมีแบตเตอรี่ก้อนใหญ่ ที่ชาร์จเร็วทันใจด้วย Warp Charge 30 (แถมอุปกรณ์ชาร์จเร็วมาให้ในกล่อง)
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้า
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลัง
ตัวอย่างภาพถ่ายตอนกลางคืนโหมด NightScape
OnePlus 7 Pro วางจำหน่ายในประเทศไทยทั้งหมด 3 รุ่นดังนี้
- OnePlus 7 Pro แรม 6GB ความจุ 128GB ราคา 24,990 บาท
- OnePlus 7 Pro แรม 8GB ความจุ 256GB ราคา 26,990 บาท
- OnePlus 7 Pro แรม 12GB ความจุ 256GB ราคา 29,990 บาท
OnePlus 7 Pro มีให้สองสีคือ Nebula Blue และ Mirror Gray วางจำหน่ายแล้ววันนี้ที่ AIS Shop 13 สาขาที่ร่วมรายการ และสามารถสั่งซื้อทางออนไลน์ได้ที่
AIS Online Store : https://bit.ly/2K1C3Hj
JD Central : http://bit.ly/2YIwu4K
Lazada : http://bit.ly/OnePlus7Lazada