นับตั้งแต่ iPhone X ได้รับการเปิดตัวในปี 2017 ก็ทำให้เราได้รู้จักกับ Face ID ซึ่งถูกนำมาใช้แทนที่ Touch ID และได้เปลี่ยนวิธีการปลดล็อคหรือยืนยันตัวตนของผู้ใช้งาน จากสแกนลายนิ้วมือ เป็นสแกนใบหน้า ปีถัดมา Apple ได้นำมา Face ID มาแทนที่ Touch ID กับ iPhone ทุกรุ่นที่ออกมาในปี 2018 และอาจรวมถึง iPhone รุ่นใหม่ที่จะออกมาในปีนี้ด้วย
อย่างไรก็ตาม Touch ID ยังมีใช้ใน iPhone รุ่นเก่า รวมถึง MacBook บางรุ่น และอาจนำกลับมาใช้ใน iPhone อีกครั้งในอนาคต โดยยื่นจดสิทธิบัตรเอาไว้แล้ว
สิทธิบัตรล่าสุดของ Apple มีชื่อว่า “Methods of biometric imaging of input surfaces” แสดงให้เห็นถึงวิธีสแกนลายนิ้วมือบนจอแสดงผลของ iPhone ด้วยการนำระบบ Acoustic Imaging ที่สามารถแปลงสัญญาณเสียงเป็นรูปภาพความละเอียดสูง จากอะไรก็ตามที่สัมผัสกับพื้นผิว ซึ่งในกรณีนี้คือ ลายนิ้วมือของผู้ใช้งาน
ตัวแปลงสัญญาณเสียงของ iPhone ในสิทธิบัตร ยังสามารถแปลงสัญญาณไฟฟ้าให้เป็นพลังงานกล และในทางกลับกัน คลื่นกลจากการแตะนิ้วลงบนแผงหน้าจอ ก็สามารถแปลงเป็นสัญญาณไฟฟ้าได้
นอกจากลายนิ้วมือ กลไก ในสิทธิบัตร ยังสามารถสแกนอวัยวะอื่นๆ ของร่างกายได้ เช่น ฝ่ามือ, หู, แก้ม รวมไปถึงใบหน้า เพื่อยืนยันตัวตนของผู้ใช้งาน อย่างเช่น กรณีรับสายเมื่อมีคนโทรเข้ามา นอกจากนี้ ยังสามารถตรวจสอบการหายใจและอัตราการเต้นของหัวใจ ของผู้ใช้งานได้อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีรายงานว่า Apple จะนำเทคโนโลยีในสิทธิบัตรมาใช้หรือไม่ หรือจะนำมาใช้เมื่อไร
ที่มา – Gizchina
https://www.flashfly.net/wp/250064