สิ้นสุดการรอคอยเป็นที่เรียบร้อย Microsoft พร้อมวางจำหน่าย Surface Laptop ในประเทศไทยอย่างทางการแล้ว หลังจากเปิดตัวตั้งแต่กลางเดือนมีนาคม 2561 ที่ผ่านมา ซึ่งสิ่งที่น่าสนใจของ Surface Laptop คือ ทาง Microsoft ได้ลงมาดูแลการผลิตฮาร์ดแวร์ด้วยตัวเองอย่างจริงจัง หลังจากประสบความสำเร็จกับอุปกรณ์ 2-in-1 อย่าง Surface Pro กับ Surface Book มาก่อนหน้านี้ โดยทาง Microsoft ก็มีความตั้งใจที่จะให้ Surface Laptop ประสบความสำเร็จด้วยเช่นกัน
Microsoft ได้พยายามสร้างผลิตภัณฑ์ออกมาให้ครอบคลุมทุกประเภทการใช้งาน ทั้งคอมพิวเตอร์แบบ All-in-One อย่าง Surface Studio ตามมาด้วย Surface Laptop ที่ถือเป็นอุปกรณ์ประเภทแล็ปท็อปรุ่นแรกของ Microsoft เพราะไม่สามารถถอดแยกหน้าจอแสดงผลออกไปใช้งานในรูปแบบแท็บเล็ตได้แบบเดียวกับ Surface Pro หรือ Surface Book
Surface Laptop มีออกแบบมาอย่างเรียบง่าย แต่สวยงาม ดูดี และใช้วัสดุอลูมิเนียมทำให้ตัวเครื่องมีความแข็งแรงทนทาน และมีความบางเพียง 14.5 มิลลิเมตร กับน้ำหนักตัวเครื่องโดยรวม 1.25 กิโลกรัม
ส่วนแผงคีย์บอร์ดมีการหุ้มด้วยผ้าแบบ Alcantara ทำให้ Surface Laptop ดูหรูหรากว่าแล็ปท็อปทั่วไปเป็นอย่างมาก
สำหรับวัสดุผ้า Alcantara ที่ใช้ห่อหุ่มคีย์บอร์ดนั้นผลิตในประเทศอิตาลี ซึ่งมีความทนทานเป็นพิเศษ ให้สัมผัสที่นุ่มนวล รองรับข้อมือผู้ใช้งานที่ต้องพิมพ์งานเป็นเวลานาน ทำให้ไม่เกิดความเมื่อยล้า ส่วนการดูแลรักษาแน่นอนว่าอาจจะสร้างความยุ่งยากกว่าแล็ปท็อปทั่วไป เพราะต้องดูแลความสะอาดเป็นพิเศษ นอกจากนี้ ผ้า Alcantara ที่นำมาใช้ห่อปุ้มคีย์บอร์ดได้มีการเคลือบด้วยโพลียูรีเทน เพื่อป้องกันน้ำซึมเข้าไปในกรณีที่น้ำหกใส่โดยไม่ได้ตั้งใจ และสามารถทำความสะอาดได้เพียงใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ เช็ดได้ทันที
ส่วนแผงคีย์บอร์ดมาพร้อมปุ่มกดแบบ QWERTY ที่มีแสงไฟพื้นหลังสำหรับทำงานในที่แสงน้อยได้ และมาพร้อมกับ Touchpad ที่ซ่อนปุ่มคลิกซ้าย-ขวาของเม้าส์เอาไว้ พร้อมซ่อนลำโพงเอาไว้ใต้แผงคีย์บอร์ด ส่วนตัวลำโพงใช้ลำโพงของ Omnisonic มาพร้อมระบบเสียง Dolby Audio Premium โดยเสียงที่ได้มีความดังแม้ใช้งานในที่โล่งแจ้ง
ด้วยขนาดและความบาง ต้องแลกมาด้วยจำนวนพอร์ตเชื่อมต่อที่น้อยกว่าแล็ปท็อปทั่วไป แต่ก็มีให้ใช้งานครบ ด้านขวามือมีพอร์ต Surface Connect
ด้านซ้ายมีพอร์ต USB เวอร์ชัน 3.0, Mini Display Port และ ช่องเสียบหูฟังแบบ 3.5 มิลลิเมตร
ด้านใต้มีเพียงจุดกันกระแทก 4 จุด ตามมุมเครื่อง โดยไม่มีช่องแกะเปลี่ยนแบตเตอรี่ ส่วนช่องลมระบายความร้อนอยู่ทางด้านท้ายใต้ของบานพับ
ตรงอะแดปเตอร์มีพอร์ต USB ให้ใช้งาน
ด้านหน้าจอแสดงผลเป็นแบบ PixelSense ที่มีความละเอียด 2256 x 1504 พิกเซล (201 PPI) ขนาด 13.5 นิ้ว กับอัตราส่วนภาพ 3:2 พร้อมรองรับระบบสัมผัสได้ 10 จุด ส่วนกระจกหน้าจอเป็นแบบ Corning Gorilla Glass 3 ทำให้มีความแข็งแรงทนทานเป็นพิเศษ
ด้านบนจอแสดงผลมีกล้องดิจิตอลไว้ใช้งาน Windows Hello หรือใช้สำหรับวีดีโอคอม โดยมีความละเอียดระดับ HD 720p
Surface Laptop มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 10 S ตอบสนองการทำงานต่างๆ ได้เหมือนกับ Windows 10 Pro เพียงแต่ไม่สามารถติดตั้งโปรแกรมจากภายนอกได้ ติดตั้งได้เฉพาะโปรแกรม หรือเกมที่ดาวน์โหลดได้จากแอปพลิเคชั่น Microsoft Store เท่านั้น อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้งานสามารถอัปเกรดเป็นระบบปฏิบัติการ Windows 10 Pro ได้ฟรีทุกเครื่อง ทำให้สามารถติดตั้งไฟล์นามสกุล .EXE หรือโปรแกรมต่างๆ ในเวอร์ชั่น PC ได้ตามปกติ โดยมีข้อแม้เดียวว่าเมื่ออัปเกรดเวอร์ชันเป็น Windows 10 Pro ขึ้นไปแล้วจะไม่สามารถถอยกลับลงมาใช้ Windows 10 S ได้อีกต่อไป
นอกจากนี้ ยังรองรับการใช้งานกับปากกา Surface ได้ และมีแอปพลเคชันมารองรับการใช้งานกับปากกาด้วยเช่นกัน
สามารถขีดๆ เขียนๆ สิ่งต่างๆ ผ่านหน้าจอแสดงผลได้ทันที
นอกจากนี้ ด้านหลังของหน้าจอยังมีแม่เหล็กฝังไว้ด้านในจึงนำปากกา Surface มายึดไว้เพื่อพกพาไปใช้งานได้
สำหรับ Surface Laptop ที่เข้ามาวางจำหน่ายในประเทศไทย มีให้เลือกถึง 6 รุ่น โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 34,900 บาท ไปจนถึงราคาสูงสุด 101,900 บาท โดยแต่ละรุ่นจะมีความแตกต่างที่ซีพียู กับหน่วยความจำ เริ่มต้นที่ Surface Laptop M ที่ใช้ซีพียู Intel Core M ชิปกราฟิก Intel HD Graphics 615 หน่วยความจำแรมขนาด 4GB ฮาร์ดดิสก์แบบ SSD ความจุ 128GB วางจำหน่ายในราคา 34,900 บาท
Surface Laptop i5 ที่ใช้ซีพียู Intel Core i5 ชิปกราฟิก Intel HD Graphics 620 หน่วยความจำแรมขนาด 4GB ฮาร์ดดิสก์แบบ SSD ความจุ 128GB วางจำหน่ายในราคา 38,900 บาท
Surface Laptop i5 ที่ใช้ซีพียู Intel Core i5 ชิปกราฟิก Intel HD Graphics 620 หน่วยความจำแรมขนาด 8GB ฮาร์ดดิสก์แบบ SSD ความจุ 256GB ราคา 49,900 บาท
Surface Laptop i7 ที่ใช้ซีพียู Intel Core i7 ชิปกราฟิก Intel Iris Plus Graphics 640 หน่วยความจำแรมขนาด 8GB ฮาร์ดดิสก์แบบ SSD ความจุ 256GB ราคา 59,900 บาท
Surface Laptop i7 ที่ใช้ซีพียู Intel Core i7 ชิปกราฟิก Intel Iris Plus Graphics 640 หน่วยความจำแรมขนาด 16GB ฮาร์ดดิสก์แบบ SSD ความจุ 512GB ราคา 82,900 บาท
Surface Laptop i7 ที่ใช้ซีพียู Intel Core i7 ชิปกราฟิก Intel Iris Plus Graphics 640 หน่วยความจำแรมขนาด 16GB ฮาร์ดดิสก์แบบ SSD ความจุ 1TB ราคา 101,900 บาท
Surface Laptop ได้รับการออกแบบมาอย่างสวยงาม ดูดี วัสดุงานประกอบมีคุณภาพสูงดูแข็งแรงทนทาน และยังมีจุดเด่นที่แบตเตอรี่ขนาดใหญ่สามารถใช้งานได้ยาวนานสูงสุด 14.5 ชั่วโมง ซึ่งระยะเวลาดังกล่าวเป็นผลทดสอบของรุ่น Intel Core i5 กับหน่วยความจำแรมขนาด 8GB
ด้วยข้อจำกัดของระบบปฏิบัติการ Windows 10 S ที่ไม่สามารถติดตั้งโปรแกรมจากภายนอกที่บางสาขาอาชีพอาจจำเป็นต้องใช้ ทำให้ Microsoft ตั้งกลุ่มเป้าหมายของ Surface Laptop ไว้ที่บุคลากรทางการศึกษา ตั้งแต่นักเรียนไปจนถึงอาจารย์เป็นหลัก แต่บุคคลทั่วไปที่ต้องการใช้งานพื้นฐานไม่ว่าจะเป็นงานด้านเอกสาร ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม ท่องโลกอินเตอร์เน็ต โดยเน้นพกพาออกไปใช้งานนอกบ้านอยู่เป็นประจำ ก็สามารถตอบโจทย์การใช้งานเหล่าได้นี้ได้ทั้งหมด ซึ่งหากต้องการใช้งานให้ครบทุกด้านก็เพียงทำการอัปเดตไปใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 10 Pro เพียงเท่านี้ก็ใช้งานได้ครบทุกด้าน