Honor (ออเนอร์) เจ้าของตำแหน่งสมาร์ทโฟนอีแบรนด์อันดับ 1 ของประเทศจีน เน้นเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มียอดขายสูงเป็นอันดับหนึ่งในตลาดประเทศจีน พร้อมส่งเรือธงเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยแล้ว นั่นก็คือ Honor 10 หลังจากเพิ่งวางจำหน่าย Honor 7C ไปสดๆร้อนๆ และอีก 2 รุ่นก่อนหน้าคือ Honor 7X และ Honor 9 Lite ที่สร้างยอดขายแบบถล่มทลายตั้งแต่วันแรกที่เปิดสั่งซื้อ ซึ่งครั้งนี้ก็ถึงคราวของรุ่นระดับเรือธงอย่าง Honor 10 ที่ได้เปิดทางการและทยอยวางจำหน่ายในหลายๆประเทศแล้วในขณะนี้
Honor 10 จัดอยู่ในตระกูล ซีรี่ส์ N ซึ่ง Honor ได้แบ่งสมาร์ทโฟนออกเป็นทั้งหมด 4 ซีรี่ส์ (ซีรี่ส์ View, ซีรี่ส์ N, ซีรี่ส์ X และ ซีรี่ส์ Lite) โดย ซีรี่ส์ N นั้นจัดเป็นรุ่นที่มีคุณภาพสูงสุดของ Honor ที่โดดเด่นทั้งในด้านการใช้งานและความสวยงามของตัวเครื่อง ซึ่งตอนนี้ทีมงาน @flashfly ก็ได้ตัวเครื่อง Honor 10 สีดำมิดไนท์แบล็ก (Midnight Black) มาอยู่ในมือเป็นที่เรียบร้อย โดยเราจะมาดูกันที่ตัวกล่องจะเป็นสีขาวมีเลข 10 สีฟ้าที่เป็นชื่อรุ่นอยู่ตรงกลาง ส่วนโลโก้ Honor อยู่ด้านล่าง
เปิดกล่องออกมาก็จะพบกับตัวเครื่อง Honor 10 เข็มจิ้มถาดใส่ซิม คู่มือการใช้งานเบื้องต้น
รุ่นนี้ Honor แถมเคสใสมาให้ด้วยเลย ไม่ต้องเสียเวลาไปหาซื้อเพิ่มเติมให้เสียเงินและเวลา
สำหรับอุปกรณ์ที่เหลือในกล่องก็จะมีสาย USB-C และที่ชาร์จแบบพกพาของ Huawei ที่รองรับเทคโนโลยี Super Charge เสียดายที่ไม่มีหูฟัง 3.5 มม.แถมมาในชุดจำหน่าย
มาดูกันที่ตัวเครื่องกันบ้างที่ต้องบอกว่าสวยงามอย่างมากเพราะ Honor 10 มีจุดเด่นที่การออกแบบด้วยดีไซน์กระจก 3D วางซ้อนทับกันถึง 15 ชั้น เพื่อให้ได้พื้นผิวเงางาม แสดงเฉดสีที่ไม่เหมือนใคร เมื่อสะท้อนแสงสีสันจะไล่เฉดคล้ายแสงออโรร่าในทุกมุมมองเป็นเอกลักษณ์เฉพาะในสี Phantom Blue (แฟนท่อมบลู) และ Phantom Green (แฟนท่อมกรีน) ซึ่งเป็นสีที่พัฒนาขึ้นโดยทีม Honor และผู้เชี่ยวชาญจาก The Paris Aesthetics Center
แผงด้านหน้าใช้จอแสดงผลแบบ FullView ทำให้มีขอบจอบางเฉียบ มีพื้นที่จอแสดงผลมากถึง 86% ของขนาดบอดี้
โดยใช้จอแสดงผล IPS LCD ความละเอียด 2280 x 1080 พิกเซล ขนาด 5.84 นิ้ว อัตราส่วนภาพ 19:9 แสดงผลได้ 16 ล้านสี และ 432 PPI ขนาดพอดีมือพกพาสะดวกใช้งานได้ด้วยมือข้างเดียว หนักเพียง 153 กรัมเท่านั้น
ที่ขอบจอด้านบนมีรอยบากตามเทรนสมัยนิยมของสมาร์ทโฟนในปีนี้ แต่สามารถซ่อนได้ ด้วยการตั้งค่าให้แสดงแถบสีดำคาดทับไว้ได้
สาเหตุที่ Honor 10 ต้องมีรอยบากนั่นก็เพราะการออกแบบจอแสดงผล FullView ที่พยายามให้มีพื้นที่จอแสดงผลกว้างจนชิดขอบมากที่สุด แต่ก็มีความจำเป็นต้องติดตั้งฮาร์ดแวร์ที่สำคัญอย่างกล้องเซลฟี่ ลำโพงหูฟัง และเซ็นเซอร์ต่างๆ จึงทำให้ฮาร์ดแวร์เหล่านี้ถูกรวมไว้อยู่ในรอยบากนั่นเอง
ใต้จอแสดงผลได้ติดตั้งปุ่มโฮมแบบสัมผัสเอาไว้ด้วย ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่มีการฝังเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ใต้กระจกบนตัวเครื่อง เพื่อหน้าจอราบเรียบที่ไร้รอยต่อสวยงามทุกมุมมอง
นอกจากนี้ Honor ยังใส่เทคโนโลยีสแกนลายนิ้วมือด้วยอัลตราโซนิค ซึ่งมีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพดีกว่าระบบสแกนลายนิ้วมือในปัจจุบัน เพราะสามารถอ่านลายนิ้วมือได้แม้ว่านิ้วมือจะเปียกน้ำ หรือคลาบไขมันอยู่ก็ตาม
รวมถึงยังสามารรถปลดล็อคอย่างรวดเร็วด้วยการแสกนใบหน้าแบบ 360 องศาไม่ว่าจะถือเครื่องแนวตั้งหรือแนวนอนก็ตาม Honor 10 สามารถปลดล็อคได้ภายใน 0.064 วินาที. และยังมีระบบป้องกันเครื่องปลดล็อคในขณะที่ผู้ใช้งานหลับตาอีกด้วย
ตัวเครื่องบางเพียง 7.7 มม.ด้านข้างทางซ้ายมีถาดใส่ซิมการ์ด ส่วนด้านขวาจะมีปุ่มปรับระดับเสียง กับปุ่มเพาเวอร์
ด้านบนติดตั้งอินฟราเรดมาให้ วางคู่กับไมโครโฟนตัวที่สอง สำหรับกรองเสียงรบกวน
ด้านล่างจะพบกับช่องเสียบแจ็คหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร พอร์ตเชื่อมต่อ USB-C ไมโครโฟน และ ลำโพง
ด้านหลังมีกล้องคู่ความละเอียด 24 ล้านพิกเซลกับ 16 ล้านพิกเซล ถัดมาจะเป็นไฟแฟลช พร้อมระชัดเจนว่ารุ่นนี้มี AI Camera
ด้านล่างจะมีโลโก้ Honor ชัดเจน
Honor 10 นั้นมาพร้อมกล้องหน้าสำหรับเซลฟี่ความละเอียดถึง 24 ล้านพิกเซล รองรับการถ่ายภาพ Portrait Mode พร้อมด้วยฟีเจอร์ 3D Portrait Lighting ที่สามารถจัดแสงได้อย่างสวยงาม เหมือนถ่ายในสตูดิโอ ซึ่งก็มีฟีเจอร์ตรวจจับใบหน้าแบบ 3 มิติ ที่จะทำการตรวจจับจุดสำคัญต่างๆ บนใบหน้ากว่า 100 จุด เพื่อให้ได้ภาพถ่ายเซลฟี่ที่สวยงามทุกรายละเอียด สามารถเปิดโหมดหน้าชัดหลังละลายหรือ Bokeh ได้อีกด้วย
กล้องหน้าว่าสุดยอดแล้ว แต่กล้องคู่ด้านหลังสุดยอดยิ่งกว่าด้วยระบบเลนส์คู่ความละเอียด 24 + 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง F1.8 รองรับ Portrait Mode และ 3D Portrait Lighting ได้เช่นเดียวกับกล้องหน้า
มาพร้อมกับความชาญฉลาดของ AI และหน่วยประมวลผลพิเศษ Neural Processing Unit (NPU) แบบอิสระ สามารถจับโครงร่างของวัตถุที่อยู่รอบข้างได้ เช่น ท้องฟ้า ต้นไม้ คน หรือน้ำตกได้กว่า 500 แบบ 22 ประเภทได้แบบเรียลไทม์แล้วจะปรับแสงสีของกล้องให้เหมาะกับโหมดนั้นๆโดยไม่ต้องตั้งค่าใดๆ
ทำให้สามารถถ่ายภาพได้ระดับมืออาชีพเพียงกดครั้งเดียวเท่านั้น อีกทั้งยังสามารถระบุสถานที่ถ่ายภาพได้อีกด้วย เพียงแค่กดเปิดใช้งาน AI เท่านั้น
ซึ่งทาง Honor ได้ใส่เทคโนโลยี Semantic Image Segmentation ระบบปรับโฟกัสด้วยความรวดเร็วแบบ 3-in-1 faster focusing ที่พัฒนาขึ้นเป็นครั้งแรกมาใน Honor 10 ทำให้สามารถตรวจจับวัตถุต่างๆ ภายในภาพเดียวกันได้อย่างแม่นยำ อันนี้ถือเป็นจุดเด่นที่สุดที่แตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ
ถ่ายหน้าชัดหลังละลายได้ง่ายๆ แถมยังปรับความเบลอของฉากหลังได้ตามใจด้วยโหมด Aperture ได้แบบกล้องโปร
เพิ่มความสนุกในการถ่ายภาพด้วย AR Lens ที่มีสติกเกอร์น่ารักๆพร้อมเสียงเพลงให้เลือกมากมาย
โหมดต่างๆในการถ่ายภาพก็มีมาให้เลือกใช้งานครบครันไม่ว่าจะเป็นโหมดโปร Slow-mo ,Time-lapse หรือ Light painting
อีกฟีเจอร์เด็ดที่ Honor ใส่มาใน Honor 10 ด้วยและเชื่อว่าต้องถูกใจใครหลายคนแน่นอนกับ Easy Talk ฟีเจอร์ที่ช่วยลดเสียงรบกวนเมื่ออยู่กลางแจ้งหรือสถานที่ที่มีเสียงดัง รวมถึงเพิ่มความดังของเสียงผู้พูดอัตโนมัติตามความเหมาะสมแม้เสียงกระซิบ
Honor 10 มาพร้อมชิปเซ็ต AI และหน่วยประมวลผลพิเศษ Neural Processing Unit (NPU) แบบอิสระ ทำงานบน Android 8.1 Oreo ซ้อนทับด้วย EMUI 8.1 เวอร์ชั่นล่าสุด ความจำ RAM 4GB จับคู่กับ ROM 128GB แบบจุใจ ด้านประสิทธิภาพการทำงานจึงไม่มีอะไรที่ต้องเป็นกังวล โดยเฉพาะด้านการเล่นเกม ที่สามารถปรับกราฟิกหรือเฟรมเรทได้ในระดับสูงสุด และยังช่วยให้ตัวเครื่องสามารถใช้แบตเตอรี่ให้ยาวนานยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ Honor 10 ยังมาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 3400mAh และสนับสนุนเทคโนโลยีชาร์จเร็ว SuperCharge ชาร์จแบตเตอรี่ได้ 50% ภายในเวลา 25 นาทีเท่านั้น
โดยรวมแล้ว Honor 10 เป็นสมาร์ทโฟนที่มีประสิทธิภาพเทียบเท่าสมาร์ทโฟนแฟลกชิปราคาแพงระดับสองหรือสามหมื่นบาทในตลาดแถมยังมีดีไซน์ตัวเครื่องที่สะดุดตาและสวยงามอย่างมาก ด้วยความสามารถของ AI ทำให้สามารถถ่ายภาพได้สวยแบบมือโปรได้ง่ายๆ เล่นเกมได้กราฟฟิกระดับสูงสุด อีกทั้งมีความจุสูงถึง 128GB ทำให้หมดห่วงเรื่องเมมเต็มไปได้เลย แน่นอนว่าในรุ่นนี้ยังมีช่องเสียบแจ็คหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร ที่หลายคนชื่นชอบ
Honor 10 จะวางจำหน่ายในประเทศไทย 2 สีคือสีน้ำเงินแฟนท่อมบลู (Phantom Blue) และสีดำมิดไนท์แบล็ก (Midnight Black) แรม 4GB ความจุ 128GB ซึ่งเปิดราคามาเพียง 13,990 บาทเท่านั้นจะวางจำหน่ายทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ซึ่งออนไลน์จะวางจำหน่ายที่ลาซาด้า (Lazada) ตั้งแต่วันที่ 6 มิถุนายนนี้ และในวันที่ 8 มิถุนายน เป็นต้นไป จัดจำหน่ายที่ร้านซีเอสซี ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี และร้านทีจีโฟน
ปิดท้ายด้วยตัวอย่างภาพถ่ายจาก Honor 10 ที่ไม่ได้ปรับแต่งใดๆเพียงแต่ย่อขนาดลงมาเท่านั้น
บทความโดย – www.flashfly.net