สมาร์ทโฟนระดับพรีเมี่ยม Huawei Mate 10 series เปิดตัวทางการเมื่อกลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา และใช้เวลาเพียงเดือนเดียวก็เดินทางเข้ามาทำตลาดในบ้านเราแล้ว แสดงว่า Huawei ให้ความสำคัญกับตลาดประเทศไทยเป็นอันดับต้นๆ ซึ่งวันนี้ก็ได้ประกาศวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยแล้วในรุ่น Huawei Mate 10 Pro และรุ่นพิเศษ Porsche Design ในราคาเท่ากับในรุ่น Mate 9 ในปีที่ผ่านมา

ซึ่งทางทีมงาน @flashfly ก็ได้ Huawei Mate 10 Pro มาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราก็จะมารีวิวแกะกล่องและทดสอบใช้งานจริงกันดูว่า ตัวเครื่องจะสวยงามและน่าใช้งานขนาดไหน มาเริ่มกันที่ตัวกล่องที่ยังคงเป็นทรงจตุรัสสีเข้มคล้ายๆกับในรุ่น Mate 9 ด้านหน้าระบุชื่อรุ่นสวยงามด้วยตัวหนังสือสีทอง ด้านล่างก็มีโลโก้ Leica Dual Camera

เปิดฝาออกมาก็จะพบกับตัวเครื่อง Huawei Mate 10 Pro สี Mocha Brown หรือที่หลายคนเรียกว่าสีทองนั่นเอง ดูหรูหราสวยงามตามสไตล์ Huawei ฝั่งขวาจะมีโลโก้ Huawei พร้อม Huawei Design สีทองเข้ากับสีตัวเครื่อง

หยิบขึ้นมาถือในมือแล้วพลิกมาดูที่ด้านหลังจะดูสวยงามและพรีเมี่ยมมากๆ

วางตัวเครื่องลงไปก่อนมาดูกันต่อที่อุปกรณ์เสริมภายในกล่องว่ามีอะไรมาให้บ้าง เมื่อนำถาดรองเครื่องออกก็จะพบกับกล่องสีดำอีก 2 กล่องใหญ่
โดยทางขวาเมื่อเปิดออกมาก็จะพบกับหูฟังแบบ.USB-C รวมถึงหัวแปลง USB-C to 3.5 mm Headphone Jack Adapter ,สาย USB-C สำหรับเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์และชาร์จแบตเตอรี่แบบ. Super Charge แบบ 4.5A เลยทีเดียว

ทางด้านฝั่งซ้ายก็จะมีคู่มือการใช้งานเบื้องต้น ,เคสใสแบบนุ่ม Flexible Clear Case และเข็มจิ้มถาดใส่ซิมหรือ SIM Eject Tool

แกะกล่องกันไปเรียบร้อยมาดูกันต่อที่ตัวเครื่องโดยสมาร์ทโฟน Mate 10 series เว้นระยะห่างจาก Mate 9 series หนึ่งปีพอดี และในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา เทคโนโลยีก็ได้ก้าวหน้าไปอีกขั้น รวมถึงการออกแบบด้วย

สิ่งที่โดดเด่นที่สุดในด้านการออกแบบของ Huawei Mate 10 Pro คงหนีไม่พ้นจอแสดงผล หากใครที่ติดตามสมาร์ทโฟนของ Huawei มาโดยตลอดจะทราบกันดีว่า Mate series เน้นจอแสดงผลที่มีขนาดใหญ่ และเคยออกรุ่นที่จอใหญ่เกิน 6 นิ้วมาแล้ว แต่สำหรับ Mate 10 Pro มากับขนาด 6 นิ้ว บนดีไซน์ FullView Display ซึ่งมีอัตราส่วนภาพ 18:9 และทำให้ขอบจอแสดงผลบางเฉียบอีกด้วย นั่นหมายถึงขนาดตัวเครื่อง จะเล็กกว่าสมาร์ทโฟนทั่วไปที่มีขนาดหน้าจอเท่ากัน

จอแสดงผลของ Mate 10 Pro เป็นแบบ OLED ความละเอียด 2160 x 1080 พิกเซล และสนับสนุนเทคโนโลยี HDR10 ให้สีสันของภาพคมชัดมากขึ้น

นอกจากจอแสดงผลแล้ว วัสดุก็เปลี่ยนไปจากเดิม โดยหันมาใช้แผงกระจกทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทำให้ตัวเครื่องมีความเงางามหรูหรากว่ารุ่นก่อน

นอกจากนี้ยังออกแบบมาให้กันน้ำและฝุ่นละอองได้ในระดับ IP67 (อยู่รอดในน้ำลึกไม่เกิน 1 เมตร นานสูงสุด 30 นาที) ถึงแม้ยังไม่ใช่มาตรฐานสูงสุด แต่ก็สามารถป้องกันเหตุการณ์ไม่คาดฝันได้ เช่น เผลอทำสมาร์ทโฟนตกน้ำ, อยู่กลางแจ้งแล้วเกิดฝนตก เป็นต้น

ขอบด้านข้างใช้วัสดุอลูมิเนียม ที่น่าสนใจคือมีความบางเพียง 7.9 มิลลิเมตร แต่มาพร้อมความจุแบตเตอรี่ 4000mAh ซึ่งเยอะกว่าสมาร์ทโฟนเรือธงในระดับเดียวกัน ปุ่มกดด้านข้าง รวมปุ่มปรับเสียง กับปุ่มเพาเวอร์ไว้ในฝั่งเดียวกัน

ส่วนอีกฝั่งมีถาดใส่ซิมการ์ด ซึ่งรองรับ 2 ซิมการ์ดในขนาดนาโน และยังสนับสนุนการสแตนด์บายบนเครือข่าย 4G LTE พร้อมกันทั้ง 2 ซิมด้านบนจะพบกับรูไมโครโฟนสำหรับลดเสียงรบกวน ใกล้กันเป็นตำแหน่งของอินฟราเรด สำหรับใช้งานเป็นรีโมทคอนโทรล

ด้านล่างจะเห็นตะแกรงลำโพงเป็นรูกลมๆ 5 ช่อง และมีรูเล็กๆ ติดกันเป็นรูไมโครโฟน ถัดมาเป็นพอร์ต USB Type C และก็ยังมีรูไมโครโฟนมาให้อีกหนึ่งรู รับรองว่าเสียงสนทนาของคุณจะชัดเจนแน่นอน เพราะมีไมโครโฟนช่วยลดเสียงรบกวนอยู่ใกล้ๆ Mate 10 Pro ไม่มีช่องเสียบแจ๊คหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร แต่ได้แถม Adapter หรือตัวแปลงหูฟังแบบเดิมเป็น USB-C มาให้ในกล่อง และยังแถมหูฟังที่ใช้พอร์ต USB-C มาให้ด้วย

พลิกมาดูแผงหลังกันบ้าง จะเห็นว่าการวางตำแหน่งกล้องจะใกล้เคียงกับรุ่น Mate 9 แต่กล้องคู่ได้แยกออกจากกัน ไม่ได้รวมไว้ในขอบกันชนเดียวกันเหมือนรุ่นที่แล้ว และมีการขยับตำแหน่งแฟลช กับแสงเลเซอร์ช่วยโฟกัสให้มีความสมดุลมากขึ้น และเพิ่มไฮไลท์ด้วยการคาดแถบให้กับเลนส์กล้อง

ภายในสมาร์ทโฟน Huawei Mate 10 Pro ได้ฝังชิปประมวลผลรุ่นใหม่ Kirin 970 ซึ่ง Huawei ภูมิใจนำเสนอมาก เพราะมาพร้อม NPU (Neural Network Processing Unit) ที่มีเทคโนโลยี AI (Artificial intelligence) หรือ ปัญญาประดิษฐ์ มีระบบ Machine Learning ที่จะเรียนรู้และจดจำพฤติกรรมการใช้งานเจ้าของสมาร์ทโฟน เพื่อตอบสนองการใช้งานในด้านต่างๆ

เทคโนโลยี AI ของ Mate 10 Pro มีประโยชน์ตั้งแต่ฟีเจอร์ขั้นพื้นฐานอย่างการโทร AI จะรู้ว่าเสียงไหนเป็นเสียงเจ้าของสมาร์ทโฟน เพื่อช่วยตัดเสียงคนอื่นออกไป นั่นหมายถึงเมื่อคุณใช้โทรศัพท์ในที่สาธารณะ ปลายสายจะได้ยินเสียงของคุณชัดเจนที่สุด Mate 10 Pro ยังนำ AI มาช่วยในการแปลภาษา สามารถแปลภาษาได้แม้จะออฟไลน์อยู่ก็ตาม รองรับมากกว่า 50 ภาษา AI ยังช่วยจัดการแบตเตอรี่ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยปรับปรุงการทำงานของสมาร์ทโฟนอยู่เสมอ ทำให้สมาร์ทโฟนยังคงตอบสนองการใช้งานได้อย่างรวดเร็ว แม้จะมีอายุการใช้งานมาแล้ว 18 เดือน ที่สำคัญ AI ยังช่วยถ่ายภาพให้สวยงามมากขึ้น

Huawei ยังคงทำงานร่วมกับ Leica นำกล้องคู่มาสู่ Mate 10 Pro และถือเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่มีขนาดรูรับแสงกว้างถึง f/1.6 ทั้งสองเลนส์ โดยมีความละเอียด 12 ล้านพิกเซล สำหรับจับภาพสี กับ 20 ล้านพิกเซล สำหรับจับภาพขาวดำ มีแสงเลเซอร์ช่วยโฟกัส ป้องกันภาพสั่นไหวด้วย OIS (Optical image stablization) บันทึกวีดีโอ 4K ส่วนกล้องเซลฟี่ 8 ล้านพิกเซล

อย่างที่บอกไปว่ามีการนำ เทคโนโลยี AI มาใช้กับการถ่ายภาพด้วย ช่วยให้กล้องของ Mate 10 Pro รู้จักวัตถุต่างๆ ที่กำลังจะจับภาพ เพื่อปรับค่ากล้องให้อัตโนมัติ ไม่ว่าจะถ่ายคน อาหาร สัตว์เลี้ยง หรือวิวทิวทัศน์ ผู้ใช้งานก็ไม่จำเป็นต้องปรับค่ากล้องให้เหมาะสมด้วยตัวเอง ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ AI

Huawei Mate 10 Pro ทำงานบนพื้นฐาน Android 8.0 Oreo ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นล่าสุดในปัจจุบัน สวมทับด้วย EMUI 8.0 ที่มีฟีเจอร์แบ่งหน้าจอออกเป็นหลายคอลัมน์สำหรับเปิดหลายแอพพร้อมกัน

เรียกแอพที่ใช้งานล่าสุดได้ง่ายๆ เพียงลากนิ้วไปทางซ้ายเล็กน้อยบนหน้าจอโฮม มีโหมดใช้งานมือเดียว สำหรับย่อหน้าจอให้เล็กลง และยังสามารถแปลงร่างสมาร์ทโฟนให้กลายเป็นคอมพิวเตอร์ Desktop ได้ด้วย เพียงเชื่อมต่อ Mate 10 Pro กับจอภายนอก เมาส์ และ คีย์บอร์ด

สรุปแล้ว Huawei Mate 10 Pro เป็นพรีเมี่ยมสมาร์ทโฟนที่มีทุกอย่างเท่าที่สมาร์ทโฟนระดับเรือธงในตลาดควรจะมี แต่สร้างความแตกต่างด้วยชิปประมวลผลของตัวเอง ที่ฝังเทคโนโลยี AI มาให้ด้วย และนำไปใช้ประโยชน์ในหลายๆ ฟีเจอร์ ถ้าคุณกำลังมองหาสมาร์ทโฟนที่ครบเครื่อง ตอบโจทย์ทั้งการทำงานและภาพลักษณ์ ที่สำคัญต้องถ่ายรูปสวย Mate 10 Pro ก็ควรจะอยู่ในรายการของขวัญปีใหม่ที่คุณต้องจดไว้

Huawei Mate 10 Pro แรม 6GB รอม 128GB วางจำหน่ายในราคา 27,900 บาท มีให้เลือก 2 สี คือ Mocha Brown และ Midnight Blue ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ส่วน Huawei Mate 10 รุ่นพิเศษ Porsche Design แรม 6GB รอม 256GB ราคา 49,900 บาทจะวางจำหน่ายในช่วงกลางเดือนธันวาคมนี้เป็นต้นไป

ปิดท้ายด้วยตัวอย่างภาพถ่ายด้วย Huawei Mate 10 Pro แบบไม่ปรับแต่งใดๆเพียงแค่ลดขนาดลงมาเท่านั้น
บทความโดย – www.flashfly.net